บริษัทวิจัยความปลอดภัย Trail of Bits ได้รับทุนจาก DARPA ทำรายงานวิเคราะห์ถึงความ "ไร้ศูนย์กลาง" ของระบบบล็อคเชนทั้งหลายในตอนนี้ และพบว่าโลกบล็อคเชนนั้นยังมีความรวมศูนย์อยู่มาก
กระบวนการวิเคราะห์หาความรวมศูนย์ของรายงาน วิเคราะห์ความรวมศูนย์ 6 ด้าน ได้แก่
บทวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าการเข้าควบคุมบล็อคเชนนั้นมีจุดรวมศูนย์กระจายไม่มาก เช่น Nakamoto coefficient ของบิตคอยน์นั้นอยู่ที่ 4 เท่านั้น เพราะเมื่อต้นปี 2021 นั้น mining pool 4 รายใหญ่ครองพลังแฮชเกิน 51% ส่วน Ethereum ก็มี Nakamoto coefficient อยู่ที่ 2-3 เท่านั้น
สำหรับเครือข่ายในกลุ่ม Proof of Stake นั้นบางตัวดีกว่าแต่ก็ไม่มากนัก เพราะปริมาณเงินที่ stake นั้น validator รายใหญ่เป็นผู้ถือเสียส่วนมาก Polygon มี Nakamoto coefficient อยู่ที่ 2 เท่านั้น
การวิเคราะห์ dependency ของโครงการซอฟต์แวร์บล็อคเชนต่างๆ ก็พบว่ามีความเหมือนกันอย่างมาก เช่น Monero หรือ Zcash ที่พัฒนาอย่างอิสระจากบิตคอยน์กลับมี dependency คล้ายกับบิตคอยน์อยู่ดี ส่วน Smart Contract บน Ethereum นั้น 90% ของจำนวน contract ทั้งหมด มีความคล้ายกันมากกว่า 56% แสดงว่านักพัฒนา Smart Contract ก็ใช้โค้ดซ้ำกันไปมา
ที่มา - Trail of Bits
Comments
โ ค้ ด ข อ ง เ ร า
555
ถ้า StackOverflow ล่ม ชีวิตผมลำบากแน่นอน โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ต้องมาทำอะไรที่ไม่เคยทำ
..: เรื่อยไป
Good programmers steal, great programmers "It's mot my code"
น้ำลดตอผุดกันใหญ่ อิอิ
ถ้าความ centralized เป็นไปเพราะ security ก็พอเข้าใจได้อยู่ แต่ถ้า decentralized แล้วแข่งกันเรื่องความน่าเชื่อถือ/ความปลอดภัย ก็คงจะดี
ยิ่ง decentralise ยิ่งห่างจากความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว แต่ได้ความน่าเชื่อถือมากขึ้นตามทฤษฎี
ซึ่ง "ความน่าเชื่อถือ" มันก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานความเชื่อของคนเป็นตัวตั้งต้นด้วย ไม่สามารถชี้วัดได้ว่าสิ่งใดมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด
ลองไปอ่าน Paper ฉบับเต็มมาละ...มันมีหลายจุดที่น่าสนใจอยู่เหมือนกันแต่มาตายตรงที่Conclusion
"The majority of Bitcoin nodes have significant incentives to behave dishonestly"
อะไรคือ incentive สำหรับคนรัน node ครับ? ถ้าคุณลองคิดดีๆสมมุติว่าประโยคนี้เป็นจริงตอนช่วง FOMO กันมากๆทำไมบรรดา node ทั้งหลายถึงไม่พยายามกอบโกยกันหละครับ
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
Smart Contract คล้ายกันที่อาจจะวัฒนธรรมเลยละครับ เพราะถ้ายิ่งแปลกยิ่งมีโอกาสโดนแฮกสูงมากกก
Write once run everywhere.