Tags:
Topics: 

ต้นปี 2022 แล้ว หลายๆ คนอาจเตรียมตัวซื้อโน๊ตบุ๊คสักเครื่องไว้ทำงานแบบไฮบริดในปีใหม่ และอยากได้แรงพอตัว ที่พอทำงานได้ทั้งงานเอกสาร และทำรูปภาพเบาๆ แต่อาจติดที่มีปัญหางบจำกัดเพราะเพิ่งกลับจากเที่ยววันหยุด หรืออาจจะไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อตัวไหนดีถึงจะคุ้มค่าคุ้มราคา

วันนี้ Blognone เลยเตรียมมาแนะนำโน๊ตบุ๊ค 5 รุ่น ราคาไม่เกิน 20,000 บาท ฉบับคนที่กำลังเลือกซื้อโน้ตบุ๊คในปี 2022 ที่พร้อมรองรับการทำงานทั้งภายในออฟฟิศ Work From Home หรือทุกที่ได้แบบสบายๆ โดยจะเรียงตามลำดับการใช้งานพื้นฐานไปจนถึงการใช้ทำงานโปรดักชั่นขั้นต้น อย่างการตัดต่อภาพหรือวิดีโอที่ความละเอียดไม่สูงมากนัก และแถมท้ายด้วยคอมที่ใช้ได้ทั้งการทำงาน และเล่นเกมในระดับเริ่มต้น

ระดับใช้งานพื้นฐาน

1. Notebook Lenovo ThinkBook 14 20VD0055TA (13,900 บาท)

หากใครกำลังหาโน๊ตบุ๊คสักเครื่องสำหรับใช้ทำงานพื้นฐาน หรือไว้ใช้ทำกิจกรรมพื้นฐานทั่วไปอย่างการดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกมเบา ๆ Notebook Lenovo ThinkBook 14 20VD0055TA จัดเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีทีเดียว ด้วยดีไซน์อะลูมิเนียมด้วยสี Mineral Grey อันเรียบหรู น้ำหนักเบา เล็กกะทัดรัดเพียงขนาด 14 นิ้ว ทำให้พกพาได้สะดวก อีกทั้งรับสัญญาณไร้สายได้เป็นอย่างดีด้วย Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.1 ทำให้การทำงาน Work From Home หรือจะในทุก ๆ ที่เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น แม้จะมีขนาดเล็ก แต่กลับมีพื้นที่ความจุถึง 4 GB เลยทีเดียว เรียกได้ว่าจิ๋วแต่แจ๋วใช้ได้ในงบเพียงหมื่นต้น ๆ

นอกจากนี้ Notebook Lenovo ThinkBook 14 ยังมีสเปกซีพียูเป็นแบบ Inter Core i3 ทำให้การประมวลผลนั้นรวดเร็ว โดยเฉพาะหากใช้ทำงานด้านเอกสารหรืองานทั่วไป อย่างกลุ่มโปรแกรม Microsoft Office ถือว่าสะดวกสบายมากทีเดียว

แม้ว่า Notebook Lenovo ThinkBook 14 จะมีการ์ดจอแบบ Intel UHD Graphics 620 ที่ทำให้ภาพออกมาสวยในระดับ 4K แต่การใช้งานของมันค่อนข้างจำกัด หากใช้งานกับโปรแกรมตัดต่อภาพและวิดีโอ จะทำให้การประมวลผลจะช้า เนื่องจากความสามารถที่มีอยู่จำกัดของซีพียู

รายละเอียดสเปก

• Size : 14 นิ้ว IPS Full HD
• CPU : Intel Core i3-1115G4
• GPU : Intel UHD Graphics 620
• RAM : 4GB DDR4 Bus 3200 MHz
• การรับสัญญาณ Wi-Fi : Wi-Fi 6 AX (802.11)
• ความจุ : 256GB SSD PCIe M.2
• OS : DOS

No Description

2. HUAWEI Matebook D15 (18,990 บาท)

สำหรับน้องนักเรียน นักศึกษา หรือคนกลุ่มคน First Jobber HUAWEI Matebook D15 ถือเป็นตัวหนึ่งที่ทำมาตอบโจทย์การใช้งานเป็นอย่างดี ดีไซน์เรียบหรูด้วยวัสดุอะลูมิเนียมชั้นดี ไม่ทิ้งรอยนิ้วและรอยขีดขวด และด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขนาด 15.6 นิ้ว ทำให้ใช้ทำงานแบบ Multi-tasking ที่เรียกใช้อย่างน้อย 3 หน้าจอได้ลื่นไหลรวดเร็ว สะดวกสบาย (กรณีที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Window 11) ร่วมกับเทคโนโลยี IPS ที่ช่วยลดการสะท้อนแสง สามารถลดความสว่างของหน้าจอ หรือปรับเข้าสู่โหมดถนอมสายตาเมื่อต้องเปิดคอมเพื่อใช้งานในเวลากลางคืน

ความพิเศษของ HUAWEI Matebook D15 ที่ไม่ควรพลาดจะพูดถึงคือ ตำแหน่งตัวกล้องที่ฝังอยู่ในส่วนของแป้นพิมพ์ และความคมชัดของกล้องระดับ 720p จึงหมดกังวลเรื่องปรับระดับหน้าจอเพื่อให้เห็นหน้าและปัญหาเห็นหน้าไม่ชัด

นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกรุ่นหรือขนาดของ HUAWEI ได้มากและหลากหลาย เริ่มต้นด้วยสเปกของซีพียูที่มีให้เลือกระหว่างแบบ i3 และ i5 ซึ่งหากใครต้องการใช้ทำงานด้านกราฟิก ตัดต่อวิดีโอและประมวลผลได้รวดเร็วควรใช้ i5 พร้อมด้วยแรมก็สามารถเลือกได้ ขั้นต่ำ 8GB จนถึง 16GB

รายละเอียดสเปก

• Size : 14 นิ้ว
• CPU : Core i3 10th Gen Intel
• GPU : Intel UHD Graphics 620
• RAM : 8GB DDR4
• ความจุ : 256GB NVMe PCIe SSD
• การรับสัญญาณ Wi-Fi : Wireless 802.11ac
• OS : Window 10 Home (64bit)

No Description

ระดับสูงด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลาย / สำหรับเกมเมอร์

3. Avita Liber V2 (19,990 บาท)

ตามมาติด ๆ กับแบรนด์ใหม่ในตลาดประเทศไทยจากฮ่องกง อย่าง Avita Liber V วัสดุอะลูมิเนียมสีเงินให้ความรู้สึกราวกับใช้ MacBook ฉบับราคาเบากระเป๋า มีส่วนของตัว Gap ที่ยื่นออกมา เปิดฝาจอโน๊ตบุ๊คได้สะดวก

พอร์ตการเชื่อมต่อมีทั้ง USB A รูหูฟังขนาด 3.5 mm สำหรับเสียบหูฟังและไมโครโฟน รวมถึงตัวเสียบ Micro SD Card, HDMI, USB C รวมครบครันฟังก์ชั่นพื้นฐานที่ใช้รับเข้าและนำออกข้อมูล พร้อมติดตั้ง Windows 10 สะดวกพกพาทำงานนอกสถานที่ รับสัญญาณไร้สายได้ไว สามารถใช้งานด้านกราฟิกได้พอสมควร เนื่องจากมาพร้อมกับ AMD Radeon RX Vega 6

แต่ข้อเสียของ Avita Liber V1 คือไม่สามารถเพิ่มแรมได้ เนื่องจากใช้การเชื่อมต่อแบบ On Board จึงเป็นเรื่องยากพอสมควรหากต้องการอัพตัวแรมเพิ่ม ผู้เขียนจึงขอแนะนำผู้อ่านเลือกโน๊ตบุ๊คด้วยขนาดของแรมก่อนเลือกซื้อและใช้งาน

รายละเอียดสเปก

• Size : LCD 14 นิ้ว
• CPU : Ryzen 5 4700U
• GPU : AMD Radeon RX Vega 6 (FHD)
• RAM : 16GB DDR4 (2400)
• การรับสัญญาณไร้สาย : Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11 ac
• ความจุ : SSD 512GB
• OS : Window 10 Home (64 bit)

No Description

4. Xiaomi RedmiBook 14 Pro (20,000 บาท)

ถ้าพูดถึงคอมพิวเตอร์ที่คุณภาพเสียง ภาพที่คมชัด พร้อมการใช้งานระดับสูงอย่างการทำกราฟิกระดับคมชัดแบบ Full HD เจ้า Xiaomi RedmiBook 14 Pro จากแดนมังกรใหญ่ตัวนี้เป็นตัวเลือกหนึ่งที่สามารถรองรับความต้องการของคุณได้ ด้วยความพิเศษแรกที่ให้ขอบเขตของสีกว้างถึง 100% sRGB ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ประมวลผลภาพที่ขอบเขตสีกว้างและความละเอียดสูงตั้งแต่แบบธรรมดาจนถึง 3D หรือจะใช้ดูหนัง เล่นเกมที่ต้องใช้ความละเอียดสูงก็ได้ภาพสวยสมจริง เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับเหล่ากราฟิกดีไซน์เนอร์ เกมเมอร์ ยูทูปเบอร์และอื่น ๆ

ส่วนของดีไซน์นั้นเป็นสีเงินเรียบสวยและน้ำหนักเบาเพียง 1.2 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเบากว่ารุ่น 13 ซึ่งมีขนาดตัวเครื่องเล็กกว่า ระบบปฏิบัติการที่ติดตั้งตัวเครื่องเป็น Windows 10 Home Chinese Edition ซึ่งจะแสดงผลเป็นภาษาจีนเป็นหลัก ซึ่งจะต้องเปลี่ยนภาษาก่อนใช้งาน เพื่อความสะดวกยิ่งขึ้นสำหรับคนที่ไม่สามารถอ่านภาษาจีนได้

Xiaomi RedmiBook 14 Pro จัดเป็นโน๊ตบุ๊คครบเครื่องทั้งขนาด น้ำหนัก ความเร็วในการประมวลผล และการแสดงผลภาพที่คมชัดที่สามารถใช้ทำงานกราฟิกที่ให้ค่าคาลิเบทสีที่มีคุณภาพ แต่ข้อเสียก็คือไม่มีตัวกล้องไว้สำหรับใช้สัมมนาออนไลน์มากับตัวเครื่อง จึงทำให้ผู้ใช้ต้องซื้ออุปกรณ์กล้องเว็บแคมเพื่อใช้แยกต่างหาก

รายละเอียดสเปก

• Size : LCD 14 นิ้ว
• CPU : Ryzen 7 4700U
• GPU : NVIDIA GeForce MX250 graphics card
• RAM : 16GB DDR4 (2400)
• ความจุ : SSD 512GB
• OS : Window 10 Home

No Description

5. Lenovo Ideapad L340 Gaming 81LK01N0TA (20,000 บาท)

รุ่นสุดท้าย แม้การจัดอันดับนี้จะเป็นโน้ตบุ๊กทำงาน แต่สำหรับคนทำงานที่อยากแอบเล่นเกมเบาๆ ได้ด้วย Lenovo Ideapad L340 Gaming ก็น่าจะตอบโจทย์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าน้ำหนักเครื่องอาจจะมากกว่ารุ่นอื่นเล็กน้อย

Ideapad L340 Gaming มาพร้อมจอ IPS LCD 15.6 นิ้ว กับสเปกใส่มาค่อนข้างพร้อมเล่นเกมเบสิคทั่วไปอย่าง DOTA2 หรือ Rocket League และเกมที่ไม่กินสเปกมากนัก เพราะมีการ์ดจอรุ่นเล็กยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 มาด้วย คู่กับซีพียู Intel Core i5-9300H ที่แม้จะเป็นเจ็น 9 แต่ประสิทธิภาพก็เพียงพอกับการเล่นเกมเบาๆ

ข้อเสียอาจจะมีเรื่องแรมที่ให้มาแค่ 8GB ทำให้อาจจะใช้งานแอปที่กินแรมเยอะพร้อมกันได้ไม่มากนัก กับราคาที่ถ้ามีช่วงของขาด อาจพุ่งไปเกิน 20,000 บาทได้ แต่ก็จะอยู่ที่ตั้งแต่ 19,990 บาท ไปจนถึง 20,990 บาท แนะนำว่าถ้าอยู่ในช่วงราคาเกิน 20,000 บาท อาจรอสักระยะ หรือหาตามเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ อาจได้ราคาถูกกว่าหน้าร้านใหญ่

รายละเอียดสเปก

• Size : LCD 15.6 นิ้ว IPS Full HD
• CPU : Intel Core i5-9300H
• GPU : NVIDIA GeForce GTX 1650
• RAM : 8GB DDR4
• ความจุ : SSD 512GB
• OS : Window 10 Home

No Description

Get latest news from Blognone