Tags:
Node Thumbnail

IBM เสนอวิธีการวัดความเร็ว (ในที่นี้ speed) ของคอมพิวเตอร์ควอนตัมด้วยหน่วยใหม่ที่เรียกว่า CLOPS (Circuit Layer Operations Per Second)

IBM บอกว่าการวัดสมรรถนะของคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบ่งออกเป็น 3 มิติหลักๆ ได้แก่

  • ขนาด (scale) เป็นการบอกว่าเราสามารถนำข้อมูลลงไปเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้มากแค่ไหน ปัจจุบันเราวัดกันด้วยจำนวนคิวบิต
  • คุณภาพ (quality) เป็นการวัดคุณภาพของวงจร (circuit) ปัจจุบันใช้หน่วยเป็น QV (Quantum Volume)
  • ความเร็ว (speed) เป็นการวัดว่าวงจรควอนตัมสามารถทำงานได้แค่ไหนตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่ง IBM เสนอให้วัดเป็นจำนวนชั้นของวงจรต่อวินาที (CLOPS)

IBM ยกกรณีเปรียบเทียบว่า จำนวนคิวบิตเปรียบเสมือนจำนวนคอร์ของคอมพิวเตอร์คลาสสิค เมื่อนำคิวบิตมาต่อกันจะได้วงจรควอนตัม (quantum circuit) ซึ่งมีความกว้าง (width) เป็นจำนวนคิวบิตที่ใช้คำนวณ และความลึก (depth) เป็นจำนวนขั้นตอนที่วงจรทำงานก่อนคิวบิตเสื่อมสภาพ ส่วนค่า QV เปรียบได้กับการวัดจำนวนทรานซิสเตอร์ แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว

จากภาพจะเห็นว่า วงจรมีลักษณะไม่เป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมพอดี มีจำนวนคิวบิต (จุดในภาพ) ทั้งหมด 27 คิวบิต วิธีการวัดค่า QV คือรันวงจรแบบสุ่มทีละ 2 คิวบิต ที่จำนวนความลึก 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ความมั่นใจเกิน 97.725%, จากนั้นขยับเป็น 3 คิวบิต ความลึก 3 ไปอีกเรื่อยๆ จนกว่าวงจรเสื่อมสภาพ

กรณีตัวอย่าง พบว่าวงจรทำงานล้มเหลวที่ความลึกระดับ 7 แปลว่าความลึกระดับ 6 ใช้งานได้ วิธีคำนวณ QV คือใช้ 26 = 64 เป็นต้น (คำอธิบายอย่างละเอียด)

No Description

ส่วนการวัดค่าความเร็ว คล้ายกับการวัดค่า FLOPS (จำนวนการประมวลผลทศนิยมต่อวินาที) ของคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน แต่เป็นการวัดจำนวนวงจรควอนตัมที่สามารถประมวลผลได้ต่อวินาทีแทน

ที่มา - IBM, ZDNet, Tom's Hardware

Get latest news from Blognone

Comments

By: btoy
ContributorAndroidWindows
on 16 November 2021 - 14:28 #1231678
btoy's picture

เป็นอะไรที่ยากเกินที่ผมจะเข้าใจได้จริงๆสำหรับควอนตัมคอมพิวเตอร์เนี่ย


..: เรื่อยไป

By: akira on 16 November 2021 - 15:02 #1231686 Reply to:1231678

ลองหาหนังสือ Quantum physic ของ DK มาอ่านดูสิครับอาจทำให้พอเห็นภาพบ้าง

By: tg-thaigamer
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 17 November 2021 - 07:49 #1231760 Reply to:1231686
tg-thaigamer's picture

น่าสนใจครับ เด่วลองหาอ่าน


มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ

By: akira on 17 November 2021 - 08:49 #1231764 Reply to:1231760

มันเป็นพื้นฐานวิทยาศาสตร์นะครับไม่ได้เรื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมโดยตรง เพียงแต่มันจะทำให้เราเห็นภาพว่าเบื้องหลังการทำงานของ physic quantum มันเป็นยังไง ถ้าจะลงลึกต้องหาเล่มอื่นอ่านเพิ่ม เรื่องควอนตัมถ้าไม่ได้อ่านพื้นฐานก่อนจะงงมากเพราะมันไม่ใช่หลัก logic แบบที่เราคุ้นเคยเรียกว่าตรงกันข้ามเลยจะดีกว่า

By: phenocalypse
ContributorAndroidWindows
on 16 November 2021 - 18:58 #1231717

แฟนหงส์แดงถูกใจสิ่งนี้

By: jkpt on 17 November 2021 - 10:52 #1231776 Reply to:1231717

คนละ Klopp กันคับ ฝ่ามๆ 555

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 16 November 2021 - 21:44 #1231737
mr_tawan's picture

เห็นครั้งแรกผมนึกถึงเลเยอร์ของ pcb


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: arayaphong on 16 November 2021 - 22:55 #1231743

จากที่เคยลองศึกษาดูคร่าวๆ
มันจะต้องเอาเกตมาต่อกัน หรือใช้ผ่านภาษาคอมพิวเตอร์ ที่คอมไพออกมาเป็นการต่อกันของแต่ละเกต (นึกถึง fpga)
แต่เกตของควอนตัมนั้นต่างจากคอมพิวเตอร์ที่มี state โดยสิ้นเชิง
เพราะมันเป็นลอจิกที่ได้จากการวัดมุม spin ของอนุภาคที่ entanglement กัน
หลังจากนั้นก็สั่งรันจนกว่าจะได้ความน่าเชื่อถือที่รับได้
แล้วผลลัพธ์จะได้ออกมาเป็นค่าความน่าจะเป็น

ปล. อย่าเชื่อผมมากผมอาจจะเข้าใจผิด

By: gob6680
Windows
on 17 November 2021 - 12:42 #1231787

ถ้าอนาคตจะมีการพัฒนาได้จนเอามาแทนที่ pc หรือ laptop ได้นี่
จะมีโอกาสทำได้มั้ยครับ

หรือว่าใช้เป็นตัว server แบบในหนัง ready player one พวกนี้

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 17 November 2021 - 14:54 #1231800 Reply to:1231787
hisoft's picture

อันแรกผมว่ามีแต่อาจจะเป็นแบบคู่มากับแบบเดิมด้วยนะครับ เป็นหน่วยเสริมอะไรแบบนั้น
อันสอง ก็ไม่แน่แหละครับแต่ผมก็คิดว่าเหมือนแบบแรกคือต้องคู่กันอยู่ดี

By: gob6680
Windows
on 19 November 2021 - 08:48 #1231966 Reply to:1231800

ขอบคุณมากครับ

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 19 November 2021 - 09:07 #1231967 Reply to:1231787
big50000's picture

จนกว่าเราสามารถสร้างเครื่องจักรควอนตัมทัวริงได้ ตอนนี้ก็ยังเป็นไปไม่ได้มากกว่าหน่วยประมวลผลช่วย (co-processor)

อนึ่ง การประมวลผลควอนตัมในขณะนี้ไม่เที่ยงตรง อาศัยการคาดคะเนผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงที่สุดเท่านั้น