เฟซบุ๊กรายงานการแบนกลุ่มบัญชีผู้ใช้ที่พยายามเบี่ยงเบนประเด็นถกเถียงในสังคม (manipulate public debate) หลังจากปีที่แล้วแบนไปกว่า 50 เครือข่ายรวมในไทย ปีนี้เฟซบุ๊กก็รายการทลายเครือข่ายเหล่านี้อีกครั้ง โดยชี้แจงแนวทางการทลายเครือข่ายเหล่านี้เพิ่มเติม ว่าเฟซบุ๊กแบ่งการเบี่ยงเบนประเด็นไว้สองระดับ ได้แก่
สองเดือนที่ผ่านมาเฟซบุ๊กทลายกลุ่มเหล่านี้ไป 5 กลุ่มใน อินเดีย, อียิปต์, รัสเซีย, อิหร่าน, พม่า, และเวียดนาม (สองประเทศหลังเป็นกลุ่มเดียวกัน) รวมมีบัญชีเฟซบุ๊กถูกแบน 467 บัญชี, บัญชี Instagram 1,245 บัญชี, หน้าเพจ 248 หน้า, Facebook Group 49 กลุ่ม รวมเงินโฆษณา 1.2 ล้านดอลลาร์
ที่มา - Facebook
ตัวอย่างเพจที่ถูกแบนทำแคมเปญในตะวันออกกลาง โดยมีความเชื่อมโยงกับบริษัทประชาสัมพันธ์ในอินเดีย
Comments
เฟซบุ๊กรายการ > เฟซบุ๊กรายงาน?
อ่าว แล้วที่แฉในสภานั่น...?
เท่าที่จำได้ อันนั้นเป็น Account Line กับ Blog บน Blogger ที่ไม่ใช่ของ Facebook เลยลบไม่ได้
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ซ้ำครับ
ปล. ก็กดทีเดียว ทำไมมันขึ้นสองอัน งงแท้ หลายรอบละ
ของไทยใช้ทหารทำ น่าจะ detect ยาก เพราะใช้หลายคน แต่ละคนน่าจะสร้างบัญชีปลอมไม่เยอะ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ตามจริง IO ของรัฐ ค่อนข้างมองออกง่ายมากเลยนะครับ
จะปั่น ๆ มั่ว ๆ ตรรกะดูผิดเพี้ยน
แต่ IO ของฝั่งตรงข้ามรัฐนี่ ดูยากมาก
จะมาในแบบ ข้อมูลจริง สลับ เท็จ หรือไม่ก็ จริงแต่ยกมาบางส่วน เพื่อให้เข้าใจผิด
หรือ ให้ส่วนหนึ่งเริ่มข่าวลือนึง แล้วสื่อทั้งหมด ปั่นกระแสพร้อมกันท้ง social
เช่นกรณีของการเพิ่ม VAT อันนีมันจะมาทุกปี
หรือ บอกว่า รัฐกำลังจะทำอันนี้ ๆ นะ
ถึงนี้ถึงรัฐจะออกมาบอกว่า ไม่ได้จะทำ แต่สุดท้ายก็จะกลายเป็น
โยนหินถามทาง พอโดนด่า แล้วถึงเลิก
ขึ้นชื่อว่า io ไม่ว่าฝ่ายไหน
ผมว่ามันจะป่วยในรูปแบบใดรูปแบบนึงอย่างแน่นอน
จะตรรกะป่วยเพื่อสร้าง .exe ในสมองคนอ่าน หรือ
ข้อมูลป่วยเพื่อสร้าง .dat ในสมองคนอ่าน
จุดมุ่งหมายเดียวคือให้คนอ่านคล้อยไปตามเป้าหมายของตนให้ได้
ไม่ค่อยห่วง IO หรอก เพราะมันดูง่ายมาก ห่วงแต่เอาข่าวจริงมาเลือกนำเสนอเฉพาะมุมมองที่เป็นประโยชน์กับตัวเองมากกว่า แล้วปิดบังบางส่วนที่ทำให้ฝ่ายตนเสียประโยชน์ทำให้รับข้อมูลไม่ครบ ไม่รอบด้าน ทำให้เกิดข่าวลือได้ง่ายกว่า IO อีก รวมถึงสำนักข่าวที่ชอบปั่นกระแส สร้างดราม่า เลือกนำเสนอในมุมมองก่อดราม่านี่ด้วย เหมือนเอาเรื่องงมงาย เรื่องซุ่มเสี่ยงในการก่อการทะเลาะวิวาท ข่าวที่ไม่ได้ตรวจสอบแหล่งข้อมูล มากรอกสมองคนไทยทุกวัน
ในทางกลับกันคนส่วนใหญ๋ก็ชอบข่าวพวกนี้ซะด้วยสิ บางทีเห็นแล้วก็งงเหมือนกัน แต่ผมก็ดูหมดนะ เพราะบางทีการรู้รอบด้านมันก็สร้างเกราะป้องกันเราไปในตัวในการคัดกรองข้อมูล ไม่ถึงกับปฏิเสธ หรือไม่ดูเลย
น่าห่วงเพราะมีคนที่เชื่อจริงจังอยู่น่ะสิครับ
อันนี้ก็ใช่อยู่ครับ
"ไม่ค่อยห่วง IO หรอก" อันนี้คือคุณละทิ้งแนวคิดเรื่องหน่วยงานราชการต้องเป็นกลางทางการเมืองกันแล้วใช่ไหมครับ นี่คือระดับหน่วยงานสามารถจัดสรรงบประมาณอย่างเป็นทางการมาสนับสนุนรัฐบาลหรือโจมตีฝ่ายที่รัฐบาลไม่ชอบได้ตามใจเลย
lewcpe.com, @wasonliw
มันมีทุกยุคแหล่ะครับไม่ว่าใครได้เป็นรัฐบาล ไม่ว่าของประเทศไหน ไม่งั้นรัฐบาลแต่ละประเทศไม่มีหน่วยข่าวกรอง หรือทำสงครามจิตวิทยาหรอก มีแต่ว่าเราจะเลือกว่าจะเชื่อหรือไม่ วิธีการที่ควรทำคือ ให้ประชาชนรู้เท่าทันมากกว่าที่พยายามไปไล่หาต้นตอ หาไปก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาอยู่ข้างเดียวกัน ข่าวลือ พอไม่มีคนเชื่อมันก็จบ แล้วก็ลือใหม่ สมัยโบราณวิธีกำจัดข่าวลือที่ดีที่สุด ก็คือการให้ข้อมูลข้อเท็จจริง แล้วทำให้แหล่งข่าวดูไม่น่าเชื่อถือ แต่ไม่กำจัด เพราะบางทีมันก็มีประโยชน์ในการแพร่ข่าวลวงฝ่ายเราไปยังคนของฝ่ายเขาเช่นกัน รวมการโจมตีโดยตรงก็เป็นการเปิดเผยตัวตนของฝ่ายเราที่บางทีก็ซ่อนอยู่ในความมืด ให้เป็นเป้าโจมตีด้วยข่าวลวงในที่แจ้งด้วย
ฆ่าหนึ่งโผล่สิบ ฆ่าสิบโผล่ร้อย แต่ถ้าทำให้คนรู้ว่าพวกนี้ไม่น่าเชื่อถือ ก็ตายยกแผง แต่เดี๋ยวก็มีมาใหม่เรื่อยๆ ตราบใดที่ยังมีงบประมาณมาหล่อเลี้ยง
สงครามกับคนในประเทศตัวเอง กับพรรคการเมืองตามกฎหมายในประเทศ? อันนี้ยกตัวอย่างประเทศที่ไม่ใช่เผด็จการทีครับ
lewcpe.com, @wasonliw
คำตอบของผมอาจจะไม่ถูกนะ เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าคุณนับ สิงคโปร์ เป็นเผด็จการหรือเปล่า
แต่จะบอกว่า สิงคโปร์นี่ ใช้ state-sponsored media ทำ IO กันแบบไม่ต้องไว้หน้าใครเลย
SG นี่มีประเด็นเรื่องฟ้องสื่อวิจารณ์รัฐบาลบ่อยจริง อันนี้โดนวิจารณ์มาตลอดในเวทีโลก แต่ถ้า ปฎิบัติการยิงช่าวแบบไม่เปิดเผยตัวตนนี่ผมยังไม่เคยได้ยินนะครับ
แต่ในแง่ "เล่นกับสื่อ" แล้วต้องยอมรับว่ารัฐ เขาเล่นกับสื่อเป็น พูดรู้เรื่อง, มีประเด็น มันทำให้ข่าว (ในแง่บวก) ของเขาน่าเขียนถึง แต่พวกนั้นก็ไม่ใช่ IO (ในนิยามของผม) นะ ก็ประชาสัมพันธ์ตามปกตินี่ล่ะ เหมือนนายกของเราพูดมันก็มีนักข่าวรอเขียนอยู่ทุกเช้าเย็น
lewcpe.com, @wasonliw
ขอรายชื่อประเทศที่ไม่ใช่ผเด็จการและทำ IO กับประชาชนตัวเองหน่อยครับ
ที่เค้าไม่พอใจคือทหารเอางบแผ่นดิน งบราชการ มากำจัดคนเห็นต่างกับฝ่ายตัวเอง ซึ่งผู้นำดีๆในประเทศอื่นไม่ทำกัน
ส่วนเรื่องหน่วยข่าวกรอง คุณไปอ่านวิสัยทัศน์ของหน่วยข่าวกรองใหม่นะครับ เค้าเขียนชัดเจนว่า "เป็นหน่วยข่าวกรองที่ทันสมัย เพื่อความมั่นคงของชาติและประชาชน" ไม่มีตรงไหนเกี่วข้องกับการสร้างความมั่นคงของรัฐบาลนะครับ
+1
ผมว่าแทบไม่มีใครแปลกใจเรื่องที่มี IO เพราะก็เห็นๆกันอยู่ แล้วมันก็ไม่เนียนด้วย แต่ที่รับไม่ได้คือการใช้งบลงมาละลายกับเรื่องแบบนี้ มันคือการเอาเงินประชาชนมาใช้ปิดปากประชาชนเอง แล้วมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับข่าวกรองแต่อย่างใดเพราะมันไม่ได้ทำไปเพื่อความมั่นคงของประเทศ แต่เพื่อความมั่นคงของตัวเอง พวกพ้อง และนายทุน
จริงๆผมว่า ควรต้าน io ทั้งหมด
เพราะมันชี้นำให้สังคมเข้าใจผิดและตัดสินใจผิด
ซึ่งมันไม่ใช่วิถีประชาธิปไตย
การหลอกกันนั้นขัดกับ free will
เป็นการละเมิดสิทธิพื้นฐานในการได้ข้อมูลที่แท้จริง
เพื่อการตัดสินใจได้ถูกต้อง
ถ้างวดกับการใช้ภาษี จะกลายเป็นว่า
io จะเป็นสิทธิพิเศษของนายทุนที่รวยพอจะจ่ายค่า io ด้วยเงินตัวเอง
ผมห่วงมากครับ หลังจากที่เห็นข้อมูลของ ส.ส. วิโรจน์
การที่ ก.อร.ม.น. ทำเว็บ plulony ใส่ร้าย สร้างความแตกแยก
รวมถึงทหารเป็นร้อยๆนาย มาปั่นกระแสให้เกิดความแตกแยกในประเทศ
มนผิดวัตถุประสงค์ ที่สำคัญเอาเงินภาษีของประชาชน มาสร้างความแตกแยกให้กับประชาชนด้วยกัน
"ห่วงแต่เอาข่าวจริงมาเลือกนำเสนอเฉพาะมุมมองที่เป็นประโยชน์กับตัวเองมากกว่า" นี่ล่ะครับเหตุผลที่ต้องเป็นห่วง IO
เป้าหมายของ IO คือการทำให้เกิด
- ความเชื่อผิดๆ
- เรื่องเอียงข้างใด ข้างหนึ่ง
ซึ่งเหล่านี้มันทำให้เกิดความขัดแย้งได้ครับ
ในไทยเฟชเขาจับจริงจะสมัครก็ยุ่งยาก แต่ไปดูใน twitter ซิ สมัครง่ายๆ ยืนยันบัตรประชาชนไม่ต้อง ปั่น #แฮชแท็ก กันสนุก บิดเบือนข้อมูล ด่ากันรายวันเลย
twitter ดูง่าย account ใหม่ๆ พึ่งสมัคร ชัดเจนมาก