จากกรณี Avast ถูกแฉว่านำข้อมูลผู้ใช้ไปขายต่อ สร้างความตื่นตัวให้กับผู้ใช้ Avast พร้อมเกิดคำถามว่า "ไม่ใช้ Avast แล้วไปใช้แอนตี้ไวรัสตัวไหนดี" (กรณีนี้รวมถึง AVG ที่เป็นบริษัทลูกของ Avast ด้วย)
บทความนี้จึงเป็นการสำรวจการจัดอันดับแอนตี้ไวรัสของสื่อต่างประเทศสำนักต่างๆ ที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกแอนตี้ไวรัส ที่อาจใช้แทน Avast/AVG ได้ (บทความนี้เน้นเฉพาะแอนตี้ไวรัสบน Windows เพียงอย่างเดียว นับข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2020)
ภาพจาก Avast
PCMag
PCMag เป็นนิตยสารคอมพิวเตอร์เก่าแก่ ที่มีการทดสอบแอนตี้ไวรัสมายาวนาน รวมถึงเป็นหนึ่งในสื่อที่ออกมาแฉเรื่อง Avast/AVG ด้วย
- รุ่นฟรี แนะนำ Kaspersky Security Cloud Free (ได้ Editor's Choice) เพียงตัวเดียว - อ้างอิง
- รุ่นเสียเงิน มี Editor's Choice ทั้งหมด 4 ตัวคือ McAfee, Kaspersky, Bitdefender, Webroot โดยมี McAfee และ Kaspersky สองตัวที่มีฟีเจอร์ครบทุกประเภท - อ้างอิง
หมายเหตุ: PGMag ระบุว่าทราบเรื่อง Kaspersky ถูกโจมตีว่าใกล้ชิดรัฐบาลรัสเซีย แต่มองว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่น่าเชื่อถือ
AV-Test
AV-Test เป็นสถาบันอิสระด้านความปลอดภัย และมีห้องแล็บที่ทดสอบแอนตี้ไวรัสอย่างเป็นระบบ
- รุ่นสำหรับผู้ใช้ตามบ้าน แนะนำหลายตัวคือ AhaLab, Avast, AVG, Avira, BullGuard, K7, Kaspersky, Windows Defender, Norton, Viper แต่ตัวที่ได้คะแนนเต็มทุกหมวดมี 3 ตัวคือ BullGuard, Kaspersky, Norton - อ้างอิง
- รุ่นสำหรับองค์กร แนะนำเพียง 2 ยี่ห้อคือ Kaspersky และ Norton ซึ่งได้คะแนนเต็มทุกหมวดทั้งคู่ - อ้างอิง
AV-Comparatives
เป็นสถาบันทดสอบด้านซอฟต์แวร์ความปลอดภัยอีกรายหนึ่ง
- ไม่แยกรุ่นฟรี-เสียเงิน แต่ตัวที่แนะนำมี 5 ตัวคือ Avira, Bitdefender, Symantec, Total Defense, VIPRE - อ้างอิง
TechRadar
- รุ่นฟรี Bitdefender Free Edition ได้คะแนนสูงสุด ตามด้วย Avast และ Sophos - อ้างอิง
- รุ่นเสียเงิน Bitdefender ได้คะแนนสูงสุด ตามด้วย Norton และ Webroot - อ้างอิง
Tom's Guide
- รุ่นฟรี Kaspersky ได้คะแนนสูงสุด ตามด้วย Bitdefender และ Avast - อ้างอิง
- รุ่นเสียเงิน Kaspersky ได้คะแนนสูงสุด ตามด้วย Bitdefender และ Norton - อ้างอิง
- Tom's Guide ยังแนะนำ Malwarebytes ในฐานะเครื่องมือลบมัลแวร์ ที่ใช้งานเมื่อพบว่าติดมัลแวร์แล้ว
CNET
- รุ่นฟรี Microsoft Windows Defender ตามด้วย Bitdefender - อ้างอิง
- รุ่นเสียเงิน Norton ตามด้วย McAfee, ESET และ Trend Micro - อ้างอิง
- แนะนำ Malwarebytes ในฐานะเครื่องมือลบมัลแวร์เช่นกัน
หมายเหตุ: CNET ตัดชื่อ Kaspersky ออกจากแอนตี้ไวรัสแนะนำ เพราะกังวลเรื่องความเชื่อมโยงกับรัสเซีย และตัด Avast ออกจากข่าวการขายข้อมูล
PCWorld
- รุ่นฟรี แนะนำ Windows Defender หรือถ้าไม่มั่นใจ แนะนำ Bitdefender - อ้างอิง
- รุ่นเสียเงิน แนะนำ Norton ได้คะแนนรวมสูงสุด และเป็นรายเดียวที่ได้ 4.5/5 ดาว - อ้างอิง
สรุป
จากชื่อแอนตี้ไวรัสที่แนะนำของสำนักต่างๆ จะเห็นว่า Kaspersky, Bitdefender และ Norton เป็นชื่อที่พบบ่อยที่สุด ส่วนประเด็นที่มาของ Kaspersky ที่อาจเอี่ยวกับรัฐบาลรัสเซีย คงเป็นเรื่องของผู้ใช้แต่ละคนที่ต้องตัดสินใจว่ายังเชื่อมั่นใน Kaspersky หรือไม่ (Bitdefender เป็นบริษัทโรมาเนีย ส่วน Norton เป็นบริษัทอเมริกัน)
เชื่อว่าชาว Blognone น่าจะมีประสบการณ์ลองผิดลองถูกกับแอนตี้ไวรัสกันมาพอสมควร ตัวไหนที่ประทับใจ/ไม่ประทับใจอย่างไร มาแชร์กันได้ในคอมเมนต์ครับ
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ตั้งแต่ใช้ Win10 มาก็ใช้แต่ windows defender ไม่เคยเจอปัญหาอะไร
+1
https://twitter.com/taviso/status/647409908967604224
https://twitter.com/taviso/status/676799692936581120
https://robert.ocallahan.org/2017/01/disable-your-antivirus-software-except.html
Avast ขายข้อมูลเรา แต่ไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัยใช่ไหม
เคยมีข่าว forum โดนแฮกอยู่รอบสองรอบมั๊ง
forum ไม่เกี่ยงกับตัว product นิ
คือ forum มันใช้ framework ที่คนทั่วไปใช้กันอยู่แล้ว
แต่มันก็ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของ product นะครับ
เหมือนมีโจรมาขโมยรถในที่จอดรถสถานีตำรวจอ่ะ
ขอแนะนำลองดู youtube ช่อง The PC Security Channel [TPSC] ครับผ่านมาในฟีดผมโดยบังเอิญ มีการทดสอบ antivirus หลากหลายตัวหลากหลายรูปแบบมาก
เคยใช้ win defender เพราะกะว่าเอาที่มากะ win ไม่ต้องลงเพิ่ม
น่าจะกิน resource น้อยสุด แต่มันกินramสองร้อยกว่าเมก
เลยปิดแล้วลง Kaspersky Security Cloud ใช้ไม่ถึงร้อยเมก
เลยใช้มาตลอด
ตอนwin10ออกใหม่ๆ ติดใจWindows defenderมาก ไม่ซื้อanti-virusเลย
พอผ่านไปหลายปี แต่เจอ malwareมาlock เรียกค่าไถเครื่องอยู่หนนึง
…เข็ดเลย ดีที่ข้อมูลสำคัญback upอยู่บนcloud … เลยformatเครื่องทิ้ง แล้วซื้อbitdefenderมาลง ก็ไม่เจอปัญหาอีกเลย
ไม่โดนกับตัวไม่รู้สึก 5555
ยังไม่เจอเพราะยังไม่โดนไม่รึเปล่าครับ
เข้ามาแซวว
ใช้ Norton มา 10 กว่าปีแหละ ถือว่าตอบโจทย์เรื่อง antivirus และ internet security ส่วนใหญ่
มี feature บางอย่างที่ไม่ได้ใช้ อย่าง spam เพราะใช้ของ Office 365 ดูแลอยู่แล้ว เลยปิดทิ้ง และส่วนพวก toolsbar ใน browser ก็ไม่ได้ใช้มัน
รวมๆ จ่ายปีละพันกว่าบาท แต่ติดตั้งได้ 5 เครื่อง ค่อนข้างโอเค จุดที่ชอบคือมันไม่หน่วงเครื่องมากเท่าไหร่
เคยลง kaspersky แบบเสียเงินในออฟฟิศญาติ มีคอม 5 เครื่อง โดนไวรัสถล่ม จนต้อง format ทิ้งลงใหม่ 2 รอบ
หลังจากนั้น ให้ย้ายค่าย เป็น BitDefender ก็ไม่มีอีกเลย เพราะมันดักได้ตลอด user ใช้อย่างเดียว ให้โปรแกรมมันจัดการให้ทั้งหมด ไม่ใช่กรณีว่า ไม่มีเพราะไม่เจอนะ แต่คอมมันก็ปกติดีตลอด
โดยส่วนตัว ผ่านโปรแกรมด้านบนมาตลอดทุกตัวแล้ว ปัจจุบัน ถ้าใครถาม แนะนำ BitDefender เจ้าเดียวครับ ยิ่งลงให้ user ที่ใช้อย่างเดียวเนี่ย BifDefender เปิด Auto Pilot จบเลย ไม่ถาม ไม่ต้องให้ user ตัดสินใจ
โดยส่วนตัว ไม่เข้าเว็บเสี่ยง เข้าเว็บประจำไม่กี่เว็บ แต่บางทีมี link ต่อไป แล้วเจอว่า BitDefender Block โฆษณาบางตัวในเว็บธรรมดาด้วยด้วย ตั้งแต่เรายังไม่ได้คลิก แต่ดูใน log file แล้วเจอ บางครั้ง Anti Virus ในตัว Router ดักไว้ก่อนมาถึงเครื่องด้วยซ้ำไป ดังนั้น concept ว่าตัวเองไม่เสี่ยงแล้วไม่เจอ ปัจจุบันนี้ ผมต้องเปลี่ยนความคิดแล้ว
ตั้งแต่ใช้ Win 10 ก็ใช้ Windows Defender เข้าใจว่าตัวเองระวังตัวในระดับนึง
เลยเดาว่าน่าจะพอเอาอยู่
ใช้ Kaspersky มา 11 ปีแล้วไม่เคยโดยไวรัสอีกเลย ลง windows ใหม่ก็ตอนเปลี่ยนเครื่องกับฮาร์ดดิสพังเท่านั้นไป 3 ที
ถ้าคอมส่วนตัว ตั้งแต่ใช้มา ไม่เคยใช้ antivirus เลย จนตอนที่เริ่มมี microsoft security essentials ถึงได้เริ่มใช้ แต่ก็ปิด real time protection ไว้ตลอด ตัดภาพมาปัจจุบัน ไม่รู้ msse เปลี่ยนชื่อมากี่รอบละ ก็ยังคงใช้อยู่ (แล้วก็ปิด real time protection ตลอดเวลาเหมือนเดิม)
Windows Defender นี่เก่งจับ KMS Tool
จับไวรัสไม่เน้น
เดี๋ยวนะ ฮ่าๆๆ
eset ไม่เห็นมีเลย มันไม่โอเคหรอครับกำลังเร็งๆอยู่เลย...
ผมใช้อยู่ บล็อคเว็บมั่วดี 5555
Kaspersky อันดับหนึ่งเลย ซื้อในงานคอมถูกดีด้วย ใช้มานานมาก แทบไม่มีปัญหา
Bitdefender อันดับสอง ใช้บางเครื่องเพราะคีย์จากบางที่มันถูก
ตั้งแต่ใช้ Bitdefender มาก็ไม่มีอะไรให้กวนใจเลย
เอา Flashdrive ลูกค้ามาเสียบมันขึ้นเตือนไวรัสเรียกค่าไถ่ บอกลูกค้าไปเขายืนยันว่าไม่มี เครื่องเขาใช้ Eset Nod ปลอดภัยหายห่วง ผมได้แต่กรอกตามมองบน 555 เพราะเป็นลูกค้าเลยพูดไรมากไม่ได้
เท่าที่ถามล่าสุดโดนไวรัสแผลงฤทธิ์ โดนเรียกค่าไถ่จนต้อง format ใหม่ทั้งเครื่อง 555
nod ปลอมด้วยมั้งนั่น
McAfee Extension ที่ติดไว้ใน chrome ทำเว็บที่ทำ ติด bug…
preload มากับ HP Asus เปิดดู task มี McAfee service 10 กว่าตัว
นี่มัน AntiVirus หรือเป็น Malware ซะเอง
ใช้ BitDefender Free ก็โอเคอยู่นะ บล็อกเว็บให้ด้วย
Kaspersky มายาวนานมากครับ ติดอย่างเดียวชอบขายของเสริม ตอนนี้มี VPN กับ Safe Money มั้ง เด้งบ่อยไปหน่อยจนต้องปิด
ไม่มีใครพูดถึง Malwarebytes เลยน่ะเนี่ย
ละไว้ในฐานเข้าใจหรือเปล่า โดยส่วนตัวถ้าต้องจัดการกับ PC ที่มีปัญหา หลังจากใช้ AV จัดการไปแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือจบด้วย Malwarebytes
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ในบทความไง
เจ้านี้ก็ดีนะ ประทับใจเหมือนกัน
ใช้ของ win defender แล้วไม่รอดไวรัส
Kaspersky แบบเสียตังก็ไม่ค่อยดี
ตอนนี้ใช้ Bitdefenderแบบเสียตังก็ใช้ได้เลย
บางเครื่องตัวฟรีก็ใช้ AVG
ใช้ Kaspersky มานานมาก จนเริ่มมาใช้ window 10 แล้วไม่ซื้ออีกเลย ใช้แต่ตัวที่ติดมา ตอนนี้อยากลองลง bitdefender free ดูอยู่เหมือนกัน
จากบทความ avast หลังจากใช้ avast มาเป็นสิบปี ลองเปลี่ยนเป็น Kaspersky Security Cloud Free จากที่ PC Mag แนะนำ ก็โอเคนะ ไม่หนักเครื่องอย่างที่คิด ลอง full scan ดูก็จับพวก crack ต่างๆที่เคยเก็บไว้นานๆเป็นไวรัสกับ malware หมดเลยซึ่ง avast ไม่มองพวกนี้ว่าเป็นอันตราย
บนเครื่องวินโดวส์ก็ใช้ที่มาพร้อมกับ Win10 ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ
เอาจริงๆนะ ปัญหาพวกนี้แหละที่เป็นหนึ่งในปัญหาที่พาผมไปซบ Mac
ตั้งแต่ย้ายมาสุขภาพจิตดีขึ้นเยอะ
ใช้แมคอย่าคิดว่าจะปลอดภัยนะครับ
เห็นด้วยครับ
ปล ได้ยินคำพูดแบบนี้มาตลอด 15 ปีที่เปลี่ยนมาใช้ Mac เป็นเครื่องหลัก แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาสักครั้ง และก็ยังคงจะได้ยินแบบนี้ต่อไป
สรุปmalwarebyteนี่ใช้รักษา ไม่ใช่ป้องกันเหรอครับ
ป้องกันดีมากครับ web filtering ถือเป็นฟีเจอร์เด่นเลย เหมาะกับการท่องเว็บใต้ดินมากๆ
ก็ยังใช้ avast อยู่นี่แหละครับ หวังว่าโดนแฉไปรอบนี้แล้วจะโละพวกหัวหมอออกจากบริษัทไป
ถึงจะไม่โอเคกับเรื่องที่แอบขายข้อมูลการคลิ๊กไปก็เถอะ แต่ผมเป็นคนที่เข้าเว็บไซต์มั่วซั่วไปหมดแต่ที่ไม่โดน browser hijacker รวมถึงมัลแวร์อื่น ๆ ก็เพราะ avast มันจัดการให้มาตลอด
เสียอย่างเดียว avast มันชอบไปขัดกับพวก android emulator - -"
เคยซื้อ BitDefender มาใช้ตอนราวๆ 2013 ที่ CompMart พอลงเครื่องเสร็จแล้ว เครื่องหน่วงอืดๆอย่างเห็นได้ชัด เลยลบทิ้งไป เสียดายเงิน
Bitdefender ยุคนั้นอืดมากๆ SSD ถึงจะเอาอยู่
windows defender + ใช้ software แท้ 100%
ตั้งแต่ Windows 8 ก็ไม่เคยเจอปัญหาอะไรนะครับ
ุถ้าไม่นับตอนเปลี่ยนเครื่อง กับ ssd ก็ไม่เคยต้องลงใหม่เลยสักครั้ง
Bitdefender free ใช้ดีมากครับ
ใช้ norton มานานมากๆแล้วครับ รู้สึกว่าครบจบในตัวเดียว
ทุกอย่างทำอัตโนมัติ ไม่ต้องคลิ๊กอะไรให้ปวดหัว
เคยใช้ avast free
ads เด้งบ่อยเกิ๊น
ตอนนี้ใช่ bit free edition ไม่มี ads เลย
ตั้งแต่ Win7 ใช้ Windows Defender ตัวเดียวมาตลอด นี่ก็เปลี่ยนคอมไปสามตัวละ (ค่อย ๆ พังไปตามกาลเวลานะ ไม่ใช่ติดไวรัส)
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เคยใช้ Bitdefender ใช้งานได้ดีทุกอย่าง ยกเว้นมันไปบล็อคแถบแจ้งเตือนของ Windows10 แล้วก็ทำให้การตั้งค่าใน Widows Setting บางอย่างใช้งานไม่ได้ เหมือนมันควบคุมการตั้งค่าของเครื่อง ไม่รู้มีใครเป็นบ้างหรือเปล่าครับ