Tags:
Node Thumbnail

การใช้คลาวด์กลายเป็นความจำเป็นขององค์กรในยุคนี้ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกผู้ให้บริการ Microsoft Azure คือผู้ให้บริการคลาวด์ที่เหมาะที่สุดสำหรับผู้ที่ใช้ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์เป็นระบบ โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ในองค์กร Microsoft Azure สามารถช่วยลดภาระการจัดการโครงสร้างพื้นฐาน ไปพร้อมๆ กับการลดค่าใช้จ่ายลง เรามาดู 3 เหตุผลที่องค์กรควรเลือก Microsoft Azure เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ สำหรับองค์กรของท่าน

No Description

เหตุผลที่ 1 สามารถทำงานร่วมกับระบบโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่ท่านมีใช้งานอยู่ในองค์กรได้เต็มรูปแบบ (Hybrid Infrastructure)

Microsoft Azure เป็นคลาวด์ที่สามารถทำงานร่วมกับระบบโครงสร้างพื้นฐานเดิมในองค์กรที่ใช้ Windows Server และ SQL Server ได้เต็มรูปแบบ โดยเซิร์ฟเวอร์เดิมในองค์กรสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ Microsoft Azure ผ่านทาง Windows Admin Center ทำให้องค์กรสามารถใช้เซิร์ฟเวอร์เดิมต่อไป โดยใช้ระบบควบคุมจัดการเพียงตัวเดียว แต่ยังได้ความได้เปรียบของคลาวด์ ได้แก่

  • สำรองข้อมูลขึ้นคลาวด์ผ่านบริการ Azure Backup
  • เตรียมพร้อมเหตุฉุกเฉินให้สามารถย้ายงานขึ้นคลาวด์ได้ ด้วย Azure Site Recovery
  • ซิงก์ไฟล์ขึ้นคลาวด์ด้วย Azure File Sync
  • ตรวจสอบความพร้อมของระบบด้วย Azure Monitor

No Description

Windows Admin Center เปิดทางเชื่อมต่อ Microsoft Azure จากคอนโซลบนวินโดวส์เดิม

สำหรับแอปพลิเคชั่นเดิมที่ใช้ SQL Server อยู่ Microsoft Azure มี Azure SQL ที่ทำงานกับโค้ดเดิมได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องแก้โค้ด หรือไม่ว่าจะเป็นการย้าย Active Directory ไปยัง Azure AD Domain Services ที่ยังสามารถให้บริการแอปพลิเคชั่นในองค์กรได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นบริการที่เชื่อมต่อผ่าน LDAP, NTLM, หรือ Kerberos เปิดทางให้การย้ายบริการต่างๆ สามารถทำได้ทีละส่วนโดยไม่ต้องเปลี่ยนแอปพลิเคชั่นเดิม

No Description

Azure Red Hat OpenShift แฟลตฟอร์มคอนเทนเนอร์ระดับองค์กรบน Azure

นอกจากซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์เอง องค์กรที่ใช้แพลตฟอร์มอื่นก็ยังสามารถใช้งาน Azure ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มคอนเทนเนอร์ที่รองรับแพลตฟอร์ม Kubernetes ด้วย Azure Kubernetes Service (AKS) หรือผู้ใช้ระดับองค์กรก็ยังมี Azure Red Hat OpenShift ให้บริการ ทำให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับการพัฒนาบริการ แทนที่จะเสียเวลากับการดูแลโครงสร้างพื้นฐาน

สำหรับองค์กรที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลด้วยมาตรฐานต่างๆ Azure คือหนึ่งในผู้ให้บริการได้รับการรับรองมากที่สุด ครอบคลุมทั้งการรับรองจากมาตรฐานระดับโลกอย่าง ISO 27001 มาตรฐานระดับรัฐบาลประเทศต่างๆ และมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น ธุรกิจการเงินที่ต้องทำตามมาตรฐาน PCI-DSS หรือบริการสุขภาพที่ต้องทำตามมาตรฐาน HIPAA ก็ตาม

เหตุผลที่ 2 Azure ลงทุนสร้างเครื่องมือเพื่อช่วยลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่าย

ในยุคคลาวด์ ผู้ให้บริการได้รายได้ตามปริมาณการใช้งานจริง หลายครั้งที่มีการประมาณการใช้งานผิดพลาด จนกระทั่งเกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด Azure มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการสร้างเครื่องมือที่จะช่วยให้องค์กรใช้งาน Azure ได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด นำไปสู่การลดต้นทุนในระยะยาว

เริ่มตั้งแต่บริการ Azure Migrate ที่วิเคราะห์ความจำเป็นของทรัพยากรที่ต้องใช้บนคลาวด์ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเซิร์ฟเวอร์ ทั้งบน Hyper-V, VMWare หรือฐานข้อมูล พร้อมกับบริการจากผู้ให้บริการภายนอกที่สามารถเข้าไปช่วยเหลือ ทำรายงานประเมินค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นและแนวทางการลดค่าใช้จ่ายในรูปแบบต่างๆ

No Description

Microsoft Azure ถูกกว่าผู้ให้บริการคลาวด์อื่นถึง 80% เมื่อใช้สิทธิ Azure Hybrid Benefit กับ Windows Server 2008

ลูกค้าเดิมที่มีสิทธิ์ Azure Hybrid Benefit (คือลูกค้าที่ซื้อ License พร้อมกับมี Software Assurance ที่ยัง active อยู่) ยังสามารถใช้สิทธิ์มาช่วยลดค่าบริการบนคลาวด์ได้อีกมาก รวมถึงสิทธิ์การเข้าถึงอัพเดต patch ด้านความปลอดภัย สำหรับ Windows Server และ SQL Server 2008 ฟรี ช่วยขยายระยะเวลาการอัพเกรดแอปพลิเคชั่นออกไป นับเป็นสิทธิ์ที่ไม่มีผู้บริการอื่นให้ได้ ทำให้ค่าใช้จ่ายรวมถูกกว่าคู่แข่งถึง 80%

สำหรับการพัฒนาหรือทดสอบแอปใหม่ Microsoft Azure ยังมีราคาสำหรับการพัฒนาที่ไม่ต้องจ่ายค่าไลเซนส์เต็ม ทำให้นักพัฒนาเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ที่เหมือนจริง โดยที่องค์กรไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช่จ่าย

No Description

ระหว่างการใช้งาน Microsoft Azure เปิดทางให้องค์กรสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายด้วยการปรับรูปแบบการใช้งาน เช่น หันไปใช้สตอเรจแบบพิเศษสำหรับการเก็บข้อมูลระยะยาวสำหรับข้อมูลสำรองที่ราคาถูกกว่า หรือจะจองเครื่องระยะยาวล่วงหน้าเพื่อรับส่วนลดในกรณีที่ระบบมีโหลดค่อนข้างคงที่ และยังมีบริการ Azure Cost Management ที่ช่วยรายงานค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง และแนะนำถึงการเรียกใช้ทรัพยากรอย่างไม่คุ้มค่า

เหตุผลที่ 3 Azure คือคลาวด์ที่ดีที่สุดสำหรับงานฐานข้อมูล SQL

SQL Server คือซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลที่ได้รับความไว้วางใจในระดับองค์กรมาเป็นเวลานาน และเป็นระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชั่นธุรกิจจำนวนมาก จากความสามารถในการรองรับมาตรฐาน SQL อย่างครบถ้วนที่สุด และเพิ่มประสิทธิภาพสูงในเวอร์ชั่นใหม่ๆด้วยกระบวนการปรับแต่งประสิทธิภาพอัตโนมัติด้วย Machine Learning และมีฟีเจอร์ทั้งความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง

Microsoft Azure รองรับ SQL Server อย่างเต็มรูปแบบพร้อมทางเลือกที่หลากหลายที่สุด โครงการ Azure Hybrid Benefit (คือลูกค้าที่ซื้อ License พร้อมกับมี Software Assurance ที่ยัง active อยู่) ทำให้องค์กรสามารถใช้ไลเซนส์เดิมบน Microsoft Azure ที่คลาวด์อื่นไม่มีตัวเลือกนี้ให้

No Description

Microsoft Azure เปิดทางการย้าย SQL Server ขึ้นคลาวด์โดยมีตัวเลือกทั้งความเข้ากันได้เต็มที่ หรือการใช้คลาวด์เต็มรูปแบบ

ตัวเลือกการใช้ฐานข้อมูล SQL Server บน Microsoft Azure ยังมีถึง 3 รูปแบบ ได้แก่

  • SQL Server on VM เลือกใช้ SQL Server เวอร์ชั่นเดิมที่องค์กรเคยใช้งานมาบน Virtual Machine ได้ทันที และสามารถใช้เวอร์ชั่น SQL Server 2008 เดิมไปจนว่าองค์กรจะพร้อมอัพเกรด เลือกช่วงเวลาซ่อมบำรุงและอัพเดตได้ตามเวลาที่ต้องการ จนถึงปี 2022
  • SQL Server Managed Instance บริการ SQL Server บน Microsoft Azure ที่เข้ากันได้กับ SQL Server เดิมที่ท่านมีใช้อยู่ภายในองค์กรแบบเต็มรปแบบ แต่ลดภาระการดูแลตัว Virtual Machine และการซ่อมบำรุงออกไป โดยให้ทางไมโครซอฟท์เป็นผู้ดูแลการอัพเดตต่างๆ ให้เอง
  • SQL DB แบบ Single database/Elastic pool ให้บริการแบบ Platform as a Service ของระบบฐานข้อมูล Database บนโครงสร้างของ Microsoft Azure โดยตรง ทำให้สามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างละเอียด ทั้งการคิดค่าใช้งานแบบจองทรัพยากรล่วงหน้า, การคิดตามทรัพยากรที่ใช้งานจริง (database transaction unit - DTU) ที่รวมเอาทั้งการใช้งานซีพียู, ดิสก์, และแรม คำนวณเข้าไว้ด้วยกันเพื่อลดความยุ่งยาก หรือแม้แต่โมเดล Serverless ที่เปิดทางให้ Azure สามารถเพิ่มหรือลดทรัพยากรได้เอง และคิดค่าใช้ทรัพยากรเป็นวินาที

แนวทางเช่นนี้ทำให้องค์กรมีทางเลือก และเส้นทางการพัฒนาได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้การย้ายขึ้นคลาวด์ช่วงแรกอาจเลือกบริการที่ยังเข้ากันได้กับระบบเดิมอย่างสูง แล้วค่อยๆ เลือกใช้งานบริการคลาวด์เต็มรูปแบบกับบริการใหม่ๆ โดยที่นักพัฒนายังคงคุ้นเคยกับเครื่องมือต่างๆ และโค้ดเดิมยังทำงานได้ด้วยการปรับแต่งไม่มากเกินไป

สนใจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการย้ายฐานข้อมูลเลือก Azure วันนี้ โดยลงทะเบียนเพื่อรับการติดต่อกลับได้ที่ https://aka.ms/AzureMigrationTH หรือสนทนากับฝ่ายขายได้ที่ https://aka.ms/AzureMigrationTH_Chat

สำหรับในประเทศไทยนั้น มีผู้ให้บริการและให้คำปรึกษา Microsoft Azure หลักๆ ได้แก่

Get latest news from Blognone