Fujio Mitarai ซีอีโอของ Canon ได้ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei โดยเขาได้ให้ข้อมูลว่า Canon เห็นอนาคตตลาดกล้องอย่างไรบ้าง ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือตอนนี้ซีอีโอระบุว่า Canon ทำนายว่าตลาดกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ (interchangeable lens camera หรือ ILC) จะหดตัวลงครึ่งหนึ่งในปี 2020
ซีอีโอระบุว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กล้องมียอดขายลดลงราว 10% ต่อปีตั้งแต่ช่วงพีคที่สุดคือในปี 2010 โดยตลาดกล้อง ILC คาดกันว่าจะอยู่ที่ 10 ล้านยูนิตต่อปี แต่ Canon ทำนายว่าในปี 2020 จะเหลือเพียง 5-6 ล้านยูนิตเท่านั้น
Fujio ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า ยอดขายกล้อง Mirrorless นั้นจะไม่ได้เป็นการเพิ่มยอดขายให้กับตลาด แต่จะไปแย่งยอดขายของ DSLR ด้วย โดย Canon ระบุว่าทางบริษัทกำลังเร่ิมเปลี่ยนไปเน้นการขายกับองค์กรแทนการขายปลีกกับผู้บริโภคในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยโฟกัสไปที่ภาคอุตสาหกรรม, สำรวจ หรือการแพทย์ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในตลาดกล้องนี้ แต่ทางบริษัทก็จะยังคงขายกล้องต่อไป
ที่มา - Canon Rumors, dpreview
Comments
เพราะมันไม่เห็นความต่างอีกแล้วรึเปล่า? เข้าใจว่าถ้าไม่ใช่เรื่องของ PIXEL กับเรื่องของ Noise เรื่องความต่างของคุณภาพเลนส์ก็คงแทบไม่เห็นอะไรซักเท่าไหร่แล้ว
ไม่หรอกครับ ที่มันต้องเปลี่ยนเลนส์ไม่ใช่เพราะคุณภาพ แต่เป็นเพราะแต่ละเลนส์มันเหมาะกับงานคนละประเภท และไม่มีเลนส์ที่ครอบจักรวาลครับ ก็เลยต้องพึ่งพาการเปลี่ยนเลนส์ครับ
สาเหตุก็น่าจะเป็นการมาของมือถือนั่นแหละครับ มี AI สำหรับถ่ายละลายหลัง มีเลนส์ UWA แต่ละเจ้าก็ซุ่มพัฒนาระบบเทเลของตัวเองอยู่ เพราะงั้นมือถือในอนาคตนี่เรียกว่าแทบจะครอบจักรวาลแบบไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์ก็ว่าได้
แน่นอนว่าคนที่เล่นกล้องยังไงก็ไม่เปลี่ยนไปใช้มือถือหรอก แต่ปัจจุบันมันมีหลายคนที่ไม่ได้อยากเล่นกล้องแต่ต้องใช้กล้องเพราะต้องการภาพละลายหลังหรือมุมกว้างหรือซูมไกลๆอะไรทำนองนี้อยู่ ซึ่งถ้าอนาคตมือถือทำพวกนี้ได้ คนกลุ่มนี้แหละที่จะย้ายไป เพราะงั้นตลาดกล้องเปลี่ยนเลนส์จึงไม่ตายแต่แค่หดตัวลงเหลือแค่เฉพาะกลุ่มนั่นแหละครับ
เสริมความเห็นนี้นะฮะ
ลองเทียบดูนะครับ กับภาพถ่าย Juri Takahashi(AKB48 Team B)
ถ่ายด้วยไอโฟน ซูมด้วยไอโฟน
ถ่ายด้วย Canon750D เลนส์ 70-200 f/4
ทุกวันนี้ที่กล้องเปลี่ยนเลนส์ยังขายได้เพราะแบบนี้นี่แหละฮะ ขายคนที่ต้องทำงานอะไรพวกนี้ ถ้าไม่ได้ทำอะไรพวกนี้ก็คนไม่ค่อยซื้อกล้องกันแล้วนะฮะ ตอนนี้กล้องมือถือหลักๆเหลือแค่เรื่องซูมนี่แหละ เพราะทุกวันนี้คือตัดเอา ไม่ซูมจริง
อ่าห์ เห็นแล้วอยากได้ขึ้นมาเลย Cannon ต้องทำตลาดโอตะแล้วล่ะ
อย่าเลยครับ 55555555 อุปกรณ์ที่ถ่ายจูรินี่ครึ่งแสนนะครับ
ผมคิดว่า กล้องมือถือ มันมาไกลจนคนไปเที่ยว เดิมอยากได้ภาพสวยๆ ก็ต้องเอากล้องไปด้วย
แต่ปัจจุบัน ใช้มือถือ ในกระเป่า ก็ได้ภาพที่พอใจแล้ว
canon เปลี่ยนแปลงช้าเองไหม
เห็นด้วยครับ
จริงครับ ผมมีกล้อง CANON กะเลนส์หลายตัว แต่ถ้าจะซื้อ Full Frame Mirrorless คงไม่เอา CANONแล้วครับ
ใช้เลนส์เดิมก็ไม่ได้(มีอุปกรณ์เสริมที่เพิ่มตัง) ไม่มีกันสั่นในกล้อง วีดีโอที่แต่ก่อนเป็นผู้นำก็ตามหลังเค้า
พูดมา ทำไมผมนึกถึง SONY
ผมว่าที่มันหดตัวเพราะผู้ซื้อหน้าใหม่ลดลง เพราะอย่างที่รู้กันว่าคนใช้มือถือแทนกล้องถ่ายรูปกันแล้ว
มือถือเปลี่ยนบ่อยกว่าและทุกครั้งที่เปลี่่ยน กล้องก็จะดีขึ้นทุกปีๆ
ส่วนคนที่จริงจังกับคุณภาพของภาพยังไงก็ใช้กล้องใหญ่อยู่ดี อย่างรูปใน IG ของซุปตาดังๆ
อย่างน้อยก็ Mirrorless นี่แหละ รูปต้องออกมาดีเพราะเค้าใช้หาเงินได้
มือถือแทนกล้องถ่ายรูปได้แล้ว จริง ๆ คนทั่วไปเที่ยวไม่ต้องเป็นต้อง Mirrorless หรือ DSLR แล้วน่ะ
ขนาดผมมีกล้องชุดใหญ่ไว้ถ่ายงาน หาเงิน เวลาไปเที่ยว ยังไม่ค่อยพกไปเที่ยวเลยใช้มือถือแทน
แต่ใช้ถ่ายงานนี่ต้องชุดใหญ่เท่านั้น มือถือแทนไม่ได้เลยซักนิด
มันยังไม่ได้หมดทุกเคสนะฮะ ที่บอกว่าแทนได้ ลองมาถ่าย Tele สิฮะ 55555555
แต่ Tele ถ้าไม่ได้ตามดาราหรืออย่าง AKB48 Team8 หรือถ่ายสัตว์ ส่องนก ก็แทบไม่ได้ใช้เลย
ผมหมายถึง คนทั่ว ๆ ใช้ไปเที่ยว หรือ ชีวิตประจำวัน
ไม่จำเป็นต้องใช้เทเลเลย ไม่ได้ต้องการคุณภาพสูงขนาดนั้นครับ
อย่างตามส่องดาราไม่ใช่แนวผมครับ และตอนผมไปดูคอนเสริตใหญ่ ๆ
ส่วนมากไม่ให้เอากล้องตัวใหญ่เข้าครับ
ผมว่าคนไปมือถือก็เยอะ แถมมีพวก Action Camera ทั้งหลาย ยัน Osmo Pocket ไม่รุ้หมวดอะไรดี มาแย่งตลาดเยอะขึ้น
เมื่อก่อนคนจะซื้อกล้อง ก็หากล้อง ดีๆ ก็เลือกกล้องใหญ่ๆ เพราะไฟล์ได้ดี แต่หลังๆ พฤติกรรมคนเปลี่ยนดูรูปบน LINE บน Social จะใช้ของเดิมก็เอาเข้าลำบาก แถมในจออุปกรณ์ก็ไม่ต้องการคุณภาพระดับนั้น
ผมว่างวดนี้แคนน่อนพูดถูก กลุ่มคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องการถ่ายภาพจะหันไปเลือกกล้องที่ติดมากับสมารฺทโฟนหมดแล้ว... ก็จะยังคงเหลือแต่กลุ่มที่จำเป้นต้องใช้อะไรที่มีมากกว่าแค่ point and shoot อย่างเดียว ซึ่งก็ไม่ได้เยอะมากมากอะไรขนาดนั้น
ถ้าย้อนไปซั้ก 5-6 ปีที่ผ่านมา มือถือติดกล้องไม่ได้มีคุณภาพเหมือนปัจจุบันนี้... เลยยังพอมีตลาดของกล้องคอมแพค กับ mirrorless รุ่นเล็กๆอยู่... จนกระทั่งถึงยุคของกล้องมือถือที่ถ่ายภาพได้ดีกว่ากล้องคอมแพค ก็เลยไม่มีความจำเป้นต้องซื้อกล้องคอมแพคอีก
กล้องมือถือ มันสะดวกและยืดหยุ่นกว่าจริง ๆ ครับ กันน้ำได้ด้วย แต่ถ้าออกล่าแสงเหนือ ล่าช้างบนฟ้า ยังไงก็ยังต้องกล้องใหญ่
จะว่าไป หลังๆ ผมก็ไม่ได้พกกล้องเวลาไปเที่ยวไหนแล้ว ยิ่งมีลูกเล็กด้วยนี่ แค่มือถือถ่ายยังลำบากเลย
ขนาดถ่ายงาน ถ้าไม่ได้ทางการอะไรก็เอามือถือถ่ายแทนด้วยซ้ำ
+1 มีกล้อง1 ตัวคุณภาพดีกว่ามือถือเยอะ แต่ถ้้้้้าไม่เน้นจริงๆ ก็ใช้มือถือถ่าย
แต่ยอดขายลดนี่เพราะตลาดอิ่มตัวหรือเปล่าครับ ราคากล้องโปรก็ไม่ได้ถูก จะให้เปลี่ยนบ่อยๆก็หลายตังอยู่ ไปเปลี่ยนเลนส์ก่อนน่าจะดีกว่า
นอกจากเรื่องการจับถือ การ control กล้องที่อาจจะไม่จำเป็นสำหรับคนทั่วไปแล้ว ยังมีข้อจำกัดที่ว่า ถ้ามือถือยังใช้เซนเซอร์ขนาดเล็กอยู่ ยังไงก็ให้มิติภาพสู้กล้องใหญ่ที่ใส่เซนเซอร์ขนาดใหม่ไม่ได้ครับ
ที่ผมต้องการคือกล้อง full frame ที่มี computing photography แบบ Google Camera ทำได้ครับ
คนที่ใช้กล้องเปลี่ยนเลนส์ในปัจจุบันเนี่ย มันไม่ใช่คนที่ต้องการใช้กล้องทุกคนแต่จำเป็นต้องใช้เพราะมันไม่มีอะไรมาตอบความต้องการของเขาได้ (คุณภาพดี หน้าชัดหลังเบลอ มุมกว้าง ซูมไกล ฯลฯ)
เพราะงั้นพอมือถือเริ่มคุณภาพดีขึ้น เริ่มมีความสามารถมากขึ้น ตอบการใช้งานได้มากขึ้น เหตุผลที่คนเหล่านั้นต้องใช้กล้องก็จะน้อยลง คนเหล่านั้นก็จะไหลออกมาใช้มือถือแทน
กล้องเปลี่ยนเลนส์ไม่ตายแน่นอน แต่จะกลายเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้นแค่นั้นเอง
ถ้า
1. ยังถ่าย RAW ไม่ได้เทียบเท่า
2. เซนเซอร์รับแสงไม่สามารถทำดีเทียบเท่า
3. ยังบอกผลการวัดแสงเป็นตัวเลขให้ไม่ได้
ผมก็ถือว่ายังไม่ถือว่าแย่งผู้ใช้นะ
ผมมองยังไงก็เป็นการแย่งตลาดครับ คนที่จะซีเรียส 3 ข้อที่ว่ามานั้น มีอยู่แน่นอน แต่คนที่ไม่ได้ซีเรียส ยอมหยวนๆ ได้นั้นมีอยู่เยอะกว่า สถานการณ์มันเหมือนตอนที่กล้องมือถือไปกินตลาดกล้องคอมแพ็คนั่นแหละครับ ขนาดคุณภาพกล้องคอมแพ็คดีกว่ากล้องมือถือตั้งเยอะ แต่คนก็เลือกใช้มือถือมากกว่า
ประเด็นคือคนที่ใช้กล้องในปัจจุบัน ไม่ได้ต้องการ 3 ข้อที่คุณว่ามากันทุกคนครับ ซึ่งคนกลุ่มนี้แหละที่จะถูกแย่งไปมือถือ