Christine Lagarde ผู้อำนวยการ IMF ขึ้นปาถกฐาที่งาน Singapore Fintech Festival ระบุถึงเหตุผลที่ธนาคารกลาง (แบงค์ชาติ) อาจจะควรสร้างเงินดิจิทัลขึ้นมาให้ประชาชนใช้งาน แทนที่จะปล่อยให้กระบวนการเปลี่ยนเงินดิจิทัลไปอยู่ในมือเอกชน

การบรรยายนี้อ้างถึงรายงาน Casting Light on Central Bank Digital Currencies ของ IMF ที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ระบุถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจะออกเงินดิจิทัล (central bank digital currency - CBDC) เพิ่มเติมจากการออกเงินสดเช่น ธนบัตรและเหรียญที่ออกอยู่แล้วทุกวันนี้

เหตุผลที่ Lagarde ระบุว่าธนาคารกลางควรออก CBDC เพราะทุกวันนี้การใช้เงินเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เงินกระดาษนั้นเกิดในจีนมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 และตอนนี้เป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้ง ร้านค้าบางชาติเริ่มไม่ยอมรับเงินสด โดยมีเหตุผล 3 ประการ

1. ทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย เพราะเอกชนมักไม่สนใจนำบริการจ่ายเงินดิจิทัลออกไปยังพื้นที่ห่างไกล หากพื้นที่เหล่านั้นยังใช้เงินสดเหมือนเดิมก็จะกลายเป็นการแยกเศรษฐกิจออกจากพื้นที่เจริญแล้ว
2. ปกป้องผู้บริโภค โดยบริการเงินดิจิทัลนั้นมีแนวโน้มจะกลายเป็นบริการผูกขาด เมื่อเครือข่ายใดมีคนใช้งานมากก็จะถูกลง มีบริการรับเงินมากขึ้น แต่เอกชนเหล่านี้อาจลงทุนน้อยเกินไปจนระบบขาดเสถียรภาพ
3. ความเป็นส่วนตัว ที่ผ่านมาเงินสดเป็นช่องทางการจ่ายเงินที่ไม่ต้องให้ข้อมูลส่วนตัว แต่เงินดิจิทัลกลับสร้างข้อมูลมหาศาล โลกที่ข้อมูลการจ่ายเงินไปอยู่ในมือเอกชนอาจควบคุมพฤติกรรมของทุกคนจากการใช้ข้อมูลการจับจ่ายมาให้คุณให้โทษด้วยในการปล่อยสินเชื่อ

อย่างไรก็ดี Lagarde ยังระบุถึงความเสี่ยงของระบบเงินดิจิทัลไว้ เช่น การฟอกเงินที่อาจจะง่ายขึ้นหาก CBDC มีความเป็นส่วนตัวสูงมากๆ, การใช้ CBDC อาจสร้างปัญหาต่อเสถียรภาพทางการเงินเพราะทุกคนสามารถถอนหรือฝากเงินได้อย่างรวดเร็ว, และการที่ธนาคารกลางเข้ามาแข่งขันเองอาจจะปิดกั้นนวัตกรรมของเอกชน

รายงานของ IMF ระบุแนวทางการสร้าง CBDC ว่าอาจจะเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) แบบเดียวกับบริการเอกชนทุกวันนี้ หรือจะเป็นโทเค็นก็ได้ แม้แต่โทเค็นเองก็อาจจะเป็นระบบรวมศูนย์

ที่มา - IMF