Nanjing University เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกๆ ในจีนที่ทริเริ่มนำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาช่วยเรื่องการจัดสรรหอพักในมหาวิทยาลัย โดยมีการจัดกลุ่มนักศึกษาที่น่าจะมีนิสัยคล้ายๆ กันเข้ากันได้ มาอยู่ร่วมห้องพักเดียวกัน แทนการจัดสรรแบบเดิมที่ใช้วิธีการจัดรูมเมทโดยอาศัยการไล่เรียงตามหมายเลขประจำตัวนักศึกษา
ทั้งนี้ Nanjing University จะทำการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะนิสัยของนักศึกษาที่เข้าอยู่ในหอพักโดยให้กรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม และจะนำข้อมูลเหล่านั้น เป็นต้นว่ารูปแบบกิจวัตรประจำวัน, ระดับความเข้มงวดเรื่องสุขลักษณะ, พฤติกรรมการใช้เครื่องปรับอากาศ มาเป็นเกณฑ์ในการจับกลุ่มนักศึกษาที่มีนิสัยน่าจะไปด้วยกันได้ให้เป็นรูมเมทกันห้องละ 5-6 คน โดยจะเริ่มใช้งานระบบนี้กับนักศึกษาที่เข้าใหม่ในปีนี้เลย
หากลองคิดทบทวนดู นักศึกษาที่ถูกจัดให้อยู่ห้องพักเดียวกัน และต้องใช้ชีวิตร่วมกันนานหลายปีกว่าจะจบการศึกษา ก็ถือเป็นปัจจัยที่หล่อหลอมให้คนมาเป็นเพื่อนกันและส่งอิทธิพลด้านนิสัยใจคอซึ่งกันและกัน ดังนั้น นี่จึงอาจกล่าวได้ว่าเรามาถึงยุคที่ปัญญาประดิษฐ์เริ่มจะกลายมาเป็นตัวช่วยหนึ่งในการเลือกคบเพื่อนแล้วก็เป็นได้
ที่มา - Abacus
Comments
แบบนี้มันดีกว่าไหมนะ คนคล้าย ๆ กันจะกลายเป็นมุมมองแบบเดียวกันหมด มุมมองอื่น ๆ ก็จะไม่เข้ามาในชีวิตเลย แบบที่ fb เป็นอยู่ พอเจอแต่มุมมองแบบเดียวกันบ่อย ๆ ก็จะคิดว่าตัวฉันนี้ถูกเพราะใคร ๆ ก็ว่าแบบนี้ (ที่มีแต่มุมมองเดียวกัน)
อาจจะดีอย่าง คนพักรวมกันเข้ากันง่ายขึ้น
แต่อาจจะไม่เกิดความหลากหลายทางสิ่งแวดล้อมเปล่าหว่า ฮ่าๆ
จริงๆ น่าจะคณะเดียวกันสาขาเดียวกันพักด้วยกันก็พอแล้วมั้งจะได้ทำงานอะไรง่ายๆ ขึ้น
สามอย่างนี้ถ้าจะอยู่ด้วยกันก็ไม่ควรจะต้องหลากหลายเท่าไหร่นะครับ ?
ผมนี่โชคดีเรื่องหัวข้อสุดท้ายหน่อย จะเปิดแอร์ 18 องศาตลอดคืนหรือจะปิดแอร์ปิดพัดลมที่ 30 องศาผมก็นอนท่าเดียวกันนั่นแหละครับ ? ไปพักกับคนอื่นนี่เชิญผู้ร่วมห้องปรับอุณหภูมิกันให้ตรงใจเลย
เห็นด้วยกับการเป็นคณะเดียวกันเพื่อความง่ายเวลาทำงาน/การบ้าน
แต่เรื่องนิสัยนี่ พูดยาก
ในเชิงประสบการณ์ชีวิต การเจอคนหลากหลายมันก็ดีกว่า
แต่ก็แลกมาด้วยปัญหาที่มากกว่า ทั้งฝ่ายนักเรียนด้วยกัน และ มหาลัยที่ดูแลหอ
การจัดการด้วยนิสัย น่าจะทำให้มหาลัยจัดการง่ายขึ้น(มั๊ง)
ลักษณะนิสัย
ที่ทริเริ่ม ?
มหาวิทยา > มหาวิทยาลัย
จะดีไหมนะ เจอรูมเมทซกมกด้วยกัน 6 คน หัองไม่กลายเป็นนรกเลยหรอ....
ปล. ประสบการณ์เจอซกมกทั้งห้อง(6คน)ผมทำอยู่คนเดียว...
!! คิดแล้วสยองตามเลย ???
ฝั่งหอมหาลัยคงต้องจ้างคนมาทำความสะอาดตอนย้ายออกแน่
ผมมองว่าก็ดีนะ เรื่องความหลากหลายผมว่าเรื่องเล็ก เพราะปัจจัยที่เค้าเอามาวิเคราะห์(เท่าที่บอกมา)ก็แค่การใช้ชีวิตประจำวันเฉยๆ ยังไงคนเราก็มีความต่าง ฝาแฝดกัน โตมาด้วยกันยังมีความต่างกันเยอะเลย โดยรวมข้อดีมีเยอะกว่าข้อเสีย(ที่เล็กน้อย)มาก คนดีๆหรือคนปรกติ(ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่)จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาปวดหัวกับเพื่อนร่วมห้องที่ซกมก
แต่ข้อเสียใหญ่คงเรื่อง... ถ้า เห้ หรือซกมก รวมกลุ่มกันเนี้ยะ... ห้องนั้นบรรลัย แต่ก็คงเป็นคนส่วนน้อยละนะ
คือคิดว่าดีมากนะ
คือเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องส่วนตัว
ถ้าอยากจะหลากหลาย มีกิจกรรมอื่นอีกเยอะ ก็เล่นไปสิ แต่เรื่องที่อยู่อาศัย ไม่จำเป็นต้องหลากหลายก็ได้ปะ55555
จีนดันเต็มที่เลยแฮะ เรื่อง AI คงรู้ว่าสู้เรื่องความคิดสร้างสรรค์กับต่างชาติยาก ไอเดียใหม่ๆ ยกให้ AI วิจัยแทนดีกว่า