Tags:
Node Thumbnail

Amazon มีผลิตภัณฑ์หนึ่งชื่อว่า Rekognition เป็นเทคโนโลยีสแกนตรวจจับใบหน้าเรียลไทม์ มีรายงานจาก The Washington Post ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองออร์แลนโด และโอเรกอนได้ใช้ Rekognition นี้ด้วย โดยใช้ข้อตกลงเพื่อไม่เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ ส่งผลให้เกิดความกัลวลเรื่องสิทธิมนุษยชน เพราะเจ้าหน้าที่สามารถเรียกใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าแบบ real-time บนเครือข่ายกล้องทั่วเมืองได้

ล่าสุดผู้ถือหุ้น Amazon ออกมากดดันให้ Amazon ล้มเลิกการขายเทคโนโลยี Rekognition แก่หน่วยงานรัฐ ในจดหมายที่ผู้ถือหุ้นรวมตัวกันสื่อสารไปยัง Amazon ระบุว่า "เรากังวลว่าเทคโนโลยีนี้จะใช้เพื่อกำหนดเป้าหมายและสำรวจผู้อพยพและองค์กรภาคประชาสังคมอย่างไม่เป็นธรรม และยังกังวลว่ายอดขายอาจเพิ่มขึ้นสำหรับรัฐบาลในระบอบเผด็จการ"

American Civil Liberties Union หรือ ACLU ก็กดดันด้วยการล่ารายชื่อผ่านเว็บไซต์ และยังระบุอีกว่า การจดจำใบหน้าไม่ใช่เทคโนโลยีที่เป็นกลาง (neutral technology) และ Amazon ก็ไม่มีธุระอะไรที่จะเข้าไปช่วยเพิ่มความสามารถของรัฐบาลในการเฝ้าระวังประชาชน

No Description
ภาพจาก Amazon

ที่มา - CNN Money, The Verge

Get latest news from Blognone

Comments

By: zipper
ContributorAndroid
on 20 June 2018 - 10:56 #1056363

นึกถึงจีนที่มีข่าวว่าจับผู้ร้ายได้จากกล้องวงจรปิดโดยใช้ระบบตรวจจับใบหน้า แต่ก็ไม่มีข่าวว่าประชาชนเป็นกังวลเรื่องนี้เลยแฮะ

By: IDCET
Contributor
on 20 June 2018 - 12:19 #1056386 Reply to:1056363

อันนั้บริษัทจีนทำเอง (ที่รัฐบาลจีนสนับสนุน) + กฎหมายความเป็นส่วนตัวแทบไม่เคยได้ยินเลยด้วยซ้ำ อาจเป็นว่าคนให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากกว่าความเป็นส่วนตัว หรือมีการเมืองจีนที่เข้มงวดอยู่แล้วเข้ามาแทรกแซงด้วยก็เป็นไปได้ โดนเฉพาะฝังตรงข้ามคอมมิวนิสต์จีนที่โดนเก็บกวาดเป็นว่าเล่น

แต่กรณี Amazon ทำเอง เนื่องจากเป็นบริษัทให้บริการเอกชน ไม่ได้มีส่วนกับระบบรัฐหรือกฎหมายเลย + คนและองค์การในสหรัฐฯ ให้ความสำคัญเรื่องความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก ก็กลายเป็นที่ถกเถียงและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ครับ


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว