จะว่าไปแล้วเรื่องนี้คงจะไม่แปลกอะไรมากนักกับความพยายามที่จะพัฒนาให้เครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือมือถือ ให้ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าการสนทนาพูดคุยเท่านั้น การนำฟังก์ชั่นของกล้องถ่ายรูปแบบดิจิตอลเข้ามาประกอบร่วมกับมือถือก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

มือถือในระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ของญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกันเมื่อมีการนำเทคโนโลยี่วงจรรวมแบบไร้สัมผัส (Contactless IC Technology) มาใช้งานร่วมกับมือถือ i-mode FeliCa ก็ได้เพิ่มขีดความสามารถของมือถือให้ใช้ประโยชน์อื่นๆในชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นสะดวกสบายยิ่งขึ้น เช่น

1.การใช้มือถือจองและซื้อตั๋วดูภาพยนตร์ ด้วยการนำมือถือไปใกล้ๆกับเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติในโรงภาพยนตร์

2.การเปิด-ปิดประตูห้องพักโดยใช้มือถือแทนกุญแจ

3.การโดยสารรถไฟใต้ดินโดยไม่ต้องซื้อตั๋ว เพียงแต่นำมือถือไปแกว่งใกล้ๆกับเครื่องอ่านตั๋วที่ประตูทางเข้า

4.ใช้แทนบัตรสมาชิกกับเครื่องอ่านบัตรที่ร้านให้เช่าวิดิโอ หรือ ดีวีดี

5.ใช้ซื้อของแทนเงินสดในร้านสะดวกซื้อ

6.ใช้ซื้อเครื่องดื่มจากเครื่องขายอัตโนมัติโดยไม่ต้องหยอดเหรียญแต่ใช้มือถือแทน

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงบางส่วนของการใช้มือถือในรูปแบบแทนเงินสดหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (electronic purse)

ล่าสุดที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา บริษัท นิสสัน มอเตอร์ , เอ็นทีที โดโคโม และชาร์ป คอร์ปอเรชั่น ได้ออกประกาศว่า ทั้งสามบริษัท ได้ร่วมมือกันพัฒนาเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ทำหน้าที่เป็น “กุญแจอัจฉริยะ” (intelligent key) เป็นครั้งแรกของโลก โดยมือถือดังกล่าวจะทำงานร่วมกับระบบกุญแจอัจฉริยะ (Intelligent Key System) ของนิสสัน ที่ได้เริ่มมีการนำไปติดตั้งในรถยนต์ของนิสสันแล้วเป็นจำนวนมาก

การหลอมรวมของเทคโนโลยีรถยนต์และระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่เซลลูลาร์ครั้งนี้เกิดขึ้นได้จากความเชี่ยวชาญในตลาดมือถือของโดโคโม โดยมีชาร์ปเป็นผู้พัฒนาตัวเครื่องโทรศัพท์และนิสสันให้การสนับสนุนทางเทคนิคเพื่อให้มั่นใจว่า “กุญแจ”ดังกล่าวจะทำงานร่วมกับระบบต่างๆในรถยนต์ได้อย่างถูกต้อง

ระบบกุญแจอัจฉริยะของนิสสัน ซึ่งได้ติดตั้งให้กับรถยนต์นิสสันหลายรุ่นไปแล้วมากกว่า 950,000 คันตั้งแต่ พ.ศ.2545 นั้นทำงานด้วยเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายสองทางเพื่อใช้ล๊อคและปลดล๊อคประตูรถยนต์โดยอัตโนมัติ รวมทั้งสามารถสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ได้อีกด้วย โดยเจ้าของหรือผู้ใช้รถไม่จำเป็นต้องนำกุญแจออกจากกระเป๋าเพื่อไขกุญแจประตูและสตาร์ทรถยนต์อีกต่อไป ขณะนี้นิสสันและชาร์ปได้ร่วมกันพัฒนาและรวมกุญแจอัจฉริยะอิเล็กทรอนิกส์ การสื่อสารไร้สาย และเทคโนโลยีแม่เหล็กไฟฟ้า เข้าไว้ด้วยกันในมือถือที่ผลิตออกมาใหม่ด้วยแล้ว

ในการใช้งาน รถยนต์ที่ติดตั้งระบบกุญแจอัจฉริยะไว้ จะทำการตรวจจับ หากพบว่ามี “กุญแจ” ที่ถูกต้องเข้าไปอยู่ใกล้ๆในรัศมีตรวจจับแล้ว ระบบจะทำการเปิดล๊อกประตูรถยนต์ให้ทันที เมื่อผู้ใช้ที่เป็นเจ้าของโทรศัพท์ที่มีกุญแจอัจฉริยะอยู่ด้วยได้เข้าไปนั่งในรถยนต์แล้ว ระบบจะทำการสตาร์ทเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นการสื่อสารไร้สายสองทาง

สำหรับโทรศัพท์รุ่นใหม่คาดหมายว่าจะเริ่มนำออกจำหน่ายในญี่ปุ่นราวมีนาคม 2552 แต่สำหรับในสหรัฐอเมริกาและยุโรปนั้นยังไม่มีกำหนดที่แน่นอน

เครื่องโทรศัพท์ที่มีฟังก์ชั่นพิเศษนี้มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยเฉพาะเท่านั้น มิได้มุ่งหวังลูกค้าทั่วไป แต่ความสำเร็จที่แท้จริงคือการใช้งานเป็นเครื่องโทรศัพท์ ร่วมกับการใช้งานพิเศษอื่นๆที่นับวันจะมีมากขึ้น และมือถือได้ก้าวเข้ามามีความสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวัน

ที่มา : NTT DoCoMo