ระบบความปลอดภัยใน GSM ที่ครั้งหนึ่งเคยถือว่าแข็งแกร่งนั้น เป็นที่รู้กันว่าไม่สามารถป้องกันอะไรได้อีกต่อไปในยุคที่ความสามารถประมวลผลสูงขึ้นเรื่อยๆ ปีที่แล้วในงาน 27C3 นักวิจัยสาธิตการดักฟังโทรศัพท์มือถือได้ภายในเวลาไม่นาน ปีนี้รายงานจากทีมวิจัยบริษัท Security Research Labs ได้แสดงปัญหาใหม่ว่าโทรศัพท์มือถือในระบบ GSM เริ่มถูกจูนกันในตลาดแล้ว
รายงานนี้ระบุว่าปัจจุบันแฮกเกอร์สามารถถอดรหัสข้อมูล GSM เพื่อหาค่า KC (ค่ารหัสชั่วคราว) และค่า TMSI (ค่าระบุตัวตนผู้ใช้ชั่วคราว) ได้ภายในระยะเวลาไม่กี่วินาที และสามารถนำค่าที่ได้ไปใช้กับโทรศัพท์เครื่องอื่นเพื่อปลอมตัวเองเป็นเหยื่อได้
ที่น่าตกใจคือในยุโรปเริ่มมีรายงานถึงการโจมตีแบบนี้ในตลาดแล้ว โดยผู้ใช้เริ่มรายงานว่าเครื่องของตนถูกโจมตีแล้วนำไปใช้งานบริการราคาแพง ทำให้เหยื่อต้องถูกเรียกเก็บเงิน
ข่าวดีคือยังพอมีวิธีการบรรเทาปัญหานี้ได้บ้างด้วยการลดจำนวนข้อความที่แฮกเกอร์สามารถคาดเดาได้ในระบบลง ด้วยการเติมข้อมูลแบบสุ่ม แต่ก็เป็นการบรรเทาปัญหาได้เพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ในระยะยาวก็ควรเลิกใช้งานการเข้ารหัส A5/1 ที่อ่อนแอแล้วหันไปใช้ A5/3 ในระบบ 3G แทน
ที่มา - 28C3
Comments
อ่านแล้ว ถึงแม้จะไม่เกี่ยวกัน แต่ก็ทำให้นึกเลยเถิดไปถึงกรณี SMS อากงซะแล้ว
+27C43
Dream high, work hard.
อาจจะแฮคได้นานแล้วในพวก black hat แต่กว่าพวก white hat จะเจอแล้วเอามาบอกกันก็นานอยู่
อีกอย่างพวก black น่าจะมากกว่าพวก white ด้วย
เมื่อก่อนแฮคได้ใช้หลายนาที ถ้าเดี๋ยวนี้เป็นหลักวินาทีนี่สงสัยจะเริ่มลำบากกันแลว
แล้วGSMประเทศไทยเราเป็นยังไงละเนี้ย >____<
ท่าไม้ตายใหม่ของอากง ><
เรื่องอากง มันจบเห่ที่ลูกสาวดันให้การว่าเบอร์ที่ใช้ส่ง SMS เป็นเบอร์ที่อากงใช้
แต่เรายังหยิบประเด็น ปลอมอีหมี มาเล่นกัน ทั้งๆ ที่เรื่อง อีหมี เป็นเรื่องที่ถูกใช้สืบหาว่าไปใครในครั้งแรก
พอรู้ว่าผู้ต้องสงสัยคือใคร ก็สอบปากคำตัวอากงและลูกสาว แต่ ... ลูกสาว ให้การมัดตัวอากงจนดิ้นไม่หลุด ...........
สรุปว่า อีหมี ใช้หาผู้ต้องสงสัย จากนั้นก็สืบพยานแวดล้อมอื่นๆ จนได้ตัวผู้ต้องหา
เบอร์ที่ใช้ส่ง ไม่ใช่เบอร์ของคุณอำพลครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ในข่าวที่ว่าลูกสาวให้การมัดตัว ข่าวมั่วมาอีกที?
ข่าวไหนครับ ให้การว่าอย่างไร
lewcpe.com, @wasonliw
ใช้หลักการเดาจากพยานแวดล้อม ซึ่งถ้าโดนแกล้งโดยผู้ไม่หวังดี มันทำได้จริงๆ
=============================
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/lifestyle/20111222/425747/อวัยวะที่-33-ของ-อากง.html
ในกรณีนี้หมายเลขอีมี่เป็นหลักฐานมัดตัวอากง คือ 358906000230110 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งหมายเลขชุดนี้ไปให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกค่ายให้ช่วยตรวจสอบว่าหมายเลขเครื่องนี้มีการใช้งานหรือไม่ ผลก็คือพบว่า หมายเลขอีมี่ไปตรงกับเบอร์โทรศัพท์ “-4627” ในเครือข่ายทรู
แต่เมื่อตรวจสอบไปก็ยังไม่พบว่า เบอร์นี้เป็นของใคร แต่พบว่ามีการโทรไปหาเบอร์หนึ่งอยู่หลายครั้ง ตรวจสอบเข้าไปก็พบว่าเบอร์ดังกล่าวเป็นของลูกสาวอากง และเรียกลูกสาวเข้าให้การ จนได้รับคำตอบว่าเบอร์ “-4627” เป็นเบอร์ของอากงเอง
โดยจากการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาเข้าด้วยกัน ทั้งเสาส่งสัญญาณของเบอร์ที่กระทำผิดอยู่ในเขตเดียวกับบ้านของอากง ตลอดจนเวลาการใช้งานของทั้งสองเลขหมาย คือ หมายเลขที่ใช้กระทำความผิด และ หมายเลขปัจจุบันของอากง ก็มีการใช้งานในเวลาที่ใกล้เคียงกันและไม่เคยถูกใช้งานพร้อมกันเลย
บวกเข้ากับการให้ปากคำของตัวอากง ที่ไม่สามารถให้ข้อมูลใดได้อย่างชัดเจน นอกจากยอมรับว่าโทรศัพท์เครื่องนั้นเป็นของตนเองจริง แต่ไม่เคยส่งข้อความดังกล่าวออกไป ไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่ง โดยให้ปากคำว่าเคยนำมือถือไปซ่อม และแต่จำไม่ได้ว่าซ่อมที่ร้านไหน ฯลฯ
ข้อมูลแวดล้อมทั้งหมดที่ได้จึงโยงกลับมาที่อากง
อ่านใหม่ในข่าวแล้ว ข่าวบอกเพียงว่า อีหมี ใช้ซ้ำกับอีกเบอร์ที่เป็นของอากง
แต่เบอร์ที่ส่ง SMS ไม่ใช่ของอากง เพียงแต่อาศัยพยานแวดล้อมอื่น "เดาว่าเป็น เบอร์ที่ส่ง SMS น่าจะเป็นเบอร์อากง"
"พยานแวดล้อมอื่น" ที่คุณว่าคืออะไรหรือครับ?
lewcpe.com, @wasonliw
คำให้การของอากงเอง ก็เป็นหลักฐานแวดล้อมมัดตัวอากงครับ
อย่างอยู่ๆให้การว่า โทรศัพท์ไปส่งซ่อม ต่อมาก็บอกว่าไปส่งซ่อมที่ไหน จำไม่ได้
ต่อมาจำนนต่อหลักฐานแวดล้อมก็ให้หลานเป็นพยาน บอกว่าตนเองไม่สามารถส่ง SMS ได้
ส่วนเรื่อง emie ก็ยกแต่กรณีว่าตัวเลขตัวสุดท้ายไม่ตรงกัน ทั้งๆที่เป็นข้อเท็จจริงที่ศาล
พิสูจน์ทราบได้ว่า ตัวสุดท้ายของ emie เป็น check sum ผู้ให้บริการเก็บค่าเป็น 0
จึงไม่ตรงกับเลข emie ของอากงทุกหลัก และใช้ในชั้นสอบสวนเพื่อให้ระบุตัวไปถึงอากงเท่านั้น
แต่ก็ยังดันทุรังเอาประเด็นนี้ไปต่อสู้ในศาล และเอาไปเป็นประเด็นทางการเมืองเพื่อหวังต่อต้าน
กฏหมาย ม. 112
แต่ข้อกล่าวหาอย่าง ทำไมวันเวลาข้อมูลการโทร การใช้งานโทรศัพท์ถึงสอดคล้องกับ
log โทรศัพท์ของผู้ให้บริการถึงตรงกัน ทนายไม่สู้ตรงนี้เลย
ตัวทนายเองไปออกสื่อมากมาย มีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองมากมาย นำเสนอออกสื่อทุกวัน
blognone ก็ทำหนังสือเปิดผนึกถึงรัฐบาล แต่ทนายกลับบอกว่าหาความช่วยเหลือข้อมูลทาง
ด้านเทคนิคให้อากงไม่ได้เลย
สุดท้ายคำตัดสินออกมาเป็นแบบนี้ ผมมองว่าเพราะการสู้คดีฝ่ายอากงเองนั่นแหละ ที่ให้การเลื่อนลอย
เหมือนโกหกไปเรื่อยๆ ขัดกับหลักฐาน
คดีนี้ผมดูยังไงผมก็ว่าคำตัดสินของศาลมันสมเหตุสมผลนะครับ
คือ คำให้การของอากงเลื่อนลอย พยานไม่มีน้ำหนัก ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ขัดกับหลักฐานตลอด
ไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเลย ศาลจึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษใดๆเลย
แต่ที่ดูไม่สมเหตุสมผลคือทำไม ทนายอากงทำคดีเหมือนอยากให้อากงติดคุก
เรื่อง IMEI ตรง/ไม่ตรงในหลักสุดท้ายเนี่ย คนในนี้แทบไม่มีใครเล่นประเด็นนี้เลยนะครับ ที่เค้าพูดกันคือ IMEI มันปลอมได้ แล้วมันใช้ระบุตัวตนไม่ได้ครับ
มันก็เหมือนว่า ผมทำบัตรประชาชนปลอม โดยใช้เลขประจำตัวประชาชนของคนอื่น ผมไปเข้าตึก แลกบัตร รปภ. เค้าก็จดเลขประจำตัวปลอมของผมเอาไว้ในสมุดบันทึก ปรากฏว่า ผมไปทำผิด มีการสืบสวน ถามว่า ถ้าเค้าตามไปถึงเจ้าของเลขบัตรตัวจริง คนๆ นั้น จะถูกศาลตัดสินให้ผิดไหมครับ? เค้าต้องพิสูจน์ไหมว่าบัตรประชาชนมันปลอมได้
iPAtS
ผมว่าคดีอากงเหมือนกับแบบนี้มากกว่านะ
คุณเข้าไปทำความผิดในตึก คุณถูกจดเลขบัตรประชาชนไว้
ตำรวจใช้เลขบัตรประชาชนของคุณ สืบไปจนพบตัวคุณ เข้าตรวจบ้านคุณ
พบของกลางมากมายในบ้านคุณ ชนิดที่ว่าถ้าเป็นคดีฆ่าคนตายก็พบมีดเปื้อนเลือดเหยื่อ
แถมมีลายนิ้วมืออากง พบแรงจูงใจกระทำความผิด
แถมคุณให้การขัดกับหลักฐานตลอด มีพิรุธมากมาย
อ้างแต่เพียงว่าหลักฐานทั้งหมดสามารถถูกปลอมแปลงขึ้นมาได้ บัตรประชาชนปลอมได้
มีดเปือนเลือด ลายนิ้วมือ ปลอมได้ (emie ปลอมได้แน่นอน ผมก็ไม่ได้เถียงข้อนี้เลย)
อ้างอีกว่าจำเลยไม่มีความสามารถ พอที่จะกระทำความผิดได้
ทั้งๆที่จำเลยเองศาลก็พิจารณาได้ว่ามีแรงจูงใจในการกระทำความผิด
ถ้าคำกล่าวอ้างเหล่านี้ฟังขึ้น ไม่ว่าในคดีใดๆ ก็คงไม่มีใครติดคุกหรอกครับ
สุดท้ายแพ้คดี กลับเอาประเด็นที่ว่า เลขบัตรประชาชนสามารถปลอมได้
ออกมาโจมตีกระบวนการศาล ศาลไม่เมตตาจำคุกคนแก่ส่ง SMS ถึง 20 ปี
แต่ตอนที่อยู่ในกระบวนการมองหรือเปล่าว่าทนายสู้คดีอย่างไร จะให้ศาลเมตตา
กับคนที่เห็นอยู่ว่ากระทำความผิดโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เจตนากลบเกลื่อนความผิด
แถมให้การเลื่อนลอย ปฏิเสธในชั้นศาล ไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีได้อย่างไร
ทนายสู้คดีแต่ว่าอากงน่าสงสาร อายุมากแล้ว เลีี้ยงหลานหลายคนแต่ยุให้อากงให้การเท็จตลอด
ความยุติธรรมกับความสงสารมันคนละเรื่องกันนะครับ
ถ้าใครอยากติดคุกซัก 20 ปี ลองทำความผิดที่คุณมองว่าผิดเล็กๆน้อยๆ ที่ไม่ใช่ความผิดลหุโทษ
ไม่ต้องเป็น ม 112 หรอกครับ อย่างตัดต่อรูปดารา สั่งของทางเน็ทแล้วไม่จ่ายเงิน
เจาะระบบคอมพิวเตอร์ แอบใช้โทรศัพท์สาธารณะ น้ำประปา ไฟฟ้าฟรี
ทำซัก 4-5 ครั้ง ให้คุณโดนจับได้แล้วสู้คดีแบบอากง ใช้ทนายอากง โดนคุก 10-20 ปี
ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะศาลจะจัดความผิดเต็ม แถมต่างกรรมต่างวาระครับ
แต่ที่ไม่ค่อยมีใครโดนกัน เพราะทนายดีๆเขาไม่ทำแบบนี้กับลูกความครับ มันบาปกรรม
กรณีนี้ไม่พบซิมที่ใช้ส่ง sms ครับ แล้วจะไปเปรียบเทียบเหมือนกับว่าพบมีดที่ใช้ฆ่าคนได้อย่างไร และต่อให้มือถืออากงเป็นเครื่องที่ใช้ส่ง sms จริง แล้วมีอะไรบ่งบอกว่าอากงเป็นคนส่งเองกับมือครับ?
ว่าแต่อากงมีแรงจูงใจในการกระทำผิดด้วยเหรอครับ ที่โดนอ้างว่าเป็นแดงฮาร์ดคอร์รึเปล่า แต่ไม่เห็นเขาเล่นประเด็นนี้ในศาลนิครับ
แล้วถ้ามีแรงจูงใจทำไมต้องส่งไปให้เลขาคุณอภิสิทธิ์ อากงโกรธเลขาคุณอภิสิทธิ์หรือครับ? ถ้าโกรธเลขาคุณอภิสิทธิ์ ทำไมไม่ด่าแค่เลขา?
เรื่องซิมหายไป โจทย์พิสูจน์ได้ไงครับ ว่าซิมที่อากงใช้กับซิมที่ส่ง sms อยู่ในระบบสลับกันตลอด
และโจทย์พิสูจน์ให้ศาลสิ้นสงสัยได้ในข้อนี้
ถ้าหลักฐานพวกนี้จะปลอม ต้องสมรู้ร่วมคิดกัน ทั้งตำรวจ และโอเปเรเตอร์
ถ้าจะมองว่าเพราะเป็นตำรวจต้องสร้างหลักฐานปลอม แล้วปลอมหลักฐานในกรณีตำรวจได้อะไร
ยัดยาบ้าง่ายกว่าไหม ความผิดเท่ากันเลย
แล้วโอเปอเรเตอร์ล่ะครับ ปรักปรำอากงเพื่ออะไร
ผมถามคุณว่าถ้าคุณโดนคดีอะไรซักอย่าง คุณจะต่อสู้แค่ คุณทำสิ่งนั้นไม่ได้ หลักฐานปลอมได้
และคุณน่าสงสาร ทำแค่นี้คุณคิดว่าจะชนะคดีไหมล่ะครับ
ไม่งั้นฆาตกรทุกคนบอกว่า ผมยิงปืนไม่ไหว แทงใครไม่เป็น ไม่เห็นมีภาพตอนผมก่อเหตุ
มีดผมสั้นแทงไม่ถึงหัวใจ ผมมีหลานหลายคน อ้างแค่นี้ก็หลุดคดีกันหมดแล้วซิครับ
คำพูดอาจจะดูแรง แต่ตรรกะเดียวกับ "แล้วมีหลักฐานอะไรว่าอากงส่ง sms เองกับมือเลย"
ส่วนคำถามหลังคุณนี่ ผมว่าหลุดประเด็นไปไกลแล้วนะ เหมือนถามว่าถ้าผมต่อยคุณจริง ผมจะต่อย
อกทำไม ไม่ต่อยหน้า ต่อยหัว ตีท้ายทอย
ผมไม่ได้บอกว่าหลักฐานฝ่ายโจทย์ปลอมครับ อย่าพูดเอาเองสิครับ แต่ผมมักพูดว่าถ้า IMEI ถูกปลอมแปลงได้จริง มันก็ไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ว่า sms ถูกส่งมาจากเครื่องของอากง โดยเฉพาะไม่เจอ SIM อันที่ส่งติดอยู่ในเครื่องเลย
ถ้าเปรียบเป็นมีด ก็แค่มีดที่เหมือนกันครับ แต่ไม่มีรอยเลือดรอยนิ้วมือ
บอกไว้อีกอย่างนึง ผมไม่ได้สนใจว่าคดีอากงจะจบแบบไหนครับ ไม่ได้สนใจว่าอากงจะติดคุกกี่ปีด้วย แต่ติดใจที่ว่า หลักฐานมันไม่น่าจะมากพอที่จะเอาใครเข้าคุก
และมันเป็นความจริงครับ ที่การจะจับใคร ต้องมีหลักฐานชัดเจน ยกตัวอย่างเรื่องฆาตกรรม หากใช้มีด ต้องมีมีดที่เป็นหลักฐาน พิสูจน์แล้วมีคราบเลือด มีลายนิ้วมือคนร้าย หรือมีพยานรู้เห็น มีแค่มีดอย่างเดียว เปล่าๆขาวสะอาดเล่มเดียว
จับเข้าคุกไม่ได้ครับ หากเทียบเป็นปืน ก็ต้องพิสูจน์คราบเขม่า พิสูจน์จำนวนกระสุน พิสูจน์เกลียวปืน พิสูจน์รอยนิ้วมือ
คุณจะเห็นว่าจะจับใครซักคนเข้าคุกต้องมีหลักฐานที่หนาแน่นครับ ไม่ใช่ว่า น่าจะเป็น หรือแค่อยู่ในบริเวณนั้น
ซึ่งการพิสูจน์ว่าอากงเป็นผู้ส่ง sms เองจริงหรือไม่ ต้องเป็นหน้าที่ฝ่าย โจทย์ด้วยครับ เพราะเมืองไทยใช้ระบบ กล่าวหา
ส่วนคำถามสุดท้าย ผมถามเพราะคุณบอกว่า พบแรงจูงใจครับ ผมจึงถาม ถ้าจะเอาคำถามแบบอ่านง่ายๆก็คือ แรงจูงใจของอากงคืออะไรครับ คุณไปเอาข้อมูลเรื่องแรงจูงใจมาจากไหนครับ ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากไปขอดูข้อมูลตรงนี้หน่อยครับ
หลักฐานคือ imie ของเครื่องโทรศัพท์อากง ซึ่งนำไปถึงอากง ตำรวจมีหลักฐานนี้ขอหมายค้นบ้านอากงได้
ค้นบ้านเจอโทรศัพท์ที่เลข imie ตรงกัน
เลขซีเรียลในซิมของอากง กับ เลขซีเรียลในซิมที่ใช้ส่ง sms มันสอดคล้องกับวันเวลาที่ใช้
ดึงซิมปกติออก ก็มีซิมก่อเหตุมาในระบบทันทีในเซลล์ไซต์เดียวกัน
และซีเรียลซิมทั้งหมด ก็ match กับเลข imei กับเครื่องของอากงในระบบ
log ก็สอดคล้องกันทั้งสองโอเปอเรเตอร์
คิดว่าหลักฐานแบบนี้ปลอมง่ายไหมล่ะครับ
หลักฐานเดียวที่หายไปที่คุณว่าคือซิมก่อเหตุ ซึ่งศาลก็ใช้ดุลย์พินิจได้ว่ามันเป็นวัตถุที่กำจัดได้ง่าย
ราคาถูก ซึ่งแค่โยนทิ้งไปก็ไม่สามารถหาพบแล้ว แล้วคุณคิดว่าการหาซิมไม่พบมันมีน้ำหนักมากไหม
คดีใช้ปืนยิงกัน ถ้าหาปลอกกระสุนไปพบทุกปลอก ผู้ต้องหาหลุดคดีเลยไหมครับ
ศาลคงเปรียบเทียบกันแล้วว่าอะไรมันเป็นไปได้มากกว่ากัน ระหว่าง
1 ตำรวจ โอเปอร์เรเตอร์สองเจ้า แล้วเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมหัวกันสร้างหลักฐานเท็จปรักปรำอากง
2 กับอากงซึ่งมีพฤติกรรมร่วมชุมนุมเสื้อแดงซื้อซิมมาส่ง SMS แล้วโยนซิมนั้นทิ้งไป
เมื่อพยานหลักฐานเป็นแบบนี้
คุณว่าอะไรเป็นไปได้มากกว่ากันล่ะครับ นั่นแหละแรงจูงใจที่ผมพูดถึง
ส่วนเรื่องคำถามสุดท้ายที่ผมขี้เกียจตอบคุณหมายถึง ทำไมอากงต้องส่งเบอร์ไปให้เลขาธิการ
คำตอบที่มันน่าจะเห็นถ้าคุณไม่มีอคติคือเบอร์พวกนี้มันหาได้ง่ายไงครับ นักการเมืองเอาขึ้นโปสเตอร์
แจกนามบัตรกันทั่วอยู่แล้ว แต่เบอร์ที่อากงอยากส่งไปหา ไปหมิ่นจริงๆคงหาไม่ได้
แล้วคุณสังเกตุไหมว่ากระบวนการมันเป็นเหตุเป็นผล สอดคล้องกันหมดจนไปถึงขั้นความผิด
เขาไม่ได้เอาอะไรแค่อย่างเดียวมาตัดสินกันในศาลหรอกครับ
แล้วหลักฐานที่ทำให้อากงติดคุก สุดท้ายก็คือคำให้การของอากงเองล่ะครับที่วกไปวนมา
แต่คุณจ้องจะเอาเศษข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งในกระบวนการ มามอง มาถามคำถามในมุม
ของคุณเอง โดยไม่สนคำตอบ แล้วบอกว่ากระบวนการนั้นไม่ยุติธรรมหรือครับ
อย่างที่บอกไงครับว่า ถ้า IMEI ถูกปลอมแปลงได้จริง log ของ operator ก็ทำได้แค่บอกว่า SMS ถูกส่งมาจาก IMEI ดังกล่าวเท่านั้น
ไม่สามารถระบุถึงเครื่องที่ส่งที่แท้จริงได้ และที่สำคัญยังไม่สามารถระบุ ถึงบุคคลที่ส่ง SMS ที่แท้จริงได้
ส่วน log ของ operator สามารถบอกได้ว่าถอดซิมใส่ซิม เปิดเครื่องปิดเครื่องได้ด้วยหรือครับ ผมนึกว่าจะเก็บแค่ข้อมูลการใช้งานทั่วไปเท่านั้น ตรงนี้ผมไม่มีความรู้ ถ้ามีอะไรแบ่งปันก็บอกกล่าวมาได้ครับ
และอีกอย่าง บริเวณที่ cell site ชี้ก็ไม่ได้ชี้ตรงไปที่บ้านอากงนะครับ แค่บอกบริเวณกว้างๆเท่านั้น
ย้ำอีกครั้ง ผมไม่ได้บอกว่าหลักฐานมันปลอม คุณเป็นคนพูดเอง ตกลงไหมครับ
และถ้าไปเทียบกับปลอกกระสุนคงไม่ได้ครับ เพราะซิมนั้นประหนึ่ง ลายนิ้วมือหรือ dna เลยทีเดียว เพราะถ้าหากโทรศัพท์เครื่องนั้นมีซิมเจ้าปัญหาอยู่จริง ก็เชื่อได้เลยว่าโทรศัพท์นั้นเป็นเครื่องที่ใช้ส่ง SMS
"กับอากงซึ่งมีพฤติกรรมร่วมชุมนุมเสื้อแดงซื้อซิมมาส่ง SMS แล้วโยนซิมนั้นทิ้งไป"
เอาข้อมูลตรงนี้มาจากไหนครับ ข้อมูลนี้ถูกกล่าวอ้างในชั้นศาลด้วยหรือครับ
ผมเคยอ่านบางคนบอกว่า เสื่อแดงแจกเบอร์ของฝ่ายตรงข้ามและแจกซิมให้ส่งข้อความรบกวน
แต่ทำไมถึงไม่มีคนอื่นออกมาแจ้งความบ้างครับ หรือท่านเลขา ไม่เห็นเล่าเลยว่ามีคนอื่นในพรรคโดน SMS ลึกลับด้วยเหมือนกัน
ทำไมมีแต่อากงที่ส่งครับ?
แต่เรื่องที่ผมกล่าวก้แค่สิ่งที่ผมเห็นในเวบบอร์ด ผมไม่เห็นข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับตรงนี้สักเท่าไหร่ ซึ่งผมไม่รู้ว่าเรื่องที่คุณรู้ตรงกับที่ผมเล่าหรือไม่
ถ้าตรงกัน เป็นเรื่องเดียวกัน และคุณก็บอกว่า ศาลใช้เรื่องนี้ว่าเป็นแรงจูงใจ ก็แปลว่ามีหลักฐานชัดเจนใช่ไหมครับ ผมยังหาข้อมูลตรงนี้ไม่เจอ ถ้ามีก็ช่วยแจ้งให้ผมทราบหน่อยครับ พูดตามตรงว่า แค่หลักฐานว่าอากงไปร่วมชุมนุมบ่อยๆ นี่ผมก็หาไม่เจอ เจอแค่เป็นข่าวใน ASTV เท่านั้น
จะบอกว่าผมเอาข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์มาถาม ก็ถูกแล้วครับ หากทุกอย่างสมบูรณ์ในตัวมัน ผมคงไม่มีปัญหาอะไร
และหากหลักฐานมันไม่สามารถชี้ชัดได้ หลักฐานทำได้แค่บอกว่า น่าจะใช่ คุณว่าสมควรเอาหลักฐานแบบนั้นจับคนๆนึงเข้าคุกหรือครับ
เพิ่มเติมนิดหน่อยครับว่า ผมลองกลับไปอ่านคำพิพากษาอีกรอบ ไม่พบว่าฝ่ายโจทย์บอกว่าเป็นการปิดเครื่อง ถอดซิม ใส่ซิมใหม่นะครับ แต่ฝ่ายโจทย์บอกว่า มีการใช้งานกับ SIM หมายเลข xx โดยเป็นการส่ง SMS นั่นแสดงว่า log เก็บแค่ข้อมูลการใช้งานไม่ใช่หรือครับ
เอาเป็นว่า อะไรที่ผมอยากจะบอกก็บอกไปหมดแล้วครับ ผมขอจบเท่านี้ก่อนล่ะครับเพราะ off topic ไปเยอะแล้ว
มันมีซีเรียลที่อยู่ในซิมไงครับ อ่านที่ผมพิมพ์ไปดีๆครับ เวลาเก็บ log จะเก็บทุกอย่างเป็น record
imei, serial sim, เบอร์โทรต้นทาง, เบอร์โทรปลายทาง, เวลา
ลองดูในเทปรายการก็ได้ครับ มันมีพูดเรื่องนี้
เวลาเปิดปิดเครื่อง มันจะมีบันทึกการเข้ามาและออกไปในระบบของ operator
โทรออก หรือส่ง sms มันก็เก็บเวลาเก็บเบอร์ปลายทาง รู้ว่า imei ไหน ซิมไหน cell site ไหน
เวลาไหน ทุกอย่างมันสอดคล้องกัน imei, serial sim, เบอร์เข้า, เบอร์ออก, เวลา, cell site
ของทั้งสอง operator
แถมยังเจอโทรศัพท์ imei ตรงกัน เจอ ซิม ที่อากงใช้ปกติ
หายไปแค่ sim ที่ใช้ส่ง sms
ทุกอย่างรวมกันมันเรียกหลักฐานมัดตัว ดิ้นไม่หลุดในภาษากฏหมายไงครับ
ศาลไม่เชื่อว่าหลักฐานพวกนี้ปลอม เพราะที่มาของหลักฐานอย่าง operator 2 จ้าว
ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับอากง
ในขณะที่อากงแก้ต่างแต่ว่า
- ส่ง sms ไม่เป็น
- imei ปลอมได้
- imei ไม่ตรงไปหลักนึง
- โทรศัพท์ส่งซ่อม ซ่อมตอนไหนไม่รู้ ร้านไหนไม่รู้
- แก่แล้ว เลี้ยงหลาน
คดีมันเลยจบแบบนี้
ส่วนที่ว่าอากงไปชุมนุมไหม มาจากปากของทนายอากงเองเลยครับ ในรายการว่า
"อากงแกก็ไปชุมนุมทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดงแหละ"
แต่ที่ผมเห็นว่ามันตลก ก็เพราะผมเห็นเอาความจริงแค่บางส่วนมาพูดว่าอากงโดนเพราะ
imei, โดนเพราะ cell site ที่ใช้ sms อยู่แถวบ้านอากง
มันตลกไหมครับ ถ้าคนร้ายทุกคนมาบอกว่า เอา dna เอารอยนู่นรอยนี่มาปรักปรำผมได้
ยังไง ปลอมได้ทั้งนั้นแหละ ศาลเห็นผมยิงกับตาหรือเปล่า
ศาลท่านไม่อคติเหมือนคุณหรอกครับ จบแล้วครับ เหมือนผมเถียงด้วยเหตุผลอยู่คนเดียวเลย
ผมเพิ่งเห็นไอ้ที่คุณว่า off topic ผมพยายามบอกว่าคดีไม่ได้ใช้ imei
หรือหลักฐานทาง digital อย่างใดอย่างหนึ่งแต่เพียงอย่างเดียวมาใช้อย่างที่คุณเข้าใจ
พยายามอธิบายคุณถึงรูปคดี แต่คุณก็หาเหตุผลที่ไม่เกี่ยวข้องมาตะแบงไปเรื่อยๆ
ทั้งๆที่คุณยังไม่รู้แม้แต่ว่ามีการใช้ serial ของ sim มาพิจารณาด้วย
เออ ใช่ คุณโครต off topic เลยครับ เสียดายเวลา ไม่น่ามาคุยกันเลย
ใจเย็นๆ และอ่านดีๆครับ off topic หมายถึง หลุดประเด็นของข่าวนี้ไปไกลแล้ว ผมก็อธิบายสิ่งที่ผมต้องการบอกไปแล้ว ผมสามารถคุยกับคุณได้ต่อ แต่ผมเลือกที่จะหยุดเท่านั้นเองครับ
อ้อ ครับ งั้นผมขอโทษครับที่ใช้คำว่า เออ และ โครต
เหตุผลอย่างคุณ ผมเรียกว่า "รู้เท่าไม่ถึงการ" ครับ คุณคิดว่ามันยาก แต่จริงๆ มันไม่ได้ยากอะไร
lewcpe.com, @wasonliw
แต่มันเชื่อยากกว่าส่ง sms โดยตั้งใจไหมล่ะครับ
ผมว่าถ้าคุณไม่คิดอะไรเป็นทฤฏีสมคบคิดไปทั้งหมด ก็คงเห็นว่าอะไรเชื่อได้ยากกว่า หรือง่ายกว่านะครับ
แล้วคุณคิดว่าคนในกระบวนการศาล จะไม่มีคนที่มีความรู้ทั้งแง่กฏหมายหรือคอมพิวเตอร์มากกว่าคุณเลยเหรอครับ
มันไม่เกี่ยวกับอะไรเชื่อยากกว่าครับ มันเกี่ยวกับการผูกมัดตัวคนทำความผิด กรณีนี้มันผูกมัดไม่ได้ และมีช่องโหว่เยอะ และมันไม่ใช่ทฤษฎีสมคบคิด การกระทำต่างๆ ที่เป็นช่องโหว่ มีการทำจริง มีใช้งานจริงแล้ว อย่างกรณีในข่าว การปลอมแปลงโทรศัพท์เป็นเบอร์คนอื่น ก็เป็นกรณีที่เกิดขึ้นจริงไปแล้ว แต่ทำให้เกิดความเสียหายทางแพ่ง (เกิดใบเสร็จเกินการใช้งานจริง) เท่านั้น
ผมไม่ทราบว่าคนในกระบวนการ มีคนมีความรู้มากกว่าผมหรือไม่ แต่ผลของคดีนี้ ขัดกับความรู้ที่ผมมีครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ครับ ผมถึงถามคุณไงครับ
เพียงเพราะว่าผลพิจารณาคดีขัดใจคุณ และขัดกับความรู้ที่คุณคิดว่าคุณมี มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมั่วนิ่ม
เชื่อหลักฐานดิจิตอลไม่กี่ชิ้นอย่างที่คุณเข้าใจไงครับ
คุณคิดว่าศาลจะไม่เอาข้อที่ว่าข้อมูลดิจิตอลสามารถปลอมได้ เอามาพิจารณาด้วยเลยหรือครับ
ถ้าคุณมีความรู้ในการปลอมแปลงจริง คุณน่าจะรู้ว่าการปลอมแปลงหลักฐาน 1 อย่างมันง่าย
แต่ปลอมหลักฐานทุกอย่างให้สอดคล้องกันทั้งหมดมันยาก
เอาง่ายๆถ้าคุณเป็น hacker ที่อยากทำผิดกฏหมายจริง คุณจะเสียเวลาหาข้อมูลหาเลข imei หา serial sim
ที่มีใช้อยู่ในระบบจริง ทำ sim นั้นปลอมขึ้นมา แถมไปอยู่ใน cell site ที่เลขหมายนั้นใช้อยู่จริงๆอีก
เพื่ออะไรในเมื่อคุณสามารถหาโทรศัพท์ใช้แล้วทิ้ง มาใช้ก่อความผิดได้
ถ้าดักจับข้อมูล imei เลขของอากงได้ แล้วทำไมต้องเปลี่ยนซิม แล้วทำยังไงให้โทรศัพท์ของอากงออกจากระบบ
ไปในช่วงเวลาที่ใช้ sms ก่อเหตุนี้ได้
ถ้าปรักปรำอากง ปรักปรำเพื่ออะไร ถ้ามีคนปองร้ายกับอากงขนาดนั้น คุณคิดว่าอากงจะไม่รู้ตัวและให้หลักฐาน
ชี้ตัวความผิดผู้กระทำได้เลยเหรอ
คุณคิดว่าข้อเท็จจริงนี้ไม่เคยถูกยกมาโต้กันในศาลหรือครับ ผมเห็นเวลาคุณโพสคุณก็ไม่มีข้อมูลอะไรเลย
นอกจาก ข้อมูลพวกนี้ปลอมได้ อันนี้ผมก็ว่าผมรู้นะครับ
เขามองหลักฐานประกอบหลายอย่าง รวมกับผู้ต้องหาไม่สามารถ และ ไม่สนใจ ยกเหตุผลที่มีน้ำหนักมาหักล้างได้เลย
มันจึงเป็นเช่นนี้ครับ
ไอ้ที่คุยกันนอกศาลน่ะ เอาแค่ส่วนโน้นส่วนนี้มาพูดกัน แต่ศาลเอาทุกอย่างมาพิจารณาโดยละเอียดและชั่งน้ำหนัก
ผลจึงเป็นเช่นนั้น
คุณมองแต่ว่าหลักฐานมันปลอมได้ คนแก่ไม่ควรติดคุก 20 ปี หรือเปล่าครับ คำตัดสินถึงไม่โดนใจคุณ
ผมพูดบ้าง
สั้นๆคห. เดียวข้อมูลที่ศาลใช้ตัดสิน สัญญาณ sim มันสลับกันไปมาก็จริง, อยู่ใน cell site เดียวกันก็จริง, เลข IMEI เดียวกันก็จริง
Cell site เดียวกันครอบคลุมหลายสิบตารางกิโลเมตร เป็นรัศมีหลายกิโลเมตร
ผมสมมติว่าคนที่ทำคือร้านซ่อมจริงๆ มันก็ต้องมีการสลับไปสลับมาระหว่างซิมอยู่ดี แถมได้ IMEI เดียวกันด้วย ถ้าร้านอยู่ในรัศมี Cell site เดียวกัน ข้อมูลที่ศาลได้ไปมันก้ถูกต้องทุกอย่าง
คราวนี้มาถึงตรงที่พวกเราสงสัยกัน ว่าข้อมูลดังกล่าวที่ผมให้นั้น มันบ่งบอกได้ไหมว่าคนที่ทำจริงๆ แล้วคือใคร?
กรณีนี้อากงพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ว่าตัวเองไม่ได้ทำ หาวิธีหักล้างความเชื่อของศาลไม่ได้ และศาลไม่เชื่อว่า IMEI ปลอมได้ จึงยกผลประโยชน์ให้โจทย์
ผมก็เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละครับ ปกติคือหลักฐานมัดตัวไม่เพียงพอก็จะยกฟ้อง เป็นผลประโยชน์แห่งจำเลย
แต่กรณีนี้กระบวนการยุติธรรมเชื่อว่า หลักฐานที่ได้มันพอแล้ว ก็เหมือนคุณแหละครับที่คิดว่าหลักฐานมันพอแล้ว
ในกรณีนี้มีแค่ IMEI, Serial ของซิม, และ Cell site ซึ่งเป็นแค่เครื่องยืนยัน "อุปกรณ์ที่ใช้กระทำความผิด" ไม่มีลายนิ้วมือ ไม่มีเศษชิ้นผิวหนัง ไม่มีหลักฐานยืนยันไปที่ตัวบุคคลสักอย่าง
อย่างเดียวก็คือ sim มันลงทะเบียนเป็นชื่อของคุณอำพล
เพราะคุณคิดแต่จะพูดสั้นๆ ฟังสั้นๆ ถามสั้นๆ นี่แหละครับปัญหา
การเอาข้อมูลในกระบวนการพิจารณาคดีประเด็นเดียว มาขยายความ แล้วบอกว่าไม่ยุติธรรม
มันเหมือนถอดเอาชิ้นส่วนของ product ซักอย่างออกมาแกว่งๆให้คนดู แล้วบอกว่า product
นั้นบกพร่อง ยังไม่เสร็จ โดยไม่สนใจให้คนทำ product มาชี้แจง หรือไม่สนใจดู product
ทั้งชิ้นด้วยซ้ำว่ามันหน้าตาเป็นยังไง
อยากให้พิจราณาเป็นขั้นแบบนี้นะครับ
เรื่อง cell site ผมว่ามันแทบไม่สำคัญเลยด้วยซ้ำว่ามันอยู่ใน cell site เดียวกัน และ
มันอยู่ในละแวกบ้านอากง เพราะประเด็นสำคัญคือ log ของทั้งสอง operator, imei,
serial sim, โทรศัพท์อากง ซิมที่อยู่ในเครื่องอากง การใช้โทรศัพท์อากง มันสอดคล้องกันว่ามี
การใช้โทรศัพท์เครื่องนี้ imei นี้สลับกันสองซิม โดยถอดซิมที่ใช้ประจำออก ซิมก่อเหตุก็อยู่ในระบบ
ทันที ใน cell site พื้นที่เดียวกัน ในพื้นที่บ้านอากง
ต่อให้ cell site ที่ซิมทั้งสองปรากฏใน cell site คนละพื้นที่ แต่เวลาห่างกันหน่อย เดินทางกันได้
หลักฐานก็ยังน่าเชื่อถืออยู่ดี โจทย์ก็พิสูจน์ได้อยู่ดีว่าอากงถอดซิมเดินไปที่อื่นแล้วใส่ซิมค่อยส่ง sms
แต่อยู่ในพื้นที่เดียวกันมันแค่ยิ่งชัดเจนขึ้นเท่านั้น
ดังนั้นการต่อสู้ว่า cell site พื้นที่เดียวไม่เดียวกันนี่ก็ไม่มีประโยช์นอะไรในศาลเลย เอาไว้หลอกคนนอก
ศาลที่ไม่รู้เรื่องทั้งหมดเท่านั้น ว่าเขาจับอากงเพราะ cell site คนทำอยู่ในพื้นที่บ้านอากง ฟังดูดีทีเดียว
แต่ผมเชื่อไม่ลงครับ
ส่วนเรื่องร้านซ่อมมือถือนี่แหละ เหตุผลสำคัญที่ทำให้ติดคุกเลย เพราะอากงพยายามบอกว่า เอาโทรศัพท์ไปซ่อม
แต่ซ่อมที่ไหนจำไม่ได้ ช่วงเวลาก็สับสน ตรงนี้แหละที่ทำให้ศาลไม่เชื่อ
สุดท้ายเจอซักจนจำนนต่อหลักฐาน บอกว่าใครก็ไม่รู้แอบมาส่ง ตัวเองส่ง sms ไม่เป็น นี่แหละที่ผมมองว่า
ทนายฝ่ายอากงตั้งใจให้อากงติดคุก สังเวยอะไรซักอย่าง
เพราะประเด็นว่าตัวเองไม่ได้ทำนี่ เป็นประเด็นสำคัญมาก ต่อให้ทำจริงแต่ซักซ้อมกันให้ดีจะแก้ข้อกล่าวหานี้ง่ายมาก
แต่พิรุธมาจากคำให้การที่สับสนของอากงเองแหละทำให้ประเด็นนี้ตกไป
ส่วนเรื่อง imei ต่อให้พิสูจน์ว่าปลอมได้จริง ผมเป็นอัยการยังมีข้อต่อสู้อีกเยอะ หลักฐานประกอบอีกหลายอย่าง
ครับไม่ใช่แค่เรื่อง imei เรื่องเดียว เพราะหลักฐานมัดตัวไม่ใช่ imei บอกว่าปลอม imei ได้ยังต้องตอบอีกว่า
log การใช้งาน เครื่อง sim ทั้งหมดมาได้ยังไง ถ้าปลอม ปลอมยังไง และทำไมต้องปลอม ใครทำ
ไม่ต้องพิสูจน์ทั้งหมด แต่ต้องให้หลักฐานโจทย์อ่อน แต่การแสดงว่า imei ปลอมได้เฉยๆ ก็ไม่เห็นว่าจะทำให้
หลักฐานโจทย์อ่อนเลย
แต่ทนายจำเลย ไม่สามารถ/ไม่สนใจ พิสูจน์ประเด็นนี้ได้เลย ศาลเลยยกประโยชน์ให้โจทย์ไป ไม่ต้องเสียเวลา
พิสูจน์ประเด็นนี้ ทนายก็เอาแต่มาร่ำร้องนอกศาลว่าหาคนช่วยไม่ได้เลย (ส่วนตัวผมไม่เชื่อครับ โม้เหม็นมาก)
ดังนั้นหลักฐานไม่ใช่มีแต่ imei หรือ cell site อย่างเดียวอย่างที่คุณเข้าใจ มันสอดคล้องกันหมด
เป็นนักคอมพิวเตอร์น่าจะนึกภาพออกนะครับ อย่าให้ถึงกับต้องเขียนแผนภาพให้ดูเลยครับ
หลักฐานไม่ได้มีอย่างเดียวอย่างที่คุณบอกไงครับ แต่คุณต่างหากไม่สนใจรายละเอียดคดีด้วยซ้ำ ได้แต่บอก
ว่า imei ปลอมได้ ไอ้นั่นปลอมได้ แค่ซิมเป็นชื่ออากง
แต่ความจริงคือมันมัดตัวทุกอย่าง ไอ้ที่คุณไม่สนใจรับรู้ด้วยซ้ำน่ะ
ลองนึงถึงเคสว่าต้องปลอมทุกอย่างให้คล้องกันซิครับ อย่าแค่บอกว่ามันง่าย คนอื่นไม่รู้เรื่องเลย ปลอมได้ทั้งนั้น
ลองนึกดูว่าต้องทำอะไรบ้างจนหลักฐานเนียนขนาดนี้ ถ้านึกได้แล้วต้องให้อากงสู้ความแบบเลื่อนลอยด้วยนะ
แล้วนึกไปอีกว่าทำไมต้องมีคนจ้องทำร้ายอากงแบบนี้
หรือถ้าเป็นการโจมตีแบบสุ่ม ต่อให้ใช้วิธีแบบที่บทความนี้บอก ทั้งซิม ทั้ง imei ก็จะเป็นของอากงโดยสมบูรณ์
แต่มันไม่สามารถเปลี่ยนซิมไปใช้ระบบอื่นได้ และทำให้โทรศัพท์ของอากงหายไปได้
ถ้าจะเถียงกันเรื่องเทคนิค ก็เถียงกันได้ยาวครับ อย่าเป็นประเภทการ์ตูนญี่ปุ่นประมาณว่า "พวกนายไม่รู้อะไรซะแล้ว
มันทำได้จริงนะ เอาชื่อคุณปู่เป็นเดิมพัน หึๆ" อะไรแบบนี้เลย
คุณรู้ได้ยังไงว่าคนอื่นไม่สนใจ ไม่ได้อ่านคำพิจารณาของศาล ไม่ได้ศึกษามา เพียงแต่ศึกษามาแล้ว ก็ยังระบุไม่ได้อยู่ดีว่าคนทำเป็นใคร
ผมบอกว่า มันพิสูจน์ไม่ได้ว่าคนทำเป็นใคร แต่หลักฐานทั้งหมดแวดล้อมทั้งหมดมันชี้ไปที่คุณอำพล คำถามของพวกเราคือ แค่นั้นมันพอจริงหรือ?
เรื่องนี้ถ้าไปอ่านข้อความของผมใหม่ ผมไม่ได้ใช้คำว่าปลอมเลยครับ ไม่มีแม้แต่หนเดียว
คดีนี้เปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ เป็นปกติที่การโจมตีแบบ DDOS จะใช้เครื่องเหยื่อซึ่งติด Malware ของ Hacker เป็นเครื่องโจมตีเครื่องเป้าหมาย และเป็นปกติที่มันจะลบร่องรอยของการเข้ามาแฝงเครื่องอยู่ เพื่อให้ไม่สามารถตามไปยังผู้กระทำผิดตัวจริงได้
หลักฐานทั้งหมดมันจะชี้ไปที่เครื่องเหยื่อที่ติด malware ถ้าถามว่าใครจะมาใช้เครื่องเราเป็นฐาน เค้ามีแรงจูงใจอะไร เค้าทำไปทำไม ใช้วิธีไหน ยังไง เมื่อไหร่ ติดยังไง ฯลฯ
ผมตอบไม่ได้ ผมต้องติดคุก? แน่นอนล่ะ หลักฐานว่าเครื่องผมเป็นเครื่องโจมตีมันมีแน่นอน
เอาล่ะ ... ผมจะไม่โต้ตอบกับคุณในเรื่องของการพิจารณาคดีแล้ว แต่กรุณาอย่ากล่าวหาว่าคนอื่นไม่ศึกษา ไม่อ่าน สนใจแต่เรื่องของตนเอง ฯลฯ เลยครับ
อ้อ เลิกบลัฟคนอื่นก็ดีครับ
ผมว่าพลาดตรงที่อากงยอมรับว่ามือถือเป็นของตัวเอง ใช้คนเดียวมากกว่าครับ
เรื่องนี้น่าสงสัยว่าทนายจงใจให้ผลการตัดสินออกมาเป็นแบบนี้หรือเปล่า เพราะหลายเรื่องเหมือนจงใจว่าจะให้หลักฐานมัดตัวจนดิ้นไม่หลุด ถ้าเปลี่ยนทนายคดีอาจจะเปลี่ยนก็ได้
ผมเห็นด้วย คดีนี้ถ้าใช้ทนายที่เจตนาสุจริตจริงๆ หลุดได้ง่ายมาก
แต่อันนี้ยิ่งสู้เหมือนอยากให้ติดคุกนานๆ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่ได้หัวเราะเยาะนะครับ คือมันดูแล้วคล้ายๆ จะเป็นแบบนั้นจริงๆ
อันนี้ว่าจะไม่ reply แล้ว แต่พอดีเห็นประโยคสุดท้าย
ที่ผมต้องออกมาพูด เอาเหตุผลมาชี้แจง จนคุณ "หาว่า" ผมบลัฟเนี่ย
เพราะผมเห็นหลายคนเอาข้อมูลที่ไม่ครบทุกด้านออกมาพูด และกล่าวหาศาลไปในทำนองเดียวกัน
ว่าศาลใช้แต่หลักฐานดิจิตอล ที่ไม่มีน้ำหนักพอ ในการเอาผิดอากง
อย่างของคุณ PaPaSEK คุณก็พูดว่า
"กรณีนี้อากงพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ว่าตัวเองไม่ได้ทำ หาวิธีหักล้างความเชื่อของศาลไม่ได้ และศาลไม่เชื่อว่า IMEI ปลอมได้ จึงยกผลประโยชน์ให้โจทย์
ผมก็เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละครับ ปกติคือหลักฐานมัดตัวไม่เพียงพอก็จะยกฟ้อง เป็นผลประโยชน์แห่งจำเลย"
ซึ่งมันผิด เพราะที่เค้ายกประโยชน์ให้โจทย์ เพราะศาลเห็นว่าการพิสูจน์ได้แต่ว่า imei ปลอมได้ก็ยังมี
หลักฐานอื่นๆซึ่งต้องพิสูจน์ต่อไปอยู่ได้ และจำเลย ไม่สามารถ พิสูจน์ได้ ศาลเลยยกประโยชน์ให้ ไม่ต้องสืบ
ซึ่งเป็นวิธีการปกติ ศาลที่ไม่ได้ใช้ระบบกล่าวหาก็ใช้ ไม่เกี่ยวกับหลักฐานไม่พอยกฟ้องเลย คนละเรื่อง
"Cell site เดียวกันครอบคลุมหลายสิบตารางกิโลเมตร เป็นรัศมีหลายกิโลเมตร
ผมสมมติว่าคนที่ทำคือร้านซ่อมจริงๆ มันก็ต้องมีการสลับไปสลับมาระหว่างซิมอยู่ดี แถมได้ IMEI เดียวกันด้วย ถ้าร้านอยู่ในรัศมี Cell site เดียวกัน ข้อมูลที่ศาลได้ไปมันก้ถูกต้องทุกอย่าง"
อันนี้ก็ผิด ก็อย่างที่ผมบอก ศาลไม่รับฟังประเด็นนี้ เพราะคำให้การเรื่องเอาโทรศัพท์ไปซ่อมมันวกไปวนมา
แต่ก็ยังเห็นเอาประเด็น cell site มาพูดกัน ทั้งๆที่มันไม่ใช่ประเด็นปรักปรำอากงจริงๆเลย
และที่สำคัญ คุณบอกว่า
หลักฐานที่ระบุไปถึงตัวอากง อันเดียวคือซิมที่เป็นชื่ออากง
แล้วการตาม imei ไปจนเจอโทรศัพท์อยู่บ้านอากง การยอมรับว่าอากงใช้เครื่องนี้คนเดียว ข้อมูลการใช้โทรศัพท์
ของอากง คำให้การอากงไม่ใช่หลักฐานเลยเหรอครับ
มันชัดเจนว่าเหตุผลที่คุณยกมามันผิด ดังนั้นเวลาคุณกล่าวหาศาลว่าตัดสินจากข้อมูลที่คุณเห็นไม่มากพอ
ผมจึงเอาข้อเท็จจริงที่ถูกมาให้คุณดู กลายเป็นผมบลัฟ
แล้วการที่คุณกล่าวหาคนอื่น โดยเฉพาะศาล โดยใช้เหตุผลผิดๆนี่เรียกว่าอะไรครับ ผมมาพูดก็เพราะไม่อยาก
ให้คุณหลายคนพูดให้คนอื่นเข้าใจผิดไปมากกว่านี้
ก็ตอนสู้คดี ไม่มีใครมาช่วยไงครับ พอตัดสินแล้วเรื่องถึงดังขึ้นมา ทนายถึงได้ไปออกสื่อ
คำถาม...ก็คือ หากหลักฐานไม่ชัดเจน ทำไม ทนายของ "อำพล" ไม่แย้งครับ? เพราะการยื่นฟ้อง ทนายของจำเลยต้องยอมรับหลักฐาน หากหลักฐานไม่ครบ หรือ ไม่มีความชัดเจนมากพอ จำเลย หรือ ทนายจำเลยสามารถแย้งได้ ซึ่งก็จะยืดเวลาการฟ้องออกไป เพื่อให้ เจ้าหน้่าไปหาหลักฐานเพิ่มเติม...
คำถามผมก็คือ ถ้าหลักฐานไม่ชัดเจน ทำไม ทนายของจำเลย คือ อำพล ไม่แย้งครับ? ทั้งๆ ที่มีการสืบพยานหลักฐานหลายรอบ?
แย้งแล้วครับ แต่มันฟังไม่ขึ้น แล้วถ้าแย้งก็ต้องหาหลักฐานอื่นมากลบข้อครหาให้ได้เนียนๆ เป๊ะๆ
มันจบตั้งแต่ทนาย ดราม่าอากง เป็นทนายแดงราชประสงค์แล้วล่ะครับ ^^
เพราะทนายมันกากครับ ประเด็นของคดีนี้จริงๆอยู่ตรงนี้ครับ
เดี๋ยวก็มีข้ออ้างอีกว่าเมืองไทยไม่มีใครทำได้หรอก (ฝ่ายบริสุทธิต้องมา proof ตัวเองให้ได้)
@TonsTweetings
ต้องเชิญวิทยากรในงาน 28C3 มาให้การ
ความยุติธรรมในไทยนั้นราคาแพง... (ค่าเครื่องบิน ค่าเชิญ ค่าที่พัก บลาๆๆ)
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
อันนี้ยังไม่ได้พูดถึงอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึง "หนูทดลอง" นะครับ
เป็นผมล่ะจูนของอัยการนี่แหละ
ใช่แล้วครับ เมืองไทยเราหากมีเงินมีบารมี ก็ยากแล้วที่กระบวนการยุติธรรมจะเอาผิดได้ ^^
สมมติว่าผมตระเวน Hack GSM รัว ๆ ให้มันเป็นวาระต้องแก้ไขเร่งด่วนแห่งชาติไปเลยจะดัน HSPA หรืออื่น ๆ ให้เกิดได้เร็วขึ้นไหมครับ?
ผมใช้คำว่า "สมมติว่า" นะครับ ประโยคข้างต้นไม่สามารถนำไปใช้จริงได้ ขอยืนยันว่าไม่ได้คิดจะเอาไปทำจริง ๆ และไม่อาจนำไปใช้การในศาลได้
ผมจะรอดมั้ยเนี่ย (- -")
สมมติว่าผมเอา log ของโพสนี้ไปให้ตำรวจนะครับ....
สมมติ.... :P
lewcpe.com, @wasonliw
/me ช็อคคาหน้าจอ
ป.ล. คราวหน้าต้องสมมติว่าคุณลิ่วใจโหดกว่าที่คิดด้วยแฮะ :P
เมื่อคุณแฮคเสร็จคุณต้องเปิดเผยตัวและเปิดเผยผลงานด้วยครับ ไม่่งั้นตำรวจจะสืบไม่ได้ว่าโดนแฮค
สมมติว่ารอด .... ฮา
(O_o) ไม่งั้นก็ส่งข้าวด้วยนะครับ
ข้าวผัดปู+โอเลี้ยงนะครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ขอตั้งชื่อมุกนี้ว่า "มุกสายบัว"
ฮ่าๆๆ
(T_T)
เอาล่ะเว้ย ตรรกกะวิบัติมาแล้ว เสต็ปเดิมเลย อีมี่ๆๆๆๆๆๆ แล้วตามด้วยตรรกะวิบัติ
ไม่จำเป็นต้องถึงขนาดนั้นครับ ใช้พวก FPGA มาสร้าง function เพื่อหาผล ราคาถูกและไวกว่ากันเยอะครับสำหรับงานพวกนี้
คอมพิวเตอร์สมัยใหม่เนี่ย มันพัฒนาไวจริงๆ
..: เรื่อยไป