คนที่อยากใช้ iPad แต่ไม่ต้องการถูกมองเป็นแค่สาวกระดับพื้นฐานที่ใช้แต่ของเกร่อๆ อาจจะชอบ iPad 2 รุ่นพิเศษที่ชื่อว่า iPad 2 Gold History ตัวนี้ก็ได้
คนออกแบบก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ Stuart Hughes ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงจากการดัดแปลงเพิ่มความหรูให้กับผลิตภัณฑ์ของ Apple มานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น MacBook ทองคำ หรือ iPhone ฝังเพชร
แต่ความหรูหราที่ผ่านมาอาจจะยังธรรมดาเกินไป iPad 2 Gold History จึงได้ยกระดับความหรูหรามีเอกลักษณ์ขึ้นไปอีกขั้น นอกจากบอดี้ทองคำ 24 กะรัตกับโลโก้ Apple ฝังเพชรแล้ว ขอบด้านหน้าของ iPad 2 รุ่นพิเศษของรุ่นพิเศษนี้ยังทำมาจากหินแร่ Ammolite อายุกว่า 75 ล้านปีที่ขุดจากแคนาดา ผสมด้วยฟอสซิลส่วนโคนขาของ T. rex อายุ 65 ล้านปีที่บดจนละเอียดอีก 57 กรัม
สนนราคาอยู่ที่ £5,000,000 ถ้วน (ประมาณ 246 ล้านบาท) หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้จากเว็บ StuartHughes.com
ที่มา - The Register
item สุดหรูสำหรับสาวกขั้นเทพ (ภาพจาก The Register)
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ของเล่นคนเงินเหลือจริง ๆ แต่ในที่สุดก็พบอะไรที่มันหรูกว่าแค่ใส่ทองกับเพชรแล้วสินะ ผมไม่เคยมองว่าของพวกนี้เคลือบทองฝังเพชรสวยเลยจริง ๆ - -"
+1 เค้าออกแบบมาตอนแรกก็สวยอยู่แล้ว
เอาฟอสซิลมาใช้โดยเปล่าประโยชน์จริงๆ
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
+1
คงเป็นเศษขี้เล็บมันนะ แบบว่าเอาไปทำอะไรไม่ได้แล้ว
ผมฟอสซิลระดับนี้ เค้าศึกษาไปหมดแล้วนะ
ก็เอามาเคลือบipad แล้วนี่ไง แถมขายได้ราคาอีก
มีเงินอย่างเดียวไม่ได้จริงๆ ............ ต้องมีเยอะๆ ด้วย ^^
มีเงินอย่างเดียวไม่ได้จริงๆ ............ ต้องโง่ด้วย ใช่ป่าวอ่ะ แต่ก็เหอะนะของเล่นคนมีตังค์เหลือกิน
อยากโง่บ้าง
ถ้าคนมีเงินเยอะขนาดนี้โง่ พวกเราจะเหลืออะไรครับ
เออ พูดโดนใจ
แต่วลีเด็ดที่ว่า มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ต้องโง่ด้วย ก็รู้อยู่แก่ใจครับ ลึกๆแล้ว พูดไปเหมือนปลอบใจตัวเอง อิจฉา หมั่นไส้ น้อยใจ หรืออาจจะพูดไปยังงั้นก็ได้
+1 จริงครับ .... ส่วนมากคนที่พูดวลีเด็ดนี้ มักจะเป็นคนองุ่นเปรี้ยว หรืออยากจะโชว์ภูมิทางใดทางหนึ่ง เหมือนกรณี Vertu ที่มีคนออกมาใช้วลีเด็ดนี้กันลึ่มๆ ว่า "มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องโง่ด้วย มือถือแพงซะเปล่า ทำอะไรก็ไม่ได้ iPhone/Android ยังทำได้มากกว่า"
ซึ่งคนที่พูดแบบนี้เค้าไม่ได้เข้าใจลักษณะชีวิตของคนมีกะตังค์เลยแม้แต่น้อยว่าเค้ามีรูปแบบชีวิตแบบไหน แล้วทำไมเค้าถึงได้มองข้ามของแบบ iPhone/Android ไป -*-
+1
เห็นด้วยอย่างมาก = =
เงินเค้าก็ให้ เค้าใช้ไปเหอะนะ
ผมก็ว่างั้นนะ คนที่ซื้อของแบบนี้ ซื้อด้วยเงินเสี้ยวจิ๊ดนึงของเค้า ไม่น่าจะเรียกว่าโง่มั้งครับ
น่าจะเรียกว่า โอเวอร์!!!!! ถึงจะถูกกว่า
ถ้าพวก ซื้อแล้วไม่มีเงินกินข้าวค่อยสมกับคำว่าโง่
คนที่มีเงินบรรพบุรุษไงครับ ... อาจจะโง่ได้
กำลังดูอยู่ว่าใครเข้าข่าย Rich Dad, Poor Son ได้บ้าง 555
เคสนี้ฟังดูแล้วนึกถึง Paris Hilton ที่หลายๆ คนชอบว่าเธอโง่ เป็นพวกบลอนด์ตาฟ้าโง่ๆ ธรรมดาที่บังเอิญเกิดมารวย ^^
แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอเป็นคนทำงานเยอะแล้วก็ฉลาดไม่เบาด้วยนะครับ แล้วก็ฉลาดพอที่จะทำให้คนอื่นๆ คิดว่าเธอโง่ (อันนี้อะร้ายจริง)
Fact: สีตาของเธอจริงๆ ไม่ใช่สีฟ้าแต่ใส่คอนแทค และผมของเธอจริงๆ ก็ไม่ได้บลอนด์ขนาดที่เห็น แต่ย้อมให้มันบลอนด์สว่างชัดขึ้น
ถ้าอย่างนั้นไม่ใช่ฉลาดธรรมดาล่ะครับ อันนั้นเรียกฉลาดมาก
ผมเชื่อว่าคนที่ฉลาดมาก ๆ จะทำตัวให้คนอื่นไม่คิดว่าตัวเองฉลาด (และในทางกลับกัน ...)
+1 ใช่เลยครับ คำพูดนี้ถูกต้องเลย ^^ "ถ้าคนมีเงินขนาดนี้โง่ แล้วพวกเราจะเหลืออะไร"
อีกอย่าง ผมอยากจะบอกคนที่ชอบคิดว่า "มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ต้องโง่ด้วย" ว่าระวังจะเจอคำว่า "ก็ยังดีกว่าพวกฉลาดแต่จน" นะครับ ^^
ผมเบื่อพวกที่ชอบแสดงความเห็นจิกกัดการใช้เงินคนอื่นแล้วเอาไปเทียบกับภูมิปัญญาสุดๆ เลยครับ เพราะมันไม่ได้แสดงถึงความฉลาดของผู้พูดเลยแม้แต่น้อย มันแปลได้ว่าผู้พูดไม่ได้เข้าใจธรรมชาติของคนอื่นเลย
คิดง่ายๆ คนที่พูดแบบนี้เคยคิดบ้างไหมว่าตัวเองเคยไปกินอาหารเหลาโต๊ะจีนหมดไป 4-5 พัน หรือไปกินแมคโดนัลด์ที่มีแค่เบอร์เกอร์+น้ำอัดลม+ฟรายส์ ด้วยราคา 100กว่าบาท ซึ่งเคยมองมั้ยว่าคนที่มีรายได้ต่ำกว่าคุณ หรืออาจจะมีรายรับต่อวันเป็นแค่ค่าจ้างขั้นต่ำเค้าจะมองคุณอย่างไร เค้าอาจจะคิดว่าพวกคุณเป็นพวกฉลาดแต่โง่ก็ได้ กินทำไมของแพงขนาดนั้น กินข้าวผัดตามสั่งก็อิ่มเหมือนกันแท้ๆ
มันก็ครือๆ กันน่ะล่ะครับ คนรวยเค้ามีรายได้เยอะมาก เยอะจนเค้าสามารถจะจับจ่ายอะไรก็ได้เพื่อสนอง Need ของตนโดยไม่ต้องไปใส่ใจกับราคา แม้ว่า Need นั้นๆ มันจะดูไร้สาระในสายตาคนอื่น แต่เงินของเค้ามันเยอะจนทำให้เรื่องไร้สาระนั้นไม่ใช่ประเด็นไปได้เลย
มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรู้จักเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองด้วย ใช้เเล้วมีความสุขเเล้วใครจะทำไม :)
เสียดาย ฟอสซิล
อย่าถือมาเล่นนะรับรองแขนขาด
ทำตกได้กี่ทีครับ...
ตกกี่ทีก็ได้ครับ แต่เจ๊งตั้งแต่ครั้งแรก
ตกกี่ทีก็ได้ครับ แต่"ช็อคตาตั้ง"ตั้งแต่ครั้งแรก
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ถ้าทำแล้วสวยจะไม่ว่า ทำออกมาแต่ละที . . . เพลียเลย
หนักไม๊นั่นน่ะ
twitter.com/djnoly
ใช้ไปสองสามปีก็ตกรุ่นแล้ว จะเอาหรู ๆ ไปเพื่อ?
เหมือนเดจาวู แต่สงสัยผมคิดไปเอง ;w;
ไม่ใช่เดจาวูหรอกครับ เพราะลุงแกออกแบบ iDevice ด้วย concept นี้มาหลายตัวแล้วจริงๆ สงสัยฟอสซิลคงเหลือง่ะ 555
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
มันขับได้ไหม =..=
เอามาเล่นบ้านเรานี่ออกร้านกาแฟทีโดนเล็งฟันแขนขาด
เอาฟอสซิลมาใส่เพื่อเพิ่มราคา ><
อ่านแล้วถึงกับ เข่าทรุด...แพงเหลือเกินน
หินอะไรๆมันก็อายุเป็นล้านๆปีอยู่แล้วนินา
แต่ลายหินมันก็แปลกตาดีล่ะนะ -_-
จะว่าไปน้ำมันที่เติมรถกันอยู่นี่ก็อายุเป็นล้านๆปีเหมือนกัน -_-"
น้ำสิงห์ก็เป็นหมื่นปีเหมือนกัน -"-
ข้างหลังก็สวยดีนะแต่ข้างหน้าเอาซะเสียชื่อท่านศาสดาเลย
น่าจะแถม upgrade iPad free ตลอดชีพก็น่าสนอยู่นะ สำหรับคนเงินไม่มีที่ใช้ 555+
ปล. เงินขนาดนี้เอาไปซื้อรถสปอร์ตตัวแพงอันดับต้นๆ ของโลกได้สบาย
น่าจะเอาเงินไปช่วยคนที่ขาดแคลนอาหารมากกว่า
ก็แล้วแต่คนครับ เราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินการใช้เงินของคนอื่นเค้าตราบเท่าที่มันยังสุจริตอยู่
ผมเห็นด้วย ถ้ามองแบบภาพรวมจริงๆ คนที่ขายก็เอาเงินไปซื้อโน่นซื้อนี่ เกิดงาน เกิดรายได้ กระจายเงินออกไปอีกอยู่ดี
ก็.. เงินค่าฟอสซิล เค้าก็อาจจะเอาไปช่วยเหลือ เอาเข้ามูลนิธิ ช่วยเด็ก หรือเอาไปเป็นทุนศึกษาฟอสซิลอื่นๆ ก็ได้หนิครับ :D
iPAtS
ตังเขาปล่อยไปเถอะ เขาหาเงินด้วยตัวเขาเองเขาจะเอาไปทำไรก็แล้วแต่เขา ทำมากได้มากทำน้อยได้น้อยโลกนี้ไม่มีความเท่าเทียบ
ถ้าบอกว่าเปลืองเงิน (คุณไม่เคยมีมากขนาดนั้น) ก็จะเปรียบให้ลงมาอยู่ในระดับสามัญชนก็ประมาณว่า
สมมุติ
คนจน ใช้เงิน 100 บาทซื้อมาม่าอยู่ได้ 10 วัน
คนปกติ ใช้เงิน 100 บาท อยู่ได้ 1 วัน
คนจนก็มองว่าคนปกติมันมีเงินอย่างเดียวไม่ได้โง่ด้วย
หรือ
คนจน ซื้อมือถือ 500 บาท
คนปกติซื้อ BB อะไรก็ว่าไป (มีรายเดือนด้วย)
คนจนก็จะมองว่ารายเดือนแกเป็นค่าโทร 2 เดือนแถมโทรคุยกันได้เร็วกว่ามานั่งพิมพ์เหมือนคนบ้า มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ต้องโง่ด้วย
ก็ประมาณนี้แหละนี้ ย่อเรื่องที่ว่ามีเงินอย่างเดียวไม่ได้ต้องโง่ด้วยมาอยู่ในระดับเราๆ แต่จริงๆมันอยู่ที่อัตราที่เราไม่สามารถเข้าใจ (ไม่เคยรวยหรือจนลง)
อัตราเช่นถ้าคุณลองรวยจะบอกว่าข้าว 30 ถูกถ้าปกติบอกว่า 30 ปกติถ้าจนบอกว่า 30 แพง (ค่าที่เราตีค่าสิ่งของนั้นเอง) ในสภาวะที่น้ำท่วมคนที่ประสบภัยคงตีค่าอาหารมากขึ้นเป็นยิ่งแท้...
จึงสรุปได้ว่าไอ้ที่เราบอกว่ามีเงินอย่างเดียวไม่ได้ต้องโง่ด้วยนั้นเคยลดความคิดนั้นลงมาที่ตัวเราหรือเปล่า บางทีสิ่งที่เราซื้อคนที่อยู่ต่ำกว่านั้นก็คิดแบบเดียวกัน คุณมีเงินอย่างเดียวไม่ได้ต้องโง่ด้วย เช่นกัน
สำหรับคนรวยจึงเป็นเรื่องปกติ คุณเอาเวลาน้ำลายไหลหรือว่าเขาไปหาเงินของคุณเองดีกว่า ^^ แล้วคิดว่าเราจะใช้เงินนั้นไม่ให้เหมือนสิ่งที่คุณเคยว่าคนเหล่านั้น จะเอาไปบริจาคอะไรก็ได้เพราะเงินของคุณ ไม่ต้องไปว่าคนมีเงินไม่บริจาคมาให้คนอื่น แต่ถ้าคุณรวยไม่แน่มากกว่า 50% ก็จะเป็นคนแบบที่คุณว่าๆกัน เพราะไม่งกรวยไม่ได้ (เรื่องจริง)
อยากให้หลาย ๆ คนอ่าน - -
+1
ความเห็นนี้โดนใจมากครับ =)
เงินเค้าก็ปล่อยให้เค้าใช้ไปเถอะครับ...
ถ้าคุณกินข้าวมื้อละ 200 แล้วมีคุณมาบอกคุณว่ากินกระเพราไก่ 25 บาทก็พอ
ส่วนเงินที่เหลือเอา "น่าจะเอาเงินไปช่วยคนที่ขาดแคลนอาหารมากกว่า"
คุณจะรู้สึกแบบไหน ?
สิ่งที่คุณทองว่าฟุ่มเฟือย
คนที่เค้ามีรายได้น้อยกว่าคุณก็มองว่าสิ่งที่คุณใช้แบกปกติทั่วไปฟุ่มเฟื่อยเช่นเดียวกัน
ผมไม่ได้ว่าคุณฟุ่มเฟือยนะครับ แค่ลองเทียบสเกลให้ดู
การที่สเกลในข่าวนี้มันใหญ่กว่าปกติมาก ทำให้อาจจะเราลืมมองไปว่า
เราก็กำลังใช้ชีวิตไม่ต่างจากเค้าเหมือนกัน
= ="
ถ้าผมได้เจ้านี้มาใช้ คงไม่กล้าออกนอกบ้าน
ใช้แผลแห่งลมได้เหรอ?
ผมว่าตรรกเรื่อง รวยอย่างเดียวไม่พอต้องโง่ด้วย เป็นองุ่นเปรี้ยว มากครับ
ในกรณีนี้ (246ล้าน) ผมว่าตรรกะนี้ไม่เปรี้ยวนะ อาจจะมีภรรยาเศรษฐีน้ำมันดูไบสักคนที่อยากจะได้ไปครองอวดฐานะเพื่อนบ้านกันบ้างอะไรบ้าง
คนมีตังค์มีวิธีใช้ตังค์ให้หมดไป
ถึงผมมีตัง ผมก็จะบอกว่า "มันสวยตรงไหนเนี้ย สวยตรงฟอสซิลเร้อ!"
ผมว่าไอ้ "ฟอสซิล" นี่แหละ ที่ทำให้ iPad ตัวนี้ ดูอัปลักษณ์ (เอ๊ะ! หรือเราคิดไปเอง)
คนที่ขายได้ราคานี้จริง น่านับถือมากส์ คนขายรวยส์ภายในดีลเดียว (ต้นทุนคงสักล้านสองล้านนะ ให้เดา)
ผสมด้วยฟอสซิลส่วนโคนขาของ T. rex อายุ 65 ล้านปีที่บดจนละเอียดอีก 57 กรัม
...57 กรัมนี่น่าจะราวๆหินกรวด 1 ก้อน เอามาบดๆเป็นผงๆแล้วเอาไปผสมในพลาสติกหรือสีที่ทานั่นแน่ๆ
แล้วถ้าเกิดใช้ๆไปมันเจ๊ง จะเอาไปเคลมแล้วได้ของใหม่มารึเปล่าเนี่ย
ของพวกนี้เค้าของไม่เอามาขายกันโต้งๆ หรอกครับ
คงจะเอาไปประมูล เพื่อเข้ามุลนิธิ หรือ สมทบทุนอะไรบางอย่าง
อย่าบิลเกท ก็บริจาคเข้ากองทุนต่างๆตั้งไม่รู้กี่พันล้าน
ก็น่าจะได้ไอ้ตัวนี้มาเป็นของสมนาคุณให้ นะ :)
เอาเข้าพิพิธภัณฑ์ดีกว่า -.-
ขายได้เครื่องเดียวก็พอแล้ว...
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ชักอยากรู้ต้นทุนจริงๆแล้วสิ กำไรอาจจะ 200 ล้าน :P
ipad หนักเท่าไรเนี่ย :P ยิ่งเคลือบทอง หนักมากคงไม่เหมาะสำหรับยกอ่านละ เหมาะกับการ วางโชว์ละมั่ง
ยังไงก็ชอบดีไซน์ปกติมากกว่านะ 555
"ขอบด้านหน้าของ iPad 2 รุ่นพิเศษของรุ่นพิเศษนี้ยังทำมาจากหินแร่ Ammolite อายุกว่า 75 ล้านปีที่ขุดจากแคนาดา ผสมด้วยฟอสซิลส่วนโคนขาของ T. rex อายุ 65 ล้านปีที่บดจนละเอียดอีก 57 กรัม"
ผมอ่านประโยคนี้ครั้งแรกนี่ขำก๊ากเลยครับ มันมี History ที่น่าสนใจมาก
ทำไมต้องเป็น ammolite อายุ 75 ล้านปีด้วย
ทำไมต้องเป็น กระดูกโคนขาของ T. rex อายุ 65 ล้านปีที่บดละเอียด 57 กรัม ด้วยครับ
จะว่าไป ผมอ่านข้อความนี้แล้วก็พลันนึกขึ้นได้ ทุกสรรพสิ่งที่อยู่บนโลกนี้ล้วนเกิดขึ้นพร้อมกันตอนโลกก่อตัวนี่หว่า - -"
แล้วไอ้หินก้อนที่โรยอยู่ตรงขอบถนนหน้าบ้านนั่นกี่ล้านปีแล้วน่ะ
เข้ามาตอนตลาดวาย
ยอม "โง่แต่รวย" มากกว่า "ฉลาดแต่จน" แต่ "ยอมจนแต่เป็นคนดี" มากกว่า "รวยแต่ฉ้อโกง" ครับ
เอาเงินไปช่วยคนที่อาหารขาดแคลนดีกว่า? เอาเวลาตำหนิคนอื่นไปพัฒนาตัวเองดีกว่า...
เงินใครเงินมัน หาเงินมาได้ก็ใช้ซื้อความสุข แต่มีเวลาก็เอาไปซื้อความสุขให้ผู้อื่นด้วย เขาสุข - เราสุข สุขได้พร้อมกันๆ
ปล.ระวังผี T-Rex ตามมาทวงกระดูก