ข่าวนี้ต่อจาก อดีตผู้ร่วมทีม Gmail เชื่อ "กูเกิลจะยกเลิก Chrome OS ในปี 2011"
หลังจากข่าวที่แล้วออกไป คุณ Paul Buchheit ได้เขียนบล็อกขยายความแนวคิดของเขาเรื่อง Chrome OS ว่าโดยส่วนตัวเขาเห็นด้วยกับแนวคิด "Cloud OS" ที่มองอินเทอร์เน็ตเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์หนึ่งเครื่อง แต่ไม่ใช่ว่ามีแต่ Chrome OS เท่านั้นที่ทำงานลักษณะนี้ได้ เพราะในปัจจุบัน iOS/Android ก็มีลักษณะแบบนี้อยู่บ้างแล้ว เพียงแต่อาจจะไม่ได้อยู่ในรูปเว็บและ HTML เท่านั้น
Paul Buchheit มองว่า Chrome OS มีความแตกต่างจาก Android ไม่มาก (จุดแตกต่างที่สำคัญคือวิธีการป้อนข้อมูลเท่านั้น) และ Android สามารถดึงฟีเจอร์ของ Chrome OS มาใช้ได้ไม่ยาก เพียงแค่นำ Chrome มาไว้บน Android เท่านั้น แต่ในทางกลับกัน Chrome OS ไม่สามารถดึงแอพจำนวนมากบน Android มาใช้ได้
สุดท้าย Paul Buchheit บอกว่าเน็ตบุ๊ก Chrome OS ถูกบีบด้วยโน้ตบุ๊กแบบดั้งเดิมที่ใช้วินโดวส์และแมค กับตลาดแท็บเล็ตเกิดใหม่ ซึ่งมีที่ว่างให้ Chrome OS โตได้ยากพอสมควร
ที่มา - Paul Buchheit
Comments
เป็นแนวคิดที่ดี แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะแข่งกับเจ้าเดิมยังไง
I need healing.
คิดว่าจริงเหมือนที่เค้าพูดนะ ทุกอย่างจบ แค่ลง Google Chrome ไว้ในโน๊ตบุค หรือเน็ตบุคที่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปอยากได้ Cr-48 หรือ Chrome OS ให้วุ่นวาย
WE ARE THE 99%
+1 ขายยากด้วย ไม่มีเน็ตก็เหมืนที่ทับกระดาษตามที่เขาพูด
ต้องออกแบบคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่เป็นกระดาษA4 ครับจะต้องรีบพัฒนาก่อนที่ iPad4 จะออกมาเป็นกระดาษอิเลคโทรนิคส์
รู้สึกว่า Chrome OS กับ Chrome Browser จะกินกันเอง
จริงผมชอบนะ concept ของ chrome OS ที่เป็น cloud computing แต่ว่า จะปลอดภัยแน่รึป่าวครับ ว่าข้อมูลที่เป็นของเรา จะไม่มีใครรู็เพราะว่า concept ของ cloud มันก็คือ ส่งไปประมวณผลด้านหลัง ซึ่งไม่มีใครรู็ว่ามันไปอยู๋ไหนหรือไปประมวณผลที่ไหน ใช่ไหมครับ หรือว่า ผมเข้าใจผิด ? ยังไงถ้าเข้าใจผิด ขอโทดด้วย แต่โดยส่วนตัวผม มองที่ความปลอดภัย มากกว่า ถ้าเป็นลักษณะของ บริษัทนะครับ แต่ว่า ถ้าเป็น ระดับ home user คงไม่ซีเรียสมากเท่าไหร่
http://javaboom.wordpress.com/2008/09/18/cloudsecurity/
เอาลิงค์บนนี้ไปอ่านนะครับ ลองคิดเล่นๆดูครับ
- ลิงค์ private line ต่างๆที่องค์กรใช้กันเชื่อใจได้อย่างไรว่า provider ไม่ดักเก็บข้อมูลในกรณีที่ใช้ข้อมูลเป็น ไม่ encryp
- มือถือที่ใช้กันอยู่ทุกวันเชื่อได้อย่างไรว่าไม่ถูกดักฟัง
- บริษัทกันเองแท้ๆ ยังขโมย code ไปขายได้เลย
provider ก็มีหน้าที่ดูแลให้ คงไม่คิดจะหักหลังลูกค้าให้ตัวเองเสียชื่อหรอกครับ
3 ข้อบนที่ยกมาคร่าวๆครับ มีอีกเยอะเลยรอบๆตัวเรา หากไม่เชื่อใจ 3 ข้อที่ยกมา ก็บอกลา cloud ได้เลยครับ
ลองแชร์ข้อมูลกันดูครับ
ผมว่าอาจจะรุ่งนะ ถ้าเป็นในแง่ของราคาขาย
ถ้าซื้อ (Note|Net)book สิ่งที่เราต้องจ่ายเพิ่มอาจจะเป็น HDD CPU RAM ที่มากขึ้นตามคุณภาพสินค้า
แถมยังเสี่ยงในกรณี Hardware เสียหาย โดนขโมย ทำให้ข้อมูลอันมีค่าของเราต้องเสียหายไปด้วย
พอเป็น Cloud OS ถึง Hardware หายแต่ Software+Data ยังอยู่ครบ
ส่วน Hardware เอาแค่ให้ใช้ Internet แล้วไหลลื่นก็พอ
ป.ล. คิดถึงตัวเองกำลังเล่นเกมแบบที่ Graphic โหดๆ โดยจ่ายค่าเครื่องแค่ 10k