เท่าที่จำได้จากสมัยทำ GIS นะครับ ปัจจุบันไม่รู้อ่ะ

GPS ปรกติมันใช้ดึงพิกัดจากดาวเทียม ซึ่งมันเป็นมาตรฐานอ้างอิงที่เชื่อถือได้ที่สุด (ระยะ error ในช่องสัญญาณที่เราๆใช้กันไม่เกิน 6เมตร ก่อนหน้านั้นมีการยัด error ให้ 20เมตร เพื่อความปลอดภัย ส่วนช่องทหารนี่จะละเอียดกว่า แต่แม่นยำเท่าไหร่ไม่แน่ใจ) อ้างอิงจากจุดที่เป็นหมุดหลักฐานซึ่งมันมีสถานีพื้นหลักฐาน WGS84 ทั่วโลกได้ครับ (แต่ก่อนบ้านเราอ้างอิงตาม Indian 1975)

ด้วยที่มันอ้างอิงจากดาวเทียมอย่างน้อย 3ดวง มันจะมีจุดบอดที่ผมเองพบประจำตอนที่เข้าป่าทำสำรวจคือ เมื่ออยู่ในหุบเขา มีต้นไม้ใหญ่บัง เมฆเยอะ (ปัญหาเหล่านี้ในเมืองก็พบ) คิดง่ายๆคือ เหมือนจาก จานแดงมันรับสัญญาณไม่ได้เวลาฝนตกนั่นล่ะครับ

ทีนี้ A-GPS มันจะอ้องอิงจากจุด หรือตึก ที่อยู่ใกล้ๆ ขอดีของมันคือ การที่ไม่ต้องพึงพาสัญญาณจากดาวเทียมเพื่อหาจุด ไม่ต้องห่วงฟ้า-ฝน ไม่ต้องกลัวเมฆบัง แต่ข้อเสียคือ สัญญาณของการใช้ A-GPS นี่ถูกรบกวนได้ และมีความแม่นยำน้อยกว่า GPS จริงๆ

ทีนี้ถามว่าทำไม A-GPS มันถึง error สูงกว่า เพราะว่า มันไม่ได้อ้างอิงจากหมุดหลักฐาน (ในบ้านเราจะอ้างอิงจากหมุดหลักฐานของกรมแผนที่ทหาร) ดังนั้นพิกัดมันจึงเป็นพิกัดโดยคร่าวๆ แล้วเอาที่อยู่ในเทียบกับพิกัดในแผนที่อีกครั้งหนึ่ง ไม่ได้อ้างอิงจากหมุดหลักฐานจริงๆ มันจึงทำให้ Error ได้สูงกว่า

ดังนั้นสรุปสั้นๆว่า
* A-GPS ดีกว่า ในแง่ของการใช้งานทั่วไป ในแผนที่การเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด (ย้ำว่าต่างจังหวัด) , แค่บอกเพื่อนว่าอยู่แถวนี้นะ
* A-GPS ดีกว่า เพราะไม่ต้องพึ่งพาดาวเทียมมากนัก ฝนตก ฟ้าร้อง ท้องหิว ก็ใช้ได้
* GPS ดีกว่าในแง่ของการใช้งานอ้างอิงพิกัดี่แน่นอน
* GPS ดีกว่าในการใช้งานในเมือง เพราะมันเลือกจับดาวเทียมที่สัญญาณแรงที่สุดอย่างน้อย 3ดวง (จาก 26ดวงมั้ง) ซึ่งทำให้ระยะ errorน้อยกว่า 50เมตร ดังนั้นมั่นใจว่าเราเลี้ยวไม่ผิดซอยแน่ๆ