Tags:
Node Thumbnail

ทางเว็บไซต์ AppleInsider ได้มีรายการเกี่ยวกับสิทธิบัตรของแอปเปิลที่มีการจดไว้ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2008 ที่มีชื่อว่า "Display with Dual-Function Capacity Elements" ซึ่งเป็นการรวมเอาตัวเก็บประจุเข้าไปไว้ในส่วนแสดงผลของแต่ละจุดบนหน้าจอ LCD และสามารถทำงานแยกกันได้ตามปกติ

เทคนิคนี้จะสามารถทำให้ผลิตอุปกรณ์ที่มีจอภาพสัมผัสแบบประจุ (capacitive) ได้บางขึ้น เบาขึ้น และสว่างมากขึ้น เพราะเป็นการเปลี่ยนจากการใช้จอ LCD แยกกับแผงเซนเซอร์สัมผัสแบบเดิมที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ซึ่งสิทธิบัตรนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์หลักๆ ของแอปเปิลได้เกือบทั้งหมด

ระยะหลังมานี้เราจะเห็นว่าแอปเปิลได้ให้ความสำคัญกับการจดสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับจอภาพสัมผัสเป็นจำนวนมาก และเรื่องของกฎหมายนี้เองก็เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่หลายๆ สำนักคาดเดาว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ Android ไม่มีระบบมัลติทัชเสียที แม้ว่าฮาร์ดแวร์จะรองรับแล้วก็ตาม

ที่มา - AppleInsider

Get latest news from Blognone

Comments

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 8 January 2010 - 01:04 #147732
Perl's picture

ให้ลูกค้าเอาไป Root เอาเอง..
(ไม่แน่อาจจะแอบยัด Software ไว้แล้วแต่ปิดไว้)

By: Kiss on 8 January 2010 - 01:50 #147743

การจดสิทธิบัตรแบบนี้ ผมว่ามันขัดขวางความเจริญยังไงไม่รู้

By: Golffy
ContributoriPhoneIn Love
on 8 January 2010 - 02:16 #147747 Reply to:147743
Golffy's picture

แต่ถ้าคุณคิดได้ คุณจะไม่จดหรือครับ?


@mamuang

By: toandthen
WriterMEconomics
on 8 January 2010 - 03:35 #147755 Reply to:147743
toandthen's picture

กลับกันครับ ความเจริญเกิดจากสิทธิบัตรต่างหาก ถ้าไม่มีสิทธิบัตรใครจะนั่งคิดให้เหนื่อย ใช้หากินก็ไม่ได้จิ


@TonsTweetings

By: Thaina
Windows
on 8 January 2010 - 09:28 #147779 Reply to:147755

ไม่ต้องมีสิทธิบัตร คนก็คิดขึ้นมาใช้กับอุปกรณ์บริษัทตัวเอง ทำเองขายเอง ได้อยู่ครับ

ออกจะทำให้ผูกขาดง่ายขึ้นมานิดนึง เพราะบริษัทใหญ่ๆมักจะเอาไปใช้แล้วได้ประสิทธิผลมากกว่า
แต่ปัญหามาเฟียสิทธิบัตรแบบแอปเปลกับโนเกียก็น้อยลงนะ

ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับพรรคไพเรทที่จะลดอายุสิทธิบัตรลงเหลือ 5 ปี
ไม่งั้นต้องมีการตั้งอัตราค่าซื้อสิทธิบัตรให้ยุติธรรมหน่อย หรือน่าจะมีค่าเสื่อมราคาสิทธิบัตรด้วย

By: zerocool
ContributoriPhoneAndroid
on 8 January 2010 - 09:48 #147783 Reply to:147779
zerocool's picture

ไม่เห็นด้วยครับ หากเสียเวลามากกว่า 5 ปีในการคิดค้นและวิจัยผลงานบางอย่าง แต่กลับจดสิทธิบัตรได้เพียงแค่ 5 ปีแล้วจะเสียเวลาวิจัยไปทำไม

อีกอย่างถ้าวิจัยได้แล้ว ไม่ได้เป็นเจ้าของ กลับถูกนายทุนที่ร่ำรวยนำไปใช้ขาย เป็นที่รู้จักกว่าของตัวเอง แล้วจะวิจัยไปทำไม


That is the way things are.

By: Thaina
Windows
on 8 January 2010 - 12:13 #147818 Reply to:147783

จดสิทธิบัตร คือขอการคุ้มครอง [แม้ว่าจะมีคนที่บังเอิญคิดเหมือนกัน บังเอิญทำออกมาเหมือนกัน ก็ถือว่าผิด]

มันยุติธรรมกับคนที่แค่คิดช้ากว่าแค่ 3 เดือน แต่ฉลาดพอๆกัน มั้ย ล่ะครับ?

ในเมื่อขอการคุ้มครอง ก็ต้องให้ประโยชน์แก่รัฐ จะเอาไปฟันกำไรเท่าไหร่ก็ตามใจ แต่ต้องมีจำกัด ไม่งั้นคุณไม่คิดว่ามันละเมิดสิทธิคนอื่นบ้างเหรอ ไม่ได้ตั้งใจลอกอะไรใคร แต่เผอิญคิดได้เหมือนกัน แค่ทำเสร็จช้ากว่านิดเดียว ทุ่มเงินทุมเวลาลงไปแล้ว กลายเป็นว่าคนอื่นที่แค่คิดเร็วกว่านิดเดียวกลายเป็นเจ้าของ ของที่เราคิดเองแท้ๆ

By: -Rookies-
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 8 January 2010 - 15:03 #147872 Reply to:147818

แถมบางคนยังไม่ทันจะทำได้เป็นชิ้นเป็นอัน (แค่จินตาการเฉยๆ ) ก็เอาไปจดลิขสิทธิ์ไว้ละ คนที่มีความสามารถ มีเงิน มีเวลา ก็เลยพลอยวิจัยให้เกิดขึ้นจริงไม่ได้อีก ผมว่ามันมีทั้งข้อดีข้อเสียเหมือนคุณลิ่วกล่าวด้านล่างครับ คุ้มครองมากไปก็ไม่ดี คุ้มครองน้อยไปก็ไม่ดี ปัญหาคือมันหาความพอดีไม่ได้!!


เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!

By: toandthen
WriterMEconomics
on 9 January 2010 - 15:37 #148114 Reply to:147818
toandthen's picture

มาก่อนได้ก่อนสิครับ สามเดือนนี่ก็นานนะ ฉลาดกว่าแต่ถ้าไม่จดก็ไม่มีสิทธิ มันก็แค่นั้นเอง ถ้าลงทุนเยอะ กลัวมาก ก็ต้องรีบจดสิครับ มันไม่ได้ผิดที่ระบบหรอก มันผิดที่คนคิดช้ากว่าคนอื่นจดไม่ทันมากกว่า

สิทธิบัตรเป็นสิ่งที่ทำให้เกิด R&D มาโดยตลอดนะครับ ประเทศทั้งหลายที่ไม่มีระบบสิทธิบัตรกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วหรือไม่พัฒนาทั้งนั้นเลย เรื่องระยะเวลาอายุของสิทธิบัตรเป็นที่ถกเถียงมาโดยตลอด สุดท้ายมันก็อยู่ทีความคุ้มทุนของแต่ละองค์กรครับ แต่อย่าลืมว่าสิทธิบัตรมันรวมไปถึงสิทธิบัตรเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้วย ยาชนิดหนึ่งกว่าจะคิดค้นผลิตออกมาได้ตั้งนาน ถ้าได้แค่ 5 ปีใครจะมานั่งคิดยาครับ? มันไม่เหมือนกับอุตสาหกรรมไอทีที่ไหวตัวเร็วกว่าวงการการแพทย์ เพราะฉะนั้นแล้วผมว่า 10-15 ปีเหมาะสมกว่าแน่นอน บริษัทบางบริษัทมันเข็นสินค้าออกมาไม่เร็วเหมือนวงการไอทีแน่นอน

ส่วนเรื่องสิทธิบัตรมาเฟียทั้งหลายนั้นอันนี้มันก็อยู่ที่องค์กรที่ยินยอมให้สิทธิบัตรนั้นถูกจดทะเบียนได้ต่างหาก ถ้าองค์กรมันรับหมดแบบนี้มันก็มีสิทธิบัตรครอบจักรวาลเยอะแยะไปหมด (เช่นสหรัฐ) แต่ในยุโรปสิทธิบัตรหลาย ๆ อย่างไม่สามารถจดได้ รวมไปถึงพวก Software และพวก "วิธีการใช้งาน" ทั้งหลายไม่สามารถจดได้ เพราะฉะนั้นท่านั่งอึในสหรัฐอาจจะจดได้ แต่ในยุโรปอาจจะจดไม่ได้ ปัญหานี้คงต้องโทษ US Patent เองล่ะครับ

สรุป - มาก่อนได้ก่อน เหมือนที่จอดรถนั่นล่ะ ความยุติธรรมมันก็คือมาก่อนได้ก่อนน่ันล่ะ ไม่มีวิธีตัดสินความเที่ยงธรรมที่ดีกว่านี้อีกแล้วล่ะครับ


@TonsTweetings

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 9 January 2010 - 23:18 #148177 Reply to:148114
lew's picture

ผมเคยฟังงามสัมมนาของ FSF EU ว่าแม้กฏหมายจะไม่รับรอง Software Patent อย่างเป็นทากการ แต่ EU ก็จดกันได้แล้วผ่านทางการล็อบบี้แก้กฏเล็กกฏน้อยไปเรื่อยๆ จนจดได้ไปแล้ว


lewcpe.com, @wasonliw

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 8 January 2010 - 13:06 #147827 Reply to:147783
lew's picture

มันเกิดปัญหาย้อนกลับ ว่าหลายบริษัทวิจัยแล้วเอาไปดองไว้

ผลเลิศของระบบทรัพย์สินทางปัญญา คือการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรโลก หรืออย่างน้อยๆ ก็ประเทศที่ให้การคุ้มครองนั้นครับ ถ้าไม่มีการคุ้มครอง หรือการคุ้มครองน้อยเกินไป สุดท้ายก็ไม่เกิดการพัฒนาอย่างที่คุณกลัว แต่ในทางตรงกันข้าม หลายหน่วยงานพัฒนาเสร็จแล้ว ไม่ทำการค้า เอาไปเก็บไว้ ที่หนักกว่าคือเอาไปซ่อนไว้ไม่ให้ใครรู้ พอมีคนทำในรูปแบบเดียวกันกลายเป็นการละเมิดไป

ถึงจุดหนึ่งแล้วการคุ้มครองที่มากเกินไปจะกลายเป็นตัวทำให้ไม่เกิดการพัฒนาซะเอง เพราะกินบุญเก่ากันได้เรื่อยๆ

ตัวเลข 5 ปีผมว่าทำจริงคงยาก แต่ในทางหนึ่งแล้วมันเป็นการบอกสังคมว่าได้เวลาที่เราจะลดการคุ้มครองลงได้แล้ว


lewcpe.com, @wasonliw

By: zalapao
Android
on 8 January 2010 - 10:14 #147789 Reply to:147779
zalapao's picture

คิดเองขายเอง แล้วจะไปแคร์สิทธิบัตรคนอื่นเค้าทำไม

By: Thaina
Windows
on 8 January 2010 - 12:14 #147820 Reply to:147789

ก็คิดเองขายเอง แต่ดันไปซ้ำกับคนอื่น ก็โดนฟ้องเหมือนกัน

สิทธิบัตรนะครับไม่ใช่ลิขสิทธิ์

By: Wizard.
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 8 January 2010 - 17:12 #147902 Reply to:147779
Wizard.'s picture

ขอ + 1 ให้กับการกำหนดราคาสิทธิ์บัตรและค่าเสื่อมราคาสิทธิบัตร

แต่ก็ยังเห็นด้วยกับการให้มีสิทธิ์บัตรอยู่

By: zalapao
Android
on 8 January 2010 - 08:37 #147765 Reply to:147743
zalapao's picture

เห็นต่างครับ

By: Kiss on 8 January 2010 - 12:13 #147816 Reply to:147743

ผมหมายถึงการจดสิทธิบัตรคล้ายๆแบบนี้ครับ
คือ "ไม่ได้คิดว่ามันจะทำได้จริงๆเปล่า แต่คิดว่ามันน่าจะทำได้"
บางครั้ง ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ ไม่มีทุนวิจัยจริงๆ แต่รู้แนวโน้ม รู้ทิศทางของธรรมชาิติ แล้วก็ไปคอยดักเก็บค่าสิทธิบัตรโง่ๆ

By: Bluetus
iPhone
on 8 January 2010 - 14:41 #147865 Reply to:147743
Bluetus's picture

ผมว่าไม่ครับ

สมมุติคุณลงแรงพัฒนา เทคโนโลยีไป 40ล้านเหรียญ หลังจากนั้นบริษัทต่างๆก็เอาไปใช้ฟรี

ถ้าเป็นคุณคุณจะยอมไหมครับ ?

By: AdmOd
iPhoneWindows
on 8 January 2010 - 02:11 #147746

รวมเป็นชิ้นเดียวสักที

By: gotobanana
iPhoneAndroidBlackberrySymbian
on 8 January 2010 - 02:49 #147750
gotobanana's picture

เบาขึ้น บางขึ้น มันแม่งๆป่าวคับ
อาจคิดไปเองคนเดียวคับ

By: expextoz
In Love
on 8 January 2010 - 03:59 #147756 Reply to:147750
  • มีปีก
By: varavut
ContributorWindows PhoneAndroidBlackberry
on 8 January 2010 - 08:09 #147763 Reply to:147750

คงต้องเป็น เบาลง บางลง

อันนี้เค้าหมายถึงกระเป๋าคนซื้อหรือเปล่านา

By: aimakung
AndroidUbuntuWindowsIn Love
on 8 January 2010 - 12:13 #147819 Reply to:147750

มันควรเป็น (น้ำหนัก) เบาลง (ตัวจอ) บางลง รึเปล่านะ
ภาษาอังกฤษมันเป็นขั้นกว่านี่นา เลยติดเป็นคำว่าขึ้น

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้นะ :P

By: xxa
Android
on 8 January 2010 - 03:15 #147751

มาเป็นครูภาษาไทย
เทคนิค ไม่ใช่ เทคนิก

By: Zerothman
WriteriPhoneIn Love
on 8 January 2010 - 09:07 #147774 Reply to:147751

แก้แล้วครับ :)

By: John
iPhoneWindows PhoneAndroidSymbian
on 8 January 2010 - 09:05 #147771
John's picture

มีอะไรต้องรีบจด เดี๋ยวคนอื่นเอาไปจดแล้วกลับมาฟ้องจะเสียหายหนัก คาดว่าคงต้องคิดแบบนี้แน่ (โดนโนเกียฟ้องมาซะอ่วมเลย)

By: BonBon
iPhone
on 8 January 2010 - 09:09 #147775

เสียจะได้เปลี่ยนทั้งตัวทีเดียวใช้ยี่ห้ออื่นไม่ได้ part แพงกว่าชาวบ้านเยอะ :P

By: baanmaew on 8 January 2010 - 10:18 #147791

ความคิดเป็นของเราแต่ไม่จดสิทธิบัตร พอคนอื่นเอาไปใช้แล้วเค้าเอาไปจดสิทธิบัตรว่าเป็นของเค้าแล้วเอามาฟ้องเราทีหลังแล้วเราจะไม่เจ็บใจเอาหรือ ความคิดของเราแท้ๆ กรณีนี้มีให้เห็นมานักต่อนักแล้ว

By: 9rockky
AndroidIn Love
on 8 January 2010 - 18:08 #147918

คนเราเดี๋ยวนี้มักจะเหตุผลมาสนับสนุนความเชื่อของตน
มากกว่าความเป็นจริง เพื่อให้ความเชื่อของตนสมจริง

พิมพ์ให้อ่านเฉยๆไม่มีอะไร

By: ภุชงค์ on 8 January 2010 - 18:48 #147927 Reply to:147918
ภุชงค์'s picture

เห็นด้วยครับ

By: Night on 8 January 2010 - 22:08 #147975 Reply to:147918

+1

By: rabbitch on 9 January 2010 - 14:18 #148094

ีระบบสิทธิบัตรน่ะดี แต่คนที่ใช้ช่องโหว่ของระบบสิทธิบัตรไปในทางมิชอบตะหากที่ไม่ดี

By: Thaina
Windows
on 9 January 2010 - 18:29 #148145 Reply to:148094

ระบบมีช่องโหว่ก็ต้องพัฒนาให้ดีขึ้น อุดช่องโหว่ซะ

แต่ผู้ที่อาศัยช่องโหว่กวาดผลประโยชน์เข้าตัวจนมีอิทธิพล แล้วใช้อิทธิพลกดดันไม่ให้มีใครแก้ไขช่องโหว่นี้

ก็เรียกว่ามาเฟียไงล่ะครับ