เกิดเหตุปะทะคารมอีกแล้ว คราวนี้เป็นทีอดีตผู้บริหารของไมโครซอฟท์กับไมโครซอฟท์เอง
เมื่อสามวันก่อน คุณ Dick Brass อดีตรองประธานของไมโครซอฟท์ ได้เขียนบทความลง New York Times หัวข้อ "การทำลายความคิดสร้างสรรค์ของไมโครซอฟท์" (Microsoft’s Creative Destruction) โดยกล่าวว่า
คำถามที่สำคัญกว่าคือทำไมไมโครซอฟท์ไม่เคยนำพวกเรา [ผู้ใช้งาน]* ไปสู่อนาคตได้เลย ต่างกับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของคู่แข่ง ทั้งแท็บเล็ตอย่าง iPad, เครื่องอ่านอีบุ๊กอย่าง Kindle, สมาร์ทโฟนอย่างไอโฟนหรือแบล็คเบอร์รี่, บริการค้นหาข้อมูลอย่างกูเกิล, เครื่องเล่นเพลงอย่างไอพอดและบริการอย่างไอทูน หรือเว็บชุมชนออนไลน์อย่างเฟสบุ๊กหรือทวิตเตอร์
คุณ Brass ยังได้กล่าวต่ออีกว่า ไมโครซอฟท์มักนำเสนอแต่ผลประกอบการที่มาจากผลิตภัณฑ์ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อนานมาแล้ว (อย่างล่าสุดที่ไมโครซอฟท์ได้กำไรในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วถึง 6.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกิดจากการขายวินโดวส์ 7 และออฟฟิศเป็นหลัก (ดูข่าวเก่า โดยคุณ mk)) แต่เขาได้กล่าวว่าไมโครซอฟท์ไม่สามารถพึ่งพาผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเพื่อก้าวสู่อนาคตได้ยั่งยืนตลอดไป
คุณ Brass ได้กล่าวว่าไมโครซอฟท์กลายเป็น "คนที่งุ่มงาม ไร้ความสามารถในการเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรม" นอกจากนั้นไมโครซอฟท์ยังทำลายความคิดสร้างสรรค์ของนักคิด [พนักงาน]* เป็นประจำ ซึ่งเกิดจากการแข่งขันภายในบริษัทอย่างรุนแรงและไร้การควบคุม ส่งผลให้กลายเป็นการแย่งชิงและทำลายซึ่งกันและกันของฝ่ายที่ได้เปรียบกว่า [ทีมที่ดูแลโครงการใหญ่และสำคัญกว่า]* จึงไม่น่าแปลกอะไรที่ผู้บริหารที่ดูแลส่วนงานอื่นๆ อย่าง เพลง อีบุ๊ก โทรศัพท์ การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต และแท็บเล็ตจะพากันตบเท้าตีจากไมโครซอฟท์ไป
ตัวอย่างเช่น เมื่อตอนที่ทีมของคุณ Brass พัฒนาเทคโนโลยีการแสดงผลฟอนต์บนจอแอลซีดี ClearType ซึ่งช่วยเพิ่มความคมชัดให้กับฟอนต์ที่แสดงผล ทำให้ผู้ใช้งานอ่านได้ง่ายไม่ต้องเพ่งสายตามากนัก ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะทำให้ไมโครซอฟท์ได้เปรียบอย่างมากกับฮาร์ดแวร์ทุกตัวที่มีจอแสดงผล แต่วิศวกรในทีมวินโดวส์กลับไปเข้าใจว่าเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้การแสดงผลแย่ลง ส่วนหัวหน้าทีมออฟฟิศบอกเทคโนโลยีดังกล่าวคลุมเครือ (fuzzy) และทำให้เขาปวดหัวได้ ส่วนรองประธานกลุ่มอุปกรณ์พกพาบอกว่าเขาจะสนับสนุนเทคโนโลยี ClearType ต่อไปหากโอนย้ายโครงการและทีมพัฒนาไปอยู่ภายใต้การดูแลของเขาเอง ท้ายที่สุด ถึงแม้เทคโนโลยี ClearType ได้รับสิทธิบัตร การสนับสนุน และคำชมเชยจากสาธารณะ (บุคคลภายนอก) ก็ต้องใช้เวลาร่วมทศวรรษก่อนที่เทคโนโลยีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในวินโดวส์เอ็กซ์พี
ที่มา: New York Times ผ่าน C|Net
ควันยังไม่ทันจางหาย ไมโครซอฟท์ก็ได้เขียนบทความ "มาวัดผลงานของพวกเราจากผลกระทบในวงกว้างที่มันสร้างขึ้น" (Measuring Our Work by Its Broad Impact) ตอบโต้บทความของคุณ Brass ผ่าน The Official Microsoft Blog โดยคุณ Frank Shaw รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กร (Corporate Communications) ได้กล่าวว่า
มันไม่เพียงพอที่จะมีเพียงแค่ไอเดียที่ดีหรือบรรเจิดเท่านั้น พวกเรา (ไมโครซอฟท์) จะวัดผลงานเหล่านั้นจากผลกระทบในวงกว้างที่มันสร้างขึ้น
สำหรับบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงผู้คนจำนวนมาก นวัตกรรมไม่ใช่วัดแค่ความเร็ว (ที่ถูกนำเข้าสู่ตลาด) เท่านั้น แต่ต้องวัดระดับการเข้าถึงผู้ใช้ด้วย (innovation at scale, not just innovation at speed)
คุณ Shaw ได้ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์หลายตัว ทั้ง OneNote ที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับแท็บเล็ตและปัจจุบันก็กลายเป็นส่วนสำคัญของชุดโปรแกรมออฟฟิศ หรือเทคโนโลยี ClearType ที่ปัจจุบันถูกติดตั้งไปพร้อมกับวินโดวส์หลายพันล้านเครื่องทั่วโลก หรือ Xbox 360 ที่เป็นเครื่องเล่นเกมคอนโซลแรกของโลกที่รองรับการแสดงผลความละเอียดสูง (HD) และเชื่อมต่อเว็บชุมชนออนไลน์อย่างเฟสบุ๊กและทวิตเตอร์ รวมทั้ง Project Natal ที่นิตยสาร Popular Science, Popular Mechanics และ Time จัดว่าเป็นอันดับหนึ่งของสิ่งประดิษฐ์ของปีที่แล้ว^
ที่มา: The Official Microsoft Blog ผ่าน Engadget
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง
- Microsoft's challenge: Innovation, innovation, innovation
- บทความของคุณ Don Dodge ที่เพึ่งถูกให้ออกจากไมโครซอฟท์ครั้งล่าสุด (อ่านต่อ) หรือคุณ Bill Hill ที่เคยเป็นหัวหน้าทีมพัฒนา ClearType (อ่านต่อ)
หมายเหตุ
- *ข้อความใน [] ถูกตีความโดยผู้เขียนข่าวลง Blognone
- ^หัวเรื่อง ClearType, OneNote และ Xbox ที่คุณ Frank ยกใช้ตอบโต้นั้น เป็นการตอบโต้ตามประเด็นที่คุณ Brass เปิดไว้ในบทความที่ลง New York Times
มันส์พะย่ะค่ะ .. งานนี้ Apple
lingjaidee Sun, 02/07/2010 - 07:00
มันส์พะย่ะค่ะ .. งานนี้ Apple กับ Google ลูบปากซี๊ด .. ! อร่อย!
ใช่ๆ เพราะกูเกิลกินโดนัท
nuntawat Sun, 02/07/2010 - 07:27
In reply to มันส์พะย่ะค่ะ .. งานนี้ Apple by lingjaidee
ใช่ๆ เพราะกูเกิลกินโดนัท (Android Donut) และผลแอปเปิลก็อร่อยอยู่แล้ว :P
(แล้วมันเกี่ยวกันไหมเนี่ย??)
ป.ล. ข่าวนี้สูบแรงผมไปเกือบหมดเลยตั้งแต่เช้า เหอะๆๆ
เห็นด้วยที่ว่า
powerpat Sun, 02/07/2010 - 07:35
เห็นด้วยที่ว่า สร้างนวตกรรมใหม่ได้เร็วแค่ไหนไม่สำคัญ แต่จะเข้าถึงคนใช้ได้เร็วแค่ไหนที่สำคัญ
มีอยู่อย่างนึงที่ไมโครซอฟท์ทำ
Architec Sun, 02/07/2010 - 07:53
มีอยู่อย่างนึงที่ไมโครซอฟท์ทำแล้วเป็นที่ฮิตกันคือ "Ribbon"
บางเจ้ามีปุ่มให้ใช้งานแค่ขี้ประติ๋วก็ยังจะใส่ให้มันรกขนาดหน้าจอ - -*
ไมโครซอฟท์ก็ทำได้ดีอยู่ในด้านซอฟท์แวร์หลักๆที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย
แต่บางค่ายก็ไม่เคยคิดถึงหัวคนใช้ไล่ตั้งแต่หน้าเว็บที่ให้ดาวน์โหลดจนไปถึงการมานั่ง Config เอง
แต่ที่เค้าพูดมาก็เป็นจริงเหมือนกัน อย่าง Surface ที่นั่งเลียปากแฮ่ๆ มาตั้งหลายปี สุดท้ายก็กลายเป็นงานดองไปซะได้
ชอบ
modernkoro Sun, 02/07/2010 - 10:48
In reply to มีอยู่อย่างนึงที่ไมโครซอฟท์ทำ by Architec
ชอบ Ribbon
มันเป็นอะไรที่"คิดได้ไง"สุดๆ
+1 ribbon
illusion Sun, 02/07/2010 - 11:45
In reply to มีอยู่อย่างนึงที่ไมโครซอฟท์ทำ by Architec
+1 ribbon นี่สุดยอดมาก
แต่หลายอย่างที่พูดก็เป็นความจริงเลย Microsoft ไม่ค่อยปล่อยอะไรที่มัน Wow มาได้เยอะให้สมกับขนาดของบริษัท
+1 ชอบด้วย ตอนที่ office 2007
nblue Mon, 02/08/2010 - 00:19
In reply to มีอยู่อย่างนึงที่ไมโครซอฟท์ทำ by Architec
+1 ชอบด้วย
ตอนที่ office 2007 ออกมา รู้สึกว่านี่คืองานชิ้นโบว์แดงของ ms เลย
+1 ชอบ Ribbon
nuntawat Mon, 02/08/2010 - 04:05
In reply to มีอยู่อย่างนึงที่ไมโครซอฟท์ทำ by Architec
+1 ชอบ Ribbon
เย่
Witna Sun, 02/07/2010 - 08:00
เย่ รอดูนาทัลอย่างใจจดใจจ่อ
ยิ่งถ้า 360 มีไดรฟบลูเรย์ออกมาด้วย ผมว่าเพลย 3 ในญี่ปุ่นกระเทิอนแน่ๆ
ซัน เป็นอีกตัวอย่างที่ดี
onimaru Sun, 02/07/2010 - 08:02
ซัน เป็นอีกตัวอย่างที่ดี มีของดี ๆ ใหม่ ๆ แต่ไม่ค่อยทำเงิน คงเป็นแค่การมองต่างมุมระหว่างคนหลายกลุ่มที่ทำงานร่วมกันนั่นแหละ
ผมอ่านเรื่อง clear type
SilliCon Sun, 02/07/2010 - 08:02
ผมอ่านเรื่อง clear type แล้วเจ็บจิ๊ดๆ เลยครับ ทันทีที่ผมรู้จัดเทคโนโลยีนี้ผมก็รีบใช้ทันที
และใช้มาตลอดจนถึงปัจจุบัน ของดีๆ อย่างนี้ดันโดนดองซะงั้น
+1
jirayu Sun, 02/07/2010 - 16:46
In reply to ผมอ่านเรื่อง clear type by SilliCon
+1
+1 ผมใช้มาตั้งแต่มันติดมากับ
cloverink Sun, 02/07/2010 - 17:28
In reply to ผมอ่านเรื่อง clear type by SilliCon
+1 ผมใช้มาตั้งแต่มันติดมากับ window เลยครับ ไม่รู้ประวัติมันมาก่อน
เชื่อรึเปล่าว่าพี่ที่ office ผมไม่รู้จัก clear type - -"
พอผมเอา program มารันในเครื่องผมปรากฏว่า font ใน app เจ้งหมดเลย
ผมว่าเวลาใส่คำนำหน้าชื่อแบบ
thedesp Sun, 02/07/2010 - 08:24
ผมว่าเวลาใส่คำนำหน้าชื่อแบบ คุณ กับชื่อฝรั่งแล้วมันดูแปลกๆนะครับ
ปกติก็จะเรียกชื่ออย่างเดียว
ผมติดมาตั้งแต่สมัยไปเรียนที่ญ
nuntawat Sun, 02/07/2010 - 09:34
In reply to ผมว่าเวลาใส่คำนำหน้าชื่อแบบ by thedesp
ผมติดมาตั้งแต่สมัยไปเรียนที่ญี่ปุ่นนะครับ เขาจะลงท้ายด้วย -san (さん) ซึ่งก็แปลว่า คุณ นะครับ แล้วผมว่ามันก็สุภาพดี สมมติเราไม่รู้ชื่อคนที่เราจะเรียก เราเรียกว่า คุณ ก็น่าจะเหมาะกว่า นาย หรือ เธอ นะครับ
ผมชอบน่ะใช้คำว่าคุณ
mokin Sun, 02/07/2010 - 23:19
In reply to ผมติดมาตั้งแต่สมัยไปเรียนที่ญ by nuntawat
ผมชอบน่ะใช้คำว่าคุณ ดูดีกว่านาย และไมเขิลปากเท่าท่าน
ปล. อยากเห็น Microsoft surface แพร่หลายและมีประโยชน์มากกว่านี้
ผมเห็นว่าไม่โครซอฟท์พัฒนาอะไรมันก็มีดีหลายตัวน่ะ แต่ว่าทำเหมือนตามเทรนด์ทำแล้วทิ้งไม่สานต่อ
ไอ้เรื่องแบนด์นี้ผมว่าแย่มากๆ ดูอย่างชื่อดิ ตั้งยาวมาก กว่าจะจำได้บ้างที่ก็เปลี่ยชื่อไปซะอย่างนั้น
+1 เห็นด้วยมานานแล้วครับ
illusion Sun, 02/07/2010 - 11:43
In reply to ผมว่าเวลาใส่คำนำหน้าชื่อแบบ by thedesp
+1 เห็นด้วยมานานแล้วครับ แต่ไม่กล้าพูด ^^'
พอจะรู้ภาษาญี่ปุ่นมาบ้าง เลยเข้าใจครับที่คุณ nuntawat ใช้คำว่า คุณ เสมอ น่าจะติดมาจากการใช้ภาษาญี่ปุ่น ซึ่งดูสุภาพดีสำหรับการใช้ในภาษาญี่ปุ่น
แต่สำหรับภาษาไทยแล้ว เท่าที่เห็นส่วนใหญ่ กับชือฝรั่งส่วนใหญ่มักจะเรียกชื่ออย่างเดียวเลย (จริงๆ การอ้างอิงในหนังสือ-วิทยานิพนธ์ ก็ไม่มีการใช้คำนำหน้าเหมือนกัน) พอใช้ คุณ ก็เลยดูแปลกๆ ไปครับ
ในหนังสือ. วิทยานิพนธ์
nuntawat Sun, 02/07/2010 - 12:42
In reply to +1 เห็นด้วยมานานแล้วครับ by illusion
ในหนังสือ. วิทยานิพนธ์ ผมก็ไม่ได้พิมพ์ลงไปอยู่แล้วครับ
ผมเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส
lew Sun, 02/07/2010 - 11:47
In reply to ผมว่าเวลาใส่คำนำหน้าชื่อแบบ by thedesp
ผมเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสไตล์การเขียนนะ ไม่น่าจะเป็นประเด็นให้ต้องแก้อะไร ผมเองก็ใช้ "นาย" นำหน้าชื่อฝรั่งเหมือนกัน
ผมว่าธรรมดานะครับ
cloverink Sun, 02/07/2010 - 17:31
In reply to ผมว่าเวลาใส่คำนำหน้าชื่อแบบ by thedesp
ผมว่าธรรมดานะครับ
แทนที่จะโต้ตอบ..พิสูจน์ออกมาเ
Perl Sun, 02/07/2010 - 09:39
แทนที่จะโต้ตอบ..พิสูจน์ออกมาเลยดีกว่าครับ
เรื่องที่เคยผ่านมาแล้วก็ถือให้มันผ่านไป (ผมเองก็เล็ง Natal อยู่นะ)
แต่ผมเองก็อยากจะเห็นเขาเปิดตัวนวตกรรมใหม่อย่างที่เขาบอกอยู่เหมือนกัน..
(Zune Phone รึ ? ...ยังไม่ตื่นเด้นพอ...)
ส่งผลให้กลายเป็นการ
Kurtumm Sun, 02/07/2010 - 09:59
ส่งผลให้กลายเป็นการ "แย่งชิ่ง" และทำลายซึ่ง - แย่งชิง
ถ้าผมเป็นผู้บริหารนะ
TOTEETIME Sun, 02/07/2010 - 10:30
ถ้าผมเป็นผู้บริหารนะ ผมจะรู้สึกว่าคำวิจารณ์นี้เป็นข้อมูลสำคัญที่มีค่ามาก
เพราะมันความคิดเห็นของคนที่รู้จักและเข้าใจในบริษัทเป็นอย่างดี ออกมาพูดเมื่อสามารถพูดได้อย่างอิสระ
ควรจะเอามาพิจาณาว่าเป็นจริงรึเปล่า และนำไปแก้ไข ไม่ใช่มาแก้ตัวแบบนี้
วัดระดับการเข้าถึงของผู้ใช้ด้
znop Sun, 02/07/2010 - 11:01
วัดระดับการเข้าถึงของผู้ใช้ด้วย
คนเข้าถึงเยอะ ไม่ได้หมายความว่าเขาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพนะครับ
มันเป็นการเอาปริมาณมาข่มคุณภาพหรือเปล่าครับ
ไอ้ ribbon นี่ผมเจอมาหลายคนแล้วนะ หาอะไรที่เคยใช้ไม่เจอเลย
นวัตกรรมของไมโครซอฟท์คือ
เอาสิ่งที่ฮิตในตลาดตอนนั้นๆ มายัดลงไปใน windows แล้วก็บอกว่ามันคือมาตรฐานของตลาด
instant messenger > windows messenger > live messenger
ข้ออื่นผมเห็นด้วย แต่ Movie
mk Sun, 02/07/2010 - 17:34
In reply to วัดระดับการเข้าถึงของผู้ใช้ด้ by znop
ข้ออื่นผมเห็นด้วย แต่ Movie Maker นี่คนใช้เยอะอยู่นะครับ คือฟีเจอร์เพียงพอสำหรับงานพื้นฐานในราคาที่ไม่ต้องจ่าย
Movie Maker ของ Vista ทำ
Bigta Sun, 02/07/2010 - 21:45
In reply to ข้ออื่นผมเห็นด้วย แต่ Movie by mk
Movie Maker ของ Vista ทำ Slide Show ได้เจ๋งมากๆ ครับ แต่ไม่รู้ทำไมพออัพเกรดมาเป็น Windows Live แล้วมันห่วยลง
เอา Timeline ของเราคืนมา
jirayu Mon, 02/08/2010 - 02:32
In reply to Movie Maker ของ Vista ทำ by Bigta
เอา Timeline ของเราคืนมา
Adventure
NuttTaro Sun, 02/07/2010 - 11:09
Adventure
โปรเจค นาธาน ชื่อก็บอกอยู่คับ
zixs Sun, 02/07/2010 - 12:02
โปรเจค นาธาน ชื่อก็บอกอยู่คับ = ="
สร้างนวตกรรมใหม่ได้เร็วแค่ไหนไม่สำคัญ แต่จะเข้าถึงคนใช้ได้เร็วแค่ไหนที่สำคัญ
แน่นอนครับ เข้าถึงคนใช้ได้เร็วมาก เข้าถึงผู้ใช้มาก จนทำให้ผู้ใช้เบื่อกันเลยทีเดียว
จานผลงานที่ผ่านมาของ microsoft ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่ผิดหวังไปตามๆกัน
ด้วยการพัฒนาที่ล่าช้า(มาก) พร้อมทั้งเมื่ออกมาแล้วยังทำได้ไม่ดีอีกต่างหาก
ปล.ข้อมูลข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคล ไม่มีใครถูกหรือใครผิด
Project Natal ผมว่ามัน Wow
Perl Sun, 02/07/2010 - 12:05
In reply to โปรเจค นาธาน ชื่อก็บอกอยู่คับ by zixs
Project Natal ผมว่ามัน Wow อยู่นะครับ
เคยลองดูข้อมูลหรือคลิป Natal จากงานแสดง E3 หรือยังครับ
ในความรู้สึกผมมันอาจทำให้โลก Computer แบบ Minority Report ขยับเข้ามาใกล้อีกแค่เอื้อม..
ผมว่าเขาคงหมายถึง... มัน wow
mehn Sun, 02/07/2010 - 14:36
In reply to Project Natal ผมว่ามัน Wow by Perl
ผมว่าเขาคงหมายถึง... มัน wow จริง แต่พัฒนาช้าเหลือเกินจนคนเขาจะเลิก wow ไปแล้วก็ยังไม่ออกมา
ออกปลายปีนี้ครับ.. ขนาดตัว
Perl Sun, 02/07/2010 - 18:21
In reply to ผมว่าเขาคงหมายถึง... มัน wow by mehn
ออกปลายปีนี้ครับ..
ขนาดตัว Motion Controller ของ PS3 ก็ยังไม่ออกนะครับ..
ปล.มันเป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อนหน่ะครับ
Project Natal น่ะ Wow แน่ แต่
redarmy Sun, 02/07/2010 - 21:14
In reply to Project Natal ผมว่ามัน Wow by Perl
Project Natal น่ะ Wow แน่
แต่ โปรเจค นาธาน ...อ่านดี ๆ นะครับ ฮ่าๆๆ
เถียงกันออกสื่อแบบนี้
comforu.com Sun, 02/07/2010 - 12:10
เถียงกันออกสื่อแบบนี้ เป็นการโฆษณาแบบนึง
คล้ายๆกับวงการบันเทิงบ้านเราเ
emptyzpace Sun, 02/07/2010 - 16:59
In reply to เถียงกันออกสื่อแบบนี้ by comforu.com
คล้ายๆกับวงการบันเทิงบ้านเราเปี๊ยบ
โดยส่วนตัวผมชอบ surface ของ
Pla II Sun, 02/07/2010 - 14:48
โดยส่วนตัวผมชอบ surface ของ microsoft คิดว่าหากนำมาพัฒนาต่อยอดเป็น Tablet น่าจะดีไม่น้อย ผมชอบที่มันสามารถดึงข้อมูลจากโทรศัพท์ได้ทันที่ที่วางโทรศัพท์มือถือ ลงบนหน้าจอของ surface มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากในครั้งแรกที่เห็นเดโม แต่มันก็น่่าเสียดายที่ของดีๆ มักไม่ได้รับการต่อยอดเพื่อพัฒนาสู่ตลาดวงกว้าง
เหมือนอย่างบทความหนึ่งที่เคยอ่าน(น่าจะจาก blognone) ที่บอกว่า "Microsoft เป็นสุดยอดของนักซื้อ และนักเลียนแบบ" ผมว่ามันน่าจะจริง สังเกตได้จากสิ่งต่างๆที่เป็นสินค้าของ Microsoft ส่วนใหญ่ได้มาจากการซื้อบริษัทข้างนอก แต่นวัตกรรมจากข้างในบริษัทเองมักจะโดนเก็บขึ้นหิ้ง หรือไม่คอยได้เหลียวเลเท่าที่ควร
ผมว่า Microsoft น่าจะไปศึกษาบทเรียนจากประวัติศาสตร์ของ Sony ที่ปัจจุบันโดน Samsung ตีตลาดกระจุย เพราะความผิดผลาดในการบริหารที่ยังยึดติดอยู่กับความสำเร็จเดิมๆ และการไม่ลงรอยกันระหว่างผู้บริหารแต่ละแผนกที่คิดว่าผลิตภัณฑ์ของตนเองดีที่สุดและยัดเยียดให้แผนกอื่นต้องใช้ ที่เห็นได้ชัดคือ MemoryStick ที่มากับ SonyEricsson แต่ดีหน่อยที่รุ่นหลังๆมาหันไปใช้ microSD ที่ถูกกว่าแทน
ไอ้คลิปโต็ะที่ออกมานั้น นาธาน
zixs Mon, 02/08/2010 - 02:22
In reply to โดยส่วนตัวผมชอบ surface ของ by Pla II
ไอ้คลิปโต็ะที่ออกมานั้น นาธาน ด้วยรึเปล่าคับ เพราะมันน๊านนานนานจนหายไปจากโลกนี้แล้ว
ms ชอบโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่กำลังพัฒนาอยู่ แล้วจู่ๆก็หายไปไม่เห็นวี่แววมันอีกเลย
น่าจะทำให้เสร็จๆก่อนนะครับ แล้วค่อยออกมาโฆษณา อย่างเช่นบริษัทอื่น(ไม่ได้ระบุนะครับ)
จะทำให้เกิดผลดีกับแบรนของบริษัทมากกว่าที่ออกมาโฆษณาลอยๆแล้วหายไป
ปล.ผมเห็นมันมีแต่คลิปจริงๆนะ ช่วยทำออกมาเป็นผลิตภัณฑ์สักชิ้นที
+1 ครับ กลับกัน
jirayu Mon, 02/08/2010 - 02:33
In reply to ไอ้คลิปโต็ะที่ออกมานั้น นาธาน by zixs
+1 ครับ
กลับกัน ค่ายผลไม้จะไม่โฆษณาสิ่งที่กำลังทำเลย (สำหรับสิ่งใหม่ๆ) แล้วจะเปิดตัวให้ช็อคโลก ยิ่งใหญ่อลังการ
ผมว่านี่เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของผลไม้ดู Wow ด้วยครับ เปิดตัวพร้อมใช้จริงเล ย ส่วนของไมโครซอฟท์ Wow จนเลิก wow มันก็ไม่มาสักที
+1 Apple มี timing
McKay Mon, 02/08/2010 - 02:47
In reply to +1 ครับ กลับกัน by jirayu
+1 Apple มี timing ที่ดีมากเสมอมาทั้งด้านการมองตลอดว่าควรจะลงไปเล่นตอนไหนและการปล่อยของ ส่วน MS นั้น wow จนลืม wow แล้วก็ยังไม่มา เผลอๆตอนปล่อยของแล้วมันก็ไม่ดีเท่าที่เคย wow กันไว้(ดู Vista เป็นตัวอย่างได้) อย่าง Project Natal ผมก็ไม่เชื่อว่ามันจะทำได้สมบูรณ์แบบอย่างที่โฆษณาไว้ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน หรือถ้าทำได้สมบูรณ์แบบจริงราคาก็คงเอื้อมไม่ถึงอย่างแน่นอน
+1 ด้วยคนครับ ชอบ surface
ppulpipatnan Mon, 02/08/2010 - 12:47
In reply to +1 ครับ กลับกัน by jirayu
+1 ด้วยคนครับ ชอบ surface มากก ถ้ามันมาอยู่ในกำแพงบ้านเราๆ ได้คงดี
แต่ทุกวันนี้ยังไม่ได้เห็นตัวจริงสักที - -''
เอ้อ รู้สึก surface
jirayu Mon, 02/08/2010 - 20:35
In reply to ไอ้คลิปโต็ะที่ออกมานั้น นาธาน by zixs
เอ้อ รู้สึก surface จะมีขายจริงนะครับ ทำขายแล้ว แต่มันเงียบไปเลย ไม่โปรโมท - -"
เอามาให้ดูครับ http://www.mic
Ford AntiTrust Mon, 02/08/2010 - 20:51
In reply to เอ้อ รู้สึก surface by jirayu
เอามาให้ดูครับ
http://www.microsoft.com/surface/Pages/HowToBuy/HowToBuy.aspx
MSSurfOrder_US.pdf
Commercial Hardware
Surface Commercial Hardware Unit – Metal JUH-00017 $12,500
Surface Commercial Hardware Unit – Black JUH-00018 $12,500
Developer Hardware & Software
Surface Developer Hardware Unit – Metal JUI-00018 $15,000
Surface Developer Hardware Unit – Black JUI-00019 $15,000
Surface Installation Service JUJ-00001 $720
Surface Installation Service—After Hours JUJ-00007 $1000
Surface Semi-Annual Maintenance Service JUJ-00087 $440
Surface Semi-Annual Maintenance Service—After Hours JUJ-00088 $670
Surface Protection Plan JUJ-00086 $1,800
Shipping (per unit) 3-5 days JUJ-00005 $240
Expedited Shipping (per unit) 1-2 days JUJ-00006 $530
ตัวละสี่แสนกว่าๆเอง T-T
jirayu Mon, 02/08/2010 - 22:47
In reply to เอามาให้ดูครับ http://www.mic by Ford AntiTrust
ตัวละสี่แสนกว่าๆเอง T-T
มีค่าติดตั้งและค่า ship
Ford AntiTrust Mon, 02/08/2010 - 22:48
In reply to ตัวละสี่แสนกว่าๆเอง T-T by jirayu
มีค่าติดตั้งและค่า ship ด้วยนะ รวมๆ แล้วก็ตัวละเกือบครึ่งล้าน !!!!
ผมเห็นของเล่นหลายๆอย่างจาก
jirayu Sun, 02/07/2010 - 16:49
ผมเห็นของเล่นหลายๆอย่างจาก Microsoft Research นั้นทำออกมาได้ดีแล้วก็น่าเล่นครับ แต่สุดท้ายก็โดนดองเก็บเข้ากรุไป (อย่าง Xcite เป็นต้น)
อีกอย่างไมโครซอฟท์ทำอะไรช้าและงุ่มง่ามจริงๆครับ ออก Demo มาน่าเล่น แต่กว่าจะออกตัวจริงคนก็เลิกสนไปแล้ว
หลายอย่างไม่ถูกเก็บเข้ากรุนะค
nuntawat Sun, 02/07/2010 - 18:19
In reply to ผมเห็นของเล่นหลายๆอย่างจาก by jirayu
หลายอย่างไม่ถูกเก็บเข้ากรุนะครับ แต่ว่าถูกรวมเข้าไปกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นของไมโครซอฟท์
เลยนึกได้ว่า
wiennat Sun, 02/07/2010 - 19:19
In reply to หลายอย่างไม่ถูกเก็บเข้ากรุนะค by nuntawat
เลยนึกได้ว่า ผลิตภัณฑ์หลายตัวของ MS เปิดตัวดี แต่พอเป็น Product จริงกลับไม่โฆษณาตัวเองซะงั้น
เท่าที่อ่านบทความต้นฉบับ
joecole Sun, 02/07/2010 - 17:38
เท่าที่อ่านบทความต้นฉบับ (Microsoft’s Creative Destruction)
น้ำเสียงเหมือนพนักงานที่ออกจากบริษัทเก่า
ที่บ่นด้วยความเสียดายที่ผลงานตัวเองไม่มีโอกาสเกิด
ส่วนเรื่อง "ความขัดแย้ง" ในองค์กรในบทความนั้น
อารมณ์เหมือนหน่วยงานที่ขัดขากันเอง ตามสไตล์การเมืองในบริษัท นั่นแหละ
ซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะในองค์กรใหญ่ๆ
"นวัตกรรมไม่ใช่วัดแค่ความเร็ว
Bluetus Sun, 02/07/2010 - 20:13
"นวัตกรรมไม่ใช่วัดแค่ความเร็ว เท่านั้น แต่ต้องวัดระดับการเข้าถึงผู้ใช้ด้วย"
มันก็เลยไม่ค่อยออกมาซะทีสินะ - -'
แต่ทำไม บริษัทอื่นเค้าออกมาแล้วเข้าถึงผู้ใช้ได้ในวงกว้างเช่นกันละ
Microsoft
chris123 Mon, 02/08/2010 - 02:24
Microsoft เก่งด้านก๊อปชาวบ้านครับ
เห็นใครได้ดีก็ไปลอกเขามา
DOS ก็ไปซื้อของคนอื่นมา
GUI ก็ลอกแมคมา
เรื่อง GUI
jirayu Mon, 02/08/2010 - 02:35
In reply to Microsoft by chris123
เรื่อง GUI นี่ผมว่าก็คงไม่ผิดนะ ที่ค่ายอื่นจะอยากมีมั่ง (ขนาดแอปเปิลไปเห็น GUI [น Xerox ยัง "อยากมีมั่ง" เลยครับ)
ถ้าจะว่า GUI Windows ลอกแิอปเปิลมา ก็คงต้องพาลไปหา GNOME,KDE,CDE อะไรพวกนั้นด้วยครับ...
ซิลิกอนวัลเล่ครับ อิอิ window
zixs Mon, 02/08/2010 - 02:51
In reply to เรื่อง GUI by jirayu
ซิลิกอนวัลเล่ครับ
อิอิ
windows ไม่ได้ลอกครับ แต่เอาของเค้ามาดัดแปล(มีต้นฉบับที่เป็นโค้ดให้ดูด้วยครับ)
ไม่มีบริษัทไหนที่ไม่ copy
McKay Mon, 02/08/2010 - 02:43
In reply to Microsoft by chris123
ไม่มีบริษัทไหนที่ไม่ copy อะไรใครหรอกครับ
ถ้าคิดง่ายๆก็คิดได้แบบนี้ละคร
Perl Mon, 02/08/2010 - 08:34
In reply to Microsoft by chris123
ถ้าคิดง่ายๆก็คิดได้แบบนี้ละครับ..
จริงแล้ว หลายๆอย่างของ Apple
ppulpipatnan Mon, 02/08/2010 - 12:50
In reply to Microsoft by chris123
จริงแล้ว หลายๆอย่างของ Apple ก็เกิดจากการซื้อบริษัทเล็กๆมาทำต่อเองนะครับ ในกรณีของ Google ก็เช่นเดียวกัน
เพราะอะไรเหรอครับ เพราะเวลามันไม่ค่อยท่าไงครับ บริษัทพวกนี้มีเงินสดเหลืออยู่แล้ว ถ้าต้องจ่ายเงินเยอะขึ้นแต่ประหยัดเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไป 1-2 ปี ทำไมเค้าจะไม่ทำล่ะครับ
เพราะเวลาสำคัญมากๆ ช้าไปก้าวเดียวก็อาจจะหมดโอกาสแล้วน่ะครับ
ผมคิดถึง silverlight ครับ
zixs Mon, 02/08/2010 - 03:00
ผมคิดถึง silverlight ครับ ตอนนั้นที่ออกมาผมยังงงๆอยู่ตอนที่หน้าเว็บของ micrsoft ส่งให้ดาวโหลด ก็ดาวโหลดไปโดยที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร จนปัจจุบันนี้ ผมไม่เจอหน้าเว็บไหนที่ทำด้วย silverlight เลยอ่ะ = ="
ปล.นู๋อยากดูว่ามันดีกว่า flash รึเปล่า แงๆ
ปล2.ว่าแต่มันหายไปไหนแล้วอ่ะครับ หาไม่เจอจริงๆ เวลาเขียนเขียนบนไหนด้วยครับ(ไม่ได้กระแทกแดกดันนะครับ ไม่รู้จริงๆ)
ในไทยไม่นิยมเท่าไหร่นัก
jirayu Mon, 02/08/2010 - 06:20
In reply to ผมคิดถึง silverlight ครับ by zixs
ในไทยไม่นิยมเท่าไหร่นัก แต่ฝรั่งก็เห็นใช้กันเยอะอยู่ (แต่ยังไม่ได้เท่าแฟลชอยู่ดี)
ซิลเวอร์ไลท์ เร็วกว่าแฟลช และลื่นกว่าแฟลช (ในขณะที่ มันกินทรัพยากรพอๆกัน)
ซิลเวอร์ไลท์ ถ้าผมจำไม่ผิด ไม่ได้ใช้วิธีวาดบนสเตจแล้วเขียนโค๊ดอยู่ข้างหลัง แต่ซิลเวอร์ไลท์ใช้วิธีเขียนโค๊ดทั้งหมดเลย
แต่ส่วนตัวก็ไม่เคยเขียนซิลเวอร์ไลท์หมือนกัน
ซิลเวอร์ไลท์,
printpi Tue, 02/09/2010 - 20:01
In reply to ในไทยไม่นิยมเท่าไหร่นัก by jirayu
ซิลเวอร์ไลท์, แฟลช
โยนมันทิ้งขยะไปทั้งคู่เลยค่ะ
แล้วรอต้อนรับ
HTML5
ผมว่าน่าจะอีกนานนะ
jirayu Tue, 02/09/2010 - 21:45
In reply to ซิลเวอร์ไลท์, by printpi
ผมว่าน่าจะอีกนานนะ กว่าจะได้ใช้ HTML5 กันจริงๆจังๆ
อย่างน้อยตอนนี้ผมคิดว่ามาตรฐานกลางในการแสดงวิดีโอหรือไฟล์เสียง ควรจะใช้แฟลชหรือซิลเวอร์ไลท์ต่อไปครับ เพราะตัว HTML5 เอง มันยังตกลงเรื่อง Codec ไม่เสร็จสิ้นเลยครับ :P
แต่ถ้าได้ข้อตกลงที่แน่นอน ก็ย้ายกันไปได้เลยครับ ;)
ถ้า iphone ยังไม่รับ flash
lew Tue, 02/09/2010 - 22:39
In reply to ผมว่าน่าจะอีกนานนะ by jirayu
ถ้า iphone ยังไม่รับ flash ไปเรื่อยๆ และยังขายดีต่อไปก็ไม่แน่ครับ อาจจะมาเร็วกว่าที่คิด
แต่ถ้าไม่มี JIT แล้วจะให้ทำ animation ด้วย JS นี่ก็ดูท่าจะไม่รอดแฮะ
อยากดู silverlight
phana Mon, 02/08/2010 - 06:03
อยากดู silverlight ก็เข้าไปที่เว็บ KBANK ดิครับ
ยังเห็นด้วยกับ
nthree Wed, 03/31/2010 - 01:35
ยังเห็นด้วยกับ อดีตรองประธานไมโครซอฟนะ Microsoft ไม่ใช่ชื่อของบริษัทที่ผลิต innovation เท่าไหร่นัก
สะดุดกับชื่อ.....
criminals Sat, 08/28/2010 - 11:03
สะดุดกับชื่อ..... Dick.....Brass -*-