Nestle พัฒนาผลิตภัณฑ์ตามแนวทาง Balanced Diet แค่อร่อยไม่พอ ต้องมีคุณค่าโภชนาการ และมีความสุข

Brand Inside - 23 April 2024 - 17:11

การจะกินอาหารให้ดีทั้งเพื่อสุขภาพและเพื่อความสุข เรียกว่ามีความสมดุลทั้งความอร่อย ได้โภชนาการและยังได้ความสุขจากการกินด้วย เป็นเรื่องทุกคนอยากทำแต่ไม่ใช่เรื่องง่าย

Nestle (เนสท์เล่) ได้เผยผลการศึกษาจากเนสท์เล่และคันทาร์ในปี 2022 พบว่า 91% ของคนไทย ต้องการกินอาหารที่ดี แต่มีเพียง 42% เท่านั้น ที่สามารถทำได้ โดย 3 อุปสรรคหลัก คือ ราคาอาหารเพื่อสุขภาพสูงเกินไป, ติดกินขนม และ ไม่มีเวลาเพียงพอในการเตรียม นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคอื่นๆ เช่น นิสัยการกิน, การเข้าถึง, รสชาติที่ไม่อร่อย และการเข้าสังคม

nestle

เนสท์เล่ ประเทศไทย เห็นถึงอุปสรรคเหล่านี้ จึงพัฒนา 2 กลยุทธ์หลัก คือ Good for You และ Good for the Planet เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่อร่อย มีคุณค่าโภชนาการ และสร้างการกินอยู่อย่างสมดุลให้กับผู้บริโภค โดยมาพร้อมกับแคมเปญ “คำเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่” Every Little Bite Matters เพื่อส่งเสริมให้คนไทยเลือกรับประทานอย่างเหมาะสม มีความสุขทั้งกายและใจ

nestle

พัฒนากลยุทธ์หลัก แบ่งพอร์ต และ สื่อสาร เพื่อ Balanced Diet

วิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า บอกว่า เนสท์เล่ ต้องการสนับสนุนผู้บริโภคสู่แนวคิดการกินอยู่อย่างสมดุล หรือ Balanced Diet จึงได้พัฒนากลยุทธ์เป็น 2 ส่วน คือ การจัดแบ่งพอร์ตผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคที่เหมาะสม และ การสื่อสารและบริการไปยังผู้บริโภคเพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง โดยส่วนของการจัดพอร์ตผลิตภัณฑ์ แบ่งได้ 3 ส่วน ประกอบด้วย

  • กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคทุกวัน (Everyday Goodness) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของเนสท์เล่ ประเทศไทย เช่น เนสกาแฟ ไมโล นมตราหมี เนสวีต้า น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ น้ำแร่ธรรมชาติมิเนเร่ และแม็กกี้
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านโภชนาการเฉพาะกลุ่ม (Tailored Nutrition) คือผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของผู้บริโภคบางกลุ่ม เช่น ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจ เนสท์เล่ เฮลท์ ไซเอนซ์ และผลิตภัณฑ์เพื่อโภชนาการเด็ก เช่น ผลิตภัณฑ์แบรนด์ เอส 26 ตราหมี คาร์เนชั่น และแนน
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์ของว่าง (Mindful Indulgence) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถรับประทานได้อย่างพอประมาณ เพื่อสร้างสมดุลที่ดีทางจิตใจ อาทิ ไอศกรีมเนสท์เล่  คิทแคท เนสท์เล่ คอฟฟีเมต รวมถึงเครื่องดื่มเนสท์เล่ที่จำหน่ายในช่องทางการบริโภคนอกบ้าน

nestle

จัด 2 กลยุทธ์เสริมการแบ่งพอร์ตผลิตภัณฑ์เพื่อเติบโตยั่งยืน

ส่วนของการแบ่งพอร์ตผลิตภัณฑ์ยังมีอีก 2 กลยุทธ์ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่

กลยุทธ์แรก: ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (Grow a Healthier Portfolio) ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคทุกวัน และกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านโภชนาการเฉพาะกลุ่ม ผ่านการมอบทางเลือกที่ดีขึ้นเพื่อสุขภาพ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติที่อร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการ พร้อมทั้งลดน้ำตาลและโซเดียมในผลิตภัณฑ์ ปัจจุบัน เนสท์เล่มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 100 รายการที่ได้รับการรับรองสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice Logo) นับเป็นจํานวนผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองสูงสุดในบรรดาบริษัทอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดในไทย นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เสริมแร่ธาตุและวิตามิน ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์โภชนาการสำหรับเด็กและผลิตภัณฑ์นม รวมถึงผลิตภัณฑ์บางชนิดสำหรับผู้ใหญ่ ส่งต่อผลิตภัณฑ์ในราคาที่เข้าถึงได้ ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของผู้บริโภคทั่วประเทศ

กลยุทธ์ที่ 2: ส่งเสริมการรับประทานอย่างสมดุล (Guide with Balanced Choice) สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของว่าง ด้วยการปรับสูตรอาหารให้ผู้บริโภคได้รับประทานอย่างพอเหมาะ เช่น ไอศกรีมสำหรับเด็กทุกชนิดที่ให้พลังงานเพียง 110 กิโลแคลอรีหรือน้อยกว่า ขนมแบบมัลติเสิร์ฟสำหรับการบริโภคแบบหลายคนหรือบริโภคหลายครั้ง จะมีการระบุปริมาณการรับประทานที่เหมาะสมสำหรับแต่ละมื้ออย่างชัดเจนบนบรรจุภัณฑ์ 

แคมเปญใหญ่ประจำปี Every Little Bite Matters

และเพื่อเป็นการสนับสนุนแนวคิดและกลยุทธ์ทั้งหมด เนสท์เล่ ได้เปิดตัวแคมเปญ Every Little Bite Matters คำเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้เลือกรับประทานให้สมดุล ทั้งอาหารที่ดีต่อร่างกายและอาหารที่ดีต่อใจในปริมาณเหมาะสม

แคมเปญนี้ประกอบด้วยการสื่อสารครบวงจรที่มุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรับประทานอาหารอย่างสมดุล จุดประกายให้คนไทยลองเปลี่ยนคำเล็ก ๆ ในมื้ออาหาร สร้างสมดุลในทุกวัน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ผ่านวิธีง่าย ๆ เช่น การจับคู่เพิ่มประโยชน์ให้อาหาร การควบคุมปริมาณให้เหมาะกับความต้องการของร่างกาย และการจัดมื้ออาหารให้สมดุล รวมทั้งเดินสายให้ความรู้คนไทยผ่านโครงการภารกิจพิชิตสุขภาพดี และกิจกรรมเนสท์เล่คาราวานครอบครัวแข็งแรง ตั้งเป้าเข้าถึงผู้บริโภคกว่า 120,000 คนใน 200 ชุมชนทั่วประเทศตลอดปี 2024

ขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา Good for the Planet

สำหรับส่วนของกลยุทธ์ Good for the Planet ขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา แบ่งเป็น 4 ส่วนหลัก คือ

  • บรรจุภัณฑ์ต้องมีความยั่งยืน โดย 96% ของบรรจุภัณฑ์เนสท์เล่ประเทศไทย ได้รับการออกแบบให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้
  • ดูแลและจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ปัจจุบันโรงงานผลิตน้ำดื่มของเนสท์เล่ที่อยุธยาสามารถชดเชยน้ำกลับคืนสู่ชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้ 100%
  • มีแหล่งวัตถุดิบที่ยั่งยืน จัดหาเมล็ดกาแฟและน้ำนมดิบอย่างยั่งยืน 100% รวมถึงให้การสนับสนุนเกษตรกรผู้เพาะปลูกกาแฟและเลี้ยงโคนม
  • ลดการปล่อยคาร์บอน ตามแผนปี 2025 ลดให้ได้ 20% ผ่านการใช้พลังงานหมุนเวียน รถพลังงานไฟฟ้า และเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ ตามแนวทางของแผนใหญ่ Net Zero 2050 

แผนทั้งหมดยังดำเนินการภายใต้หลักการ ESG ทำเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ในทุกมิติ โดยทำเพื่อสิ่งแวดล้อมตามกลยุทธ์ Good for the Planet ทำเพื่อสังคมตามกลยุทธ์ Good for You และยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย โดย 40% ของผลิตภัณฑ์ในไทย มีราคาต่ำกว่า 10 บาท นอกจากนั้นก็มีราคา 15-20 บาท เป็นทางเลือกด้วย

ในขณะที่ต้นทุนสินค้าและราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น เป็นสิ่งท้าทายภาคธุรกิจไทย เนสท์เล่ มีการปรับตัว ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพ สามารถจัดการต้นทุน รักษาระดับราคาของผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ ให้ไม่ต้องเพิ่มราคาสินค้า

พร้อมกันนี้ เนสท์เล่ยังจัดสรรงบลงทุนประมาณ 8,000 ล้านบาท ในการขยายสายการผลิต เริ่มตั้งแต่ปี 2021 ที่ผ่านมาจนถึงปี 2026 แบ่งเป็นการขยายสายการผลิตที่โรงงานยูเอชที เพื่อเสริมแกร่งให้ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มยูเอชทีทั้งหมด ภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ เช่น ไมโล ตราหมี S-26 และคาร์เนชั่น พร้อมขยายสายการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารแมวเกรดซูเปอร์พรีเมียมชนิดเปียกและชนิดแห้งที่โรงงานเนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ ทั้งสองแห่ง โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามายกระดับการผลิตอาหารเพื่อสัตว์เลี้ยงให้มีรสชาติและรูปแบบที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์กลุ่มคนเลี้ยงสัตว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี

เนสท์เล่เป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ครอบคลุม 188 ประเทศทั่วโลก พนักงานเนสท์เล่กว่า 270,000 คน เนสท์เล่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้คนและสัตว์เลี้ยงครอบคลุมในทุกช่วงวัย มากกว่า 2,000 แบรนด์ ทั้งที่เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก เช่น เนสกาแฟ เนสเปรสโซ ไมโล แม็กกี้ ตลอดจนแบรนด์ที่เป็นที่ชื่นชอบในท้องถิ่นอย่าง ตราหมี หรือมิเนเร่ ปัจจุบัน เนสท์เล่ก่อตั้งมานานกว่า 150 ปี โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเวเวย์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Nestle พัฒนาผลิตภัณฑ์ตามแนวทาง Balanced Diet แค่อร่อยไม่พอ ต้องมีคุณค่าโภชนาการ และมีความสุข first appeared on Brand Inside.

Google Podcasts เตรียมปิดให้บริการ ใช้ได้ถึงเดือน มิ.ย. ปี 2024

iPhonemod - 23 April 2024 - 16:55

Google Podcasts ประกาศจะยุติการให้บริการสำหรับผู้ใช้ต่า […]

The post Google Podcasts เตรียมปิดให้บริการ ใช้ได้ถึงเดือน มิ.ย. ปี 2024 appeared first on iMoD.

4 วิธีใช้งาน Quick Share บน Samsung ส่งไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ!

iPhonemod - 23 April 2024 - 16:37

สาวก Samsung ห้ามพลาด วันนี้ทีมงานมี 4 วิธีในการใช้ Qui […]

The post 4 วิธีใช้งาน Quick Share บน Samsung ส่งไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ! appeared first on iMoD.

แนะนำ UPDF แอปแก้ PDF บน iPad จัดการ ตกแต่ง ทำงานสนุกขึ้นเยอะ!

iPhonemod - 23 April 2024 - 16:08

รีวิวและสอนการใช้งานแอป UPDF สำหรับคนที่ต้องทำงานกับเอก […]

The post แนะนำ UPDF แอปแก้ PDF บน iPad จัดการ ตกแต่ง ทำงานสนุกขึ้นเยอะ! appeared first on iMoD.

ขนาดอาบน้ำ ก็ยังต้องมู..เทรนด์มูเตลูมาแรง โชกุบุสซึ x หมอช้าง เปิดตัวครีมอาบน้ำตามราศีธาตุ

Brand Inside - 23 April 2024 - 15:52

ขนาดอาบน้ำก็ยังต้องมู..

โชกุบุสซึ x หมอช้าง มูให้ปัง เสริมพลังดวงดี เปิดตัวแรร์ไอเท็มแห่งปี “โชกุบุสซึ จักรราศี ผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำสายมูลิมิเต็ด อิดิชัน ที่มาพร้อมกลิ่นหอมตามราศีธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ทำความสะอาดผิวพร้อมเสริมพลังความโชคดี 

โชกุบุสซึ Shokubutsu

ประเสริฐ สุรัตนเมธากุล ผุ้จัดการส่วนผลิตภัณฑ์ดูแลความงามและเด็ก บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า การจัดงานครั้งนี้ เนื่องในโอกาสที่ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึมียอดจำหน่ายเป็นอันดับ 1 ติดต่อกัน 3 ปีซ้อนในไทย  ปีนี้มีโปรเจกต์มากมาย หนึ่งในนั้นคือ โชกุบุสซึ จักรราศี

ครีมอาบน้ำสายมูตัวแรกที่ได้ครีเอทร่วมกับผู้บริหารโลตัสและได้รับเกียรติจากหมอช้าง ผู้เชี่ยวชาญสายมูคนสำคัญของเมืองไทย มาช่วยคัดเลือกกลิ่นให้เหมาะสมกับคนแต่ละธาตุ ตามหลักการโหราศาสตร์ เพราะเราเห็นว่า เทรนด์การมูเป็นกระแสที่กำลังมาแรง

จากการทำข้อมูลรีเสริช์ จะเห็นว่า คนไทยกว่า 70% มีความสนใจเกี่ยวกับการมูเตลู และหลังจากโควิด เราได้เห็นความยากลำบากในการใช้ชีวิตของผู้บริโภค จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้กำลังใจกับทุกคน ภายใต้ผลิตภัณฑ์ที่เราสร้างสรรค์มาเป็นพิเศษ เพื่อเสริมพลังความโชคดี ให้ออกไปใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ โดยหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา เผยทริคเสริมดวงชะตาให้เฮง ปัง มั่นใจว่า หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้มีความสุข คือ ช่วงเวลาในการอาบน้ำ ประกอบกับตามหลักฮวงจุ้ย 

น้ำเป็นสิ่งชำระล้างที่ดี ส่วนธาตุเป็นตัวบอกอารมณ์และความรู้สึกของคน โดยธาตุตามระบบสากล (Zodiac) มี 4 ธาตุ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ สำหรับปัจจัยที่กระตุ้นให้อารมณ์คนเปลี่ยนมี 2 เรื่องคือ สภาพแวดล้อมและกลิ่น เมื่ออาบน้ำและกลิ่นหอมเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสุข แนะนำให้อายน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ “โชกุบุสซึ จักรราศี” ที่ผ่านการออกแบบให้มีกลิ่นหอมตรงตามระบบธาตุ เช่น ปรับสมดุลก่อนนอน สามารถใช้ครีมอาบน้ำธาตุน้ำ เพราะเป็นธาตุของการผ่อนคลาย ก่อนออกจากบ้าน อยากกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ก็ใช้ครีมอาบน้ำธาตุลม

โชกุบุสซึ Shokubutsu

โชกุบุสซึ จักรราศี มี 4 กลิ่น 4 ธาตุ ธาตุดิน สีเขียว ธาตุน้ำ สีฟ้า ธาตุลม สีชมพู และธาตุไฟ สีส้ม บรรจุขวดขนาด 500 มล. จำหน่ายในราคาพิเศษ 99 บาท จากราคาปกติ 125 บาท พร้อมโปรโมชันสุดคุ้มมากมาย อาทิ ซื้อครบ 189 บาท รับฟรีสร้อยข้อมือเสริมดวง 1 ชิ้น จากแบรนด์โชกุบุสซึ มูลค่า 199 บาท เป็นต้น

ที่มา – Shokubutsu

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ขนาดอาบน้ำ ก็ยังต้องมู..เทรนด์มูเตลูมาแรง โชกุบุสซึ x หมอช้าง เปิดตัวครีมอาบน้ำตามราศีธาตุ first appeared on Brand Inside.

ใช้ iPhone เข้าร่วมเครือข่าย Wi-Fi ได้ง่าย ๆ แค่สแกนรหัส

iPhonemod - 23 April 2024 - 15:03

ทำไมเพิ่งรู้! iPhone มีฟีเจอร์การสแกนรหัส Wi-Fi ให้ด้วย […]

The post ใช้ iPhone เข้าร่วมเครือข่าย Wi-Fi ได้ง่าย ๆ แค่สแกนรหัส appeared first on iMoD.

TikTok จับมือ LALIGA ดันคอนเทนต์กีฬา เตรียมเปิด Sports Hub แหล่งรวมคอนเทนต์ หลังยอดคนดูโต 95%

Brand Inside - 23 April 2024 - 13:41

TikTok เตรียมเปิดหน้ารวมคอนเทนต์กีฬาบนแพลตฟอร์ม จับมือ LALIGA ส่งครีเอเตอร์ไทยและประเทศเอเปคไปชมฟุตบอลที่สเปน 

คอนเทนต์กีฬาได้รับความนิยมสูงขึ้น

ณมน ติงศภัทิย์ Sports & Gaming Operations Lead ของ TikTok เล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา TikTok มีผู้ใช้ ((Active User)  ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 325 ล้านคน มีหน่วยธุรกิจกว่า 15 ล้านหน่วยที่เริ่มใช้งานแพลตฟอร์มตามหมวดหมู่ของคอนเทนต์นอกเหนือไปจากการเล่นเพื่อความบันเทิง ผลวิจัยยังชี้ว่า 7 ใน 10 คนรู้สึกว่าเล่น TikTok ทำให้มีความสุขมากขึ้น

คอนเทนต์บน TikTok หลายหมวดหมู่ได้รับความนิยม มีการใช้แฮชแท็กร่วมกันทั่วโลก ทำให้ TikTok พยายามผลักดันให้เป็นฮับสำหรับผู้ที่มีความสนใจร่วมกันและทำหน้าที่เป็น Search Engine ที่ใช้ในการหาข้อมูลได้

สิ่งที่เห็นได้ชัดขึ้น คือ คอนเทนต์ในอุตสาหกรรมกีฬาบน TikTok ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในปี 2023 ที่ผ่านมา ยอดคนดูกีฬาในประเทศไทยบน TikTok เพิ่มขึ้น 95% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ฟุตบอลยังเป็นกีฬายอดนิยมอันดับ 1 ของที่ทำให้จำนวนการรับชมคอนเทนต์ผ่าน #TikTokบอลไทย และ #TikTokบอลนอก มียอดวิวกว่า 340 ล้านวิวและ 2 พันล้านวิวตามลำดับในปีที่ผ่านมา 

การแข่งขันและเหตุการณ์สำคัญในวงการกีฬาช่วยทำให้คอนเทนต์เติบโตมากขึ้น นำไปสู่การผลักดันของ TikTok ที่ให้ความสำคัญกับครีเอเตอร์ที่ในวงการกีฬามีอยู่หลากหลายกลุ่มทั้งภาครัฐ องค์กรเอกชน ลีก รวมถึงนักกีฬา ผ่านหลักการ 3 ข้อ คือ 

  • Canvas ให้ครีเอเตอร์สามารถทำคอนเทนต์ได้อย่างสร้างสรรค์และอิสระ
  • Window เพิ่มโอกาสให้ครีเอเตอร์เข้าถึงกลุ่มผู้ชมทั้งในไทยและต่างประเทศ
  • Bridge เป็นสะพานเชื่อมต่อให้ครีเอเตอร์เข้าถึงกลุ่มคนที่มีความสนใจเหมือนกัน และเปิดกว้างให้เกิดความสนใจใหม่ ๆ 

จากความนิยมในคอนเทนต์กีฬาและการเติบโตของคอมมูนิตี้ ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ TikTok จะเปิดตัวแหล่งรวมคอนเทนต์กีฬาบนแพลตฟอร์มที่เรียกว่า “Sports Hub” หลังได้นำร่องผ่านแคมเปญ #TikTokการกีฬา ไปเมื่อปีก่อนที่มียอดผู้ชมเฉลี่ยกว่า 350 ล้านครั้งต่อเดือน 

อนาคตวงการฟุตบอลไทยกับ LALIGA

TikTok ได้ร่วมมือกับ LALIGA ในการส่งเสริมคอนเทนต์กีฬาในหลายโครงการ ในปีนี้ร่วมมือกันในโครงการ LALIGA Adventure ให้ครีเอเตอร์สายกีฬา 15 คนจาก 9 ประเทศในเอเปครวมถึงไทยเดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลในต่างประเทศ

สำหรับประเทศไทย มีครีเอเตอร์อย่างขอบสนามและวาทะลูกหนังที่จะเดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลระหว่างสโมสรบาร์เซโลนาและสโมสรบาเลนเซียในเร็ว ๆ นี้ และจะได้ร่วมงาน LALIGA Extra Time ด้วย

นาธาน รัตนนาคินทร์ หัวหน้าแผนกความสัมพันธ์ต่างประเทศ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ มองว่า ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เข้าถึงได้มากในและอุตสาหกรรมได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในไทย ดังนั้น การเล่นกีฬาในภูมิภาคมีความสำคัญไม่ใช่เฉพาะการผลักดันแค่ทีมชาติไทย แต่มีปัจจัยสำคัญอยู่ที่การเก็บข้อมูลเชิงลึกและการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาต่อ เช่น การพัฒนาเยาวชน บุคลากรโค้ชและผู้ตัดสิน 

สมาคมให้ความสำคัญกับการเล่นกีฬาในระดับโครงสร้าง มีโครงการต่าง ๆ  เช่น Women’s Football Development ร่วมกับ FIFA ที่เริ่มทำในประเทศไทยก่อน เลยต้องมีแผนการพัฒนานักกีฬาเพื่อหาเยาวชนชายและหญิงมาเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นนักกีฬาทีมชาติ 

นาธาน รัตนนาคินทร์ ยังมองว่า ทีมชาติไทยทั้งชายและหญิงเป็นเพียงจุดสูงสุดของภูเขาน้ำแข็ง ทำให้จำเป็นต้องสร้างรากฐานที่แข็งแรงของภูเขาด้วยทั้งบุคลากร ข้อมูล และระบบการทำงาน ที่เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งให้ทีมชาติประสบความสำเร็จ 

อิวาน โกดิน่า กรรมการผู้จัดการ LALIGA ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย เล่าให้ฟังว่า LALIGA เริ่มดำเนินการในไทยเมื่อ 7 ปีที่แล้ว

สำหรับบทบาทของ LALIGA ไปประเทศไทย ปัจจุบันได้เน้นย้ำความสำคัญในการดำเนินการที่ต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบริษัทของแต่ละประเทศ (Localization) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแฟนกีฬา ทำให้สื่อเป็นช่องทางหลักที่จะทำให้ LALIGA เป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยโดยเฉพาะผ่าน TikTok โดยมีจอร์โจ้ ปอมปิลี่ รอสซี่ LALIGA Delegate ประจำประเทศไทย, ลาว, กัมพูชา และเมียนมาเป็นตัวช่วยในการสร้างการรับรู้ 

นอกจากเรื่องสื่อแล้ว LALIGA ยังต้องการพัฒนาการแข่งขันในระดับรากหญ้าหรือระดับโครงสร้างผ่านเทคโนโลยีและโซลูชั่นต่าง ๆ รวมถึงการพัฒนาบุคลาการผ่าน LALIGA Academy ที่ทำงานร่วมกับรัฐบาลและพาร์ทเนอร์ในการให้ความรู้เกี่ยวกับฟุตบอล หาเยาวชนที่มีความสามารถ คิดค้นวิธีพัฒนาบุคลากร จัดการแข่งขันเพื่อสร้าง Career Path ให้นักกีฬาเพื่อสร้างผู้นำทางด้านกีฬาในอนาคต รวมทั้งให้ทุนเพื่อการไปศึกษาต่อในประเทศสเปนของผู้ที่มีศักยภาพ 

อิวาน โกดิน่า มองว่าเป้าหมายของทีมนักกีฬาไทยในการจะเข้าแข่งขันในสเปนหรือการแข่งขันระดับโลกไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เพียงแต่ต้องใช้เวลา

ที่มา – TikTok

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post TikTok จับมือ LALIGA ดันคอนเทนต์กีฬา เตรียมเปิด Sports Hub แหล่งรวมคอนเทนต์ หลังยอดคนดูโต 95% first appeared on Brand Inside.

Apple เข้าซื้อกิจการบริษัท Datakaleb ผู้พัฒนา AI จากฝรั่งเศส

iPhonemod - 23 April 2024 - 11:43

Apple เพิ่งซื้อกิจการบริษัทปัญญาประดิษฐ์ (AI) อีกแห่ง ค […]

The post Apple เข้าซื้อกิจการบริษัท Datakaleb ผู้พัฒนา AI จากฝรั่งเศส appeared first on iMoD.

Apple ถอด WhatsApp, Telegram, Threads และอื่น ๆ ออกจาก App Store จีน

iPhonemod - 23 April 2024 - 11:33

Apple ถอดแอป Social Media หลายแอปออกจาก App Store จีนแล […]

The post Apple ถอด WhatsApp, Telegram, Threads และอื่น ๆ ออกจาก App Store จีน appeared first on iMoD.

How To Unlike โพสต์ใน Instagram หลาย ๆ โพสต์พร้อมกัน!

iPhonemod - 23 April 2024 - 10:18

สำหรับใครที่กังวลว่าแฟนหรือเพื่อนจะมาส่องว่าเราไลค์รูปใ […]

The post How To Unlike โพสต์ใน Instagram หลาย ๆ โพสต์พร้อมกัน! appeared first on iMoD.

Apple สั่งซื้อส่วนประกอบปุ่ม Capacitive มาเพิ่ม! เตรียมนำไปใช้กับ iPhone 16

MacThai - 23 April 2024 - 10:00

ตามรายงานของ Economic Daily News บอกมาว่าแอปเปิลได้สั่งซื้อส่วนประกอบปุ่ม Capacitive จำนวนมากจากซัพพลายเออร์ในไต้หวันแล้ว โดยคาดว่าจะนำไปใช้กับ iPhone 16 ซีรีส์ครับ ซึ่งบริษัท Advanced Semiconductor Engineering ชนะเรื่องคำสั่งซื้อไป

โดยบริษัท ASE ด้รับคำสั่งซื้อใหม่อีกครั้งจากแอปเปิล เพื่อผลิตโมดูลระบบปุ่ม Capacitive (SiP) ขนาดใหญ่ที่ออกแบบโดยแอปเปิลในปีนี้ และจะมาพร้อมกับมอเตอร์ 2 ฝั่งสำหรับ Taptic Engine เพื่อมาแทนที่ปุ่ม  Physical Buttons แบบเดิมที่ใช้กับ iPhone 15 ด้วย

ซึ่งปุ่มของ iPhone 16 จะมีการตอบสนองต่อการสัมผัส และตรวจจับแรงกดได้ดีกว่า หลังจากจำลองการกดปุ่มจริงผ่านกลไกระบบสัมผัส หรือ Taptic แล้ว

แต่แม้แอปเปิลจะสั่งปุ่มต่าง ๆ มาจากซัพพลายเออร์ ก็ไม่ได้หมายความว่าปุ่ม และกลไกใหม่ทั้งหมดจะถูกนำมาใช้กับ iPhone 16 ซีรีส์จริง ๆ อย่างข่าวลือที่ว่า iPhone 16 จะมาพร้อมกับปุ่มที่สี่อย่าง Capture Button ด้วย ซึ่งคาดว่าปุ่มนี้จะมีความเป็นกลไกมากกว่าแบบ Capacitive

โดยแอปเปิลจะมีปุ่ม Capture Button ไว้สำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ รวมถึงผู้ใช้ไอโฟนก็สามารถซูมเข้า และออกได้เพียงแค่ปัดไปทางซ้าย และขวาบนปุ่มและกดเบา ๆ นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกได้ด้วยการกดที่แรงขึ้นเช่นกัน

ส่วนการผลิต Capacitive ที่แอปเปิลสั่งส่วนประกอบมาก็คาดว่าจะเข้าสู่การผลิตจำนวนมากในไตรมาสที่สามของปีนี้ โดยมองว่าเป็นกำหนดการที่ช้ากว่าปกติในการผลิตไอโฟนแบบเริ่มต้นทั่วไปของแอปเปิลครับ

จึงมีแนวโน้มว่าคำสั่งซื้อนี้อาจจะใช้สำหรับ iPhone 17 แทนที่จะเป็น iPhone 16 ก็เป็นได้ อย่างที่ iPhone 15 ซีรีส์ก็มีเปลี่ยนแปลงต่างไปจากข่าวลือมาตลอดนั่นเอง

ที่มา – https://www.macrumors.com/2024/04/22/apple-orders-capactive-butttons-iphone-16/

The post Apple สั่งซื้อส่วนประกอบปุ่ม Capacitive มาเพิ่ม! เตรียมนำไปใช้กับ iPhone 16 appeared first on Macthai.com.

Rolex รุ่นหายาก เรือนเดียวมูลค่าสูงถึง 129 ล้านบาท ราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (สำหรับรุ่นนี้)

Brand Inside - 22 April 2024 - 22:32

Rolex Ref. 4113 ถูกผลิตขึ้นในปี 1942 มีเพียง 12 เรือนในโลก ปัจจุบันคาดว่าเหลือเพียง 9 เรือนเท่านั้น ถูกประมูลใน Monaco Legend Auctions ด้วยราคา 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 129 ล้านบาท 

Rolex

ถือว่าครั้งนี้ทำราคาแซงหน้าสถิติเดิมอยู่ที่ 2.6 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 96.3 ล้านบาท ที่ถูกซื้อไปจากการประมูลที่ Phillips auction ในเมืองเจนีวา

Rolex ทำราคาถล่มทลายขนาดนี้ นักสะสมก็ยังพร้อมควักเงินจ่ายเพื่อให้ได้ครอบครองสินค้าหายากและโดดเด่นไม่ซ้ำใครต่อไป แม้ว่านาฬิกามือสองไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Rolex, Patek Philippe และ Audemars Piguet จะราคาลดลงอย่างหนักในปี 2022 ที่ผ่านมาก็ตาม

สำหรับความยูนิคของ Ref. 4113 นี้เชื่อกันว่ามันเป็นโครโนกราฟหรือนาฬิกาที่จับเวลาได้แบบเสี้ยววินาที รู้จักกันในชื่อเรียกว่า Rattrapante และเคยผลิตโดยแบรนด์นาฬิกาจากเจนีวาแล้ว นาฬิกานี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือนอยู่ที่ 44 มิลลิเมตรหรือประมาณ 1.73 นิ้ว เป็นนาฬิกาเรือนใหญ่ที่สุดที่ Rolex เคยผลิตมา มีปุ่มแยกเวลาเสี้ยววินาทีได้ด้วยกดปุ่มคู่ คือปุ่มเริ่ม/หยุด และปุ่มรีเซ็ต

นาฬิกาเรือนนี้เป็นคอลเลกชันขง Auro Montanari หนึ่งในนักวิชาการด้านนาฬิกาที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของโลก เขายังเขียนหนังสือหลายเล่มภายใต้นามปากกา John Goldberger รวมทั้งเรื่องสุดยอดนาฬิกา 100 เรือน ที่มีหมายเลข 4113 บนหน้าปกด้วย นาฬิกาเรือนนี้มาพร้อมกับมีดหั่นชีสเพื่อสำหรับเปิดดูการทำงานภายในตัวเรือน เป็นของขวัญให้ Goldberger จากแฟนๆ ของเขา

ที่มา – Bloomberg, Monaco Legend Auctions, Hodinkee

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Rolex รุ่นหายาก เรือนเดียวมูลค่าสูงถึง 129 ล้านบาท ราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (สำหรับรุ่นนี้) first appeared on Brand Inside.

Aramco ยักษ์ใหญ่พลังงานจากซาอุฯ ซื้อหุ้นบริษัทพลังงานจีน มูลค่า 5.5 หมื่นล้านบาท

Brand Inside - 22 April 2024 - 20:09

พลังงานซาอุฯ รุกคืบ ซื้อหุ้นจากพลังงานจีนเพิ่ม มูลค่าสูงมากถึง 5.5 หมื่นล้านบาท

Aramco บริษัทชั้นนำด้านพลังงานและเคมีแห่งซาอุดิอาระเบียหารือกับบริษัท Hengli Group Co, Ltd เพื่อซื้อหุ้นจากบริษัท Hengli Petrochemical Co.,Ltd ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานในเครือ Hengli Group ในอัตรา 10% ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาท และยังงมีการลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับธุรกรรมต่างๆ ทางบริษัทได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MoU) ซึ่งก็เป็นไปตามกลยุทธ์ของ Aramco ที่ต้องการขยายปลายน้ำในตลาดที่มีมูลค่าสูง

Aramco, Hengli Group

บริษัท Hengli Petrochemical อยู่ภายใต้ Hengli Group ซึ่งเป็นเจ้าของการดำเนินการโรงกลั่นและศูนย์เคมีครบวงจรที่มีกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งอยู่ในเมือง Lianing (เหลียวหนิง) ประเทศจีน และมีโรงงานผลิตอีกหลายแห่งใน Jiangsu (เจียงซู) และ Guangdong (กว่างตง)

ด้าน Mohammed Y. Al Qahtani ประธาน Aramco Downstream ระบุว่า MoU นี้ จะช่วยสนับสนุนความพยายามของเราที่จะขยายขอบเขตธุรกิจปลายน้ำได้ เราจะเดินหน้าเสาะหาโอกาสใหม่ๆ ในตลาดสำคัญต่อไป เราพยายามที่จะพัฒนากลยุทธ์ให้ก้าวหน้าต่อไปและหวังจะแสวงหาความร่วมมือใหม่ๆ ต่อไป ทั้งนี้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสมากขึ้นในตลาดสำคัญอย่างจีนด้วย

ปีที่ผ่านมา Aramco ก็เพิ่งซื้อหุ้นจาก Rongsheng Petrochemical Co. บริษัทเคมีของจีน ในอัตรา 10% มูลค่าสูงถึง 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.25 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการเข้าซื้อหุ้นจากต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และยังมีการลงนามในข้อตกลงที่คล้ายกันกับบริษัท Shandong Yulong Petrochemical Co และ Shenghong Petrochemical

ที่มา – Bloomberg, Aramco (1), (2)

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Aramco ยักษ์ใหญ่พลังงานจากซาอุฯ ซื้อหุ้นบริษัทพลังงานจีน มูลค่า 5.5 หมื่นล้านบาท first appeared on Brand Inside.

รู้จัก ALICE กลุ่มคนที่มีรายได้เกินกว่าจะได้รับสวัสดิการจากรัฐ แต่ยังไม่มั่นคงพอที่จะใช้ชีวิตอย่างไม่ลำบาก

Brand Inside - 22 April 2024 - 19:15

ยังลำบากกับการเช่าที่อยู่อาศัยและใช้ชีวิตประจำวัน แต่ดันมีรายได้มากกว่าเกณฑ์ที่จะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล ในสหรัฐอเมริกาเรียกว่า “ALICE” ปัญหาคนตกหล่นจากช่องโหว่สวัสดิการของรัฐ 

คำว่า ALICE เย่อมาจาก Asset Limited, Income Constrained, Employed หมายถึงกลุ่มที่งานทำ แต่มีทรัพย์สินจำกัดและมีรายได้ตึงตัว เป็นคำนิยามจากแคมเปญ United For ALICE ของ United Way ซึ่งเป็นองค์กรการระดมทุนเพื่อหาเงินบริจาคให้องค์กรไม่แสวงผลกำไร หมายรวมถึงชาวอเมริกันที่มีรายได้มากกว่า 31,200 เหรียญสหรัฐต่อปีต่อครัวเรือนที่มีสมาชิก 4 คน หรือราว 1.15 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15,060 เหรียญหรือราว 5.6 แสนบาทต่อคน ซึ่งเป็นระดับเส้นแบ่งความยากจนที่เรียกว่า Federal Poverty Level แต่แม้ว่าจะมีรายได้มากกว่าเส้นแบ่งความยากจน ALICE ก็ยังเป็นกลุ่มที่ประสบความยากลำบากในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

กลุ่ม ALICE จำนวนมากเป็นแรงงานที่ได้รับค่าจ้างไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมรายจ่ายทำให้ต้องใช้เงินแบบเดือนชนเดือน บางคนจำเป็นต้องค้างชำระค่าเช่าที่อยู่อาศัยแลกกับการซื้ออาหารในชีวิตประจำวัน หรือต้องเก็บเงินเพื่อไปใช้บริการทางการแพทย์แลกกับการเข้าถึงบริการดูแลลูก

ราว 29% ของครัวเรือนในสหรัฐอเมริกาอยู่ในกลุ่ม ALICE ขณะที่ 13% อยู่ต่ำกว่าเส้นแบ่ง Federal Poverty Level จากการคำนวณของ United For ALICE โดยใช้ข้อมูลจากผลสำรวจจากสำนักงานสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกาและการคาดการณ์ของ United Way

รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการหลายนโยบายเพื่อช่วยเหลือและยกระดับฐานะของผู้ที่มีฐานะยากจน ขณะที่ Stephanie Hoopes ผู้อำนวยการของ United For ALICE ให้ความเห็นว่า เส้นแบ่งของ Federal Poverty Level ล้าสมัยไปแล้วในหลายด้าน เพราะไม่ได้นำความแตกต่างระหว่างภูมิภาคและสัดส่วนรายจ่ายที่คนใช้ไปกับการซื้ออาหารที่ไม่เหมือนในอดีตมาคิดร่วมด้วย รวมทั้งไม่ได้ใส่ใจกลุ่มที่มีฐานะทางการเงินดีในปัจจุบันแต่ยังไม่สามารถลงทุนต่อยอดเพื่ออนาคตได้

ข่าวดีของสหรัฐอเมริกาคือการที่กลุ่มคนยากไร้มีน้อยลง สะท้อนมาตราการที่ได้ผลของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม สัดส่วนกลุ่ม ALICE กลับมีมากขึ้นทั่วประเทศในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในบางรัฐที่เพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงโควิด-19 เพราะแม้ว่ารายได้ของชาวอเมริกันจะเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่สามารถสู้กับเงินเฟ้อและราคาที่อยู่อาศัยที่สูงลิบลิ่วได้

Stephanie Hoopes ยังมองว่า ข้อมูลที่เก็บได้ยากที่จะสะท้อนความกังวลใจและความเครียดของคนที่จำเป็นต้องเลือกซื้อสินค้าและบริการอย่างใดอย่างหนึ่งในทุกวันเพราะไม่มีกำลังมากพอที่จะซื้อทุกอย่าง อย่างเช่น การต้องตัดสินใจว่าจะพาลูกไปหาหมอดีหรือจะเก็บเงินไว้ซื้ออาหารดี จะจ่ายค่าไฟฟ้าก่อนดีไหม หรือเก็บเงินไปทำอย่างอื่นที่สำคัญมากกว่าก่อน

นอกจากนี้ United For ALICE ยังพบว่าเงินเฟ้อกระทบต่อกลุ่ม ALICE มากกว่าชาวอเมริกันโดยทั่วไป

ดัชนี Consumer Price Index ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อหลักในสหรัฐอเมริกา พบว่ามีสินค้าและบริการหลายประเภทที่กลุ่ม ALICE ไม่สามารถซื้อได้บ่อย ๆ เช่น การออกไปกินอาหารนอกบ้าน อุปกรณ์กีฬา หรือบัตรคอนเสิร์ต 

United For ALICE ได้ติดตามข้อมูลรายได้ที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตของกลุ่มที่มีรายได้ต่ำออกมาเป็น ALICE Essentials Index พบว่าในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา รายได้ของกลุ่ม ALICE ไม่ได้เพิ่มขึ้นทันกับการเพิ่มค่าแรงด้วย

ชาวอเมริกันอาจจะไม่ได้กำลังถอยหลังเข้าสู่ความยากจนเสมอไป แต่กลับกำลังเข้าใกล้สถานะการเป็น ALICE กันมากขึ้นซึ่งหลายคนไม่สามารถหาคำอธิบายด้านโครงสร้างทางเศรษฐกิจให้กับตัวเองได้ กลายเป็นเหตุผลหนึ่งที่ชาวอเมริกันไม่ได้รู้สึกดีเมื่อเห็นข้อมูลตัวเลขทางเศรฐกิจในเชิงบวกและทำให้เกิดช่องโหว่กับคำถามที่ว่าใครกันแน่ที่กำลังเผชิญความยากลำบากในสหรัฐอเมริกาท่ามกลางข้อถกเถียงว่าคนกลุ่มนั้นยากลำบากเพราะความเกียจคร้านและการมีความพยายามที่ไม่มากพอหรือไม่

ที่มา – Business Insider

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post รู้จัก ALICE กลุ่มคนที่มีรายได้เกินกว่าจะได้รับสวัสดิการจากรัฐ แต่ยังไม่มั่นคงพอที่จะใช้ชีวิตอย่างไม่ลำบาก first appeared on Brand Inside.

รวม 20+ ทริค Apple Pencil (อัปเดต 2024)

iPhonemod - 22 April 2024 - 17:02

สำหรับใครที่ใช้ iPad ในการทำงาน วันนี้ทางทีมงานจะมาแนะน […]

The post รวม 20+ ทริค Apple Pencil (อัปเดต 2024) appeared first on iMoD.

Pages