TP Vision เปิดตัวทีวีแบรนด์ Philips (ปัจจุบัน Philips ไม่ได้ทำทีวีเองแล้ว ใช้วิธีไลเซนส์แบรนด์) โดยเป็นทีวีธรรมดา ไม่ใช่สมาร์ททีวีที่รัน Android แต่ก็รองรับโพรโทคอล Google Cast สามารถส่งคลิปจากมือถือ-แท็บเล็ตขึ้นบนจอได้ เหมือนกับการใช้ Chromecast

ทีวีรุ่นนี้เรียกว่า 6000 series Google Cast มีความละเอียด UHD 4K 3840x2160p มีทั้งหมด 4 ขนาดคือ 43/49/55/65 นิ้ว ทุกตัวมี Wi-Fi 802.11ac และมีตัวถอดรหัสวิดีโอ HEVC/VP9 ให้มาในตัว

สินค้าจะเริ่มขายในสหรัฐอเมริกาช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ ตัวถูกสุด 43 นิ้ว ราคา 649.99 ดอลลาร์ ถือว่าจับต้องได้สำหรับคนที่อยากได้ทีวี UHD แต่ไม่ต้องการฟังก์ชันของสมาร์ททีวี

ในขณะที่เทคโนโลยี 4G เริ่มกระจายตัวไปทั่วโลก ฝั่งทวีปยุโรปก็เริ่มขยับไปสู่อนาคตอีกครั้ง ล่าสุดคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ยื่นข้อเสนอใหม่เพื่อรับการมาของ 5G แล้ว

ร่างข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรปว่าด้วยการโยกใช้งานคลื่นความถี่สำหรับใช้กระจายสัญญาณโทรทัศน์ซึ่งปัจจุบันใช้ย่านความถี่ 700MHz UHF เพื่อเปิดทางให้กับการเชื่อมต่อแบบ 5G ที่จะใช้กับอุปกรณ์พกพา และอุปกรณ์ประเภท Internet of Things โดยตั้งเป้าว่าประเทศใน EU จะให้ความร่วมมือภายในปี 2020 นี้

Philips เปิดตัวทีวีใหม่หลายรุ่นที่งาน IFA โดยส่วนใหญ่เป็นสมาร์ททีวีที่ใช้ Android TV

ทีวีรุ่นที่น่าสนใจคือ Philips AmbiLux UHD TV ทีวี 65 นิ้วความละเอียด 4K Ultra HD ความเจ๋งของมันอยู่ตรงที่ระบบฉายแสง Ambilight ด้วยไฟ LED ด้านหลังจอทีวี เป็นแสงสะท้อนไปยังกำแพงที่แขวนทีวีอยู่ด้วย แสงที่ฉายลงไปจะใช้ตำแหน่งและสีให้สอดคล้องกับภาพบนหน้าจอ ทำให้รู้สึกว่าภาพบนจอขยายออกไปบนกำแพงด้วย

ทีวีรุ่นนี้ยังมี Ambilight Music Mode ฉายไฟเต้นระบำตามเพลงที่เปิดผ่านทีวี สามารถใช้กับเพลงเป็นไฟล์จากไดรฟ์ USB, บริการสตรีมมิ่ง Spotify หรือจะเป็นช่องเพลงทางทีวีปกติก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งโปรแกรมให้ใช้ร่วมกับหลอดไฟอัจฉริยะ Philips Hue ให้กระพริบไฟพร้อมกันได้ด้วย

Sharp เป็นบริษัทผู้ผลิตทีวีสัญชาติญี่ปุ่นรายล่าสุดที่เริ่มไปไม่รอด ล่าสุดประกาศถอนตัวจากตลาดทีวีในทวีปอเมริกาทั้งเหนือและใต้ โดยขายโรงงานในเม็กซิโก และขายไลเซนส์แบรนด์ให้กับบริษัทจีน Hisense

ปัญหาของ Sharp เกิดจากการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างผู้ผลิตทีวีฝั่งเอเชียด้วยกัน ทำให้ผลประกอบการออกมาแย่กว่าที่คาดไว้ จนต้องปรับแผนธุรกิจในท้ายที่สุด

ที่มา - Reuters

Xiaomi เปิดตัว Mi TV 2s รุ่นที่พัฒนาต่อจาก Mi TV 2 มาพร้อมหน้าจอขนาด 48 นิ้วความละเอียด 4K พร้อมชูค่าความอิ่มตัวของสี (colour saturation) สูงกว่าทีวีรุ่นอื่น 18% ตัวทีวีบางเพียง 9.9 มิลลิเมตร กรอบเป็นอลูมิเนียม ซีพียู MStar รุ่น 6A928 แรม 2GB ความจุ 8 GB รองรับ Wi-FI 802.11ac

Mi TV 2s มี 2 รุ่นคือรุ่นธรรมดาและรุ่น Theatre Edition ที่มาพร้อมลำโพงแยกและเทคโลโลยีจาก Dolby วางจำหน่ายวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ รุ่นธรรมดาราคา 2,999 หยวน (ประมาณ 17,000 บาท) และรุ่น Theatre Edtion ราคา 3,999 หยวน (ประมาณ 22,000 บาท)

ที่มา - MIUI

กูเกิลอัพเดตแอพ Play Store ของแพลตฟอร์ม Android TV แบบเงียบๆ โดยมีจำนวนแอพบน Play Store ที่รองรับ Android TV มากกว่า 600 ตัวแล้ว

นอกจากนี้กูเกิลยังประกาศฟีเจอร์ใหม่ให้ Android TV ในงาน Google I/O 2015 ชื่อว่า Android TV Channels มันคือการสร้าง "ช่องรายการสด" แบบเดียวกับทีวีทั่วไป แต่เปิดให้ผู้ให้บริการวิดีโอออนไลน์บางแห่ง (เช่น TED, Vevo, Bloomberg) สามารถจัดเรียงเพื่อสร้างช่องรายการสดของตัวเองได้ เพื่อให้ผู้ใช้งานกดสลับช่องได้เหมือนกับการดูทีวีจริงๆ แถมยังสามารถใส่โฆษณาแทรกลงไประหว่างรายการได้อีกด้วย

จากข่าว ไทยทีวีทำหนังสือขอบอกเลิกใบอนุญาตทีวีดิจิตอลทั้ง 2 ช่อง ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (27 พ.ค.) ทางบริษัทไทยทีวี/กลุ่มทีวีพูลได้แถลงข่าวผ่านช่อง 17 ไทยทีวี หลังจากส่งตัวแทนไปหารือกับ กสทช. โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

Wall Street Journal รายงานข่าววงในว่าแอปเปิลพับแผนการทำทีวีของตัวเองแล้ว หลังวิจัยและพัฒนามาเกือบสิบปีแล้วพบว่าไม่เวิร์ค

แหล่งข่าวของ WSJ ระบุว่าแอปเปิลพยายามหาฟีเจอร์เด่นที่เป็นจุดขายสำหรับทีวีแบรนด์ของตัวเอง หนึ่งในฟีเจอร์ที่ลองทำคือติดกล้องสำหรับสนทนาผ่านวิดีโอ (FaceTime for TV) แต่สุดท้ายบริษัทพบว่าฟีเจอร์เหล่านี้ไม่ดึงดูดพอ และไม่สามารถหานวัตกรรมใหม่ที่เปลี่ยนอุตสาหกรรมเดิม ตามแบบฉบับของแอปเปิลได้

ที่ผ่านมาเราเห็นข่าวลือว่าแอปเปิลจะทำทีวีเองอยู่บ่อยครั้ง ส่วนของสตีฟ จ็อบส์เองก็เคยให้ข้อมูลผ่านหนังสือชีวประวัติของเขาว่า "ค้นพบอินเทอร์เฟซที่เหมาะสมสำหรับทีวี" แล้ว แต่เวลาผ่านมาหลายปีเรายังไม่เห็นผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลออกสู่ตลาดอย่างที่คาดกัน

บริษัท TP Vision ผู้ขายทีวีแบรนด์ Philips (แยกตัวออกมาจาก Philips โดย Philips ยังถือหุ้น 30%) เปิดตัวสมาร์ททีวีรุ่นใหม่ของปี 2015 ที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะใช้ระบบปฏิบัติการ Android TV

สมาร์ททีวีของ Philips จะเน้นการรับชมวิดีโอแบบสตรีมมิ่ง, เล่นเกม (จับมือเป็นพันธมิตรกับ Gameloft/EA) และวางตัวเป็นอุปกรณ์กลางของบ้านในยุคสมาร์ทโฮม บริษัทยังจะใช้สตอเรจเพิ่มเป็น 8-16GB เพื่อเก็บเนื้อหาได้มากขึ้น และถ้ายังไม่พอก็สามารถต่อฮาร์ดดิสก์ภายนอกได้เองผ่านพอร์ต USB

สำนักงาน กสทช. เผยแพร่เอกสารนำเสนอของนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ที่ไปพูดในงานสัมมนาเชิงวิชาการ "ใครรอด ใครร่วง ชี้ชะตาทีวีดิจิตอลประเทศไทย" วันที่ 1 เม.ย. 2558 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

เอกสารฉบับนี้มีสถิติที่น่าสนใจของทีวีดิจิตอลไทยหลายอย่าง ผมเลยนำมาเผยแพร่ต่อ พร้อมสรุปข้อมูลในประเด็นสำคัญดังนี้ครับ

สัดส่วนผู้ชมระหว่างทีวีแอนะล็อกแบบดั้งเดิมลดลงมาอยู่ที่ 74.3% (นับครึ่งแรกของเดือนมีนาคม 58) ส่วนทีวีดิจิตอลเพิ่มเป็น 25.73% เทียบง่ายๆ คือแอนะล็อกยังนำอยู่ด้วยสัดส่วน 3:1

Micromax ยักษ์ใหญ่ของวงการมือถืออินเดีย ขยายสายผลิตภัณฑ์มายังสมาร์ททีวี 42 นิ้ว ความละเอียดระดับ 4K ขายในราคา 39,990 รูปี หรือประมาณ 21,000 บาท

ทีวีรุ่นนี้ใช้ความละเอียดหน้าจอ 3840x2160 ที่ 60Hz, จอ LED มุมมองกว้าง 178 องศา, อัตราคอนทราสต์ 5000:1, ซีพียูดูอัลคอร์ 1.2GHz, แรม 2GB, รอม 2.2GB, เสียบ SD Card เพิ่มพื้นที่เองได้ 32GB ส่วนการเชื่อมต่อมีทั้ง Wi-Fi, LAN, HDMI 1.4 x3, USB x3, รองรับ Miracast ในตัว

จุดที่น่าสนใจคือสมาร์ททีวีของ Micromax รัน Android 4.2 Jelly Bean (ไม่ใช่ Android TV) แต่ก็สามารถติดตั้งแอพเองได้ (ข่าวบางแห่งบอกว่ามี Play Store แต่บนเว็บไม่ได้ระบุ)

หลังจากข่าว สมาร์ททีวีซัมซุงปี 2015 ทุกรุ่นจะใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen ก็มีข้อมูลเชิงสถิติตามมาว่าซัมซุงตั้งใจขายทีวี Tizen ให้ได้ 30 ล้านเครื่องภายในปี 2015

หนังสือพิมพ์ The Korea Herald อ้างตัวเลขนี้มาจากแหล่งข่าวในวงการ โดยตัวเลข 30 ล้านเครื่องถือเป็นครึ่งหนึ่งของเป้ายอดขายทีวีซัมซุง 60 ล้านเครื่องตลอดทั้งปี 2015 หรืออธิบายง่ายๆ คือเป็นสมาร์ททีวีครึ่งหนึ่ง เป็นทีวีแบบปกติอีกครึ่งหนึ่ง

ซัมซุงเลือกใช้ชื่อ SUHD TV ทำตลาดทีวีในปีนี้ โดยชูจุดขายเรื่องเทคโนโลยี quantum dot และระบบปฏิบัติการ Tizen ทีวีชุดแรกจะเริ่มขายเดือนกุมภาพันธ์นี้

กลุ่มผู้ผลิตทีวีรายใหญ่ ประกาศความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทภาพยนตร์และทีวี ตั้งกลุ่ม UHD (Ultra High Definition) Alliance เพื่อพัฒนามาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับทีวีความละเอียดสูง 4K ขึ้นไป และเทคโนโลยีด้านการแสดงผลอื่นๆ เช่น HDR, 3D audio

สมาชิกของกลุ่ม UHD Alliance ได้แก่ DirectTV, Dolby, LG, Netflix, Panasonic, Samsung, Sharp, Sony, Technicolor, Walt Disney, 20th Century Fox, Warner Bros.

กลุ่ม UHD Alliance ระบุว่าต้องการปรับปรุงกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่การผลิตเนื้อหา แจกจ่าย ไปถึงการเล่นเนื้อหา ให้มีคุณภาพสูงขึ้น โดยทางกลุ่มจะประกาศแผนการที่ชัดเจนกว่านี้ในอนาคต (ข่าวนี้คือประกาศตั้งกลุ่มอย่างเดียว)

เก็บตกข่าว CES 2015 กันต่อนะครับ ในฝั่งของทีวีที่เป็นสินค้าหลักของงาน CES มาโดยตลอด รอบนี้ซัมซุงประดิษฐ์คำใหม่ SUHD TV มาเรียกทีวีความละเอียดสูงของตัวเอง (แนวเดียวกับที่เรียกจอ Super AMOLED ให้ดูต่างจาก AMOLED ธรรมดา แต่รอบนี้ไม่ระบุว่า S ย่อมาจากอะไร)

SUHD TV ชุดแรกของซัมซุงมีด้วยกัน 3 รุ่นคือ JS9500, JS9000, JS8500 จุดต่างคือขนาดหน้าจอ (ตัวท็อปสุด JS9500 ขนาด 88 นิ้ว) สิ่งที่ทุกรุ่นมีเหมือนกันคือเป็นจอโค้ง LCD (ไม่ใช่ OLED) ความละเอียด UHD 4K แบบ Quantum Dot โดยใช้วัสดุทำเม็ดพิกเซลเป็น nano-crystal ที่ให้สีสันสดใสและแม่นยำกว่าทีวีปกติ 64 เท่า, มีระดับความเข้มของสีดำ-ความสว่างของสีขาวมากกว่าทีวีปกติ 2.5 เท่า

กสทช. ออกประกาศกำหนด "ระดับความดังของเสียง" ในรายการโทรทัศน์ (รวมถึงโฆษณาที่อยู่คั่นเวลารายการปกติ) ไม่ให้เสียงดังเกินไปจนดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค

กสทช. ใช้มาตรฐานระดับเสียงของสหภาพการกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งยุโรป (European Broadcasting Union) โดยระบุให้มีระดับความดังเฉลี่ยที่ -23 LUFS และระดับความดังสูงสุดไม่เกิน 1- dBTP (decibell True Peak)

ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ที่ออกอากาศเกินกว่าระดับความดังข้างต้น จะถือว่าเป็นการ "เอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรทัศน์" และอยู่ในอำนาจของ กสทช. ที่จะสั่งให้แก้ไข-ลงโทษได้

ดูเหมือนความพยายามคืนชีพ webOS กลับมาโลดแล่นในตลาดสมาร์ททีวีของ LG จะยังเดินหน้าต่อไป แม้ว่าจะประสบกับปัญหาตลอดปีที่ผ่านมา โดยในงาน CES 2015 ที่จะจัดในเดือนมกราคมปีหน้านี้ ทาง LG จะเปิดตัว webOS TV 2.0 ภายในงานด้วย

สิ่งที่ webOS 2.0 TV ปรับปรุงไปจากรุ่นก่อนหน้าคือประสิทธิภาพ (ตัวเดิม UI ช้ามาก) โดย LG บอกว่าสามารถเปิดแอพ YouTube จากหน้าแรกได้เร็วขึ้นถึง 70% เปิดเครื่องได้เร็วขึ้นถึง 60% และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ My Channels สำหรับเก็บรายการที่ชอบเอาไว้ให้เข้าถึงได้อย่างรวดเร็วผ่านแถบรายการในหน้าแรก และจะรองรับการสตรีมแบบ 4K จากผู้ให้บริการรายใหญ่ทั้ง Netflix และ Amazon เข้ามา

จากกรณีช่อง 7 ฟ้องคณะกรรมการ กสท. 3 ราย ที่ให้ช่อง 3 สามารถออกอากาศรายการคู่ขนานกับช่องทีวีดิจิตอลได้ และต่อมาคุณสุภิญญา หนึ่งในกรรมการ กสท. ก็ได้ชี้แจงรายละเอียดไว้ ล่าสุด อสมท. ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาสัมปทานกับช่อง 3 อนาล็อก (บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด) ก็ออกมาร้องเรียนด้วยอีกราย

โดยทางบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือถึง พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. เพื่อชี้แจงว่าทาง อสมท. ยังไม่ได้ทำหนังสืออนุญาตให้ช่อง 3 นำรายการในช่องอนาล็อกที่ถือเป็นทรัพย์สินในสัมปทานไปออกอากาศในระบบอื่น ซึ่งถือเป็นคนละนิติบุคคลและผิดเงื่อนไขของสัมปทาน

กลายเป็นข่าวใหญ่ในช่วงเช้าวันนี้แบบไม่ทันตั้งตัวจริงๆ สำหรับกรณีที่ ช่อง 7 ยื่นฟ้อง กสท. ต่อ ป.ป.ช. เรื่องการที่ช่อง 3 ซึ่งเป็นคนละนิติบุคคลออกอากาศคู่ขนานได้ ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น คุณสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. ก็ได้ออกมาอธิบายถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์ @supinya แทบจะทันที ซึ่งสามารถสรุปโดยรวมได้ดังต่อไปนี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทาง CTH ได้ทำการเปิดตัว GMM ZIPtv กล่อง Android Box ของตัวเองที่รับภาพและเสียงผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีแพกเกจอยู่จำนวนหนึ่ง (ใครสนใจไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากที่นี่ได้ครับ ส่วนเรื่องของชื่อ เป็นผลมาจากการขายกิจการ ของแกรมมี่ให้ทาง CTH)

ทาง CTH เอง ได้ส่งกล่องให้ทาง Blognone รีวิวอยู่ประมาณหนึ่งสัปดาห์กับ Android Box ตัวนี้ครับ ถ้าพร้อมแล้วเข้ามาอ่านรีวิวด้านในได้เลยครับ

ตัวเครื่อง ZIPtv จะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบน ทรงเดียวกับ Apple TV ทุกประการ แต่มาในแบบสีดำตัดกับฝาที่เป็นสีขาว

มหากาพย์ทีวีดิจิตอลที่เหมือนจะจบแล้ว ทั้งเรื่องการยอมออกอากาศคู่ขนานของช่อง 3 และการจัดเรียงช่องบนกล่องดาวเทียม อาจกำลังเริ่มตอนใหม่เมื่อบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด หรือสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ได้ร้องต่อคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวโทษคณะกรรมการ กสท. 3 ท่านคือ สุภิญญา กลางณรงค์, ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และพลโทพีระพงษ์ มานะกิจ ด้วยเหตุผลจงใจฝ่าฝืนกฎหมายและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งทาง ป.ป.ช. ได้มีมติรับคำร้อง

โซนี่เปิดตัว PlayStation Vue (อ่านว่า "วิว") บริการดูทีวีผ่านเน็ตแบบเก็บค่าสมาชิกสำหรับ PS3, PS4 และ iPad

รูปแบบการใช้งาน PlayStation Vue จะคล้ายกับการสมัครสมาชิกเคเบิลทีวี เลือกได้ระหว่างรายการสดหรือดูย้อนหลัง 3 วันล่าสุดได้ตามสะดวก ลูกค้ายังสามารถเลือกเก็บรายการบางตอนที่ชอบไว้ดูย้อนหลังได้นานถึง 28 วัน

โซนี่ยังไม่เปิดเผยราคาของ Vue โดยบอกเพียงว่าสมัครสมาชิกเฉพาะเดือนที่ต้องการได้เลย (ไม่มีสัญญาผูกมัดเป็นปี) ลูกค้าในแต่ละประเทศจะมีทีวีให้เลือกดูประมาณ 75 ช่อง รายชื่อบริษัททีวีในสหรัฐที่เป็นพันธมิตรกับโซนี่ได้แก่ CBS, Fox, Discovery, NBCUniversal, Scripps และ Viacom

LG เป็นบริษัทผลิตทีวีพลาสมารายสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ ประกาศปิดธุรกิจทีวีพลาสมาในช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้

ข้อมูลนี้มาจากเอกสารที่ LG ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ โดยระบุเหตุผลว่าความต้องการทีวีพลาสมาลดลงมาก และมีสัดส่วนรายได้แค่ 2.4% ของรายได้ทั้งบริษัทเท่านั้น

โฆษกของ LG ให้ข้อมูลว่า LG ผลิตแผงจอ (panel) สำหรับทีวีพลาสมาเองด้วย บริษัทต้องการทำธุรกิจนี้ต่อไปให้นานที่สุด แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ธุรกิจนี้ก็ไม่สดใสอีกต่อไปแล้ว

และแล้วก็สิ้นสุดกันเสียทีกับมหากาพย์ความขัดแย้งของ กสทช. และ ช่อง 3 ที่กินเวลาไปกว่าหนึ่งเดือน (อ่านย้อนหลังที่แท็ก TV3) ซึ่งหลังจากที่ศาลปกครองกลางช่วยไกล่เกลี่ยให้เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมาและได้ข้อสรุปที่ว่า กสท. และ ช่อง 3 มีข้อตกลงร่วมกันที่จะยินยอมให้ช่อง 3 ออริจินัล ขึ้นไปออกอากาศที่ช่อง 3 เอชดี ช่อง 33 เมื่อวานนี้ผู้บริหารของช่อง 3 ทั้งช่อง 3 ออริจินัล และช่อง 3 ดิจิทัล ได้ยืนยันว่าพร้อมที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงกับ กสท. เป็นที่เรียบร้อย

หลังจากที่ไม่มีความเคลื่อนไหวร่วมสัปดาห์ หลังช่อง 3 ประกาศไม่รับมติของ กสท. ที่ให้ช่อง 3 ส่งผังรายการมาใหม่เพื่อพิจารณาว่าสามารถออกอากาศคู่ขนานบนดิจิทัลทีวีได้หรือไม่ ล่าสุดในวันนี้ที่ศาลปกครองได้นัดทั้งสองฝ่ายมาให้ความคืบหน้าในกรณีนี้นั้น ต่างก็ได้ผลสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ