Ars Technica ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความละเอียดของรีวิว ได้ทำการรีวิว iPhone ที่ทุกคนรอคอย รีวิวนี้ยาวมาก 15 หน้า ผมแบ่งอ่านเป็นช่วงๆ อยู่ตั้งนานกว่าจะอ่านจบ แต่อ่านแล้วให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับสัมผัส iPhone ของจริงแน่นอน รีวิวนี้เจ๋งตรงมีวิดีโอสาธิตการใช้งานขั้นตอนต่างๆ ด้วย ดูประกอบจะเห็นภาพยิ่งขึ้น
สรุปว่า Ars ให้คะแนน 8/10 สิ่งที่โดดเด่นคือ Safari, คีย์บอร์ดมัลติทัช ส่วนที่แย่คือบังคับใช้เครือข่าย AT&T ที่ EDGE ช้าและเอาแน่นอนไม่ได้, ลงซอฟต์แวร์เสริมไม่ได้, เสียงริงโทนเบามาก และเรื่องจุกจิกอื่นๆ อีกหลายจุด
สำนักข่าว Reuters ประเทศอังกฤษ ได้ออกมารายงานว่า Apple เตรียมวางแผนที่จะปล่อยมือถือ iPhone รุ่นเล็ก ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่งอาจมีขนาดเล็กเท่ากับ iPod Nano ตามคำกล่าวอ้าง ของ JP Morgan Analysts
Keven Chang นักวิเคราะห์ของ JP Morgan Analysts ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาเชื่อว่า iPod Nano จะเปลี่ยนเป็นมือถือ เพราะเป็นหนทางเดียวที่ Apple จะสามารถออกมือถือราคาถูกได้ โดยจะมีลูกเล่นบนมือถือที่จำกัด และมีราคาประมาณ 300 ดอลลาร์สหรัฐ โดยคำกล่าวอ้างของเขาได้มาจากแหล่งข่าวนิรนามที่อยู่ในโครงการ iPhone Nano
ผู้บริโภคช่วยอเมริกาได้ร่วมกันต่อสู้หลังจากที่ AT&T และ Apple ออกมาบอกว่าต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนแบตเตอรี่มือถือ iPhone องค์กร Foundation for Consumer and Taxpayer Rights รับเป็นผู้ต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม เนี่องจาก AT&T และ Apple ไม่ได้ออกมาบอกถึงวิธีการเปลี่ยนแบตเตอรี่และค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ iPhone
จากข่าวลือเรื่องที่ Apple จะเตรียมขาย Apple care สำหรับ iPhone ในรอบอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ตอนนี้ทางเว็บ Apple ได้ออกมาให้ข้อมูลเรื่องนี้แล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. Apple care สำหรับ iPhone จะมีขายภายในเดือนนี้ 2. ระยะเวลา Apple care คือ 2 ปี หลังจากลงทะเบียน apple care แล้ว 3. ผู้ขายจะมีเครื่องสำรองให้เช่า เมื่อเครื่องอยู่ในระยะเวลาซ่อม (ค่าเช่าเครื่อง 29 US โดยประมาณ)
โดยศูนย์ที่มีบริการให้เช่าเครื่อง จะมีการบริการโอนถ่ายข้อมูลในเครื่องเดิมไปยังเครื่องที่เช่ามา และหากเครื่องที่เสียมีขนาดความจุ 8 GB ก็จะได้เช่าเครื่องสำรองจนาด 8 GB โดยสนนราคา Apple care สำหรับ iPhone ที่ 60 US
จากรายงานข่าวของเว็บ Timesonline.co.uk ว่าบริษัท O2 ผู้ให้บริการเครือข่ายในอังกฤษสามารถเอาชนะคู่แข่งในการตกลงร่วมกับ Apple ในการขาย iPhone ซึ่งตั้งใจที่จะวางขายภายในปีนี้ โดย O2 มีลูกค้าอยู่ประมาณ 18 ล้านคน และมีการคาดว่าจะมีการเซ้นต์สัญญาระหว่าง Apple และ O2 เร็วๆนี้
จากข่าวดังกล่าว สร้างความผิดหวังให้บริษัท Vodafone เป็นอย่างมาก เพราะ Vodafone เป็นผู้ที่ถูกคาดหมายว่าจะได้สัญญาไปจากการที่จะพยายามคว้า iPhone มาขายให้ได้
จากเว็บเดียวกันยังบอกอีกว่า iPhone ที่ฝรั่งเศสจะทำการตกลงกับ Orange
The Washington Post แปลบทความเยอรมันนี Rheinische Post article ว่า iPhone จะขายที่เยอรมันนีโดยผูกสัญญากับ T-mobile โดยจะวางขายในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งราคาในเยอรมันนีจะตกอยู่ที่ 450 ยูโร หรือประมาณ 612 US ไม่มีการยืนยันข่าวลือนี้แต่อย่างใด แต่มีความคาดหมายว่าจะเป็น iPhone 3G Apple ปล่อย iPhone ไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว และวางแผนจะขายในยุโรปไตรมาสที่สี่ ปีนี้และปี 2008 ในเอเซีย
ที่มา - MacRumors.com
เศรษฐีใหม่รายนี้ชื่อว่า Michael Kovatch ได้รับเงินเป็นจำนวนตัวเลขที่ไม่เปิดเผยจาก Apple ในการขายชื่อโดเมน iphone.com โดยทางแหล่งข่าวประมาณการว่าราคาไม่น่าจะต่ำกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
Michael อดีตเจ้าของโดเมนจดชื่อโดเมนนี้เมื่อ 12 ปีที่แล้ว โดยมีไอเดียว่าซักวันหนึ่ง ผู้ใช้คงจะสามารถใช้งานโทรศัพท์ผ่านทางอินเตอร์เนตได้
อยากรู้ว่าโดเมนนี้ฮิตขนาดไหน ลองดู traffic จาก Alexa ได้
หลังจากที่หลาย ๆ คนในสหรัฐได้ต่อคิวกันเป็นวัน ๆ เพื่อรอซื้อ iPhone แล้วบางคนที่ต้องรอการ Activation ระบบนานกว่าถึง 40 ชั่วโมงกว่า ๆ ที่บ้านตัวเองแล้วตอนนี้ก็เริ่มมีนักวิจัยชื่อดังออกมาประมาณยอดขายของ iPhone ในสหรัฐตั้งแต่วันเปิดตัวเมื่อศุกร์ที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา
NewsWireless.net ได้รายงานว่าแอปเปิลได้ร่วมมือกับ Vodafone และ T-mobile จากเยอรมันนีโดยคาดว่าจะประกาศ iPhone สำหรับสหราชอาณาจักรในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
ส่วนสำคัญของข่าวลือนี้หลัก ๆ ก็คือว่า iPhone ในยุโรปนั้นจะสนับสนุนการใช้งานเครือข่าย 3G แล้วซึ่งต่างกับ iPhone ที่วางขายอยู่ตอนนี้ในสหรัฐอเมริกา
Vodafone ตอนนี้กำลังอยู่ในตำแหน่งที่สามารถตัดสินใจอะไรเกี่ยวกับ iPhone ได้ เนื่องจากว่าเครือข่าย 3G ในยุโรปเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วแต่กลับไม่ค่อยมีใครใช้กันเสียเท่าไหร่นัก ขณะนี้เอง Vodafone กำลังปรับลดราคาการใช้ระบบข้อมูลเครือข่าย 3G ลงหลังจากที่ถูกกล่าวหาโดยผู้ใช้เรื่องราคามหาโหด
หลังจาก PC World ออกข่าวรีวิว iPhone มาทำให้เราฟันธงกันสุดท้ายธงก็หักครับพ่อแม่พี่น้อง ... iPhone มีช่องใส่ซิมการ์ดและสามารถเปลี่ยนซิมการ์ดมาใช้ได้เหมือนกับโทรศัพท์มือถือระบบ GSM ปกติ แต่ความเข้าใจผิดในเรื่องการล็อค IMEI ทำให้นักข่าวที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง GSM มากในสหรัฐพากันนึกว่ามันไม่มีซิมการ์ดให้เปลี่ยน...
ข่าว iPhone ดูเหมือนจะทำให้ข่าวแอปเปิลอื่น ๆ อาจจะไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไหร่นักในสหรัฐในตอนนี้ แต่ล่าสุดแอปเปิลได้ประกาศอัพเดทต่าง ๆ มากมายให้กับทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ตแวร์ต่าง ๆ ของบริษัท...
อันแรกเลยคือเฟิร์มแวร์ใหม่สำหรับ SuperDrive ของ MacBook และ MacBook Pro ขนาด 15 นิ้วทุกรุ่น โดยเฟิร์มแวร์ตัวนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพในการอ่านข้อมูลบนแผ่นซีดีบางชนิด โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ Mac OS X 10.4.4 หรือใหม่กว่าเท่านั้น
ต่อมาก็คืออัพเดทสำหรับแอพพลิเคชั่นโปรทั้งหลาย ได้แก่ Final Cut Pro 6.0.1, Motion 3.0.1, Color 1.0.1, Compressor 3.0.1, Soundtrack Pro 2.0.1 และ Pro Applications Update 2007-01 ที่รวมการแก้ไขบักต่าง ๆ เกี่ยวกับ Frameworks ของโปรแกรม Final Cut Studio 2 ต่าง ๆ
ยังคงเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องสำหรับ iPhone โดยล่าสุดในงานประชุมใหญ่ของบริษัท สตีฟ จ็อบส์ ได้ประกาศข่าวดีแก่พนักงานว่า ทุกคนจะได้รับ iPhone รุ่น 8GB ฟรีคนละหนึ่งเครื่อง รวมทั้งพนักงานชั่วคราวที่ทำงานมานานกว่า 1 ปี
ก่อนหน้านี้ จ็อบส์ ก็เคยซื้อใจพนักงานด้วยวิธีนี้มาแล้ว โดยปีที่แล้วเป็น iPod Shuffle รุ่น 1GB ที่พนักงานทุกคนได้รับไปฟรีๆ และจากข้อมูลในยาฮูพบว่า แอปเปิลมีพนักงานทั่วโลกอยู่ทั้งหมดกว่า 17,787 คน รวมทั้งพนักงานชั่วคราวอีกกว่า 2,400 คน เมื่อคำนวณจากยอดทั้งหมดแล้ว รายการนี้เสี่ยจ็อบส์จะหมดเงินไปกว่า $12,091,414
หลังจากที่หลาย ๆ คนในหลาย ๆ ประเทศนอกเหนือจากสหรัฐก็ฝันหวานไปกับคนในสหรัฐว่าเมื่อ iPhone ออกแล้วก็จะเตรียมตัวรอเครื่องนำเข้าหรือเตรียมจะไปแฮกระบบเพื่อปลดล็อคเครื่องให้ใช้กับผู้ให้บริการ GSM ท้องถิ่นของตัวเองได้
ตอนนี้หลาย ๆ คนก็ต้องเศร้าใจว่า iPhone เป็นโทรศัพท์มือถือระบบ GSM ที่ไม่มีช่องให้ใส่หรือเปลี่ยนซิมการ์ด โทรศัพท์มือถือ iPhone ทุกเครื่องนั้นผลิตออกมาเพื่อให้ใช้ได้กับ AT&T พูดง่าย ๆ ว่ามันเป็นโทรศัพท์มือถือของ AT&T เลยนั่นเอง ถ้าใครอยากจะเอา iPhone ไปใช้ในประเทศอื่นนอกจากสหรัฐแล้วก็ต้องจ่ายค่า Roaming กับ AT&T โดยตรงแน่นอน
ผมเคยเขียนไปว่า Walt Mossberg แห่ง WSJ ได้ iPhone ไปใช้แล้ว(ข่าวเก่า) และกำลังทดสอบเพื่อเขียนรีวิว ตอนนี้รีวิวมาแล้ว
บทสรุปที่ทาง WSJ ให้ความเห็น ขอยกคำพูดมาโดยตรง
Our verdict is that, despite some flaws and feature omissions, the iPhone is, on balance, a beautiful and breakthrough handheld computer.
ก่อนวันเปิดตัว iPhone เพียงสี่วันเท่านั้น ตอนนี้ก็เริ่มมีข่าวแปลก ๆ ออกมามากมายแล้ว...
เมื่อวานนี้แอปเปิลได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า iPhone จะมี YouTube Player อยู่บนเครื่องเลย หากอ้างอิงจากเว็บ iPhone ใหม่ (ดูของจริง In Action เลยที่นี่) แล้วจะเห็นได้ว่า iPhone จะมี "โปรแกรมเล่นคลิปจากยูทูบพิเศษที่สามารถเปิดใช้งานได้จากหน้าหลักทันที" นอกจากนี้แล้วผู้ใช้ iPhone ยังสามารถที่จะดาวน์โหลดและค้นหาวีดีโอพร้อมกับแชร์ให้เพื่อน ๆ คนอื่นดูผ่านทางอีเมลล์ได้ไม่ต่างกับการใช้ YouTube บนเว็บไซต์ตรง ๆ
เว็บ Insanely Great Mac (IGM) ได้ออกมาอ้างว่าพอจะรู้สาเหตุของการที่แอปเปิลได้ทำ Safari เวอร์ชั่นสำหรับวินโดวส์หลังจากที่ทั้งแฟน ๆ แอปเปิลและไมโครซอฟท์ต่างก็งงกันเป็นไก่ตาแตก "ทำไปทำไม?"
IGM อ้างอิงรายงานจาก MarketWatch โดย John Dvorak ว่าสาเหตุหลาย ๆ อย่างของการที่แอปเปิลพยายามที่จะผลักดันให้ Safari นั้นเกิดบนแพลตฟอร์มวินโดวส์นั้นก็เพราะ iPhone ที่ได้ใช้ Safari เป็นเว็บบราวเซอร์หลักนั่นเอง
แอปเปิลได้ออกแถลงบน Press Release ว่าโทรศัพท์มือถือ iPhone นั้นได้มีพัฒนาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่วันตอนเปิดตัวในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
iPhone มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นในโหมดต่าง ๆ ขณะนี้สามารถใช้สนทนาติดต่อกันได้ถึง 8 ชั่วโมง ใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกันได้ 4 ชั่วโมง ดูคลิปวีดีโอติดต่อกันได้ 7 ชั่วโมงหรือสามารถเปิดฟังเพลงติดต่อกันได้ถึง 24 ชั่วโมง นอกจากนี้แล้ว iPhone ยังสามารถอยู่ในโหมด Stand by ได้นานถึง 250 ชั่วโมง... มากกว่า 10 วัน! - แอปเปิล
ช่วงนี้ iPhone ใกล้ออก มีข่าวเยอะหน่อย
ผู้ร่วมงาน WWDC หลายคนรายงานว่าถึงแม้ iPhone จะใส่ Safari ตัวเต็มมาให้ แต่มันกลับไม่สามารถเล่น Adobe Flash ได้ด้วยเหตุผลด้านสัญญาระหว่างทั้งสองบริษัท นักวิเคราะห์คาดเดาว่าแอปเปิลคงปล่อยเฟิร์มแวร์ตามมาในตอนหลัง แต่การเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่แบบไม่มี Flash ก็ดูแย่ไปนิดเหมือนกัน
อีกข่าวคือ iPhone นั้นไม่มีโปรแกรม iTunes มาให้ (ใช้ระบบเล่นเพลงของ iPod) นั่นแปลว่าถ้าต้องการซื้อเพลงจาก iTunes Store เราก็จะต้องซื้อผ่านคอมพิวเตอร์ก่อนจะโอนมาลง iPhone (แบบเดียวกับ iPod) อย่างไรก็ตามผู้ใช้ iPhone จำเป็นต้องมีบัญชีผู้ใช้ของ iTunes Store ก่อนจึงจะใช้งานได้ กรณีนี้มองได้ว่าแอปเปิลต้องการคุยกับลูกค้าโดยตรง ไม่ผ่านตัวกลางอย่าง AT&T
Walt Mossberg เป็นคอลัมนิสต์ด้านไอทีของ Wall Street Journal และยังเป็นคนจัดงาน D: All Things Digital ที่นำเอาสตีฟ จ็อบส์กับบิล เกตส์มาขึ้นเวทีเดียวกันได้ (ถ้าใครดูวิดีโอ เขาก็คือชายแก่คนนั้นเอง)
ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ก็ไม่น่าแปลกที่ Mossberg จะได้ iPhone มาใช้ก่อนชาวบ้าน
Mossberg ควัก iPhone ออกมาโชว์ระหว่างที่เขาไปพูดในงานสัมนาอื่น บอกว่าเขาต้องทดสอบอีกซักพักก่อนจะเขียนรีวิวฉบับเต็มลง WSJ เขาบอกว่ายังไม่แน่ใจว่าจะรีวิวออกมาดีแค่ไหน เพราะมีทั้งสิ่งที่เขาชอบมากและไม่ชอบเลย เมื่อมีคนถามถึงการใช้งานคีย์บอร์ดแบบมัลติทัชของ iPhone เขาก็ตอบว่าดีกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก แต่ไม่รู้ว่าดีกว่าคีย์บอร์ดปกติ (เหมือนของ BlackBerry) หรือไม่
Jonathan Schwartz จาก Sun ออกมาประกาศที่งานของบริษัทที่กรุงวอชิงตันดีซีว่าแอปเปิลจะใช้ ZFS เป็นระบบจัดการไฟล์หลักของ Mac OS X 10.5 (Leopard)
"ที่จริงแล้ว... ในอาทิตย์นี้พวกคุณจะเห็นว่าแอปเปิลกำลังจะประกาศที่งาน Worldwide Developer Conference ว่า ZFS จะถูกไปใช้เป็นระบบจัดการไฟล์ใน Mac OS 10" - Jonathan Schwartz
แอปเปิลออกโฆษณา iPhone ใหม่อีก 3 ชุด ซึ่งระบุวันที่ชัดเจนว่า 29 มิถุนายนนี้
iPhone จะวางขายตามร้านของ Cingular/AT&T เท่านั้น (ขายพร้อมสัญญา) ไม่วางขายทั่วไป และด้วยความต้องการซื้อที่สูงมาก ทำให้ Cingular ต้องกระจายสินค้าให้ทั่วถึงทุกร้าน ซึ่งทำให้แต่ละร้านจะมี iPhone วางขายมากที่สุดก็ 40 เครื่องเท่านั้น
ที่มา - AppleInsider
ล่าสุดในงาน All Things Digital ทั้ง Bill Gates และ Steve Jobs ได้กลับมาขึ้นเวทีเดียวกันเป็นครั้งแรกในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้ ทั้งสองคนก็ได้แต่พูดชมต่างฝ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ (ดูรายละเอียด Live Cast ได้ที่นี่ : Gizmodo)
สำหรับแอปเปิลเองก็ได้ถือโอกาสปล่อยข้อมูลอะไร ๆ เล็กน้อยที่อาจจะน่าสนใจสำหรับหลาย ๆ คนเช่นกัน
เดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้จะเป็นเดือนที่สำคัญที่สุดของแอปเปิลในรอบปีนี้เลยก็ว่าได้ เพราะว่าบริษัทจะวางขาย iPhone โทรศัพท์มือถือตัวแรกของบริษัท นอกจากนี้แล้วหลาย ๆ คนก็ได้จับตามองมาที่งาน World Wide Developers Conference 2007 หรือ WWDC 2007 ที่จะจัดขึ้นสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมของแอปเปิลที่จัดขึ้นทุกปีเป็นประจำ หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดีในนาม "วันแถลงการณ์สิ่งใหม่ ๆ จากแอปเปิล" ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 ถึง 15 มิถุนายน
เว็บ Boy Genius Report ได้รายงานข้อมูลภายในของ AT&T เกี่ยวกับเรื่องที่ทางบริษัทได้ส่งจดหมายถึงพนักงานทุกคนว่าการลาพักร้อนในช่วงเวลาวันที่ 15 มิถุนายน ถึง 15 กรกฎาคมนั้นจะไม่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงาน Sales ทาง AT&T ยังกล่าวอีกว่าพนักงานคนไหนที่ได้รับอนุญาตให้ไปพักร้อนได้ก่อนหน้านี้แล้วในช่วงเวลานี้มีสิทธิที่จะยกเลิกการลาพักร้อนแล้วเปลี่ยนเป็นเวลาอื่นได้ในภายหลัง