Google Voice มีบริการแปลงข้อความเสียงเป็นข้อความตัวอักษร แต่เพราะเป็นระบบอัตโนมัติจึงแปลงข้อความ robocall และส่ง SMS มาด้วย ทำให้เครือข่ายโทรศัพท์บล็อคข้อความเนื่องจากมองว่าเป็นสแปม
ล่าสุด Google ประกาศยยกเลิกฟีเจอร์แปลงข้อความเสียงเป็นข้อความตัวอักษรบน Google Voice แล้ว โดยมีกำหนดวันที่ 9 สิงหาคมนี้
กูเกิลออกมาโชว์ผลงานการแปลงเสียงพูดเป็นข้อความ (transcription) ที่ใช้กับบริการ Voice Mail ใน Google Voice และ Project Fi ว่ามีความแม่นยำเพิ่มขึ้น ข้อผิดพลาดลดลงจากเดิม 49%
เทคนิคที่กูเกิลใช้คือ long short-term memory deep recurrent neural network โดยขอไฟล์ตัวอย่าง Voice Mail จากผู้ใช้งานมาเป็นข้อมูลจริงสำหรับการวิเคราะห์
กูเกิลไม่ได้อธิบายรายละเอียดของเทคนิคดังกล่าว แต่ก็ถือเป็นผลดีสำหรับผู้ใช้ที่ได้ระบบแปลงเสียงพูดที่แม่นยำยิ่งขึ้นครับ
ที่มา - Google Blog
ตอนนี้ Google เริ่มเสนอทางเลือกให้ผู้ใช้ Google Voice ถ่ายโอนบัญชีใช้งานมาไว้รวมกับแอพ Hangouts แล้ว ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถรับโทรศัพท์หรือข้อความเสียงผ่านทางแอพ Hangouts ได้โดยตรง
เมื่อถึงวันที่ Google Voice กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Hangouts อย่างสมบูรณ์ นั่นหมายความว่าผู้ใช้อุปกรณ์ Android หรือใช้งาน Google Hangouts เวอร์ชันสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จะสามารถสนทนาผ่านวิดีโอ หรือโทรหากันได้ ตลอดจนส่งข้อความ SMS และข้อความเสียง ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต เช่นเดียวกับที่ Apple มีให้บริการ iMessage และ FaceTime นั่นเอง
Google Voice เป็นบริการ "เบอร์โทรศัพท์เสมือน" ที่กูเกิลเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2009 (ข่าวเก่า) แต่การให้บริการยังจำกัดเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และดูกูเกิลเองจะไม่ค่อยเน้นมากนักในช่วงปีหลังๆ
กูเกิลเผยข้อมูลของ Hangouts เพิ่มเติม ดังนี้
หลังจากภาพหลุด Google Babel ก็ยังมีข้อมูลหลุดออกมาอีกเรื่อยๆ โดยเว็บไซต์ Droid Life อ้างแหล่งข่าวงในให้ข้อมูลดังนี้
กูเกิลได้ให้สัมภาษณ์กับ CNET ว่า บริษัทจะมุ่งพัฒนา Google Voice สำหรับ Android และ iOS แต่ไม่มีแผนที่จะพัฒนาแอพฯ สำหรับ Windows Phone เว้นแต่บริษัทจะเห็นความต้องการจากผู้ใช้ Windows Phone มากกว่านี้
นับจนถึงวันนี้ กูเกิลได้ปล่อย Google Search สำหรับ Windows Phone เพียงแอพฯ เดียว หากใครจะใช้ Google Voice ก็ต้องไปใช้แอพฯ ที่ผู้อื่นที่ไม่ใช้กูเกิลพัฒนาขึ้น ซึ่ง CNET กล่าวว่าแอพฯ เหล่านั้นอาจมีปัญหาด้านความปลอดภัยอยู่
ที่มา: CNET
แฮ็กเกอร์ชื่อ Matt Mastracci ค้นพบฟีเจอร์ใหม่ที่ยังไม่เปิดตัวของ Google+ จากโค้ดของ Google+
โอเปอเรเตอร์อันดับสามของสหรัฐ Sprint แถลงข่าวที่งาน CTIA Wireless ประกาศ 2 เรื่องใหญ่ดังนี้
เรื่องแรกคือมือถือ Nexus S 4G ซึ่งเป็นรุ่นที่รองรับระบบ CDMA/WiMAX ตัวมือถือหน้าตาเหมือน Nexus S รุ่นแรกเกือบทุกประการ ยกเว้นโลโก้ Samsung/Google ด้านหลังของตัวเครื่องหายไป ระบบปฏิบัติการยังเป็น Android 2.3 รุ่นไร้การปรับแต่งใดๆ
เรื่องที่สองน่าสนใจกว่ามากคือ Sprint ประกาศจับมือกับกูเกิล เปิดให้ลูกค้าของตัวเองใช้งาน Google Voice ได้โดยตรง ไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์ใหม่ สามารถนำเบอร์เดิมมาลงทะเบียนกับ Google Voice ได้เลย (Nexus S 4G จะพรีโหลดแอพมาให้ ส่วนมือถือรุ่นอื่นๆ ต้องโหลดแอพกันเอง)
Gizmo5 บริการ VoIP อดีตคู่แข่งของ Skype ซึ่งถูกกูเกิลซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 2009 จะหยุดให้บริการเดิมของตัวเองในวันที่ 3 เมษายนนี้ ถ้าใครยังมีเครดิตของ Gizmo5 เหลือและอาศัยอยู่ในอเมริกา ก็สามารถโอนเครดิตได้ใช้ต่อใน Google Voice ได้
กูเกิลได้นำเทคโนโลยีบางส่วนจาก Gizmo5 ไปใช้ใน Gmail/Gtalk และ Google Voice แล้ว แต่ก็ยังมีความสามารถอีกหลายอย่างที่มีใน Gizmo5 แต่ยังไม่มีในบริการของกูเกิลเช่นกัน
ที่มา - TechCrunch
กูเกิลซื้อกิจการบริษัท SayNow ซึ่งทำธุรกิจด้าน voice mail บนมือถือและ social network ต่างๆ
SayNow เปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 2005 ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หลายอย่าง และฐานผู้ใช้กว่า 15 ล้านคน ในประกาศของ SayNow ระบุชัดเจนว่าจะรวมทีมเข้ากับ Google Voice แต่ยังไม่เปิดเผยโครงการว่าจะทำอะไรบ้าง
ที่มา - SayNow, TechCrunch
บริการหนึ่งของกูเกิลที่ประสบความสำเร็จอย่างดีในสหรัฐฯ แต่ยังจำกัดการให้บริการเฉพาะในสหรัฐฯ คือ Google Voice ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก (ตัวเลขล่าสุดคือ 1.4 ล้านคนตั้งแต่ปี 2009) โดย Google Voice นั้นให้บริการหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ให้กับสมาชิก เมื่อมีการโทรเข้าหมายเลขนั้นผู้ใช้จะสามารถเลือกได้ว่าให้ Google Voice โทรออกมายังโทรศัพท์ของผู้ใช้หรือรับเป็นเมล (แปลงเสียงเป็นตัวอักษรให้เอง)
จากแต่เดิมที่ผู้ใช้ไม่สามารถใช้หมายเลขเดิมได้ ทำให้การใช้งาน Google Voice จะบังคับให้ผู้ใช้มีหมายเลขใหม่เพิ่มขึ้นมา จากนี้ไปกูเกิลจะรองรับการย้ายโอนหมายเลขเดิม (Number Portability บ้านเรานั่นเอง) ไปยัง Google Voice ได้แล้ว
เป็นสงครามใหญ่ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากแอปเปิลปฏิเสธโปรแกรม Google Voice ไม่ให้เข้า iPhone App Store
ทำให้เกิดการโต้เถียงกันไปมาระหว่างกูเกิลและแอปเปิลจนเรื่องบานปลายไปถึง FCC (กทช. ของสหรัฐ )
ล่าสุดวันนี้โปรแกรม Google Voice อย่างเป็นทางการจากกูเกิลได้กลับเข้าสู่ App Store อีกครั้งแล้ว อาจเป็นเพราะแอปเปิลเริ่มผ่อนคลายกฏระเบียบของโปรแกรมบน App Store ให้อ่อนลงกว่าเดิม ที่ก่อนหน้านี้ก็มีโปรแกรมที่ใช้เชื่อมต่อกับ Google Voice ผ่านขึ้น App Store เหมือนกัน
หลังจากที่ Google Voice กลายเป็นชนวนสงครามระหว่างกูเกิลและแอปเปิล จนกระทั่งแอปเปิลกลับลำ ผ่อนคลายกฎระเบียบการอนุมัติโปรแกรมขึ้น App Store ก็ได้เวลาที่ Google Voice จะกลับสู่ iPhone อีกครั้ง
ตอนนี้มีรายงานจากผู้พัฒนาโปรแกรมอิสระที่สร้างโปรแกรม GV Connect สำหรับ Google Voice บน iPhone (ไม่ใช่โปรแกรมอย่างเป็นทางการของกูเกิลเอง) ว่าโปรแกรมของเขากลับขึ้นมาบน App Store อีกครั้งแล้ว หลังจากที่ถูกแอปเปิลแบนแบบงงๆ มานานหลายเดือน
ส่วนโปรแกรมอีกตัวคือ GV Mobile นั้นยังไม่ถูกอนุมัติขึ้น แต่ถ้าแอปเปิลจริงจังกับหลักเกณฑ์ของตัวเอง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ
ถ้าตัดประเด็นเรื่อง แอปเปิลปฏิเสธโปรแกรม Google Voice ไม่ให้เข้า App Store ซึ่งเป็นอีกชนวนความขัดแย้งของสองบริษัทนี้ออกไป Google Voice ถือเป็นบริการที่น่าสนใจมากๆ ของกูเกิล เพราะมันปฏิวัติแนวคิดของระบบโทรศัพท์แบบเดิม โดยเปลี่ยนมาให้กูเกิลจัดการทุกอย่างให้เราแทน (อ่าน Google Voice บริการเบอร์เดียวเบ็ดเสร็จสำหรับมือถือ ประกอบ)
วันนี้กูเกิลได้ปล่อยอัพเดต Google Voice เว็บแอพพลิเคชันสำหรับ Palm Pre และไอโฟน ฟังก์ชันครบครันเหมือนกับเวอร์ชั่นบนคอมพิวเตอร์ ทั้งโทรออก-รับสาย ส่งข้อความสั้น ฟังวอยซ์เมล ตั้งค่า เปิดดูสมุดรายชื่อ หน้าตาดูได้ท้ายข่าว
ที่มา: Gizmodo
หลังความขัดแย้งครั้งสำคัญระหว่างแอปเปิลกับกูเกิลในกรณีของ Google Voice นอกจากโปรแกรม Google Voice อย่างเป็นทางการจะโดนปฏิเสธจาก App Store แล้ว โปรแกรมลักษณะเดียวกันที่เชื่อมต่อกับ Google Voice (และได้รับการอนุมัติไปก่อนแล้ว) ก็โดนหางเลขไปด้วย
ระหว่างนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรจากฝั่งกูเกิล แต่นักพัฒนาอิสระ Riverturn ซึ่งเคยทำโปรแกรมเชื่อมต่อ Google Voice บน iPhone เช่นกัน ได้แก้เกมด้วยการออก VoiceCentral Black Swan Edition ที่ทำงานบน "เว็บเบราว์เซอร์"
จากที่เคยมีข่าวลือเกี่ยวกับการที่กูเกิลจะทำโทรศัพท์มือถือของตนเอง (ดูข่าวเก่า) ทาง Gizmodo ได้รายงานว่ามีผู้กล่าวอ้างว่า Google Phone มีตัวตนอย่างแน่นอน เพราะได้เห็นด้วยตาของตนเองมาแล้ว
ในรายงานนี้ได้ระบุว่า Google Phone นี้จะเป็นโทรศัพท์มือถือภายใต้แบรนด์กูเกิลที่ใช้ Android เวอร์ชันที่เรายังไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งแหล่งข่าวได้ระบุว่าได้เห็น Android นี้กับตาทำงานบนทั้งโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โดยที่มั่นใจว่ามันไม่ใช่ Chrome OS นอกจากนี้แหล่งข่าวยังได้ทิ้งท้ายว่า Android ที่เรารู้จักกันอยู่ทุกวันนี้ มันยังไม่ใช่ Android จริงๆ
ต่อเนื่องจากข่าว AT&T โต้ Google เกี่ยวกับ Network Neutrality ซึ่ง AT&T ร้องเรียนกับ FCC ว่าโปรแกรม Google Voice ของกูเกิลปิดกั้นไม่ให้โทรออกไปยังพื้นที่ห่างไกล การจุดประเด็นของ AT&T รอบนี้มีผลให้ ส.ส. สหรัฐจำนวนหนึ่งออกมากดดัน FCC ด้วย และสุดท้าย FCC ได้ออกจดหมายขอข้อมูลเพิ่มเติมจากกูเกิล ให้อธิบายการทำงานของ Google Voice (ลักษณะเดียวกับที่ทวงถามแอปเปิลกรณี App Store)
ปฏิกิริยาของกูเกิลก็ออกมารวดเร็ว โดยกูเกิลยังไม่ตอบ FCC อย่างเป็นทางการ แต่ออกมาโต้ AT&T ผ่านบล็อกของบริษัท โดยอธิบายว่า Google Voice ไม่ให้โทรออกไปยังเบอร์ในพื้นที่ห่างไกลเพราะ
ก่อนหน้านี้ที่แอปเปิลได้ปฏิเสธ (หรือแค่ยังไม่ตอบรับตามคำกล่าวอ้างของแอปเปิล) โปรแกรม Google Voice เข้าไปยัง App Store และทาง FCC ได้เข้ามาตรวจสอบ ผลสรุปค่อนข้างชัดเจนว่า AT&T ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิจารณาตรงๆ แต่มีผ่านสัญญากว้างๆ กับแอปเปิล ในขณะที่แอปเปิลระบุว่ายังพิจารณาโปรแกรม Google Voice อยู่ ทางกูเกิลอ้างว่ามีคนจากแอปเปิลแจ้งมาว่าปฏิเสธเนื่องจากมีฟีเจอร์ที่ทับซ้อนกับ iPhone
ตำนาน Google Voice กับ App Store เรื่องราวเริ่มตั้งแต่แอปเปิลปฏิเสธโปรแกรม Google Voice ไม่ให้เข้า App Store, AT&T: เราไม่ได้แบน Google Voice เป็นหน้าที่ของแอปเปิลต่างหาก ตามมาด้วย FCC ส่งจดหมายเตือนแอปเปิลและ AT&T กรณี Google Voice ซึ่งทั้งสามบริษัทที่เกี่ยวข้องได้ส่งคำตอบให้ FCC และเผยแพร่ต่อสาธารณะ (Blognone เคยลงเฉพาะคำตอบของแอปเปิล) เรื่องก็ดูเงียบๆ ไป
แต่เอาเข้าจริงแล้วยังไม่จบครับ เพราะกูเกิลเพิ่งเผยแพร่คำตอบ "เวอร์ชันจริง" ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
หลังจากมีการร้องเรียนเข้าไปที่กูเกิล เนื่องจากเกิดอาการ "ตัดการเชื่อมต่อ" เองเมื่อโทรติดต่อเกิน 15 นาที (ดูฟอรั่มดังกล่าวได้จากที่นี่) กูเกิลได้แจ้งได้ทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว
"Thank you everyone for your reports. We identified the cause of the 15 minute dropped call problem and we expect the issue to be resolved now. If you continue to see this issue, we appreciate your feedback."
ถ้ามี "โทรฟรี" ในไทยจะรีบใช้เลย :P
จากที่เป็นข่าวกันมานานแสนนานเรื่องกรณีที่แอปเปิลปฏิเสธ Google Voice เข้าใน App Store เมื่อวานนี้ทางแอปเปิลได้ตอบคำถามที่ทาง FCC ถามไว้เมื่อต้นเดือน โดยประกาศไว้บนเว็บไซต์ของแอปเปิลแล้วครับ ซึ่งผมได้ทำการสรุปคร่าวๆ เป็นภาษาไทยได้ดังต่อไปนี้ครับ
1. ทำไมแอปเปิลจึงปฏิเสธโปรแกรม Google Voice สำหรับ iPhone รวมถึงนำโปรแกรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Google Voice ออกจาก App Store แล้วนอกเหนือจาก Google Voice แล้ว มีโปรแกรมอื่นๆ อีกไหมที่ถูกถอดหรือปฏิเสธจาก App Store โดยกรุณาระบุชื่อโปรแกรมพร้อมทั้งข้อมูลการติดต่อของนักพัฒนาโปรแกรมนั้นๆ
จาก แอปเปิลปฏิเสธโปรแกรม Google Voice ไม่ให้เข้า App Store และ AT&T: เราไม่ได้แบน Google Voice เป็นหน้าที่ของแอปเปิลต่างหาก ความคืบหน้าล่าสุดคือ FCC ซึ่งเทียบได้กับ กทช. ของสหรัฐออกโรงมายุ่งกับเรื่องนี้แล้ว เริ่มจากการส่งจดหมายไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งสาม ขอคำตอบแบบเคลียร์ๆ จากกรณีการแบน Google Voice ที่เกิดขึ้น
คำถามที่ FCC ส่งถึงตัวแทนฝ่ายกิจการรัฐบาลของแอปเปิลมี 6 ข้อ สรุปสั้นๆ ดังนี้
ต่อเนื่องจากข่าว แอปเปิลปฏิเสธโปรแกรม Google Voice ไม่ให้เข้า App Store หลังจากเสียงโวยส่วนใหญ่ถล่มเข้าไปที่ AT&T ว่าเป็นผู้สั่งไม่ให้เอา Google Voice ขึ้น iPhone App Store แต่ตอนนี้ AT&T ออกมาปฏิเสธแล้ว
Glenn Lurie ผู้บริหารระดับสูงของ AT&T ตอบเว็บไซต์ TechCrunch มาทางอีเมลว่า AT&T ไม่มีสิทธิ์ดูแล App Store แต่อย่างใด อำนาจทั้งหมดในการ "อนุมัติโปรแกรม" เป็นของแอปเปิลแต่เพียงผู้เดียว