ไมโครซอฟท์ปล่อยอัพเดตความปลอดภัยสำหรับเดือนตุลาคม มีอัพเดตทั้งหมด 6 รายการเป็นอัพเดตสำคัญระดับวิกฤติ 4 รายการ และระดับสำคัญ 2 รายการ ช่องโหว่ส่วนมากเกี่ยวกับวินโดวส์และเบราว์เซอร์ทั้ง IE และ Edge ก็ควรรีพอัพเดตกันครับ

ยังคงขยายความสามารถในการแก้ไขเอกสารได้สะดวกขึ้น ล่าสุดจับมือกับ Adobe เพื่อให้การทำงานร่วมกับไฟล์ PDF ทำได้สมบูรณ์ขึ้นไปอีก โดยมาในรูปแบบคล้ายกับที่จับมือกับไมโครซอฟท์

จากการร่วมมือในครั้งนี้ ในเบื้องต้นผู้ใช้ Adobe Acrobat และ Reader จะสามารถเชื่อมบัญชีเข้ากับ Dropbox และเปิดไฟล์ที่เก็บไว้ใน Dropbox ได้จากในตัวแอพ และในเร็วๆ นี้ ผู้ใช้แอพเวอร์ชันอุปกรณ์พกพา จะสามารถเน้นคำ ใส่ความเห็น แล้วเก็บไว้ใน Dropbox ได้

สำหรับช่างภาพที่ไม่จบหลังกล้องแต่จบหลังจอ แอพอย่าง Lightroom บนอุปกรณ์พกพาก็ช่วยชีวิตไว้ได้เสมอ ล่าสุด Adobe ประกาศปล่อยแอพ Lightroom Mobile แบบที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับแอพบนเดสก์ท็อปและบัญชี Creative Cloud Photography Plan แล้ว โดยออกมาบน iOS แล้วในเวอร์ชั่น 2.0 ส่วน Android กำลังตามมา ซึ่งตอนนี้ยังเป็นเวอร์ชัน 1.3 อยู่

ฟังก์ชั่นที่เพิ่มเติมมาคือแอพนี้มาพร้อมแอพกล้องในตัว พร้อมกดถ่ายและแต่งได้เลย, มีฟิลเตอร์ Dehaze ปรับภาพให้ดูฟุ้งในม่านหมอก, ปรับค่า hue, ความอิ่มตัวของสี และความสว่างได้บนภาพตรงๆ กับคำสั่ง Target Adjustment Tool และโยนงานไปทำต่อใน Photoshop Fix ได้

Adobe ถือโอกาสเปิดตัวเครื่องมือตัวใหม่ในงาน Adobe MAX 2015 สำหรับจับกลุ่มนักออกแบบแอพโดยเฉพาะในชื่อ Project Comet

ฟีเจอร์ของ Project Comet จะเน้นไปที่การสร้าง UX โดยรองรับตั้งแต่การร่าง wirefame ทำหน้าตาตัวอย่างแอพ และทำแอพตัวต้นแบบ ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่การใช้งานร่วมกับแอพในเครือทั้ง Photoshop และ Illustator รวมถึงสามารถใช้งานฟีเจอร์ของ Creative Cloud ได้อีกด้วย

นอกเหนือจากฟีเจอร์ ความเร็ว และความเสถียรในแบบฉบับของ Adobe แล้ว Project Comet ยังสามารถแก้ไข และไปพรีวิวบนอุปกรณ์ที่ต้องการได้จริงๆ อีกด้วย

Project Comet จะเริ่มปล่อยรุ่นพรีวิวช่วงต้นปี 2016 นี้ครับ

ช่วงนี้กำลังอยู่ในงาน Adobe MAX นะครับ เข้าสู่วันที่สอง นอกจากเรื่องของ Adobe Portfolio, Adobe Capture CC แอพกล้องพร้อมเครื่องมือตกแต่ง, Photoshop Fix แอพแต่งภาพบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เน้นการรีทัช (healing brush, liquidfy) ด้วยนิ้วมือ ตลอดจน CreativeSync ที่เก็บและหยิบใช้เครื่องมือต่างๆ ข้ามอุปกรณ์ได้สะดวกขึ้นและวันนี้ก็มีโชว์อีกหลายลูกเล่นที่ยังเป็นโปรเจกต์คิดค้นพัฒนาอยู่ อาทิ

ช่วงนี้อีกซีกโลกกำลังมีงาน Adobe Max ซึ่งจัดขึ้นทุกปี ล่าสุดค่ายนี้เปิดตัว Adobe Portfolio เป็นเครื่องมือใหม่ให้เหล่าศิลปิน ดีไซเนอร์ ได้มีเว็บพอร์ตโฟลิโอโชว์งานตัวเองได้แบบไม่ยากเย็นนัก แทนที่ Behance Pro Site ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เดิมในเครือ Behance ที่ Adobe เพิ่งซื้อมาเมื่อปี 2012 ใช้งานเพิ่มเติมได้ฟรีกับบัญชี Adobe Creative Cloud ที่มีอยู่ได้เร็วๆ นี้

ตัวเว็บที่ทำผ่าน Adobe Portfolio แหล่งข่าวระบุว่าเป็น responsive เปิดดูได้บนทุกอุปกรณ์ ตั้ง URL ส่วนตัวได้ เข้าหลังบ้านมีพาสเวิร์ดป้องกัน และดึงฟอนต์จาก Typekit มาแสดงผลได้ด้วย

Adobe อัพเดตแพตช์ความปลอดภัยให้ Flash Player ชุดใหญ่จำนวน 23 จุด ตัวเลขเวอร์ชันล่าสุดคือ 19.0.0.185 และ 18.0.0.241 (สำหรับผู้ใช้กลุ่ม Extended Support)

Adobe ระบุว่ายังไม่พบการโจมตีช่องโหว่เหล่านี้ในทางปฏิบัติ แต่ก็แนะนำให้ผู้ใช้งานอัพเดต Flash เป็นเวอร์ชันล่าสุดทันที

ผู้ใช้ IE/Edge สามารถกดอัพเดตได้จาก Windows Update (Microsoft Security Advisory) ฝั่งของกูเกิลเองก็ออก Chrome 45.0.2454.99 ที่รวม Flash Player รุ่นล่าสุดมาให้แล้วเช่นกัน คนที่ใช้ Chrome ก็กดอัพเดตกันด้วยนะครับ

Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปีการเงินบริษัท 2015 (มิถุนายน-สิงหาคม) มีรายได้รวม 1,217.8 ล้านดอลลาร์ ทำสถิติใหม่ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยเติบโต 21% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 174.5 ล้านดอลลาร์

ไตรมาสที่ผ่านมา Adobe มีผู้สมัครใช้ Creative Cloud เพิ่มขึ้นอีกราว 684,000 คน สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีผู้ใช้เพิ่มขึ้น 639,000 คน

ที่มา: Re/code

เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับแอปเปิล ที่ไม่ค่อยจะบอกสเปคภายในของอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่เปิดตัวออกมา จนต้องรอดูข้อมูลจากบุคคลที่ 3 ที่งัดแงะอุปกรณ์เพื่อดูสเปคภายใน ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อคืนทั้ง iPhone 6s/6s Plus และ iPad Pro แอปเปิลก็ไม่ได้บอกรายละเอียดของสเปคมากนักเช่นกัน แต่ทว่า Adobe ที่จับมือกับแอปเปิลทำแอพรองรับ iPad Pro กลับหลุดข้อมูลแรมของ iPad Pro ออกมา บอกว่ามาพร้อมแรมขนาด 4GB

ถึงแม้ว่างานเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป สามารถเรียกความสนใจจากผู้ที่สนใจสินค้าของบริษัทได้ แต่ในอีกมิติหนึ่ง กลับมีความไม่พอใจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักวิชาการและนักสิทธิสตรี เมื่อหนึ่งในการสาธิต (demonstration) ของ Adobe ช่วงการสาธิตความสามารถของ iPad Pro มีการตัดต่อภาพของผู้หญิงอยู่

Adobe เปิดตัวแอพแต่งภาพรุ่นใหม่ Photoshop Fix (หรือชื่อเดิม Project Rigel) พร้อม iPad Pro ของแอปเปิลแล้ว

Photoshop Fix เป็นแอพรุ่นใหม่ในชุด Creative Cloud mobile ที่เน้นการทำงานร่วมกันของแอพต่างๆ ในชุด บทเวทีงานเปิดตัว iPad Pro ผู้บริหารของ Adobe ได้สาธิตการใช้แอพ 3 ตัวคือ Adobe Comp จัดเลย์เอาต์, ร่างภาพด้วย Photoshop Sketch และ รีทัชภาพด้วย Photoshop Fix ส่วนไฟล์ทั้งหมดถูกบันทึกบนบริการ Creative Cloud เพื่อให้ workflow ต่อเนื่องกันหมด

จากกรณีช่องโหว่ Flash ที่ค้นพบจากเอกสารของ Hacking Team จนสุดท้าย Adobe ต้องออก Flash เวอร์ชัน 18.0.0.209 มาแก้ไข ทางโครงการ Project Zero ของกูเกิลก็ออกมาอธิบายว่า Flash เวอร์ชันนี้ได้ปรับปรุงเทคนิคด้านหน่วยความจำหลายอย่าง ช่วยให้ Flash ปลอดภัยมากขึ้น

เทคนิคด้านหน่วยความจำเหล่านี้เป็นผลงานร่วมกันของกูเกิลกับ Adobe ทำให้มีเฉพาะ Chrome เท่านั้นที่ได้ประโยชน์จากเทคนิคเหล่านี้อย่างเต็มที่ (เพราะ Chrome ใช้ Flash เวอร์ชันพิเศษของตัวเอง) ส่วนเบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ จะใช้ได้เฉพาะเทคนิคของฝั่ง Adobe บางอันเท่านั้น

หมายเหตุ: ข่าวนี้อ้างถึงหลักการด้านหน่วยความจำ ผู้อ่านควรมีพื้นเรื่อง data structure มาบ้างครับ

ปัญหาเรื่องความปลอดภัยของ Flash ในรอบหลายวันที่ผ่านมา และความล่าช้าของ Adobe ในการออกแพตช์แก้ ส่งผลให้ค่าย Firefox ตัดสินใจบล็อคการทำงานของ Flash ทุกเวอร์ชัน (นับตั้งแต่ 18.0.0.203 ลงไป) โดยขึ้นข้อความเตือนว่าปลั๊กอินมีปัญหาความปลอดภัย (This plugin has security vulnerabilities) และไม่ปลอดภัยในการใช้งาน (unsafe) แต่ผู้ใช้ยังสามารถกดเปิดใช้งานปลั๊กอินได้เอง

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Firefox บล็อคการทำงานของปลั๊กอินที่มีช่องโหว่ ก่อนหน้านี้เคสมีกรณี Firefox บล็อคปลั๊กอิน Java มาก่อนแล้ว

ประเด็นเรื่องช่องโหว่ Flash Player ที่ค้นพบจากเอกสาร Hacking Team สรุปว่าพบช่องโหว่ 3 ตัว ซึ่ง Adobe อุดแล้วหนึ่ง แต่ เหลืออีก 2 ที่ยังไม่มีแพตช์ (นับถึงเวลาที่เขียนข่าว)

ช่องว่างการอุดแพตช์ zero-day แบบนี้ถือเป็นโอกาสอันดีให้เหล่าแฮ็กเกอร์ใช้โจมตี จากสถิติของบริษัทความปลอดภัย F-Secure ก็พบว่าบรรดาชุดโปรแกรมหารูรั่ว (exploit kit) ยอดนิยมทั้งหลายต่างก็รวมช่องโหว่ของ Flash ชุดนี้เข้ามาเรียบร้อยแล้ว

สัปดาห์ที่ผ่านมา Adobe ออกแพตช์เพื่ออุดช่องโหว่จาก Hacking Team ไปแล้วหนึ่งช่องโหว่ ตอนนี้ @w3bd3vil และ @dummys1337 ก็ออกมาระบุว่าช่องโหว่ยังถูกแก้ไม่หมด

ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดของช่องโหว่นี้ แต่ภาพแสดงว่าช่องโหว่ยังคงทำงานได้บน Flash รุ่น 18.0.0.203 ที่ Adobe เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ระหว่างนี้ถ้าใครกังวลเรื่องความปลอดภัย คงต้องปิด Flash กันไปก่อนครับ

ข่าวช่องโหว่ Adobe Flash ของ Hacking Team ออกมาไม่กี่ชั่วโมง ตอนนี้ก็ร้อนไปถึง Adobe ต้องรีบออกมารายงานช่องโหว่นี้ โดยระบุว่าทาง Adobe รับรู้แล้ว และกำลังจะปล่อยแพตช์ออกมาภายในวันพรุ่งนี้ (ตามเวลาสหรัฐฯ)

ช่องโหว่นี้รายงานเข้าไปยังทาง Adobe โดย Project Zero และ Morgan Marquis-Boire จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ Firefox เคยประกาศว่าจะให้รางวัลการรายงานช่องโหว่กับผู้ที่รายงานช่องโหว่คนแรก รายงานของ Adobe ทำให้เรารู้ว่าทาง Project Zero กำลังไล่ขุดช่องโหว่ออกมารายงานไปยังผู้ผลิตกันอยู่เช่นกัน

ผลกระทบจากกรณี Hacking Team ถูกแฮก ยังตามมาอย่างต่อเนื่อง หลังข้อมูลช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการถูกเผยแพร่ออกมาส่วนหนึ่ง ก็มีข้อมูลชุดใหม่ตามมาอีก

บริษัทความปลอดภัย Trend Micro ขุดข้อมูลของ Hacking Team แล้วพบช่องโหว่ของ Flash Player สองตัว ตัวหนึ่งถูกแพตช์แก้ไปแล้ว ส่วนตัวที่ค้นพบใหม่ยังไม่มีแพตช์แก้ใดๆ แถมการทดสอบกับ Flash เวอร์ชันล่าสุดก็ยังใช้งานช่องโหว่นี้ได้อยู่

เอกสารภายในของ Hacking Team ระบุว่าช่องโหว่ตัวนี้เป็น "บั๊กที่สวยงามที่สุด" ของ Flash ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา โดยทีมงานสามารถใช้ช่องโหว่นี้ควบคุมและสั่งงาน Windows ได้จากระยะไกล (โค้ดตัวอย่างใช้เรียก Calculator ได้)

Adobe ออกแพตช์ความปลอดภัยของ Flash Player แก้ช่องโหว่ระดับ "ร้ายแรง" (critical) ที่ถูกใช้โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวจีน APT3

ช่องโหว่หมายเลข CVE-2015-3113 นี้ถูกค้นพบโดยบริษัท FireEye จากร่องรอยการโจมตีของ APT3 ส่งผลให้ Adobe ต้องออก Flash Player เวอร์ชัน 18.0.0.194 (วินโดวส์/แมค) และ 11.2.202.468 (ลินุกซ์) มาแก้ไข

ผู้ใช้ Chrome และ IE บน Windows 8.x ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเพราะ Flash อัพเดตผ่านเบราว์เซอร์อยู่แล้ว ส่วนผู้ใช้เบราว์เซอร์อื่นๆ ก็ตามไปดาวน์โหลด Flash Player เวอร์ชันล่าสุด มาติดตั้งเพื่อความปลอดภัยกันครับ

Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปีการเงินบริษัท 2015 (มีนาคม-พฤษภาคม) โดยมีรายได้ 1,162 ล้านดอลลาร์ เป็นสถิติสูงสุดของบริษัทภายในไตรมาสเดียว ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 147.5 ล้านดอลลาร์ ขณะที่จำนวนผู้สมัครใช้ Creative Cloud ก็มีสูงถึง 4.61 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 639,000 คน

ซีอีโอ Shantanu Narayen กล่าวว่ากลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ Creative Cloud สะท้อนผลสำเร็จออกมาได้ชัดเจน รวมถึงธุรกิจอื่นที่สนับสนุนกันอย่าง Document Cloud, Marketing Cloud และล่าสุด Adobe Stock ที่เพิ่งเปิดตัวไป

Adobe ยังคงเป้าหมายมีผู้สมัครใช้ Creative Cloud จำนวน 6 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้

Adobe ปล่อยอัพเดต Adobe CC ครบชุด เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น Dehaze ลบหมอกควันออกจากภาพ, Morph Cut ใน Premier Pro CC ตัดต่อการสัมภาษณ์เชื่อมการตอบคำถามหลายๆ ชุดเข้าด้วยกัน, Character Animator ใน After Effect ทำอนิเมชั่นหน้าตาได้ง่ายๆ ด้วยการจับภาพหน้าคนแสดงจากเว็บแคม

บริการใหม่ที่เปิดตัวพร้อมๆ กับอัพเดตครั้งนี้คือ Adobe Stock บริการภาพถ่าย ที่ Adobe ไปซื้อมาจากบริษัท Fotolia ขายภาพราคาเดียวคือ 9.99 ดอลลาร์ต่อภาพ ลูกค้า Creative Cloud หากสมัครรายเดือนเดือนละ 29.99 ดอลลาร์จะใช้ ภาพได้สิบภาพต่อเดือน หากไม่ได้ใช้จะสะสมเครดิตได้รวมไม่เกิน 120 ภาพ ลูกค้าทั่วไปเดือนละ 49.99 ดอลลาร์

Adobe ประกาศว่าทางบริษัทเตรียมถอด Photoshop Touch ออกจาก App Store และ Google Play ในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ ซึ่งผู้ที่ดาวน์โหลดไว้แล้วจะสามารถใช้ต่อไปได้ แต่จะไม่มีการอัพเดตอีกแล้ว ซึ่งหากไม่มี Photoshop Touch แล้ว Adobe ก็จะไม่มีแอพแต่งรูประดับค่อนข้างโปรไว้ใช้งานบนอุปกรณ์พกพา

นอกจากนี้ในข่าวที่ปิดตัว Photoshop Touch นี้ Adobe ได้ถือโอกาสโชว์ Project Rigel เป็นแอพที่ใช้งานรีทัชอย่างจริงจังบนอุปกรณ์พกพาด้วย

แอพ Photoshop Touch เปิดตัวครั้งแรกในงาน MWC 2012 โดยเริ่มมาลง iPad, Android และตามมาด้วยบนสมาร์ทโฟน

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Adobe เปิดตัว Document Cloud ซึ่งเป็นกลุ่มเมฆอันที่สามของบริษัท ต่อจาก Creative Cloud และ Marketing Cloud แต่เน้นไปที่งานด้านเอกสารและ PDF แทน

เมื่อวานนี้ Adobe จัดงานแนะนำ Document Cloud ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการครับ เรามาดูกันว่าจริงๆ แล้ว Document Cloud คืออะไรกันแน่

หลังจากมีข่าวลือและเลื่อนมาหลายรอบ วันนี้ Adobe ได้ฤกษ์เปิดตัว โปรแกรมตกแต่งภาพนิ่งสำหรับช่างภาพ Adobe Photoshop Lightroom เวอร์ชัน 6 (รุ่นขายขาด) และอัพเดต Adobe Photoshop Lightroom CC (รุ่นเช่ารายเดือน) โดยทั้งสองเวอร์ชันมีความสามารถเท่าเทียมกัน

โดยสิ่งที่ปรับปรุงขึ้นจากเวอร์ชั่น 5 ได้แก่

ช่วงหลัง Adobe หันมาทำแอพลงอุปกรณ์พกพาชุดใหญ่ แต่แอพส่วนใหญ่ยังจำกัดเฉพาะบนแพลตฟอร์ม iOS ทำให้ชาว Android มีคำถามว่าตกลงแล้วจะได้ใช้แอพเท่าเทียมกันหรือไม่

วันนี้ Adobe ออกมาแถลงแล้วว่าไม่ลืม Android แน่นอน ตอนนี้กำลังทุ่มพัฒนาแอพบางตัวบนมือถือ Android อยู่ คาดว่าเราจะเริ่มเห็นแอพเหล่านี้ออกสู่ตลาดในช่วงฤดูร้อน (ช่วงกลางปี) ของปี 2015 นี้ นอกจากนี้ Adobe ยังจะออก Creative SDK เวอร์ชัน Android ให้นักพัฒนาแอพอื่นๆ เข้าถึง API ของ Creative Cloud ด้วย

Adobe ไม่ได้ระบุชื่อว่ากำลังสร้างแอพตัวใดอยู่บ้าง และไม่ได้กล่าวถึงแท็บเล็ต Android ครับ

ที่มา - Adobe Creative Cloud

Adobe ยังเดินหน้าออกแอพสำหรับสร้างสรรค์งานในยุคแท็บเล็ตอย่างต่อเนื่อง เราเคยเห็น Adobe Voice แอพสร้างเรื่องเล่าจากภาพทำเป็นวิดีโอ มาก่อนแล้ว คราวนี้เป็นแอพในชุดเดียวกันชื่อ Adobe Slate สร้างเรื่องเล่าเป็นบทความประกอบภาพที่สวยงาม (ทั้งสองตัวถือเป็นแอพแยกจากชุด Creative Cloud)