พอดีผมก็ทำงานในงานสาย developer มาหลายปี พอได้มาทำในส่วนการประเมินราคา project ผมก็ไม่ค่อยชัวร์เรื่องการคิดราคาว่าจะคิดราคาลูกค้าประมาณไหน ซึ่งที่มีในใจผมก็ไม่แน่ใจว่าคิดราคาถูกหรือแพงไปหรือไม่
ซึ่งที่ทำให้ผมยิ่งตกใจก็คือผมได้รับมอบหมายให้ทำ project นึง ซึ่งพอประเมินราคามาก็ได้ราคาที่ค่อนข้างสูงระดับนึงเลย แต่ผมบังเอิญไปเห็น software คนไทยเขียนมาเป็น product ซึ่งราคาทำเอาผมตกใจมากๆ คือราคาหลักร้อยเท่านั้น แถม features ก็คล้ายๆ กับที่ผมต้องการเลย แถมยังให้ source code มาอีก ทำเอาผมอึ้งมาก เลยอยากถามคนที่มีประสบการณ์ด้านนี้ครับว่าส่วนใหญ่ประเมินราคา project กันยังไงบ้าง ขอบคุณครับ
project เป็น software custom หรือเปล่าครับ เอาไปเทียบกับ app ที่ทำมาแบบทั่วๆ ไปไม่ได้หรอกครับ
ใช่ครับเป็น Customize อ่ะครับ
ใช่ครับเป็น Customize อ่ะครับ
แล้วแต่ลูกค้าครับ software custom ยังไงก็แพงกว่าของสำเร็จรูป
ของสำเร็จรูปอาจจะขายได้แสนชิ้น
แต่งาน custom มันขายได้ชิ้นเดียวก็ต้องคิดราคาตามความเหมาะสม
ส่วนการประเมินราคา ผมประเมินจากระยะเวลา คนที่ใช้ใน project และสภาพของธรุกิจของลูกค้าโดยรวมครับ
*แน่นอนว่าถ้าลูกค้าดูว่าจะเรื่องมาก งบน้อย ผมใช้วิธีคัดลูกค้าออกโดยประเมินราคาสูงเวอร์ตอบกลับให้หน้าหงายไปเลย เค้าจะได้ไม่ทำ เพราะ project ถูกกับแพงใช้เวลาเท่ากัน จะไปทำ project ราคาถูกให้เสียสุขภาพจิตทำไม
ประเด็นสำคัญคือลูกค้าไทยๆ เรื่องมากที่สุดในโลก แถมยิ่งขายถูกยิ่งเรื่องมาก
ลูกค้าก็ส่วนหนึ่งครับ แต่เซลล์ใน บ.ผมที่จะเอาราคาไปเสนอลูกค้าบางทีเค้าก็พูดแบบว่าเนี่ยไปดู software สำเร็จรูปข้างนอกราคาไม่กี่ร้อยเองทำไมทางเราคิดราคาแพงมาก ผมเองบางทีเจอพูดมาแบบนี้ก็ถึงกับชะงักไปนิดหน่อยเหมือนกัน เพราะไม่เคยเจอเคสที่แบบว่ามี software ที่เป็น product แล้วมี features พอๆ กับที่ลูกค้าต้องการให้ customize แถมราคาต่างกันฟ้ากับเหวเลย
สรุปคือจริงๆ แล้วทางผมควรจะบอกกับลูกค้าว่าถ้าจะเอา software สำเร็จรูปก็จะได้ราคาถูกมากแต่ customize เพิ่มไม่ได้แล้วนะ ส่วนถ้าต้องการอะไรพิศดารเพิ่มก็คิดราคาเพิ่มตาม man-day ที่ผมต้องใช้ไปกับการ customize ใช่ไหมครับ
ปรกติ software งานที่ทำ customize เอง จุดขายมันไม่ใช่ features เยอะ แต่มันคือการที่เราสร้าง software ให้ลูกค้าที่ไม่สันทัดเทคโนโลยีใช้งานได้ คือมี features น้อยแต่ตรงกับธรุกิจของเค้า ไม่อ้อมโลกเหมือน software สำเร็จรูป ไม่ใช้เวลาในการเรียนรู้มากและทำงานได้เร็วกว่า
แน่นอนว่าลูกค้าน่ะตัวรู้เลย ถ้าลองบอกกลับไปว่างั้นก็ใช้แบบสำเร็จรูปราคาถูกตามที่คุณบอกมาสิ ทางฝั่งนั้นก็ไม่เอาอยู่ดี เขาน่ะลองใช้แบบสำเร็จรูปมาก่อนแล้ว แต่มีปัญหาไม่งั้นคงไม่นั่งฟังเรื่องที่เอาไปเสนอหรอก
ปรกติลูกค้ากลุ่มนี้ ถ้าเป็นส่วนตัวผมจะจัดเป็นลูกค้ากลุ่มที่ไม่ควรที่จะทำงานด้วยนะ งานลูกค้าประเภทนี้จะมากความและไม่ค่อยอยากจะจ่าย ถ้าเทียบกับลูกค้าปรกติงานจะมากกว่าอย่างน้อยๆ 3 เท่า แถมอาจจะมีปัญหาประเภทโทรจิกทุกวันด้วย ปรกติแล้วถ้าเจอประเภทนี้ผมจะปฏิเสธ แบบอ้อมๆ คือ ตีราคาสูงมากกว่าปรกติหลายเท่าแบบไม่คาดหวังที่เค้าจะจ่ายไหวกลับไปแทน
สอบถามอีกเรื่องครับ ปรกติจะประเมิน man-day กันราคาประมาณเท่าไหร่ครับ คือเคยคุยกับเพื่อนหลายคนทั้งที่เป็น outsource ทั้งคนที่ทำ บ.เล็กๆ ราคาค่อนข้างต่างกับที่ บ.ผมคิดอยู่ประมาณหนึ่ง (บ. ผมเป็น บ.ต่างชาติเลยอาจจะคิดแพง)
เลยอยากทราบราคาคร่าวๆ อ่ะครับขอบคุณมากครับ :D
ปรกติแล้วไม่ได้คิด man-day นะ ไกล้เคียงน่าจะเป็นพวกงานแก้งาน support ก็เป็นรายชั่วโมงแทน และมีขั้นต่ำที่ลูกค้าต้องจ่ายที xxชั่วโมง แล้วต้องใช้ให้หมดในระยะเวลาหนึ่งตามสัญญากำหนดครับ แต่ถ้างานไหนดูถ้ารายชั่วโมงไม่คุ้มก็จะคิดแยกต่างหากเลย
ส่วนกรณีประเมิน project จะคิดแพงกว่างาน support หลายเท่าอยู่เหมือนกัน
ซื้อแผ่นมาลงเองหลักร้อย โฮ๊ะๆๆ
ทำไมผมมองเห็นภาพในหัวเลยว่า ลูกค้าเจ้านี้ ถ้ารับมาทำจะ
คุยไม่รู้เรือง ไม่รู้ว่าตัวเองจะเอาอะไร ขอในสิ่งที่ประหลาดเยอะ
ใกล้ๆ deadline หรือทำเสร็จแล้ว จะอ้างว่าลืมนู่นนี่เยอะมาก
ทำแล้วจะเครียดมาก อารมณ์เสียเยอะ ได้เงินน้อย ปัญหาตามหลังมาก
สุดท้ายก็ต้องทิ้งงานเพราะไม่คุ้ม โมโหกัน และ เสียชื่อ ตามลำดับ
หวังว่าผมคงไม่มองโลกในแง่ร้าายเกินไปนะครับ
I Know That Feel Bro.
ผมว่าอาจจะเป็นแบบนี้เลยครับ Orz