Tags:
Forums: 

iPrice Group รับเงินทุน 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพื่อเพิ่มการเข้าชิงส่วนแบ่งตลาด Meta-Search ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

กัวลาลัมเปอร์, 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559- iPrice Group ซึ่งเป็นบริษัทค้นหาสินค้าออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับเงินทุน 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (series A investment) จาก Asia Venture Group (AVG) และ Ventura โดยได้รับความร่วมมือจาก Gobi Partners, DMP, Econa, Starstrike Ventures and personal CEO investment.

บริษัท iPrice ได้รับความร่วมมืออันดีในการทำธุรกิจจากร้านค้าออนไลน์ในหลายๆประเทศ เช่น มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์, ไทย, เวียดนาม และ ฮ่องกง โดยมีสินค้ากว่า 50 ล้านสินค้าในแพลทฟอร์ม บริษัท iPrice ช่วยให้ผู้ซื้อสินค้าหาสินค้าได้ง่ายขึ้นและยังช่วยให้ผู้ขายสินค้าออนไลน์สามารถทำการตลาดให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคได้มากที่สุดผ่านทาง Affiliate Programs

ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา iPrice เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้เข้าชมเว็บไซต์มากกว่า 500% โดย David Chmelař CEO ของบริษัทกล่าวว่า “บริษัทเติบโตอย่างน่าทึ่งเพราะเราเติบโตแบบ organic และจะเข้าสู่ช่วงทำกำไรเร็วกว่าที่ได้วางแผนไว้”

บรัษัท iPrice มีแผนการรองรับการเติบโตของบริษัทในปีหน้า โดยการเพิ่มผู้นำสำคัญขององค์กรอันได้แก่ Dr. Konstantin Lange ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท HappyFresh ขึ้นเป็น COO และ Matteo Sutto ซึ่งเคยทำงานที่บริษัท Zalora และผู้ก่อตั้ง Tate & Tonic ขึ้นเป็น Senior Vice President of Growth นอกจากนี้ iPrice มีพนักงานกว่า 100 คน ซึ่งมาจากหลายๆประเทศทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อทำให้บริษัทเติบโต

แผนการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตลาด E-Commerce ทั้งสำหรับผู้บริโภคและผู้ขายสินค้า

“หนึ่งสิ่งที่เราให้ความสำคัญคือการเป็นแพลทฟอร์มที่ช่วยให้ผู้บริโภคสินค้าออนไลน์สามารถหาสินค้าในราคาและดีลที่ดีที่สุด ในขณะเดียวกันเราเล็งเห็นถึงความต้องการของผู้ขายสินค้าที่ต้องการช่องทางในการขายสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังขาดช่องทางเหล่านี้ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ช่วยเหลือพาร์ทเนอร์ของเราให้เพิ่มผู้เข้าชมสินค้าทางเว็บไซต์และ GMV กว่า 50%” กล่าวโดย David Chmelař.

ตลาด e-commerce ขยายตัวและพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีร้านค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย จึงทำให้ผู้บริโภคหาสินค้าที่มีราคาที่ดีที่สุดได้ยากมากขึ้น จากการศึกษาของ iPrice พบว่า มีเพียงสินค้า 2 ชิ้นจาก 10 ชิ้นเท่านั้นที่ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถซื้อในราคาที่ถูกที่สุด โดยผู้บริโภคจจะต้องใช้เวลาเข้าดูเว็บไซต์ต่างๆกว่า 10 เว็บไซต์

Google และ Temasek ผู้นำตลาดคาดการว่าตลาด e-commerce ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งหมายถึงผู้ขายสินค้าออนไลน์ต้องการช่องทางในการขายสินค้ามากขึ้น โดยตลาด e-commerce ในประเทศสหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญกับ affiliate marketing มากขึ้น จากการศึกษาของ Forrester Consulting เผยว่า ร้านขายสินค้าออนไลน์ยินดีลงทุน 10% ของงบทางการตลาดให้กับ affiliate programs

จากโอกาสในการเติบโตของตลาด iPrice วางแผนในการเปิดแพลทฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่จะช่วยให้ร้านค้าเพิ่มรายได้มากขึ้น

Tim Marbach, CEO และ ผู้ก่อตั้ง Asia Venture Group กล่าวว่า “จากการเติบโตของตลาด e-commerce และโมเดลธุรกิจของ iPrice บริษัทจะเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและทำกำไรที่ดีที่สุดบริษัทหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

David Chmelař กล่าวเพิ่มเติมว่า “การที่บริษัท iPrice ได้ช่วยให้ผู้บริโภคหลายล้านคนได้หาสินค้าและข้อมูลที่ถูกต้องเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น บริษัทต้องการเป็นประตูสู่ร้านขายสินค้าออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใหญ่ที่สุด ด้วยขนาดและเทคโนโลยีที่เรามี ผนวกกับความสามารถในการเปลี่ยน traffic ให้เป็นรายได้ บริษัทจะสามารถเติบโตและเข้าชิงโอกาสในตลาดนี้”

“ยังมีอีกหลายๆสิ่งที่บริษัทจะต้องทำเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคมีความสุขกับการซื้อสินค้าออนไลน์ พวกเราจะทำให้ผู้บริโภคทั้งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ หรือ กรุงเทพมหานครได้มีแฟลทฟอร์มที่สะดวกในการซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น”

เกี่ยวกับ iPrice Group
iPirce เป็นบริษัทช่วยค้นหาสินค้าออนไลน์ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้เชื่อมโยงผู้ซื้อสินค้าเข้ากับร้านขายสินค้ามากมาย ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2557 บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วในหลายๆประเทศดังต่อไปนี้
Malaysia, Indonesia, Singapore, Vietnam, Thailand, Phillipines และ Hongkongขณะนี้ iPrice มีสายธุรกิจสามธุรกิจคือ 1.ค้าหาสินค้า, 2. เปรียบเทียบราคาสินค้า, และ 3. คูปอน

Get latest news from Blognone