Nextbit เป็นโทรศัพท์ที่ระดมทุนเมื่อปีที่แล้ว และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จากสเปคที่ค่อนข้างดีราคาปานกลาง และจุดขายที่ระบุว่าสตอเรจทั้งหมดในเครื่องเชื่อมต่อกับบริการคลาวด์ของ Nextbit ทำให้โทรศัพท์มีพื้นที่เพิ่มไปถึง 100GB

ในไทยเองก็มีผู้ร่วมระดมทุนกับ Nextbit บ้าง คงได้ลองเล่นและมีบล็อกรีวิวกันไปแล้ว แต่สำหรับผมที่เพิ่งได้จับเครื่องเป็นครั้งแรก ก็ขอมองจากมุมคนที่เพิ่งใช้มาสัปดาห์เดียวอีกครั้ง

รูปร่างภายนอก

จุดขายสำคัญของ Nextbit Robin คงเป็นเรื่องของสีสันที่ทำได้ดี สะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรก อันนี้ถามสาวๆ รอบตัวผมก็ลงความเห็นค่อนข้างเอกฉันท์ว่าสวย

พื้นผิวของตัว Nextbit เป็นแบบด้านซึ่งก็ดีที่ไม่ลื่นมือนัก การจับถือกระชับดี แต่ข้อเสียสำคัญคือเป็นเก็บคราบเปื้อนเวลามือไม่สะอาดมาจับได้ง่ายมาก ผมใช้ๆ ไปสักพักมักจะมีรอยดำๆ ที่จำไม่ได้ว่าไปโดนอะไรมาเสมอๆ แต่ก็เช็ดออกและไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไร

ัตัวเครื่องมีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมืออยู่ด้านข้าง แม้ตัวผมเองจะไม่ชอบใช้ลายนิ้วมือนัก แต่สำหรับคนที่ทนพิมพ์รหัสทุกครั้งไม่ไหวผมก็ยังแนะนำให้ใช้โทรศัพท์ที่ปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือดีกว่าไม่ล็อกโทรศัพท์เลย การวางเซ็นเซอร์ไว้ด้านข้างจะให้ความรู้สึกแปลกเล็กน้อยเทียบกับไอโฟนและซัมซุงที่วางไว้ด้านหน้า และโทรศัพท์หลายรุ่นมักวางไว้ตรงกลางด้านหลัง แต่การใช้งานจริงก็ไม่ต่างอะไรนัก ตัวเซ็นเซอร์ทำงานได้แม่นยำดี การป้องกันการปลอมแปลงลายนิ้วมือมีตามมาตรฐาน (หากผิดเกินกำหนดจะถูกห้ามใช้ลายนิ้วมือช่วงหนึ่ง และหากยังผิดอีกจะบังคับใช้รหัสปลดล็อกเลย)

กล้อง

กล้องเป็นจุดขายอีกจุดของ Robin ผมใช้งานดูก็พบว่ากล้องตอบสนองได้รวดเร็วดี ก่อนหน้านี้มีหลายคนรายงานว่ามีปัญหากล้องตอบสนองช้าก็พบว่าซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดแก้ปัญหานี้ไปแล้ว

ซอฟต์แวร์

ส่วนที่สำคัญที่สุดของ Nextbit คงเป็นเรื่องของซอฟต์แวร์ภายในที่เชื่อมต่อกับคลาวด์ จากการลองใช้งานผมพบว่าแม้แนวคิดจะน่าสนใจ แต่การใช้งานจริงก็มีประเด็นอยู่บ้าง ได้แก่

• ไม่สามารถบังคับให้ซิงก์ข้อมูลแอปหรือภาพขึ้นคลาวด์ได้ทันที ต่างจากบริการเช่น Google Photos ที่สามารถสั่งอัพโหลดทันทีได้ ในกรณีที่เราอยากเก็บแอปและข้อมูลทั้งหมดขึ้นคลาวด์ไว้ก่อนก็ยังไม่สามารถทำได้ ทาง Nextbit ออกมารับทราบแนวทางนี้และระบุว่ากำลังเพิ่มฟีเจอร์นี้อยู่
• ปุ่ม All Apps ต้องกดสองชั้น อันนี้อาจจะเป็นประเด็นสำหรับผู้ใช้แอนดรอยด์ที่ชินว่าสามารถกด All Apps จากหน้าแรกได้เสมอ แต่ใน Nextbit จะต้องกดปุ่มสามจุดแล้วจึงเลือก All Apps ได้
• Pinned Apps ไม่แสดงสถานะบนไอคอน สำหรับแอปที่ใช้งานบ่อยๆ ตัว Nextbit จะมีทางเลือกให้ปักหมุดเมื่อไม่ให้แอปถูกย้ายขึ้นไปบนคลาวด์ได้ วิธีการคือแตะ (ห้ามแตะค้างเพราะจะกลายเป็นการย้ายไอคอน) แล้วลากลง เมื่อลากลงครั้งแรกจะเป็นการปักหมุด และหากลากลงอีกครั้งก็จะเป็นการถอนปักหมด ในแง่การใช้งานตัวไอคอนไม่มีสถานะบอกว่าแอปนี้ถูกปักหมุดไว้หรือยัง ต้องเข้าไปดูในหน้ารายการแอปปักหมุดเอง

ตัวระบบปฏิบัติการเป็น Android 6.0.1 อัพเดตแพตช์วันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมาถือว่าช้าไปสักหน่อยสำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย แต่ในแง่ของการอัพเดตเวอร์ชั่นใหญ่ ทาง Nextbit สัญญาว่ากำลังพัฒนา Android N ต่อไป

มุมมองโดยรวม

จากการใช้งานมาหนึ่งสัปดาห์ ผมพบว่า Nextbit Robin เป็นโทรศัพท์ที่น่าสนใจโดยตัวมันเอง โดยไม่ต้องพูดถึงฟีเจอร์ด้านคลาวด์นัก จากการออกแบบที่สะดุดตา และประสิทธิภาพโดยรวมๆ ของตัวโทรศัพท์เอง ในช่วงราคาที่น่าสนใจพอสมควร ปัจจัยที่ต้องตัดสินใจสำคัญคงเป็นเรื่องบริการหลังการขาย ที่ทางตัวแทนจำหน่ายระบุว่ามีการฝึกช่างกับทาง Nextbit อยู่ และจะรับเครื่องกลับมาซ่อมได้ผ่านทาง PowerBuy หากบริการโดยรวมไม่มีปัญหาอะไรแล้ว Nextbit Robin ก็เป็นโทรศัพท์ที่น่าสนใจมากตัวหนึ่ง

ในแง่ของบริการคลาวด์ ผมพบว่าแม้แนวคิดจะน่าสนใจ แต่บริการรวมๆ ยังถือว่าไม่สมบูรณ์นัก ฟีเจอร์ส่วนมากที่ขาดไปทาง Nextbit ก็รับรู้และสัญญาว่ากำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นการบังคับย้ายแอปขึ้นคลาวด์, การอัพโหลดวิดีโอ, และการเข้าถึงข้อมูลจากเดสก์ทอป ไปจนถึงการขายพื้นที่เพิ่มเติม ฟีเจอร์เหล่านี้ถ้าพัฒนาจนสำเร็จทั้งหมด ความเป็นโทรศัพท์คลาวด์ของ Nextbit ก็จะน่าสนใจขึ้นมาก