มอสโก, รัสเซีย/ 11 กรกฎาคม 2559 – หัวเว่ย มารีน และราสเทเลคอม เริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงข่ายโทรคมนาคมเคเบิ้ลใต้ทะเล (Submarine Fiber Optical Telecommunication Line – SFOTL) เฟส 2 ของโครงการเคเบิ้ลใต้น้ำตะวันออกไกล ระหว่างคาบสมุทรคัมชัตก้าและเกาะซาคาลิน ระยะทาง 900 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมระบบการสื่อสารระหว่างคาบสมุทรคัมชัตก้า-ซาคาลิน-มากาดาน เข้าด้วยกัน โดยจะเริ่มให้บริการได้ในราวไตรมาสแรกของปี 2560 โครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำใหม่นี้จะให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูงแก่ประชากรในสหพันธ์ตะวันออกไกล ครอบคลุมทั้งคัมซัตก้า ไครและมากาดาน
โครงการเฟสแรกซึ่งเชื่อมโยงระหว่างซาคาลินและมากาดาน สร้างเสร็จในปี 2558 พร้อมเครือข่ายโทรคมนาคมภาคพื้นดินบนคาบสมุทรคัมซัตก้า ซึ่งเชื่อมต่อกับเคเบิ้ลใต้น้ำที่บริเวณอูซท์ บัลเชเร็ซก์ (Ust-Bolsheretzk) ที่ฝังสายเคเบิ้ลใต้ทะเลอาโฮทสก์ (Okhotsk) จากอูซท์ บัลเชเร็ซก์ ในคัมชัตกา ไปยังโอ๊คคา (Okha) ย่านที่พักอาศัยในซาฮาลิน เพื่อลดการพึ่งพาสายโทรศัพท์ที่มีอยู่เดิมซึ่งเชื่อมเปตราลาฟสก์ และคัมชัตสกี้ (Petropavlovsk-Kamchatsky) ลงถึงสี่เท่า เมื่อเทียบกับเส้นทางบนฝั่งที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องพาดผ่านพื้นที่เปล่าที่มีสภาพอากาศเย็นยะเยือกและทุรกันดาร
การสร้างโครงข่ายเคเบิ้ลใต้ทะเลนี้มีความยาวทั้งสิ้นกว่า 1,850 กิโลเมตร ไม่รวมกับระบบใยแก้วบนฝั่งที่มีขนาด 400 Gbps และสามารถเพิ่มได้ถึง 8 Tbps ในอนาคต
โดยหัวเว่ย มารีน บริษัทลูกของหัวเว่ย จะเป็นผู้ดำเนินการวางสายเคเบิ้ลใต้น้ำ ด้วยการใช้เคเบิ้ล อินโนเวเตอร์ หรือเรือชำนาญการติดตั้งสายเคเบิ้ล ที่มีความยาวกว่า 145 เมตร และบรรจุเคเบิ้ลได้ถึง 8,500 ตัน
หัวเว่ย มารีน ดำเนินการติดตั้งโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำมาแล้วหลายโครงการทั่วโลก ทั้งในตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชีย และอเมริกาใต้
นิคาไล นิกิฟารัฟ รัฐมนตรีด้านโทรคมนาคมและการสื่อสารของรัสเซีย กล่าวถึงโครงการนี้ว่า “การจัดวางโครงข่ายโทรคมนาคมเคเบิ้ลใต้ทะเลไม่ได้เป็นแค่การสร้าง แต่เป็นการวางระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ที่จะให้บริการที่จำเป็นหลายอย่างในการดำเนินชีวิตประจำวันของทุกคน และทำให้ประชากรในคัมชัตก้า ซาคาลิน และมากาดาน สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐ การศึกษาทางไกล หรือการแพทย์ทางไกลได้ เมื่อผนวกกับบริการไปรษณีย์ที่ยอดเยี่ยมก็จะเป็นพื้นฐานของการพัฒนาธุรกิจขนาดเล็กได้อีกด้วย”
เซร์เก้ย์ คาลูกิ้น ประธานบริษัทรอสเทเลคอม กล่าวว่า “เครือข่ายเคเบิ้ลใยแก้วเป็นหนึ่งในโครงการที่สำคัญที่สุดของรอสเทเลคอม การสร้างโครงข่ายเคเบิ้ลใต้ทะเลจะช่วยขจัดปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการสื่อสารของภูมิภาคตะวันออกไกล เรารู้สึกดีใจที่โครงข่ายเคเบิ้ลใต้ทะเล ‘คัมชัตก้า-ซาคาลิน-มากาดาน’ จะทำให้ประชากร ตลอดจนภาคธุรกิจและภาครัฐในตะวันออกไกล สามารถเข้าถึงบริการโทรคมนาคมอันทันสมัยได้ครอบคลุมมากที่สุด”
ไอเดน หวู่ ประธานบริหาร หัวเว่ย รัสเซีย กล่าวเสริมว่า “โครงการนี้ถือเป็นโครงการแรกของหัวเว่ยในการสร้างเครือข่ายเคเบิ้ลใต้ทะเลในรัสเซีย และถือเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้มีส่วนช่วยหาทางออกให้กับปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัล เรามั่นใจว่าเมื่อติดตั้งเฟสสองเสร็จสิ้น การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะช่วยเปลี่ยนชีวิตของผู้คนในตะวันออกไกล”
เกี่ยวกับหัวเว่ย มารีน เน็ตเวิร์คส์
บริษัท หัวเว่ย มารีน เน็ตเวิร์คส์ จำกัด หรือหัวเว่ย มารีน เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี จำกัด และบริษัท โกลบอล มารีน ซิสเต็มส์ จำกัด ด้วยความเชี่ยวชาญของบริษัทแม่ทั้งสอง หัวเว่ย มารีน ได้นำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยทางด้านโทรคมนาคมและประสบการณ์ใต้ทะเลกว่า 160 ปี ผนวกกับความมุ่งมั่นอันแรงกล้าที่จะพัฒนาโครงข่ายการสื่อสารเคเบิลใต้น้ำทั่วโลก บริษัทเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นระบบเคเบิลใต้น้ำแบบเบ็ดเสร็จที่มีความน่าเชื่อถือสูงและคุ้มค่า ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบระบบ บริการเชื่อมโยง และติดตั้ง โดยมุ่งเน้นดูแลลูกค้าผู้ให้บริการเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ wandeel@francomasia.com หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์
www.huaweimarine.com
เกี่ยวกับรอสเทเลคอม
รอสเทเลคอม (www.rostelecom.ru) เป็นบริษัทโทรคมนาคมระดับชาติที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในรัสเซียและยุโรป ให้บริการด้านการสื่อสารครอบคลุมทุกแบบแก่หลายล้านครัวเรือน
บริษัทเป็นผู้นำด้านบริการบรอดแบนด์ (BBA) และเพย์ทีวี ในรัสเซีย โดยมีลูกค้าบริการบรอดแบนด์กว่า 11.9 ล้านคน และบริการเพย์ ทีวี กว่า 8.8 ล้านคน ซึ่งเป็นลูกค้า Interactive TV กว่า 3.7 ล้านคน
บริษัทมีรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2559 สูงถึง 72.5 พันล้านรูเบิ้ล รายได้จากการดำเนินการก่อนหักค่าเสื่อมและค่าใช้จ่าย หรือ OIBDA สูงแตะ 24.7 พันล้านรูเบิ้ล (ร้อยละ 34 ของรายได้) และกำไรสุทธิ 3 พันล้านรูเบิ้ล
รอสเทเลคอม เป็นผู้นำตลาดโทรคมนาคมเพียงรายเดียวในตลาดภาครัฐและองค์กรทุกระดับ และเป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทชั้นนำด้านโซลูชั่นนวัตกรรมต่างๆ ทั้งในด้าน e-government, คลาวด์, การดูแลสุขภาพ, การศึกษา ความปลอดภัยและสาธารณูปโภคต่างๆ
สถานภาพความมั่นคงด้านการเงินของบริษัทได้รับการยืนยันโดยสถาบันจัดอันดับฟิทช์ เรทติ้ง ที่ระดับ BBB- และสแตนดาร์ดแอนด์พัวส์ ที่ระดับ BB+