หากการลงคะแนนเสียงของประชาชนเปิดให้มีการลง ประชามติ เลือกสส. เลือกนายก เลือกประธานศาลต่างๆ ลงมติไม่ไว้วางใจ ลงชื่อถอดถอน ตบกระโหลกพวกที่อ้างว่าเป็นเสียงของประชาชน
สัปดาห์ละครั้งหมดเขตวันอาทิตย์
เวลาลงคะแนนให้สามารถปริ๊สใบลงคะแนนได้ด้วยบัตรประชาชน ไม่ต้องเดินทางกลับไปที่ภูมิลำเนา
หลังจากนั้นใช้เครื่องนับ คนนับ เครื่องนับที่ศูนย์นับคะแนน
แล้วตั้งเครื่องลงคะแนนหนาแน่นมากพอเหมือนตู้ ATM และมีตู้เคลื่อนที่ไปตั้งตามตลาดนัดในชนบท และสามารถแจ้งที่กกต. วางจะไปลงคะแนนที่ไหนตามตารางการเปิดจุดลงคะแนนเคลื่อนที่ของกกต.
ถ้ามีการซื้อเสียงแล้วจ่ายที่ประมาณครั้งละ 500 บาท รับรองชาวบ้านไม่ต้องทำมาหากินอะไร ก็ใช้เงินจำนวนนี้เลี้ยงชีพได้ (จากชาวชนบทห่างไกล ที่เงิน 100 บาทก็อยู่ได้สบายไปทั้งวัน)
การลงคะแนนเสียง ต้องไปใข้สิทธิทุกครั้ง หากพลาดการใช้สิทธิ จะถูกระงับ และจะได้รับสิทธิอีกครั้งเมื่อมีการยุบสภา
แค่ไปใช้สิทธิ์ระดับท้องถิ่นก็ได้ครับ
ปัญหามีเยอะจนระดับที่น่าจะ "เป็นไปไม่ได้" ล่ะครับ
หากใช้มาตราฐานเดียวกับตู้ ATM ของธนาคาร และมีเจ้าหน้ากกต.นั่งเฝ้าตู้บนจอมอนิเตอร์ล่ะครับ หรือจ้างธนาคารทำให้เสียเลย
ปัญหามีหลายอย่างนะครับ ถ้าขนาดมีเจ้าหน้าที่กกต. นั่งเฝ้าด้วยนี่ ค่าใช้จ่ายจ้างเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศเองก็ไม่น้อย ค่าใช้ตู้ ATM อีก
ปัญหาเล็กๆ ตอนเริ่มที่คิดว่าน่าจะพอแก้ไขได้ สอนให้คนกดตู้เป็นครับ
ถ้าเฉพาะภาพกล้องวงรจรปิดส่งภาพไปที่กกต.จังหวัด คงไม่เท่าไหร่ เว้นศูนย์ลงคะแนนเคลื่อนที่ และหากมีปัญหาน่าจะโทรเรียกตำรวไปดูได้
ค่าตู้ น่าจะเช่าใช้ของธนาคารได้ ดีไม่ดีอาจจะฟรีด้วย หากระบบนี้พัฒนาไปมากๆ การยกเลิกการพิมพ์ธนาบัตรอาจสามารถนำมาใช้จริงได้ การลงทุนในขณะนี้อาจไม่คุ้ม แต่มองในอนาคตอาจได้มากกว่าที่เสียไป
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้งคงต้องตั้งศูนย์ป้องกันแฮกเกอร์แห่งประเทศไทยเสียก่อน
ถ้าไม่ให้เจ้าหน้าที่มานั่งถึงหน้าตู้ แล้วการยืนยันตัวบุคคล ป้องกันการลงคะแนนแทนกันล่ะครับ?
กองวงจรปิดน่าจะแก้ปัญหาได้ เคยดู csi มันอัลกอลิทึ่มที่แยกแยะใบหน้าบุคคลได้
แถมด้วยเครื่องอ่านลายพิมพ์นิ้วมือน่าจะเอาอยู่
ถ้าไม่ได้เรื่องเจาะเลือดตรวจดีเอ็นเอเลยครับ
scan หม้านตาน่าจะเหมาะกว่า 555
เอาจริงๆนะครับ คนไทยกลัวทริก มายากล การเปลี่ยนกล่อง ไฟดับ ซื้อเสียง ฯลฯ ถ้าไม่สมารถติดตามดูใด้คนจะไม่เชื่อถือผลการเลือกตั้ง โดยเฉพาะนักการเมืองอาจจับมือกับผู้ผลิตกล่องเลือกตั้งดิจิตอล แล้วเปลี่ยนผลการเลือกตั้งใด้
ที่ตอนนี้ไม่สามารถเปลี่ยนใด้ จริงๆเพราะไม่เชื่อเลขบนจอนะครับมันตรวจสอบใด้ยาก
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
โดยส่วนตัวผมยังศรัทธาภาพที่เกิดจากการบันทึกวีดีโออยู่ ที่น่ากลัวอยู่บ้างคือตอนที่เจ้าหน้าที่นับคะแนนไปเก็บใบลงคะแนน แต่ถ้าตั้งทีมและให้ใส่อุปกรณ์แบบ google glasses และจะรู้ผลคนนับได้ ต้องรอไปอีก 1 อาทิตย์ เพื่อยันกับผลออนไลน์จากตู้ ATM และดับเบิลเช็คอีกที่ที่เครื่องนับในศูนย์นับคะแนน ที่มีมาตราฐานของศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ของแต่ละจังหวัด วีดีโอล็อกที่สามารถดูได้เหมือนบนยูทูบ
แต่ถ้าจ้างบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือสูงอย่าง Apple Inc. หรือ BlackBerry มาช่วยดัดแปลงตู้ ATM คงน่าจะเบาใจได้ในระดับหนึ่ง
อีกปัญหาที่ตามมาครับ
ไม่ใช่ทุกคนที่มีความเข้าใจในเรื่องที่โหวต ถ้าจะเว้นช่วงให้เข้าใจ ต้องทิ้งเวลานานมาก การบริหารประเทศจะไม่คล่องตัวอีก
ปรัชญาในการบริหารบ้านเมืองคือต้องทำให้ประชานเชื่อด้วยศรัทธาเสียก่อน
ช่องทีวีทางการเมืองและของรัฐสภาก็มี
หากฝ่ายบริหารใช้ศัพท์ยาก จะต้องรอให้ชาวบ้านเขาใจในเรื่องที่ตัวเองจะแก้ไขก็ถือว่า "ไม่มี" คุณสมบัติในการทำหน้าที่บริหารได้
แล้วเรื่องที่จะมาขอญัตติประชาชนทั้งประเทศน่าจะจำกัดเฉพาะเรื่อง
1.ประชามติเกียวกับเรื่องที่เกี่ยวกับประชาชนโดยตรง
2.เลือกสส. เลือกนายก เลือกประธานศาลต่างๆ
3.ลงมติไม่ไว้วางใจผู้นำหรือสมาชิกในอธิปไตยทั้ง 3 ลงชื่อถอดถอนใครก็ตาม
เรื่องเหล่านี้ ก่อนที่จะเอามติไปขอความเห็นจากคนทั้งประเทศมันคงต้องผ่านระบบรัฐสภา การอภิปายไม่ไว้วางใจ
กล้องวงจรปิดเชื่อไม่ได้ หรอกครับ และตู้ ATM ส่วนมากไม่มีกล้องด้วย
มันมีอัลกอริธึมที่แยกได้ครับ แต่ไม่ได้แม่นยำขนาดนั้น ความแม่นยำต่ำเอาเรื่อง ลายนิ้วมือนี่มีคนที่มีปัญหากับมันยิ่งกว่าอะไรดี แบบสแกนเท่าไหร่ก็ไม่ผ่านอยู่ด้วย ส่วนระบบตรวจ DNA ตอนนี้ยังไม่เร็วพอครับ แถมเล่นตุกติกได้ง่ายมากด้วย เอา DNA ของคนอื่นมาใส่แทนนี่
ผมไม่ได้ค้านหมดนะครับ ช่วยมองหาความเป็นไปได้อยู่ ถ้ามันทำได้ก็คงดีครับ แต่ที่ว่าๆ มานี่ยังไม่เวิร์คเลย
อัลกอริธึมในการแยกใบหน้าเป็นส่วนช่วยเบาแรงมนุษย์เท่านั้นครับ ในใจผมก็ยังคิดว่าจำต้องใช้แรงงานมนุษย์อยู่ เว้นเสียเราเขียนอัลกอริธึมที่สามารถเรียนรู้ได้และมีความคิดได้เท่ากับมนุษย์
ส่วนลายนิ้วมือมนุษย์หรือม่านตา ผมคิดว่าถ่ายเป็นรหัสเอาไว้โดยการเข้ารหัสแล้วพิมพ์ลงไปบนบัตรลงคะแนน พอถึงศูนย์นับคะแนนเครื่องนับคะแนนที่ศูนย์จะตัดบัตรเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งจะผลการลงคะแนน ส่วนที่สองจะเป็นการยืนยันตัวบุคคลเหมือนการเซ็นชื่อก่อนรับบัตรลงคะแนน
เรื่องเลือดก็เหมือนกัน เก็บเอาไว้ใช้ในกรณีสุดท้าย ที่จะพิมพ์ลงไปบนบัตร เพราะมันเสี่ยงกับเรื่องพวกโรคติดต่อเหลือเกิน
รู้สึกว่าในอดีตเคยมีการไช้นักเลง(และเงิน)เข้าไปบังคับให้เลือกพรรคการเมือง จากตรงนั้นเลยมีข้อกำหนดว่าต้องมีคูหาและสีตัวบัตรจะต้องเป็นความลับ และในแต่ละที่บัตรจะต้องมีสภาพเหมือนกัน จุดประสงคคือเพื่อไม่ให้รู้ว่าใครเลือกพรรคอะไร ดังนั้นจะเอารหัสหรืออะไรก็ตามที่ย้อนกลับมายังผู้เลือกตั้งไม่ใด้
เรื่องป้องกันการโกงบ้านเราทำเอาไว้เยอะ รวมถึงการใส่บัตรรอไว้ก้นหีบ ใส่บัตรเพิ่มหลังปิดหีบ ระหว่างเดินทาง หรือตอนเปิดเพื่อตรวจนับคะแนน ก่อนเปิดคูหาต้องเปิดภายในกล่องเลือกตั้งให้ทุกคนดูข้างใน ไช้หีบที่มีกระจกใสด้านหน้า มีคนติดรถเพื่อดูหีบตลอดเวลา
... พูดตามตรง "ปัญหาคือ คนไม่เชื่อว่าพรรคที่ชอบไม่ชนะ" เลยอ้างว่า "ไม่เชื่อระบบ" จะเอาใครมาทำระบบก็ไม่เชื่อนับด้วยมือมีคนเฟ้าดูจนจบไปแล้วถ้ามันใกล้เคียงกันต้องมีนับใหม่
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
"รู้สึกว่าในอดีตเคยมีการไช้นักเลง(และเงิน)เข้าไปบังคับให้เลือกพรรคการเมือง จากตรงนั้นเลยมีข้อกำหนดว่าต้องมีคูหาและสีตัวบัตรจะต้องเป็นความลับ และในแต่ละที่บัตรจะต้องมีสภาพเหมือนกัน จุดประสงคคือเพื่อไม่ให้รู้ว่าใครเลือกพรรคอะไร ดังนั้นจะเอารหัสหรืออะไรก็ตามที่ย้อนกลับมายังผู้เลือกตั้งไม่ได้"
หากบัตรเลือกตั้งอยู่ในระบบปปิดล่ะ เมื่อลงคะแนนเสร็จ เครื่องพิมพ์บัตรคะแนนสลิบออกมายืนยัน หลังจากหลุดจากมือผู้ลงคะแนนใส่กล่องตรงตู้แล้ว ตัวกล่องเก็บบัตรและHDD มีการตอกตำหนิเก็บเป็นความลับหรือพ่นดีเอ็นเอใส่เสียเลย และล็อกกล่องแบบปลากระป๋องมาจากโรงงาน มาเปิดกระป๋องเมื่อถึงศูนย์
ตัดบัตร แยกบัตรคะแนนและบัตรรหัสสแกนลายนิ้วมืออากจากกัน เข้าเครื่องสลับบัตร แล้วค่อยส่งไปให้คนนับคะแนน ส่วนบัตรยืยยันก็เข้าเครื่องสแกนไปเลยไม่ต้องออกมาจากเครื่องตัดบัตร
ตรงนี้จะมีช่องว่างให้รู้ได้ ก็ด้วยการสะแกนจอมอนิเตอร์ระยะไกลที่หน้าตู้ กับการถอดรหัสสัญญาณที่ตู้ปล่อยออกมา
"เรื่องการโกงบ้านเราทำเอาไว้เยอะ รวมถึงการใส่บัตรรอไว้ก้นหีบ ใส่บัตรเพิ่มหลังปิดหีบ ระหว่างเดินทาง หรือตอนเปิดเพื่อตรวจนับคะแนน ก่อนเปิดคูหาต้องเปิดภายในกล่องเลือกตั้งให้ทุกคนดูข้างใน ไช้หีบที่มีกระจกใสด้านหน้า มีคนติดรถเพื่อดูหีบตลอดเวลา"
อย่างที่บอก กล่องเป็นแบบปลากระป๋อง หากใช้บัตรเป็นกระแข็งสักหน่อย เวลาเข้าเครื่องตัดบัตร เครื่องมันต้องนับเพื่อยืนยันข้อมูลเทียบกัน 2 ตัว คือสัญญาณที่อัพโหลดมาจากตู้ และข้อมูลใน HDD การเก็บบัตรในเมื่อมีการเลือกตั้งทุกสัปดาห์
การเก็บบัตรจะเริ่มในวันจันทร์และสิ้นสุดในวันศุกร์ของอาทิตย์ถัดมา พนักงานเก็บบัตรต้องมี 3 คน(ไม่นับพยานพวกสารวัตรหรืปลัดอำเภอ)เป็นอย่างน้อย และให้ใส่หมวกที่มีกล่องวงจรปิดไปด้วย เพื่อยืนยันความบริสุทธ์ของทั้ง 3 คน
ถ้าระบบนี้นำมาใช้จริงคนที่ทำงานหนักที่สุด คือ คนที่นั่งดูวีดีโอครับ
แค่มีกล้อง video ที่เครื่องพิมพ์บัตร และมีการบันทึกว่าใครเข้าก่อนเข้าหลัง หรือตั้งกล้องซูมดูคูหาจากระยะไกล ก็ตรวจสอบย้อนกลับใด้แล้ว การเลือกตั้งจะต้องตรวจสอบย้อหลังไม่ใด้
ที่สำคัญคือบัตรจะต้อง ทำซ้ำ/ดัดแปลง ใด้ยากหรือไม่ใด้เลย การ print บนกระดาษธรรมดา/การเก็บข้อมูลลง hdd ก็ยังไม่เหมาะสมอยู่ดี
อีกอย่างคือการพิมพ์ผ่านแท่นพิมพ์ ประหยัดกว่า ink jet / laser นะครับ (... ส่วน dot matrix ที่ไม่ค่อยมีขายแล้วไม่มั้นใจ)
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
"แค่มีกล้อง video ที่เครื่องพิมพ์บัตร และมีการบันทึกว่าใครเข้าก่อนเข้าหลัง"
ถึงว่าทำไมสลิปถอนเงินในตู้ ATM ถึงไม่คอยมีข้อมูลอะไร (ยอมควีนให้ตัวหนึ่งเอา)
"หรือตั้งกล้องซูมดูคูหาจากระยะไกล ก็ตรวจสอบย้อนกลับใด้แล้ว"
เห็นตู้ ATM ของบางธนาคารมีการกั้นห้องกระจก เห็นที่จะไปอาศัยกับธนาคารไม่ได้กระมัง องค์การโทรศัพท์จะช่วยได้หรือเปล่าเนี่ย (อันนี้ยอมจริงๆ คงใช้เทคนิกช่วยไม่ได้แล้ว ต้องอาศัยกฏหมายช่วยแล้ว ต้องขนม้าขนเรือออกมาช่วยเสียแล้ว)
"อีกอย่างคือการพิมพ์ผ่านแท่นพิมพ์ ประหยัดกว่า ink jet / laser นะครับ (... ส่วน dot matrix ที่ไม่ค่อยมีขายแล้วไม่มั้นใจ)"
เครื่องพิมพ์เพื่อการป้องกันการปลอมแปลงบัตร ให้ใช้ ink jet 2 สี สีหนึ่งเป็นสีดำที่ละลายน้ำได้เพื่อการรีไซค์เคิลกระดาษในภายหลัง อีกสีหนึ่งผสมสารนาโนที่มีดีเอ็นเอดิจิตอลที่ฝังลงไปในเยื้อกระดาษทนต่อการรีไซค์เคิล
"การเลือกตั้งจะต้องตรวจสอบย้อนหลังไม่ใด้
ที่สำคัญคือบัตรจะต้อง ทำซ้ำ/ดัดแปลง ใด้ยากหรือไม่ใด้เลย การ print บนกระดาษธรรมดา/การเก็บข้อมูลลง hdd ก็ยังไม่เหมาะสมอยู่ดี"
ในตู้จะไม่มีผลการเลือกตั้งอะไรเหลืออยู่เลย นอกจากบัตรกระดาษจริง
การ Upload จะมีเฉพาะหมายเลขบัตรกับผลการลงคะแนนเฉพาะบัตรนั้นๆ เท่านั้น
และถ้าป้องกันการทุจริตในขั้นสูงสุด คงต้องให้กระดาษอยู่ในระบบปิดตลอดการเลือกตั้ง เว้น 2 ช่วง คือ หลังยืนยันการลงคะแนนเครื่องปริ๊นออกมาให้ดูหลังกระจกแล้วกดปุ่มให้บัตรตกลงในกล่องเก็บบัตร กับตอนที่บัตรถูกตัดส่วนการยืนยันตัวตนออกไปแล้วเหลือแต่ส่วนของผลการลงคะแนนที่จะมาถึงมือผู้นับคะแนน
การดาษใช้กระดาษรีไซค์เคิล จากบัตรลงคะแนนเก่า ในบัตรจะมีดีเอ็นเอดิจิตอล จาการลงคะแนนในครั้งก่อนๆอยู่หลายดีเอ็นเอดิจิตอล
การเก็บข้อมูลบน hdd มีเพียงเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดเท่านั้น และภาพที่เก็บ จะมีภาพถ่ายหน้าตรง พร้อมบัตรประชาชน ภาพบันทึกเหตุการณ์เหนือศีรษะ และภาพสถานการรอบตู้ลงคะแนน ห้ามมีภาพผลการลงคะแนนโดยเด็จขาด
แฮะ
แฮะ
แฮะ
แฮะ
มีความรู้สึกเหมือนเล่นหมากรุกกระดานเดียวแต่ผลัดกันมานั่งหลายคนอยู่เลย ตอนนี้ รุกของฝ่ายตรงข้ามยังไม่เห็นหน้าค่าตาเลย โดนรุกฆาตเอาๆ จนต้องงัดกฎหมายมาช่วยเสียแล้ว
เกิดผมไปแค่เลือกนายก/ส.ส. จากนั้นไม่ไปอีกเลย รอครบวาระหรือยุบสภาค่อยไปอีกที เกิดมีคนไม่ถึง 5% ของประชากรไทยไปลงคะแนน ถือว่าผลโหวต Valid มั้ยครับ? แล้วถ้าผมเกิดอยากมีส่วนร่วมมากจริงๆ ไปลงคะแนนทุกสัปดาห์ แต่ดันต้องไปต่างประเทศซะสองสัปดาห์ กลับมาหมดสิทธิ์ลงคะแนนจนกว่าจะครบวาระ?
"ถ้ากระดาษที่ Print ไว้ เมื่อเอามาแกะกล่องนับแล้วไม่ตรงกับผลจากเครื่อง มีขั้นตอนอย่างไรต่อครับ? นับใหม่? ถ้าไม่ตรงอีกแน่ๆ ทำอย่างไรต่อครับ"
(โดยส่วนตัว)
ถ้าการนับจากทั้ง 3 ส่วนไม่ตรงกัน คงเรียกว่าหวยออกคงจะได้
ตามธรรมเนียมคะแนนเรียลไทม์จากตู้น่าจะน่าเชื่อถือมากที่สุด การนับคะแนนด้วยมนุษย์ มีความน่าเชื่อถือต่ำที่สุด และเครื่องนับอัตโนมัตที่ศูนย์ มีความน่าเชื่อถือปานกลาง
ถ้าคนนับพลาดแล้ว นับใหม่คะแนนกลับมาตรงคงไม่มีปัญหาอะไร แต่นอกจากนี้คงต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนจากส่วนกลาง ตรวจดูทั้ง 3 ส่วน และยิ่งความคาดเคลื่อนนั้นมีผลต่อความต่างของผลการเลือกตั้ง คงต้องประกาศโมฆะทั้งหมดไป การที่มีการบันทึกวีดีโอไว้เป็นจำนวนมากเพราะเหตุนี้ เมื่อสอบสวนแล้วก็ขึ้นอยู่กับกรรมการเอาหลักฐานมายกเลิกคะแนนส่วนไหน และมีผล เรื่องนี้ต้องดูความหนักเบา จะให้ชี้ชัดลงไปเลยคงไม่ได้ อาจมีการแฮกตู้ เปลี่ยนบัตรกลางทาง หรือมีการวางยาเครื่องนับอัตโนมัตที่ศูนย์
หากหาตัวคนผิดบนวีดีโอได้ คงต้องปรับ 3 สถาน ครั้งแรกยกเลิกสิทธิการเลือกตั้งจนกว่าจะมีการยุบสภา ครั้งที่สองตัดสิทธิเลือกตั้งตลอดชีวิต ครั้งที่ 3 คงจำเป็นต้องดำเนินคดีอาญา
"เข้าใจว่าต้องการสร้างระบบเพื่อให้การลงคะแนนทำได้สะดวก ราคาถูก เพื่อให้สามารถโหวตบ่อยๆ ระดับทุกสัปดาห์ได้ แต่ถ้าเกิดแต่ละสัปดาห์มีคนไปลงคะแนนน้อยมาก มีเกณฑ์ขั้นต่ำไหมครับ?"
(โดยส่วนตัว)
เชื่อว่าในช่วงแรกคงไม่มีการสละสิทธิมากนัก การให้โหวตบ่อยๆเพื่อให้ประชาชนรักษาสิทธิตัวเอง หากขาดสักครั้งโดยไม่มีเหตุคอขาดบาดตาย(สมารถอุทรได้ ถ้าไปต่างประเทศก็ลงคะแนนที่สถานทูตได้) คงต้องตัดสิทธิไปจนกว่าจะมีการยุบสภา สิทธิจึงจะกลับคืนเหมือนเดิมและมีการส่งไปรษณีย์บัตรหรืออีเมลไปแจ้ง ก็นี่ระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่หรือ มันหมายถึงทุกคนต้องไปใช้สิทธิ ดังนั้นคะแนนขั้นต่ำไม่น่าจะกำหนด เพราะที่ถูกตัดสิทธิถือว่าทำผิดหน้าที่ไม่รับผิดชอบ สิทธิที่พึ่งได้ก็ควรยกเลิก(เฉพาะการลงคะแนน)
"ถ้าออกแบบระบบที่ให้ทุกคนโหวตแทบทุกเรื่อง ทุกสัปดาห์แบบนี้ ยังต้องมีสมาชิกสภา"ผู้แทน"ราษฎรอีกมั้ย?"
สมาชิกรัฐสภายังจำเป็น เพราะพวกเขามีหน้ารับใช้ประชาชน ช่วยให้เราปวดหัวน้อยที่สุด แต่ไม่ใช้ยึดอำนาจไปจากเรา (ใจจริงหากในสัปดาห์ไหนของแต่ละเดือน น่าจะมีการโหวตคะแนนความไว้วางใจสส.สักครั้ง จะเว้นก็ได้หากมีประชามติหนักเข้ามาตลอด) โดยปกติพวกพรบ.ไม่น่าเอามาให้ประชาชนปวดหัว สส.น่าจะโหวตแทนได้ แต่ถ้าไม่ผ่านจริง นายกเกิดเป็นเสียงข้างน้อยในรัฐสภาขึ้นมา สามารถใช้การขอประชามติทั้งประเทศได้ และเกิดผ่านขึ้นมานายกยังมีความน่าเชื่อถือสูง สัปดาห์ต่อไปต้องมีการลงคะแนนความไว้วางใจสส.ทันที
ความจริงระบบการลงคะแนนที่มีความถี่ขนาดนี้จะมีระบบสมาชิกรัฐสภาแบบใหม่ ให้นอกจากตัวสส.แล้ว ต้องพวงเลขาสส.เข้าไปด้วย เวลาตัวสส.ไม่อยู่ในรัฐสภาพวกเลขาจะได้เสียบบัตรแทนได้ นั่งกันให้เต็มสภาจะได้ไม่เปลื้องแอร์ไปเปล่า ถ้าช่วยขนาดนี้ยังเอาแต่ไปนอนเกาพุงในกรุงเทพไม่อยุ่ให้ติดพื้นที่สักหน่อย อาจมีการสอยกลางอากาศให้พวกสอบตกไปนั่งตากแอร์ในสภาบางก็ได้เป็นการสั่งสอน
(โดยส่วนตัว)
มันควรจะยกเครื่องใหม่แบบทั้งหมด แตะสว.ออกไปจากรัฐสภา แล้วเอาตัวแทนจากพวก แพทย์สภา คุรุสภา สภาชาวนา หรือสภาอาชีพต่างๆ เข้าไปนั่งแทนที่ มันจะได้ควบคุมมาตราฐานอาชีพนั้นๆด้วย
6o_o
ออกทะเลมานาน นี่มันเกี่ยวกับเรื่องเทคนิกที่มาถามใน blognone หรือเปล่านี่ ผมเรียนจบแค่ ม.3 นะครับ ปวช.อิเล็กฯเรียนไม่จบ ผมไม่ใช่นักรัฐศาสตร์หรือนักกฏหมายนะครับ
ถ้าจะควบคุมมาตรฐานอาชีพนั้นๆ ทำไมถึงให้ไปทำหน้าที่แทนสว. ล่ะครับ?
ใช่ว่าแทนสว.ทุกส่วน เพราะมีกลไกพิจารณาพรบ.โดยประชาชนโดยตรง สส.ที่มาจากสภาอาชีพทำหน้าที่ค้านในกรณีสส. 500คนเอยออกันหมด
แต่อัตราส่วนที่ต้องการเปลี่ยนแปลง คือ สส.บัญชีรายชื่อ 100 ที่มีสิทธิทำหน้าที่นายกและรัฐมนตรี สส.เขตหรือสภากองร้อย(ที่ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคอีกต่อไปแต่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในเขตของตัวเอง) 200 คนทำหน้าที่เสมือนฝ่ายเห็นด้วย และ สส.จากสภาอาชีพ 200 คน(ที่ไม่ได้สังกัดพรรคอยู่แล้ว แต่ได้รับการสนับสนุนจากสภาอาชีพของตน)ที่ทำหน้าที่เสมือนฝ่ายค้าน โต้แย้งด้วยวุฒิความรู้ในสายวิชาชีพ
สภาอาชีพที่ได้รับความนิยม 200 อันดับแรกเท่านั้น จึงเข้ามานั่งในสภาได้
เมื่อมีกลไกพิจารณาพรบ.โดยประชาชนโดยตรงและได้คนมีความรู้จากเหล่าขุมวิชาชีพ หน้าที่ของสว.ในรัฐสภาจึงหมดความหมาย เหลือเพียงหน้าที่ที่เกียวข้องกับองค์กรอิสระเท่านั้น
อ่ะ นอกเรื่องอีกแล้วกลาเป็นการยกเครื่องอธิปไตย 3 ไม่ใช่ยกเครื่องอุปกรณ์การเลือกตั้งเสียแล้ว
ธนาคารไม่ยอมให้เครือข่ายภายนอกเข้ามาเชื่อมต่อ Network ธนาคารหรอกครับ
ผิดตั้งแต่ Policy ของแบงค์ชาติแล้วครับ
อันนี้ปัญหาใหญ่นะ เข้าใจว่า ATM ใช้เน็ทเส้นเดียวกับระบบทั่วไป แต่อาศัยการทำ VPN ในการเชื่อมต่ออีกที่ เห็นตู้ ATM ที่พันธ์ทิพย์มีเสาโทรศัพท์โผล่ออกมา นึกว่าจะต่อโมเด็มกับระบบ GSM ทั่วไป กะจะเอา iPad ที่มี Touch ID บวกกับเครื่องปริ๊นบัตรลงคะแนนและระบบเชื่อมต่ออีกสองสามตัวไปติดตั้งไปติดตั้ง ตั้งใจแค่ขอยืมสายเน็ทโดยการต่อสวิทส์เท่านั้น ไม่คิดลงไปแจมเน็ทเวิร์ดเขาเลย ไม่รู้ว่าแบงค์ชาติจะมี Policy เรื่องนี้ด้วย นโยบายต่อยอดต่อไปที่เลิกพิมพ์ธนบัตรคงเป็นหมัน
แบบเดิมดีอยู่แล้ว เคารพกติกาก็พอ
เลือกตั้งครั้งหนึ่งใช้งบประมาณสูงมาก แต่ถ้าจัดมากขึ้นแต่ราคาแต่ละครั้งลดลงมากกว่า 400% และยุติปัญหาม็อบได้ รวมถึงการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่น และพวกการทำประชามติต่างๆ
ในเหตุการณ์ที่ไทยต้องเข้าอาเซียนในไม่กี่ปีนี้ หากไทยอยู่รอบนอกของอาเซียนคงไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง แต่ไทยถูกล้อมด้วย พม่า เขมร ลาว เวียดนาม นี่ยังไม่รวมประเทศมุสลิมที่อยู่ในรอบนอก
และเหตุการณ์ไม่สงบที่ทำให้ไทยเหมือนหยุดอยู่นิ่งกว่า 10 ปี หากไม่สามัคคีกัน แล้วเริ่มเดินพร้อมกันทุกคง ขวานไทยคงหดเหลือจนไม่เป็นรูปขวาน
ผมว่าใช้ส่ง sms ง่ายกว่าประหยัดกว่า ยังไงต่อไปเบอร์โทรมันก็ต้องผูกติดอยู่กับเลขบัตรประชาชนอยู่แล้ว
จะตกหล่นก็ตรงบางคนไม่มีโทรศัพท์แหละครับ อ๋อ เรื่องลงคะแนนแทนกันคงไม่มี เพราะโทรศัพท์ต่อไปก็ scan นิ้วมือได้หมดแล้ว ไม่ต้องแต้มหมึกเหมือนเดี๋ยวนี้ด้วย (ที่พูดมาทำได้แน่ๆ แต่กว่าจะถึงวันนั้นผมคงตายก่อนแล้ว)
orz อันนี้เกรงว่าอาจจะมาทีหลังสุดเลยนะครับ
สงสัยยังไม่ได้เป็นสมาชิกที่มีระดับพอ โดนระงับไม่ให้ตอบกระทู้ต่อเนื่อง
sms คงเอาไว้ใช้ในการยืนยันตัวตนสองชั้นกันการลงแทน
แต่พูดจริงๆ เถอะมือถือนี่แฮกง่ายกว่าแบบเก่าที่ใช้กันอยู่กว่าเยอะ คนเดียวก็ทำได้ แต่ถ้าเปลี่ยนกล่องรับบัตรลงคะแนนต้องสมรู้รวมคิดกับคนเป็นจำนวนมาก
เคยดูหนังแล้วเขาแฮกระบบเก็บค่าบริการให้โทรได้ฟรีตลอดชาติ ในสมัยที่ระบบโทรศัพย์ยังเป็นอนาล็อก
สมาชิกธรรมดาไม่เคยเขียนข่าวขึ้นหน้าแรกมีขีดจำกัดคอมเมนท์ใน ๒๔ ชั่วโมงครับ
ผมว่าปัญหาตอนนี้อยู่ที่ว่า ฝ่ายตรวจสอบมีอำนาจต่ำมาก (มีคนบอกว่านี่คือ "เสถียรภาพของรัฐบาล" ด้วยนะ คือต่อให้ทำไงรัฐบาลก็ไม่ล้ม) และสมาชิกสภาไม่มีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่านะครับ
แต่วิธีการเลือกตั้งแบบนี้น่าสนใจเหมือนกัน เอาไว้ขอคิดก่อนว่าจะมีความเห็นยังไงดี
การที่สามารถเช็คความเชื่อถือในนโยบาย โดยการที่สามารถทำประชามติได้ทุกสัปดาห์คงสามารถเสริมเสถียรภาพของรัฐบาลได้มากขึ้น ในทางตรงกันข้ามหากทำงานแย่ ก็จะเป็นการตรวจสอบรัฐบาลโดยประชาชนโดยตรง ฝ่ายค้านอาจไม่ต้องกลัวเสียข้างมากอีกต่อไป ถ้าอภิปายได้เด็จขาดจริง และทำให้ประชาชนเชื่อ ต่อให้ฝ่ายค้านมีเสียงเดียวก็ล้มรัฐบาลได้ และเห็นผลได้ใน 1 สัปดาห์หลังการอภิปาย
หากฝ่ายตรวจสอบ คือประชาชนโดยตรง เชื่อว่ารัฐบาลหนาวแน่ รวมถึงสส. หากต่อไปยกมือตามพรรคโดยไม่ฟังเสียงประชาชนบ้าง หากมีคนทนไม่ได้มากๆ โดนเลือกตั้งใหม่เอาง่ายๆ
หากรัฐบาลทำงานแข็งจริงไม่ต้องกลัวอะไร เดียวชาวบ้านหนุนเอง ในอเมริกาจะมีธรรมเนียมเลือกปธานาธิบดีพรรคหนึ่ง และเลือกสส.เสียงข้างมากอีกพรรคหนึ่ง เพื่อคานอำนาจกัน ก็เห็นเขาไปกันได้ ไม่จำเป็นต้องมีเสียงข้างมากในรัฐสภา ก็เป็นนายกได้ เพราะมีการเลือกนายกออกมาต่างหาก นี่เขากลัวคนที่ถูกใจไม่ได้เป็นนายก และรัฐธรรมนูญเขียนบังคับไว้อย่างนั้น มันเลยเป็นแบบนี้ ตามหลักการค้านอำนาจที่ถูกต้อง เราต้องเลือกสส.บัญชีรายชื่อพรรคหนึ่งเพื่อให้เป็นนายก และเลือกอีกพรรคหนึ่งฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้เป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา หากพรบ. ไม่ผ่านในรัฐสภา นายกมีสิทธิขอประชามติของประชาชนเพื่อผ่านญัตติได้ แต่เผอิญขอประชามติที่หลายร้อยล้าน เลยไม่มีนายกท่านไหนกล้าทำแบบนั้น และหากไม่ผ่านจริงๆ มันจะทำให้นายกต้องลาออกโดยพฤตินัย
สนใจเรื่องเลิกพิมพ์ธนบัตรครับ ตอนนี้มีแนวคิดอะไรในหัวมั้ยครับ?
สงสัยคงต้องแตกประเด็นใหม่ แต่ถ้าเรื่องนี้ยังไปไม่ได้ การตั้งศูนย์ป้องกันแฮกเกอร์แห้งประเทศไทศก็คงไม่รอด แล้วจะไปคิดรายละเอียดเรื่องเลิกพิมพ์ธนบัตรไปทำไมครับ
แต่แค่นี้คงคาใจ ใบ้ให้หน่อย เป้าหมายของการเลิกพิมพ์ธนบัตร คือ กองสลาก และ การเก็บภาษีแบบใหม่
ผมว่าสักวันมันจะเป็นระบบอิเล็คทรอนิกส์รูปแบบนึงนะครับ
ไม่ต้องห่วงครับ มันมาแน่ บางประเทศเริ่มใช้แล้วใช่ไหม
ผมเคยเห็นทีวีครับ แต่เป็นระบบที่ไม่กลัวแฮกเกอร์เสียมังเลย แต่สำหรับประเทศไทยต้องกลัว 3 อย่าง แฮกเกอร์ กำนันเนอร์ และไทยเยอร์
การเลือกตั้งแบบที่ปล่อยผลคะแนนให้สาธารณะชนรู้ มันสนุกตรงที่ คนไทยที่ไม่เลือกข้าง คนฉลาดและไม่ตกเป็นทาสของการเมือง สามารถต่อสู้กับการกุมอำนาจของหมู่คณะใดคณะหนึ่งได้ ไม่เป็นคณาธิปไตย แต่เป็นอธิปไตยของประชาชน ทีเสียงเล็กๆเพียงเสียงเดียว สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้ ถ้าสามารถชี้ให้เห็นผลได้ผลเสียที่แท้จริง เป็นระบอบที่ฟังถึงเสียงของประชาชนทุกคน
บางสิ่งบางอย่างต้องมีแรงจุงใจ
หากระบบตู้ ATM ไม่มีการความผิดพลาดทั้งการส่งข้อมูลจากตู้และการนับคะแนนที่ศูนย์ตลอด 6 ปี(รัฐบาลของผมมีวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี เว้น 1 วาระ จึงลงสมัครต่อได้) อาจเปิดให้มีการใช้สิทธิบ้านผ่านอุปกรณ์อ่านบัตรและ Browser หรือ App ที่มีการเข้ารหัสเป็นพิเศษ ก้อเป็นได้
เจอคนวงในเลือกข้างมันก็ไม่มีประโยชน์
อ่านลงมาเรื่อยๆแล้วขำ-ขำบรรลัย
คนในเลือกข้าง ก็ไล่มันออกสิครับ องค์กรอิสระไม่ใช่หรือ ทำไม่ไมเป็นอิสระจากตัวเองล่ะครับ
ขอตัวไปฮาก่อนนะครับ ยิ่งอ่านยิ่งฮา
55555555555555
ฟังดูเฟ้อเจ้อหรือครับ มันก็น่าหรอก
.
.
.
.
.
.
ก็มันเป็นพล้อตเรื่องใน "นิยายแฟนตาซี" นีน้า
อ่ะ ดันเฉลยออกมาเสียแล้ว
แถวบ้านไม่มีตู้ ATM ครับ จะหาสักตู้ต้องขับรถ 5 กิโล
^
^
that's just my two cents.
ยังดีไม่ต้องเดินไปตลาดนัด 3 กิโล แบบผม
ถ้าทำได้น่าจะลดค่าใช้จ่ายได้มากๆเลย
ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วใครที่ไหน จะเอาเวลามาคิดโครงการต่างๆพัฒนาประเทศหล่ะครับ?
คิดเสร็จก็โดนไม่ไว้วางใจแล้ว บอกไอ้นี่มันโกงแน่ๆ โครงการใช้เงินตั้ง...
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
พึ่งทราบว่าเวลาคิดโครงการต้องทำตอนได้รับตำแหน่งแล้ว (ไม่ใช้ต้องถ่ายทำบนโต๊ะทำงานให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งหรือ เวลามีอำนาจก็ลุยลูกเดียวไม่มีเวลานั่งโต๊ะอีก เก้าอี้รัฐมนตรีมีไว้นั่งเซ็นคำสั่งเท่านั้น ผมเห็นเก้าอี้ประจำตำแหน่งรัฐมนตรีคมนาคมคนปัจจุึบันนี้กลายเป็นเก้าอี้ไม้ในรถไฟชั้น 3 ไปแล้ว)
โครงการต่างๆ ต้องคิดตลอดเวลา ทำตลอดเวลาครับ แม้แต่โครงการเพ้อฝันที่ไม่อาจจะเป็นจริงได้ ก็จำเป็นต้องคิดว่าจะทำยังไง เดินหน้ายังไง แก้ปัญหายังไง เพราะสถานการณ์ต่างๆมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ความต้องการเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ระยะเวลา 4 ปีคงไม่มีคนทำนายความต้องการ/เหตุการณ์ ณ เวลานั้นๆได้หมดครับ
รัฐมนตรี'อาจจะ'ไม่ต้องคิดเองก็จริง แต่เวลาเซ็นงานต่างๆ คนที่รับผิดชอบทั้งหมดก็เป็นตัวรัฐมนตรีเองนะครับ? เรื่องที่คุณต้องรับผิดชอบ จะไม่คิดหน่อยเหรอ?
ผมว่าคุณคิดโดยใช้อคติมากไป จนความคิดที่เหมือนจะสร้างสรรค์กลายเป็นไม่สร้างสรรค์ไปครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เห็นภาพ current ที่ใช้แทนตัวแล้วอดเถียงไม่ได้ ใช้เป็นนักแสดงที่แสดงเรื่อง stargate หรือเปล่าครับ
ในโลกของผม!!!
เวลาเป็นฝ่ายบริหารไม่ได้มีหน้าที่ในการคิดหาวิธีแก้ปัญหา แต่มี "หน้าที่" ดูว่าปัญหานั้นคืออะไร และเอาวิธีแก้ปัญหาที่มีคนคิดกัยอยู่ก่อนแล้ว เอามาปรับใช้ให้ตรงจุด ทำอย่างไรก็ได้ให้ตรงกับกำหนดการแผ่นงาน ดูผลลัทธ์เป็นสำคัญ หากจะเอาเวลามานั่งคิด(ซึ่งจะไม่ทันกิน) ก็ต้องถอยออกมาให้คนอื่นทำหน้าที่บริหารแทนไปก่อน ไตร่ตรองได้แล้ว จะกลับเข้าไป หรือให้คนอื่นทำให้ ก็ว่ากันอีกที เวลาเป็นรัฐมนตรีไม่ควรบังคับให้ลาออกจาการเป็นสส.บัญชีรายชื่อ เพราะว่ามันจะได้มีทางถอย ไม่บีบบังคับกันเกินไป และไม่เป็นการตัดขาดจากรัฐสภา
คำว่า สภา แปลว่า สถานที่เป็นที่มาพูดพร้อมๆ กัน. เป็นที่ชุมนุมทางความคิด ไม่ได้เป็นสังเวียนในการแย้งอำนาจ
คำว่า รัฐมนตรี หากเป็นคำกิริยา แปลว่า ความคิดของรัฐ พอเป็นคำนาม แปลว่า เป็นผู้ทำความคิดของรัฐ ไม่ใช่ทำตามความคิดของกู หากเป็นความคิดของกู จะเป็นอัตตโนมนตรี
ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมตลกคุณฉิบหายก็เพราะอย่างนี้แหละครับ
ประเทศไทยเลิกออกหวยโดยเอาบอลมาหมุนๆ ได้เมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้นแหละครับ ถึงจะยอมรับการเลือกตั้งด้วยระบบอิเล็คทรอนิกส์
iPAtS
เกาไม่ถูกที่คันเลยครับ
คุณแน่ใจหรือว่า เค้าต้องการเสียงประชาชนจริงๆ
การที่ทำให้คลีนเรื่องเสียงประชาชนเท่าไหร่ เค้ายิ่งไม่ต้องการครับ
ไม่งั้นจบไปนานแล้วครับ
ส่วนประเด็นระบบอิเล็คทรอนิกส์ ไม่ได้รับการยอมรับแน่ครับ ไม่ใช่ว่าไม่เที่ยงตรงนะครับ แต่การจะให้คนธรรมดาๆ ตรวจสอบการทำงาน เป็นไปได้ยากมาก ถ้าฝ่ายที่แพ้เลือกตั้งโวยวาย ว่าโดนโกงจากระบบ เดี๋ยวจะถามหาอีกว่าใครทำระบบ มีการซื้อตัวผู้ทำระบบอีก
จริงครับ แต่ทว่าเงินซื้อเหตุการณ์ที่เกิดบนภาพวีดีโอไม่ได้ หากเป็นอีกซัก 30-40 ปีข้างหน้า และยุคที่เกิดมหาภัยธรรมชาติปีเว้นปีแบบนี้ แล้วเขาดันทำวงแหวนดาวเทียมสำเร็จขึ้นมา ระบบแบบนี้อาจกลายเป็นเรื่องของเด็กประถม
สงสัยจะไม่ได้ดูข่าวอดีตประธาน กกต. ที่ถูกศาลสั่งจำคุกเพราะดันไปหันคูหาเลือกตั้งให้คนข้างนอกเขาสังเกตเห็นว่ากาเบอร์อะไร (ใครกาเบอร์ไหน อัดวีดีโอไว้ เห็นหลักฐานหมด) มันก็ขัดหลักการลงคะแนนอยู่แล้ว จะให้ไปอัดวีดีโอหน้าตู้ลงคะแนน..... เพ้อเจ้อโคตรๆ
ตื่นได้รึยังครับ? หรืออยู่ในโลกส่วนตัวซะจนไม่ได้ออกมาดูโลกภายนอกเลยว่าเกิดอะไรขึ้น?
ขอบคุณที่เตือนครัย
ทางออกมีครับ แต่ไม่ออก
ทางที่ยุติธรรมมีครับ แต่ไม่เอา
ทางที่ตรงไปตรงมาก็มีครับ แต่จะทำให้บิดเบี้ยวซะอย่างนั้น
แล้วจะไปคาดหวังอะไรกับความจริงความเท็จครับ
เทคโนโลยีที่มากขึ้น ดูแล้วไม่เห็นจะมีประโยชน์สักเท่าไหร่ครับ
ท่านครับ มันก้อแค่พล็อตในนิยายครับ
โดยสถานะแล้ว ผมอยากกันจัวออกให้ห่าง จะได้อยู่สบายกว่า
และตัวผมมันเป็นเพียงนักแนะนำอาชีพ แต่ไม่มีวันทำอะไรสำเร็จเป็นชินเป็นอันได้
เรื่องบางเรื่องแก้ไขด้วยเทคโนโลยีไม่ได้ ปัญหาในปัจจุบันเกิดจากอะไรควรต้องไปศึกษาให้ท่องแท้ก่อน มันไม่ใช่แค่ฝ่ายเหลือง ฝ่ายแดง มันมีอะไรมากกว่านั้น ทั้งพื้นฐานด้านความรู้ประชาธิปไตย การบังคับใช้กฎหมาย การเคารพสิทธิ เสรีภาพของตนเอง และบุคคลอื่น ฯลฯ ทำอะไรบางเรื่องก็ต้องดูว่าประชากรส่วนใหญ่ของประเทศพร้อมหรือไม่ ไม่ใช่เห็นอะไรใหม่ก็ทำโดยไม่ดูพื้นฐานความรู้ของคน อย่าลืมนิยามของคำว่าประชาธิปไตยมันคือ สิทธิ เสรีภาพในกรอบที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ของคนทั้งประเทศ 60 ล้านคน ไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ถ้าคุณยังตอบคำถามข้อนี้ไม่ได้ ข้ออื่นผมว่ามันก็ยังเริ่มไม่ได้หรอก
เป็นผมจะเอาแนวคิด Bitcoin มาประยุกต์ครับ
สิ่งที่อยากเห็นคือการที่กกต.อัพเกรดตัวเองเทียเท่าระบบธนาคาร เพราะทั้ง 2 สถาบันบริารสิ่งเดียวกัน
ต่างที่ตรงกกต.แทนที่จะจับเงินเปลี่ยนเป็นความเชื่อถือทางการเมืองไม่ใช่เศรฐษกิจ
ประชาชนเป็นผู้ฝากความเชื่อถือเอาไว้ โดยให้ให้นักการเมืองมากู้เพื่อจะเอาไปบริหารปรเทศ แต่ประชาชนสามารถเลือกพรรคที่มีความน่าเชื่อถือสูงในสายตาตนได้
Bitcoin 1 คนเปิดใด้หลายบัญชีครับ
จะมีประโยชน์อะไร ถ้าประชาชน 1 คน เลือกใด้หลายครั้ง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo