ชุมชน != ประชาธิปไตย หรือ ชุมชน = ประชาธิปไตย
ทีใดมีชุมชน ที่นั่น มี หรือ ต้องมี ประชาธิปไตย สามารถ พิสูจน์ได้อย่างไร
ในทางกลับกัน
การมีชุมชน ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีประชาธิปไตย เพราะเหตุว่า การเป็นชุมชน คือการรวมตัวของคน มากกว่า 1 เป็น กลุ่ม เป็นก้อน ใน ลักษณะเดียวกัน (Group) ในลักษณะชุมชน ในความคิดผม อธิบายด้วยคำสั่ง SQL (group by) แล้วประชาธิปไตยละ จะอธิบายยังไง
ประชาธิปไตย คือ การรวมกันของกลุ่มคน กลุ่มนึง ที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หรือ มีเหมือนกันบ้าง แต่ทุกคนมี สิทธิ์ เท่ากัน เสียงเท่ากัน ซึ่งการทำการใดๆย่อมต้อง รับฟังเสียงของทุกๆ คน
แล้วมันยังไงละ
ถ้า ชุมชน=ประชาธิปไตย
ถ้าคนในชุมชนจะกินข้าวกลางวัน คุณต้องขอมติชุมชนว่าจะกิน หมูกระทะ โออิชิ หรือ สุกี้ หากคุณอยากกินหมูกระทะ แต่เสียงส่วนใหญ่บอกว่าจะกิน สุกี้ คุณต้องกินสุกี้ คุณจะกินหมูกระทะไม่ได้
ถ้า ชุมชน!= ประชาธิปไตย ละ คำถามเดียวกัน ถ้าคนในชุมชนจะกินข้าวกลางวัน และเสียงส่วนใหญ่ จะกินสุกี้ แต่คุณอยากกินหมูกระทะ ซึ่ง คุณก็ทำได้ โดยการเดินออกจากมือกลางวัน ของชุมชน และไปหาหมูกระทะกินเอง คุณก็ทำได้ เพราะ คุณไม่จำเป็นต้อง เคารพเสียงส่วนใหญ่
คำถาม ในตัวอย่างที่ยก นี้ ผมหิวข้าว และอยากกินทั้งสามอย่าง ลองแสดงความคิดเห็นว่าจะกินอะไรดี :)
อันนั้น ล้อเล่น แต่จริงๆ แล้วผมอยากรู้ว่า ชุมชน = ประชาธิปไตย หรือ ชุมชน != ประชาธิปไตย อันไหนถูกกันแน่ โปรดอธิบาย
สุดท้ายนี้ ถ้าใครอ่านแล้วงง ขอตอบว่าผมก็งง และขอตัวไปกินข้าวเช้าก่อน หิว :)
ผมว่าประชาธิปไตยในบริบทนี้(อาหารกลางวัน)คือเครื่องมือในการตกลงใช้ทรัพยากรร่วมกันมากกว่า (เงิน/เวลา) ซึ่งคุณจะปฏิเสธไม่ใช้ร่วมก็ได้ไม่มีใครบังคับ (นั้นคือประชาธิปไตย) เฉกเช่นเดียวกันกับประเทศนึงที่เสียงส่วนใหญ่ห่วยแตก คุณจะปฏิเสธก็ได้ แต่มันไม่หนีคุณไปแน่(นั้นก็ประชาธิปไตยอีกเช่นกัน);P
สรุป: ชุมชน != ประชาธิปไตย/ ชุมชน ⊇ ประชาธิปไตย
ผมอ่านแล้วมันน่าจะเป็นเสรีภาพมากกว่านะ
ผมเห็นด้วยนะครับ
ผมว่ากรณีนี้ไม่เกี่ยวหรอก ประชาธิปไตย
ผมว่าเกี่ยวกับความเชื่อของเจ้าของเว็บมากกว่า ว่าเชื่อหลักการ "free speech" แค่ไหน
เชื่อว่าคนอื่น ๆ มีวิจารณญาณแยกแยะความเห็น ข้อมูล หรืออารมณ์ได้ไหม
การแบน user หรืออะไรต่าง ๆ การบอกว่า พูดอย่างงี้ทำให้แตกแยก ไม่มีนโยบายอย่างโน้นอย่างนี้ ผมว่ามันก็เหมือนกับ ict เซ็นเซอร์เว็บนั่นแหล่ะ
นี่บ้านผม ผมจัดการ ที่ประเทศผม ผมจัดการ
มันดูแล้วไม่ต่างกันเท่าไหร่นะ
"ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยเลยกับสิ่งที่ท่านพูด แต่ข้าพเจ้าขอปกป้องสิทธิ ในการพูดของท่านด้วยชีวิต" วอลแตร์
วอลแตร์ไม่ได้พูดประโยคนี้ครับ
ขอบคุณที่ทักท้วงครับ
Evelyn Beatrice Hall
ทำไมต้องเป็นหมูกะทะ!!
หิวเลยอะพี่
ชุมชน กับ ประชาธิปไตย
เป็นสองส่วนที่ไม่ผกผันตามกัน
ชุมชนมีความหมายในทิศทางหนึ่งและจะเป็นหรือไม่เป็นประชาธิปไตยก็ได้ เพียงแต่ ชุมชน แต่ละชุมชนควรจะประกาศให้ชัดเจนหน่อยว่า ตัวเองเป็นแบบไหน? ประชาธิปไตย หรือ การกุมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แบบ เผด็จการ
ผมก็ไม่คิดว่าชุมชนที่เรียกว่าประเทศจีน ที่ไม่ได้มีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย จะเป็นประเทศชั่วร้าย
ในทางตรงกันข้าม กลับ "เก๋" ดีออก ในโลกที่กระแสมันพัดไปยังทิศประชาธิปไตย จีนกลับยืนหยัด และประกาศอย่างลูกผู้ชายว่า "กูไม่ไปด้วยหรอก ประชาธิปไตยน่ะ อี๋..แหวะ" แน่ะ..แอบใส่อารมณ์
ดูดีกว่าประเทศเผด็จการ แต่แค่อยากเท่ห์แบบเรา ประเทศประชาธิปไตยอะไร ทหารลุกขึ้นมากุมอำนาจ ได้ทุกๆ 10 ปี...เจริญ แถมประชาชนนี่ดีใจลุกขึ้นมาตบมือเกรียว เอาดอกไม้มาให้ทหารที่เค้าเอามายืนขู่พวกแกเพื่อบอกเป็นนัยๆ ว่า "อย่าหือ!!" ไม่รู้จะเริ่มต้นถากถางจากจุดไหนก่อนดีระหว่้างความเป็นประชาชนในประเทศประชาธิปไตยแบบบ้าๆ หรือความเป็นประเทศด้อยพัฒนาจนประชาชนตีความหมายของการเอาทหารมายืนไม่ออก??
แหม่..พูดซะไกล รวมความเอาว่า จะเอายังไงก็เอา ก็แค่ประกาศออกมาให้ชัดเจน
ถ้าบังเอิญโชคดีเกิดมาเป็นคนเปิดกว้าง ชอบฟังความคิดเห็นของคนอื่น ทะเลาะขัดแย้งกันได้บ้างตามสมควร อย่างนั้นก็ประกาศมาเลยว่า "ผมเป็นประชาธิปไตยครับลูกพี่!! แสดงความคิดเห็นอย่างเช่นปัญญาชนเค้า่ทำกันได้อย่างเต็มที่เลย"
แต่ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น มันอดคิดไม่ได้ทุกทีเลยว่า เฮ้ยมันจะมาอะไรก่ะตรูนักหนาว้าา... นี่ทำเว็บมาให้เล่นนี่ก็ไม่ได้เก็บตังค์สักบาท(ประชาชนจีนต้องเสียภาษีเงินได้มั้ยหว่า??) ทำกันอย่างงี้ก็โกรธร้อยปี อย่ามาดีร้อยชาติ เลยละำกัน - ผมว่าอย่างนี้ก็ควรบอกมาเลยว่า เว็บนี้ปกครองแบบ Webmaster สมมุติเทพเป็นใหญ่(แหม่ ชื่อตำแหน่งเท่ห์ทีเดียว) โดยไม่ต้องห่วงหล่อ บางทีการเป็นเผด็จการก็หล่อได้(เห็นว่าเมื่อก่อน สุจินดา ก็หล่อเหมือนกัน)
แล้วคนที่เหลือเค้าก็จะตัดสินใจกันเองแหล่ะครับ ว่าเค้าจะเอาไงกันต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตการณ์ การแอบเผด็จการแบบน่ารักๆ ในสังคมไทยมักไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ ดูอย่างทหารบ้านเรายังได้รับดอกไม้เลย ไม่แน่นะ ถ้าประักาศระบอบ Webmaster สมมุติเทพ ขึ้นมาจริงๆ อาจจะได้รับเสียงตอบรับอย่างไม่คาดฝันด้วยเหมือนกัน
PS. ไม่รู้มีใครได้อ่านเหตุการณ์ที่บอร์ดซังกะบ้วยตอนที่ webmaster เค้าบู๊กับสมาชิกชื่อ "กาม" หรือ "ท่านนายพล" อะไรสักอย่างนี่มั้ย?? (หรือแค่ผมคนเดียวที่หลงไปที่บอร์ดบ้าๆ นั่น??) แต่จากเหตุการณ์นั้น ผมว่า webmaster เค้าใจกว้างและใจถึงได้อย่างน่าเลื่อมใส (มันถึงขั้นแปลงเพลงอุทิศให้กับคู่อริ) การจะเป็นคนใจถึงหมายถึงว่าต้องเป็นคนบ้าๆ แบบนั้นด้วยหรือปล่าว??
ไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่านสิครับ เค้าก็ไม่ได้ห้ามไม่ใช่เหรอ
(หรือว่าไม่มีปัญญาหาที่อื่นไป???)
ผมว่าก่อนอื่นต้อง มาดูนิยามของคำว่าประชาธิปไตยก่อน ในความคิดส่วนตัว คิดว่า ประชาธิปไตย คือหลักของเสรีภาพ เสมอภาค โดยประชาชนสามารถทำอะไรก็ได้ โดยไม่ขัดต่อกฏหมาย ซึ่งกฏหมายดังเกล่าก็ต้องไม่ขัดต่อหลัก เสรีภาพ และความเสมอภาค และคุณธรรมอันดีงาม
อย่างในกรณี ที่ลงมติว่า จะไป กินหมูกระทะ หรือสุกี้ นั้น หากมีการลงมติว่า จะไปกินสุกี้กัน ทุกคนก็ควรไปกินสุกี้ด้วยกัน แต่ นั้นก็หมายความว่า คนที่เลือกจะไปกินหมูกระทะ ก็อาจจะไปกินหมูกระทะได้ หรือ บางคนที่ทานอาหารเจ หรือมังสวิรัส ก็อาจจะไม่ได้ไปกินเลย ทั้งสองกรณี ก็โหวดไม่ไป (ไม่ขอลงคุแนน)
แต่ถ้าถามว่า ชุมชน != ประชาธิไตย นั้นก็ใช่อยู่ เพราะชุมชนมีหลายลักษณะ ผมว่า ในประเทศไทยเอง ก็มีทั้งประชาธิปไตย สังคมนิยม คอมมิวนิสต์ หรือแม้กระทั้ง สมบูรณยาสิทธิราชญ์ (พิมพ์ถูกเปล่าหว่า) อยู่รวมกัน ขึ้นอยู่กับ ตัวบุคคล หรือตัวชุมชน หรือ สังคมนั้นๆ
ถ้านอกประเด็ดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้
Chaow
1 != 2 เป็นการเปรียบเทียบตัวเลข กับ ตัวเลข ชุมชน != ประชาธิปไตย เป็นการเปรียบเทียบระหว่างอะไรกับอะไรครับ
ประชาธิปไตย คือระบบการปกครอง ชุมชน คือ ? แต่ผมว่ามันไม่ใช่ระบบการปกครอง
อธิบายง่ายๆ (แต่ยาว) สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ จากการตีความด้วยความคิดของผมเอง ชุมชนที่นี่ไม่จำต้องเป็นประชาธิปไตยไปทุกอย่าง ตราบใดถ้าคุณไม่ได้ contribute กับชุมชนจนผู้ก่อตั้งชุมชมเห็นคุณค่าในคำพูดของคุณ เขาก็มีสิทธิที่จะเมินเฉยต่อความเห็นของคุณได้ โดยไม่จำเป็นต้องชี้แจงเพิ่มเติม ถ้าคุณไม่ชอบกับข้อจำกัดนี้คุณก็ควรที่จะออกไปหาสังคมที่คุณเห็นว่าดีกว่าและอิสระกว่าได้ทันที ซึ่งมันจะง่ายกว่าที่มาเรียกร้องประชาธิปไตยในชุมชนที่คุณไม่ได้เป็นผู้สร้างหรือมีส่วนร่วมที่สร้างสรรค์แต่อย่างใด
ล่อเป้าดีแฮะ
ไอ้นี่ ! คืออะไรผมไม่เข้าใจหรอกนะครับ
ชุมชน กับประชาธิปไตย ก็มีชุมชน กับคอมมิวนิสต์
ด้วยเหมือนกัน ประเทศไทยเดินทางสายกลาง คือเอาทั้งสองอย่าง... บล็อกนันเป็นแบบไหนครับ จะได้ประพฤติตัวให้ถูก --------------- dark.angular
!= ตรงกันข้ามกับ =
เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณครับ มันน่าจะใช้เครื่องหมายไม่เท่ากับได้เนอะ(แต่หาไม่เจอแหล่ะเหอเหอ) --------------- dark.angular
BDFL
สรุปง่ายๆว่า ไม่มีประชาธิปไตยในเว็บ ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับเจ้าของเว็บเป็นคนตัดสินทุกอย่าง
ผมเข้าใจถูกเปล่าครับกับ BDFL ? ------------------- meddlesome.tech.blog
.........ขอตอบด้วยคนครับ :D ว่า ชุมชน != ประชาธิปไตย (หมายความว่า ที่ไหนมีชุมชน ไม่ได้หมายความว่า ที่นั่นเป็นประชาธิปไตย) แต่ ชุมชนที่ดี (ในอุดมคติของคนร่วมสมัย) ควร = ประชาธิปไตย หรือ กล่าวให้ง่าย คือ ชุมชนนั้น ๆ ควรต้องปกครอง หรืออยู่ร่วมกัน ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ก็เลยมีบางคนปริยายไปเลยว่า ชุมชน = ประชาธิปไตย
..........ปัญหาฮอท ๆ เรื่องนั้น ที่เกิดขึ้นที่นี่ เห็นด้วยครับว่า ส่วนหนึ่งมาจากความสับสนในเรื่องนี้จริง แต่ที่ดูแล้วน่าจะหนักหนากว่า คือ ปัญหาการจำแนกไม่ได้ระหว่าง ๑. การใช้กฎระเบียบของชุมชน กับ ลักษณะประชาธิปไตยที่มีอยู่ในชุมชน และ ๒. ลักษณะของชุมชนไซเบอร์ กับ ชุมชนของคนจริง ๆ รวมทั้ง "ที่มา" ของกฎระเบียบในชุมชนนั้น ๆ ด้วย
..........(ปัญหาข้อ ๑) ดังจะเห็นได้ว่า มีบางคน กล่าวว่า เมื่อผู้ดูแลใช้มาตรการ มติ กฎ หรือมารยาทที่มีไว้ หรือถูกตั้งไว้ เพื่อลงโทษใครบางคน โดยไม่ถามคนในชุมชนก่อน นั่นคือ ไม่ใช่ "ประชาธิปไตย" ...ผมถามว่า ถูกหรือไม่ ?
...........ถ้าคำตอบ คือ "ถูก" นั่นย่อมเท่ากับว่า คุณมองว่า การที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองในประเทศประชาธิปไตย ใช้กฎหมายลงโทษคนฝ่าฝืนกฎหมาย ประเทศนั้นก็จะกลายสภาพเป็น "ประเทศเผด็จการ" ไปในทันที...ซึ่งคงไม่ใช่กระมัง เพราะประเทศทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอวดอ้างหรือไม่ว่าตัวเป็นประชาธิปไตย ก็ล้วนมีกฎ มีระเบียบปกครองกันทั้งสิ้น...และก็ยังไม่เคยมีคนบ้าที่ไหนด้วย เที่ยวออกมาบอกว่า การใช้บังคับกฎหมาย คือ การไม่เป็นประชาธิปไตย ดังนั้น แม้มีการใช้กฎ ลักษณะความเป็นประชาธิปไตย (ถ้ามี) มันก็ไม่ได้หายไปไหนนี่...
...........(ปัญหาข้อ ๒) ประเด็นปัญหาเรื่องนี้อาจซับซ้อนขึ้นไปอีกนิด เนื่องจากมันมีจุดต่างกันระหว่าง ชุมชนอินเทอร์เน็ตที่มีผู้เริ่มก่อตั้งที่ชัดเจน กับ ชุมชนประเทศที่ไม่มีอะไรชัดเจนและคงดำรงอยู่ไม่ได้เลยหากไม่มีประชาชน ...สิ่งที่ต่างกันก็คือ การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชุมชนหนึ่ง ๆ ในโลกไซเบอร์ (อาทิ ในเว็บบล็อค เว็บบอร์ด กระดานข่าว) คุณผู้เลือก จำเป็นต้องยอมรับ กฎ และระเบียบที่ถูกตั้งขึ้นโดย "ผู้ก่อตั้งชุมชน" นั้นก่อน (คงไม่มีชุมชนในโลกไซเบอร์แมวที่ไหน ที่จู่ ๆ ก็กำเนิดขึ้นมาเองโดยไม่มีคนตั้ง) และย่อมเป็นไปไม่ได้เลย ที่คุณจะเลือกเขามาก่อตั้ง หรือบอกให้เขาต้องกำหนด กฎ หรือ ทำอะไรตามที่คุณชอบ... เพราะคุณเข้ามาทีหลังผู้ก่อตั้งนะ อย่าลืม ! ดังนั้น คุณจะเรียก มติ กฎ มารยาท ที่ถูกตั้ง และถูกใช้เหล่านั้นว่า เป็น "เผด็จการ" ไม่ฟังเสียงคนในชุมชน ได้อย่างไร ? ในเมื่อคุณยอมเข้ามาในชุมชน ที่มีกฎแบบนั้นมาตั้งแต่แรก ?
...........ในขณะที่ ชุมชนประเทศ คนในประเทศจำนวนไม่น้อยอยู่มาก่อน "ผู้นำ" หรือ "ผู้ขีดขอบเขตประเทศ" เช่นนี้ กฎหมาย หรือกฎระเบียบใด ๆ จึงย่อมต้องมาจากเสียงของผู้อยู่มาก่อนเหล่านั้นทั้งหมด อยู่เอง (จะโดยตัวแทน หรือโดยตรงก็ว่ากันไป) มันถึงจะถูก หากจู่ ๆ คน ๆ หนึ่ง ที่อาจอยู่มาพร้อมกัน หรืออย่างเลวที่สุด มาอยู่ทีหลังผู้คนอีกจำนวนมาก ลุกขึ้นตั้งกฎใช้กับคนอื่น ๆ หรือทำอะไรโดยไม่ฟังเสียงคนอื่น ๆ ...ก็ควรต้องเรียกเจ้าคนนั้นกันล่ะว่า มันเป็น "เผด็จการ"
............ผมแอบไปคุยปัญหาที่เกิดขึ้นนี้กับ นายโบว์ (ที่เข้าไปมีเอี่ยวแบบเฉี่ยว ๆ จนเนื้อตัวเองก็หวิดขาด...ฮา) ทำนองว่า โบว์รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนนี้หรือไม่ ? โบว์ตอบว่า "รู้สึก" (แม้จะไม่ค่อยได้เขียนอะไรกะเค้าก็ตาม ฮา ฮา) ผมถามต่อว่า โบว์รู้สึกเป็นเจ้าของบล็อกนันอีกคนแล้วหรือยัง ? โบว์ตอบว่า "อืม..ก็ยังไม่ถึงขนาดนั้นนะ" ผมบอกว่า ดีแล้ว เพราะถ้าโบว์รู้สึกเป็นเจ้าของเมื่อไหร่ โบว์ก็ควรต้องปวดหัวกบาล แล้วก็ควรต้องมีแอ็คชั่นอะไรกับบล็อกนันมากกว่านี้ ที่สำคัญต้องรับผิดชอบ และทำหน้าที่คอยดูแล ความสงบเรียบร้อยในบล็อกนันที่วัน ๆ มีคนดูขึ้นหลักพันด้วย (ซึ่งแม้คุณ mk กับ คุณ lew จะเพี๊ยนให้สิทธิ์โบว์เป็นเจ้าของด้วยอีกคน...ผมนี่แหละ จะไม่ยอม เพราะแค่ biolawcom.de นี่ ไอ้โบว์ก็มีเวลาเขียนให้น้อยอยู่แล้ว 555+) ....ไม่ใช่แค่ออกแอ๊คชั่นประท้วง แล้วบอกว่า "ผมมาอ่าน ผมมาเขียน ผมเลยรู้สึกเป็นเจ้าของมันด้วย" แล้วสุดท้าย ผมก็จะเอาสิทธิเท่ากับ "คนก่อตั้ง" (วู้..อันนี้ ไม่รู้คิดได้ไง ?)
............ผมเห็นด้วยกับโบว์ที่ว่า คนที่ชุมชนบล็อกนัน ซึ่งมีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของบล็อกนันมากขึ้นเรื่อย ๆ น่าจะมีสิทธิมีเสียงอะไรได้ ระดับหนึ่ง (ซึ่งผู้ดูแลทั้งสองก็เปิดสิทธิเหล่านั้นไว้ให้แล้ว...แต่นึกไม่ออก เลยไม่ยกตัวอย่าง) แต่จนแล้วจนรอด ในฐานะผู้ก่อตั้ง และริเริ่มให้กำเนิดมันขึ้นมา ผมมองว่าเขาทั้งสอง ก็จะยังยืนอยู่บนบันไดอีกขั้นหนึ่ง ที่เหนือกว่า คนอ่านข่าวธรรมดา, คนแสดงความคิดเห็น หรือแม้แต่คนเขียนข่าวเอง ก็ตามที และแน่นอนเขา ในฐานะผู้ริเริ่ม คนคิดคอนเซ็ป ย่อมไม่อยากให้ใครเข้ามาปู้ยี่ปู้ยำ (ใช้คำแรงไปมั๊ย แต่ต้องการให้เห็นภาพ) ด้วยการละเลงสี หรือสอนคำด่า ปลูกฝังนิสัยไม่ให้เกียรติคนอื่น กับลูกชายเขาหรอก จริงไหมครับ ?
............อย่างไรก็ตาม บล็อกนันก็เป็นแค่ชุมชนเล็ก ๆ (อืม ก็ไม่เล็กนี่หว่า) ชุมชนหนึ่ง ในชุมชนไซเบอร์ทั้งหมด (ซึ่งยังใหญ่กว่ามาก) แล้วโลกไซเบอร์ใบนี้ ยังคงมีเสรีพอที่จะให้คุณเลือกเป็นสมาชิกในชุมชนใหญ่น้อยอีกเป็นหมื่นเป็นแสน (ที่เขาก็ย่อมมีกฎของเขาเหมือนกันนะ ก่อนที่คุณจะเข้าไป) ที่โลดแล่นอยู่ ถ้าในเมื่อคุณเห็นว่า กฎ ระเบียบ หรือการใช้บังคับของที่นี่ คุณรับมันไม่ได้อีกต่อไป คุณย่อมมีสิทธิ์ที่จะ "สละสิทธิ์" ความเป็นสมาชิกของคุณในชุมชนนี้ ไป...ก็นี่...คุณก็ยังมีเสรีภาพที่จะ "เลือก" อยู่ไม่ใช่หรือ ??
............แล้วก็ออกจะเป็นเรื่องผิดฝาผิดตัวไปหน่อย ถ้าคุณจะเอา ลักษณะประชาธิปไตยในชุมชนแบบนี้ (ซึ่งผมก็ไม่เห็นว่า บล็อกนัน ไม่มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่ตรงไหน) ไปเปรียบเทียบกับ ลักษณะประชาธิปไตยในชุมชนประเทศ (ซึ่ง มีกรณีปิดกั้นไม่ให้คุณ "เลือก" ที่จะไป หรือไม่ไป หรือ ที่จะอ่าน หรือไม่อ่าน)
.............ปล. ที่ตอบมายาวเหยียด (อีกแล้ว) เนี่ย (แต่จะมีใครอ่านหรือเปล่าไม่รู้) อยู่บนข้อสันนิษฐานของผมว่า การแบนนั้น เป็นไปตาม มติ กฎ หรือมารยาท ที่ผู้ก่อตั้งตั้งไว้ก่อนหน้านี้แล้วนะครับ ถ้าไม่ใช่...ก็ถือว่า ความคิดเห็นผมเกม ^o^
-----------------------
BioLawCom.De
อ่านค่ะ รู้สึกกระจ่างเลย :)
คุณ เชกูวารา เขียนได้ดีครับ ผมอ่านแล้วเคลิ้มตามเรย ^_^
ต้องลองอ่าน Death Note ครับ .. คิระ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ใครตอบยาวไม่ได้อ่านเลยครับ ขี้เกียจ !!!
แค่อ่านนสพ.ก็เครียดจะแย่แล้ว ^_^"
ถ้าไม่ได้อ่าน ผมว่าก็ไม่ต้องบอกก็ได้มังครับ ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
My world, My rules!
Absolute correct !!!
ชุมชน! = ประชาธิปไตย
ชุมชนแฟกตอเรียลเท่ากับประชาธิปไตย
ถอดสมการยังไงหว่า คิคิ
--------- http://iake.blogspot.com
อืม...ผมเขียนให้ "คิด" นะครับ ไม่ใช่ให้ "เคลิ้ม" -_-a
อย่างนี้เปลี่ยนไปเป็นลูกศิษย์ คุณนิวัตร กองเพียร ดีก่า (คิ คิ)
ที่บอกว่าเคลิ้มก็เพราะ ผมไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมดไงครับ (แต่ก็เกือบ) ^_^" แต่คุณ เชกูวารา เรียบเรียงความคิดและคำพูดได้ยอดเยี่ยมมาก จนเกือบจะคล้อยตามไงครับ ^_^
อ้อ...แว็บเข้าไปอ่านประเด็นคุณ sugree มา (แต่เนื่องจากผมงี่เง่าภาษาอังกฤษ ไม่รู้ตีความถูกหมดหรือเปล่า คิดว่าถูก)...แต่ หามิได้ ผมเองก็ไม่ได้อยากเห็น เว็บบอร์ดหรือกระดานข่าวที่ปกติแล้วต้องการ หรือมุ่งสร้างความเป็นชุมชน ต้องมีเจ้าข้าวเจ้าของ หรือต้องใช้กฎตามใจตัวเองอยู่ตลอดไป หรือตลอดเวลา เหมือนกับบล็อก
...ผมคิดแค่ว่า ทุก ๆ ที่ (ย่ิงถ้าคิดว่าจะมีคนมาก) จำเป็นต้องมีกฎเพื่อดูแลกันนะครับ โดยกฎ รวมทั้งมารยาทอื่น ๆ นั้น แรกเริ่ม หรือเบื้องต้น เราท่านปฏิเสธได้หรือไม่ว่า มันก็ต้องมาจากผู้ก่อตั้งก่อน (มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมาจาก ผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่ตอนตั้งยังไม่รู้ว่าจะมาจากที่ไหนบ้าง) ...หรือว่าเราจะตะแบงกันล่ะว่า ไอ้ชุมชนพวกนี้ คนตั้งตั้งมันขึ้นมาลอย ๆ ไม่มีกฎ หรือมารยาทอะไรเลย ใครอยากเฮละโลมาเล่นเป็นชุมชน ก็ฟาดฟันกันเต็มที่ กำหนดกฎระเบียบกันเอาเองตามใจชอบ....ขออภัย เพราะโดยส่วนตัว ผมไม่เชื่อว่าจะมีชุมชนแบบนั้น (แม้ชุมชนในประเทศที่อ้างว่าเป็นเสรีประชาธิปไตยสุดโต่ง ก็ตามที)
ประเด็นปัญหา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจต้องแยกว่า ณ วันนี้ (หรือวันนั้นที่เกิดเรื่อง) สิ่งที่ใช้ไป มันอยู่ภายใต้กฎเบื้องต้นของผู้ก่อตั้ง หรือว่าอยู่ ภายใต้ ข้อเท็จจริงอะไรบางอย่างที่กฎนั้นได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นเรื่องร่วมของชุมชน หรือได้มีแอ็คชั่นอะไรให้มีกฎแห่งชุมชนเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว ?
ซึ่งถ้ามัน ยังอยู่ในสถานการณ์แรกอยู่ ผมไม่คิดว่า การหยิบหลักประชาธิปไตยขึ้นอ้าง เพื่อต่อว่าต่อขานปฏิบัติการใช้กฎ มันจะสอดคล้องต้องกัน...
คุณคงทำได้อย่างมาก ก็คือ ลองซาวน์เสียงกันว่า...ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ที่นี่จะออก "กฎที่ทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วม" ขึ้นสำหรับ "เหตุการณ์" ต่อ ๆ ไป ....ไม่ใช่ วนเวียนอยู่แต่กับการถามหาเหตุผลในเหตุการณ์เก่า + อ้างความรู้สึกความเป็นเจ้าของ แล้วก็ ยกหลักประชาธิปไตยขึ้นถากถาง
ภาษาอังกฤษผมมั่วสุดๆ ครับ อ่านไม่ออกก็ไม่แปลก ผมก็ได้แต่อ่านเยอะๆ เขียนบ่อยๆ เผื่อว่าซักวันมันจะซึมเข้าไปในจิตใต้สำนึก
ปกติที่ผมเห็น moderator ก็ทำตัวเป็นกึ่งเจ้าพ่อ มีปัญหาอะไรพวก mod ทั้งหลายก็จะประชุมกันเอง ตัดสินใจกันเอง เข้าใจว่านี่คือรูปแบบนึงของชุมชนแบบตัวแทน ทุกชุมชนต้องมีพี่ใหญ่ ผมก็ไม่ค่อยชอบแบบนี้เท่าไหร่ แต่มันก็เป็นธรรมดาของคนหมู่มาก จะให้การตัดสินใจทุกครั้งต้องมีการลงคะแนนก็คงเหนื่อยแย่ ยกเว้นว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของทุกคน
ถ้าอยากให้ที่นี่เป็นชุมชนจริงๆ ก็น่าจะตั้งเป็น องค์การบริหารบล็อกนั้น หรือ อบบ. มีนายกอบบ. และกรรมการอีกโขยงนึง เลือกตั้งทุกปี มีกิจกรรมประจำปีหารายได้นิดนึง อย่างเช่นจัด BTD หรือขายพื้นที่โฆษณา เพื่อเอามาจ่ายค่าวางเครื่อง ต้องแบบนี้ถึงจะเป็นชุมชน เอ๊ะลืม สสร. ต้องมีการคัดสรรก่อน
งั้นผมขอเป็น ประธาน คปบน (คณะปฏิรูปบล๊อกนัน) ละกัน ;)
ปล. ตกลงผมจะได้กินหมูกระทะไหมเนี่ย
(ตอนแรกว่าจะไม่ตอบ แต่เห็นว่าเป็นคุณเชกับ sugree ก็ตอบหน่อย)
แยกประเด็น 1. ผมไม่แน่ใจว่าชุมชนคืออะไร ใครบ้างที่ควรมีสิทธิ์ แค่เป็นสมาชิกก็คงไม่พอ แต่ถ้าเอา contribution เราจะวัดกันยังไง อย่างคุณ sugree นี่คงได้สิทธิ์แน่ๆ แต่ก็จะมีพวกไม่ได้แล้วโวยวายแบบที่ผ่านๆ มาแน่นอน ถ้าวัดกันที่จำนวนข่าว ก็จะต้องมีพวกปั๊มข่าวไร้คุณภาพออกมาอีกเช่นกัน
[อันนี้ตอบเล่นๆ ถ้ามีคนแก้บั๊ก 7969 ได้ ผมคงให้สิทธิ์ตลอดชีพแถมแบ่งหุ้นให้ครึ่งนึง แต่บั๊กนี้ก็อยู่มา 8 ปีแล้วแบบปลอดภัยไร้กังวล]
2. ผมไม่เชื่อว่าตั้งทีมงานขึ้นมา แล้วทีมงานจะทำงานจริงอย่างสม่ำเสมอ ดูอย่างการเขียนข่าวก็ได้ ยังไม่เห็น writer คนไหนที่เขียนข่าวตลอด ไม่ผลุบๆ โผล่ๆ หายๆ คือเข้ามามีส่วนร่วมย่อมเป็นเรื่องดี แต่ถ้าไม่มี commitment แล้วจะมาเรียกร้องสิทธิ์ด้วยก็คงไม่ถูกนัก
ถ้าเคลียร์เงื่อนไขสองข้อนี้ได้ (ซึ่งไม่น่าจะมีคนทำได้ง่ายๆ หรอก) ค่อยว่ากันอีกทีครับ
1. ชุมชนคือระบบคงอยู่สูงที่สมาชิกตายได้ n-1 คนโดยที่ชุมชนไม่ล้มหายตายจาก การกระจายอำนาจเป็นปัญหากันมาตั้งแต่สร้างโลก ผมเห็นด้วยในการใช้คุณภาพเป็นเกณฑ์ให้สิทธิ์การเขียน เรื่องปริมาณไม่คอขาดบาดตาย 2. ชุมชนไม่ได้ต้องการทีมงาน เราก็ไม่ได้ต้องการทีมงาน สิ่งที่หลายคนต้องการคืออยากมีส่วนร่วม ยุคนี้ประชาธิปไตยเบ่งบาน อย่างน้อยก็คงอยากลงคะแนนอะไรซักอย่าง คิดซะว่าเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของ BDFL ก็ได้มั๊ง มันก็เหมือนตอนสอบราคา บางครั้งเราก็ไม่อยากได้ของถูกคุณภาพต่ำ ยอมแพงขึ้นอีกนิดได้คุณภาพดี และราคาอยู่ในงบดีกว่า
ลุงเบนบอกไว้ว่า "with great power comes great responsibility"
ใครจัดการกับเงื่อนไขสองข้อของ mk ได้ผมจะสนับสนุนให้เป็นประธานยกร่างคนถัดไป
ทำไมที่ narisa.com เค้าอยู่กันได้ล่ะครับ ปัญหาแบบนี้เค้าก็เคยมีมา แต่ก็ไม่ขนาด ban account นะ ยังอยู่กันได้
narisa ก็ส่วน narisa สิครับ เกี่ยวอะไรกับ blognone อย่างงี้ผมก็บอกว่า อเมริกา ไม่เคยฉีกรัฐธรรมนูญมาตลอด 200 กว่าปี เคสนี้เหมือนกันไหม
ยกตัวอย่างครับ ให้คิดเป็น case study มันไม่เกี่ยวกันหรอกครับ
แล้วที่ us ไม่เคยฉีกรัฐธรรมนูญ ทำไมประเทศไทยเกิดบ่อย ลองคิดดูสิ เอิ๊กๆ ^_^
ทิฐิเยอะมั้งครับ
คุณ g2g รู้สึกจะทิฐิเยอะสุดแล้วล่ะครับ เห็นมาหลายคอมเมนต์ละ
ไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่านสิ
ขอชัดๆ ไม่เข้าใจครับ
onedd.net
ผมแวะมาคิด กับลองตอบปัญหา "ประชาธิปไตยฉบับถากถาง" :D ซึ่งคิดว่าน่าจะพอตอบอะไรได้บ้าง (นิด ๆ หน่อย ๆ ก็ยังดี)... ส่วนเรื่องอื่น ๆ เนื่องจากไม่อยู่ในขอบข่ายจะได้สิทธิอะไรกะเค้า เลยของดแสดงความคิดเห็น นะครับ ^^
เป็นกำลังใจให้ blognone ในการค้นหา "ระบบที่เหมาะสม" เพื่ออนาคตที่ดีขึ้นยิ่ง ๆ ไปอีกครับ
ไม่รู้ว่าจะเขียนยังไงให้ Soft เท่าที่จะเป็นไปได้
โดยส่วนตัวแล้ว ผมสร้าง Blognone ขึ้นมาเพราะเชื่อในอะไรบางอย่าง และไม่เชื่อในอะไรอีกหลายๆ อย่าง การฟังเสียงสมาชิกเป็นสิ่งที่ผมพยาามทำเท่าที่ทำได้ แต่นั่นหมายถึงต้องไม่ขัดกับสิ่งที่ผมเชื่ออย่างชัดเจน
กรณีผมเองก็เคยมีเรื่องไล่คนออกจากเว็บอยู่เหมือนกัน เพราะผมไม่เชื่อในอะไรบางอย่าง และผมจะไม่ยอมให้เว็บที่ผมนั่งทำเป็นตัวเผยแพร่สิ่งที่ผมไม่เชื่อนั้น มันมีขีดที่ผมกำหนดไว้หลายๆ เรื่องว่าผมเอง "รับไม่ได้" และจะไม่ยอมรับในทุกๆ กรณ็
ผมเองมีแนวคิดจะ "เพิ่ม" ความเป็นประชาธิปไตยในเว็บนี้อยู่เรื่อยๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในระยะยาวทำใจได้เลยว่าผมจะยังคงสิทธิ Veto เอาไว้โดยไม่ปล่อยไป ด้วยเหตุผลข้างบน
เรื่องหนึ่งที่ผมอยากให้คนไทยหลายๆ คนเริ่มทำคือ เมื่อเวลาที่เชื่อในอะไรบางอย่าง ผมว่าเป็นเรื่องดีมากๆ ที่จะเริ่มลงมือพิสูจน์ว่าสิ่งที่คุณเชื่อนั้นมันเป็นจริงได้หรือไม่ ถ้าใครได้อ่านประวัติ Blognone จะพบว่ามันมาจากแนวคิดง่ายๆ ว่าหนังสือพิมพ์เขียนข่าวไม่เจ๋ง ต้องให้คนอ่านมาเขียนกันเองถึงจะเจ๋ง
ผมมีคำถามจำนวนมากกับระบบประชาธิปไตยเต็มรูปแบบในเว็บ และจนวันนี้ผมก้ยังไม่เชื่อ (และไม่มีทีท่าว่าจะเชื่อ) แต่ไม่ว่าผมจะเชื่อหรือไม่ ผมยังคงมองว่ามันเจ๋งอยู่ดีถ้าจะมีคนพิสูจน์แนวคิดนนี้ด้วยการเริ่มต้นทำเว็บที่ตั้ง manifesto ว่าจะเป็นเว้บประชาธิปไตย ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
There is no such thing as a Democracy on the internet ;P
I would disgree with this. I think Internet is democracy itself. With ultra low cost of entry, Internet gave everyone the nobody-left-behind policy. In real world, there's no such chance for me & mk would be able to express something like Blognone.
If a bunch of people agree with any idea, they would be able to join a group in just a few minute.
The wrong aspect of democracy on the Internet is people those tend to express their demand and wait for someone to implement it, instead of get their hand dirty for what they need. ----- LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
เค้าคงทำไม่รู้ว่าจะทำยังไงหรือไม่มีเวลาว่างมาทำ ก็ได้นะครับ :-)
บางทีการบ่นของคนที่ไม่ทำอะไรเลย ก็ทำให้คนที่ตั้งใจทำจริงๆ เขาท้อหรือรำคาญได้นะครับ
เรื่องพวกนี้ในชุมชนโอเพนซอร์สเค้าพูดกันมานาน คงไม่อธิบายซ้ำยาวนะครับ
ผมยกเคสของ Bugzilla อันข้างบน
การตัดคำใน Firefox ผมมีเวลา แต่ไม่รู้จะทำยังไง (ถ้าเอาคำอธิบายจากคุณนายขโมย - เขียนติดกันแล้วตลกดี) สิ่งที่ผมทำได้ก็คือเลือกทำเฉพาะส่วนที่ทำได้ (แจ้งบั๊ก) และล็อบบี้คนของทาง Mozilla (ซึ่งยังไม่สำเร็จ) ผมไม่มีสิทธิ์ด่าว่า Mozilla เพราะว่า Mozilla เปิดโอกาสให้ผมทำเต็มที่ แต่เราไม่มีปัญญาเอง
ประเทศเรายังขาดคนทำมากกว่าพูดอยู่เยอะเลย
จริงครับ !!!
ในกรณีนี้จะบอกว่าปัญหาและเวลาเป็นอุปสรรคขนาดที่ทำให้ Blognone ผูกขาดได้อย่างนั้นหรือครับ?
ถ้า Blognone เป็นเว็บแนวอื่นที่ไม่ใช่ไอทีผมคงรับฟังนะครับ แต่กับเว็บที่กลุ่มผู้อ่านเกือบทั้งหมดอยู่ในระดับ Geek ผมว่าการเปิดเว็บไม่น่าจะเกินความรู้และใช้เวลามากเกินไป
หรือผมคิดผิด???? ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ผมไม่เคยพูดว่ายังงั้นนะครับ
ผมมีเวลานอนวันล่ะ 3 - 6 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย ไม่ได้ดูทีวีเลย บางทีต้องอยู่ deploy ถึงเที่ยงคืน ไม่นับงานนอกที่ต้องทำอีก แต่ผมพูดในประเด็นที่คุณ lew เห็นเหมือนกับคนอื่นเค้าเหมือนกับคุณ
ปล. ผมไม่รู้ว่า Geek คือระดับไหน แต่ผมไม่เคยคิดว่าใกล้เคียงตัวเองแม้แต่น้อย
ผมมองว่าการที่คนเราเชื่อในอะไรบางอย่างเนี่ย ถ้าอยากให้สิ่งที่เชื่อเกิดขึ้นจริง มันก็ต้องลงทุนลงแรงกับมันบ้างนะครับ การลงทุนที่ง่ายที่สุดคือการบอกความต้องการของตัวเองในเว็บ อันนี้ก็โอเคครับ ไม่ผิดอะไร ในบล็อกผมเองผมก็บ่นสารพัดเรื่องที่คนโน้นคนนี้น่าจะทำอยู่เรื่อยๆ
แต่ถ้าคนที่มีแรงทำเขามองไม่เห็นภาพเดียวกับความคิดที่เราคิด และเราไม่อยากลงทุนกับความคิดของเรื่องมากไปกว่าการแสดงไอเดียของเราให้คนที่ทำงานตรงนั้นรับรู้ ผมว่ามันก็แฟร์ดีที่ความคิดนั้นจะตายไป
ตรงนี้ผมว่ามันเป็นเรื่องของระดับความเชื่อน่ะครับ ว่าเราเชื่อมั่นในความคิดที่เราคิด และเราปรารถนาให้ความคิดนั้นมันเป็นจริงแค่ไหน
สิ่งที่ผมบอกข้างบนคือถ้ามีคนเสนอไอเดียที่เขาเชื่ออย่างสุดใจ แต่ผมไม่เชื่อ (ซึ่งผมอาจจะผิดจริงๆ) เขามีเสรีภาพที่จะสร้างเว็บในรูปแบบที่เขาเชื่อได้ แน่นอนว่าเขาต้องลงทุนกับความเชื่อของเขาบ้าง แต่มันก็ถูกพอที่คนๆ หนึ่งจะเลือกทำสิ่งที่เขาเชื่อได้ ถ้าเป็นยุคก่อนอินเทอร์เน็ต ถ้าผมอยากสร้างหนังสือพิมพ์ในแบบของผมแต่มันก็อาจจะเป็นไปไม่ได้เลยไม่ว่าผมจะพร้อมลงเวลากับมันแค่ไหนเพราะติดในเรื่องของเงินทุน ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ผมคิดว่าคำที่บอกว่าไม่มีเวลา แล้วจึงไม่ทำในสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ มันเป็นข้ออ้างนะ เพราะอย่างน้อยคุณก็มีเวลาเข้ามาอ่านเว็บแล้วพิมพ์ตอบได้ ถ้ารวมเวลาทั้งหมดวันละนิดวันละหน่อยหลายวัน ผมว่าก็สามารถสร้างเว็บข่าวส่วนตัวได้แล้ว ง่ายสุดก็แค่ไปสมัคร blog ที่มีอยู่มากมาย ทำเสร็จแล้วจะมาดึงคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันจากที่นี่ไปก็ได้ ที่นี่จะได้สงบสุขขึ้นอีกหน่อย
กำลังจะไล่ให้คนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดของเจ้าของเว็บนี้ ออกไปตั้งเว็บอื่นใช่มั้ยเนี่ย
Someone have already left behind, so "There is no such thing as a Democracy" here at least right now :)
I agree If someone got something to say and something is against leader's perspective, they should say it in their own space. But I also a supporter (which what I can do) of something I worry about "Free Speech". It didn't only mean to express something, It also mean to admit something too.
I'm a big fan of you two guys, don't get me wrong, I already addicted to Blognone ;P
Any helps would be welcome. Actually, there are many ideas I'd like to implement.
เห็นด้วยกับคุณ เชฯ แต่หนทางที่เหมาะสมนั้นก็คงต้องรอดูกันต่อไป... . ตอนนี้หนทางที่ดีที่สุดคือ ลดการโต้ตอบ และถากถางกันด้วยครับ บล็อกนันตอนนี้บรรยากาศคล้ายสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไหมเอ่ย? --------------- dark.angular
ผมว่าปัญหาคือคุณ deans4j ทำอะไร จนเกินกว่ากฎเกณฑ์ของเว็บนี้จะรับได้หรือเปล่า เพราะเท่าที่เห็นคือเขาไม่ได้ทำอะไรเกินเลย แต่เรื่องส่วนตัวระหว่างเขากับคุณ mk หรือ lew นั้นเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบได้ และเว็บนี้ก็เป็นเว็บของคุณ mk และ lew เขาย่อมมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะอธิบายหรือไม่อธิบายในสิ่งที่เขาทำ แต่จากเหตุกาณ์นี้และข้อความของคุณ mk และ lew ที่โพสต์มาก็พอจะทำให้ผมเข้าใจอะไรได้มากขึ้น แต่ผมขอโต้แย้งในบางประเด็นก็แล้วกัน
ประเทศเรายังขาดคนทำมากกว่าพูดอยู่เยอะเลย
ก็อาจจะจริงในบางเรื่องนะครับ แต่ปัญหาคือ อะไรคือสิ่งที่คุณเห็นว่าควรทำ และมันเป็นสิ่งที่ควรทำจริงหรือเปล่า ถ้าอย่างเช่น bug 7969 ที่คุณยกมา สำหรับคุณหรือบางคนในที่นี้ อาจจะเห็นว่ามันสำคัญ แต่สำหรับคนอื่นๆ อีกมากมาย อาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลยก็ได้ หรือถึงเห็นว่ามันสำคัญก็ไม่รู้อยู่ดีว่าต้องทำยังไง เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ และปัญหาทางด้าน IT ก็ยังมีอีกมากมายนับไม่ถ้วน ที่ต้องศึกษาและแก้ไขกันไปอีกนาน หรือที่คุณ lew โพสต์มาว่าเราเชื่ออะไรก็ให้ลุยไปเลย และพูดทำนองให้เปิดเว็บกันเยอะๆ ซึ่งคำถามก็คือ หลายๆ คน อาจมีงานอื่นที่สำคัญกว่านี้มากที่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน การเปิดเว็บหรือทำอะไรก็แล้วแต่เพื่อสนองอารมณ์ความชอบของตนเอง ถ้ามองกันจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ว่าเกิดประโยชน์อะไรมากมายหรอกครับ จริงๆ ผมก็ชอบ Blognone นะ แต่พอได้อ่านที่คุณ Nadia โพสต์ไว้ ก็ทำให้มองอะไรใหม่ๆ ได้เหมือนกัน ว่าจริงๆ แล้วต่อให้ไม่มี Blognone อีกต่อไป ก็คงไม่มีใครเดือดร้อน เพราะข่าวสารต่างๆ ก็ยังหาอ่านได้จากเว็บต่างประเทศอยู่แล้ว บทความที่เกิดจากความคิดของสมาชิกที่นี่จริงๆ ยังมีอยู่น้อยมาก และการเข้ามาถกเถียงกันในกระทู้นี้ หรือในประเด็นอื่นๆ ผมก็มองว่าค่อนข้างเสียเวลาเปล่าเหมือนกัน เพราะสุดท้ายแทบทุกคนก็ยังยึดมั่นในความคิด ความเชื่อของตนเองอยู่ดี และนี่คือปัญหาว่าทำไมคนไทยถึงทำงานเป็นทีมกันได้ไม่ค่อยดี ว่าแต่ในเมื่อรู้ว่าเสียเวลา แล้วผมยังมาโพสต์ทำไมหว่า :-P
อ่านแล้วงงว่าจะสื่ออะไรครับ???? ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
สรุปความ และขอให้หยุดเถียงกันโดยเปล่าประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ . ข้างบนๆที่เถียงกันก็เพลาๆกันเถิด ถึงกับต้องเปิดประเด็นใหม่เป็นการไล่กันนี่ รู้สึกไม่ดีเลย . มีใครเป็นกลางบ้าง มาช่วยห้ามหน่อย... --------------- dark.angular
1. ผมอยากอยู่ทีมที่ทุกคนมีความคิด ความเชื่อเป็นไปในทางเดียวกัน ถ้าไม่ใช่ตามนี้ ผมจะพยายามโน้มน้าวให้ทุกคนเปลี่ยนแปลง ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ ผมก็ไม่หวังอะไรกับทีมนี้ 2. ไม่ใช่ว่าเราทำงานเป็นทีมไม่ค่อยดี เราแค่ไม่มีเป้าหมาย ความทะเยอทะยาน และความกระตือรือร้นมากพอเท่านั้นเอง ถ้าคิดว่าอะไรดีไม่พอ คิดว่าทำให้ดีกว่าได้ และคิดว่าต้องมีให้ได้ แค่นี้เราก็จะได้สิ่งที่ดีกว่า ถ้าทุกคนในทีมคิดแบบนี้ทีมนั้นจะต้องเป็น dream team แน่นอน
ผมกลับอยากอยู่ทีมที่ทุกคนมีความเห็นไปคนละทาง และมีความเชื่อต่างกันแหะ แต่ขอให้ยอมรับความเห็นความเชื่อของคนอื่นเท่านั้นเอง เพราะถ้าทุกคนคิดเหมือนกัน เชื่อเหมือนกัน ก็ไม่รู้จะมีผมอยู่ไปทำไม
เคยได้ยินคนพูดว่า "อย่าพยายามเปลี่ยนโลก แต่ให้โอกาสโลกได้เปลี่ยนตัวเอง" ไม่รู้เหมือนกันว่ามันหมายถึงอะไร :)
เรื่องนี้ลึกซึ้ง ต้องขยายความคำว่า "ความคิด ความเชื่อ"
1. ความคิด หมายถึง วิธีการ หรือกระบวนการ หรือวิธีดำเนินการ 2. ความเชื่อ หมายถึง เป้าหมาย หรือจุดประสงค์
ความเห็นเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ ความเห็นเป็นเรื่องของจินตนาการ การที่ทุกคนในทีมมีความคิด และความเชื่อไปในทางเดียวกันไม่ได้จำกัดจินตนาการ หรือความเห็น แต่เป็นระเบียบ และความเข้าใจระหว่างกันมากกว่า ผมคิดว่ามันยากนะที่เราจะเรียนรู้ซึ้งกันและกัน เพื่อเข้าใจวิธีคิดของคนอื่น นั่นเป็นความสามารถที่สำคัญของผู้บริหาร แต่ถ้าทุกคนมีความคิด ความเชื่อไปในทางเดียวกัน เราก็ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เพื่อเข้าใจ เพราะทุกคนในทีมคิดเหมือนเรา ตัดปัญหาเรื่องการสื่อสารได้มากโข
ถ้าผมเป็นหัวหน้าผมคงจะดีใจถ้าลูกน้องสามารถทำงานให้บรรลุเป้าหมายได้โดยไม่ต้องถาม และวิธีดำเนินการก็ตรงกับที่คิดไว้ด้วย เอ๊ะ หรือว่านี่คือ วัฒนธรรมองค์กร
ผมยังเชื่อว่าความหลากหลาย (diversity) ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความคิด วิธีการ ความเชื่อ ความเห็น หรือว่าอะไรก็ตาม จะทำให้เกิดประสิทธิผลของการทำงานดีกว่า แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ คนในทีมจะต้องยอมรับ ความคิด วิธีการ ความเชื่อ ความเห็น และอะไรก็ตามของคนอื่น เพราะในท้ายที่สุด เราก็ต้องใช้แค่แนวทางเดียวในการดำเนินงาน ต่อไป
ผมเห็นว่าเมื่อใดที่องค์กรเกิดการสั่งสมวัฒนธรรม หรือว่าวางรากฐานของวัฒนธรรรมขึ้นมา คนในองค์กรควรจะเริ่มตั้งคำถามกับวัฒนธรรมนั้นว่ามันดีหรือไม่ และถ้าพบว่ามันไม่ดี ก็ควรจะกล้าที่จะล้มล้างวัฒนธรรมนั้นลง หรือไม่ก็ไม่ทำให้เกิดวัฒนธรรมเดี่ยว ๆ ขึ้นมาในองค์กรอีก
ฟัง ๆ ดูเหมือน Cathedral and Bazaar ?
ผมว่าคุณก็เข้าใจสิ่งที่ผมจะสื่อทั้งหมดนะครับ
ถ้าคุณคิดว่างานอื่นสำคัญกว่าเว็บ ก็ทำไป ไม่เห็นจะเป็นปัญหา ถ้าคุณคิดว่าเว็บสำคัญกว่า ก็ทำเว็บ มันก็แค่นั้นเอง
ผมคิดว่า Blognone สำคัญ ผมก็ทำ Blognone ขึ้นมา ความเห็นของคนไหนที่ผมคิดว่าสำคัญ ผมก็ฟัง อันไหนไม่สำคัญ ก็ไม่สนใจ มันก็เหมือนที่คุณว่ามา
ปัญหาคือหลายคนคิดว่าตัวเองสำคัญมากๆ แต่ผมคิดว่าเค้าไม่สำคัญ ทีนี้ก็โกรธแล้วฟูมฟายไง แถมไม่ยอมไปไหนด้วย จะเอาอย่างที่ตัวเองต้องการท่าเดียว
ขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย แล้วจะไม่เข้ามาพูดอีกเลย ลาจาก ตามความต้องการ (ว่าแต่ช่องยกเลิกสมาชิกมันอยู่หนใด หาไม่เจอ) ผมดีใจที่อย่างน้อยคุณ sugree มองเจตนาของผมออก "แค่อยากมีส่วนร่วม" คุณ นายขโมย นี่ผมเห็นตั้งแต่อยู่ในพันธุ์ทิพย์แล้ว เขาขยันตอบกระทู้จาวาจริง ๆ เรื่องนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า คนเราต่างก็มีหน้าที่ต่างกัน ความคิดของคุณ Nadia ทำให้ขมองผมเปิด ขอบคุณ blognone ที่ทำให้ผมเริ่มเขียนข่าวเป็น, ขอบคุณคุณ mk ที่เคยช่วยเหลือในบางเรื่องที่ผมติดขัดเสมอมา และขอโทษที่ล่วงเกินใครไป
จะไปจริงๆ เหรอครับ ผมว่าที่นี่น่าจะกำลังพัฒนาขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แหละ (จริงๆ นะ)
เด๋วนี้ผมหายไปจาก pantip แล้วครับ เพราะว่าโดน ban account (ในเรื่องการเมือง -_-") เลยหนีไปที่อื่น
แล้วก็กำลังดูว่าเมื่อไรที่ blognone จะ ban ผม เอิ๊กๆ
ขอบคุณครับ
จะไปอีกคนแล้วเหรอคับเนี่ย :'(
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
อ่านไปอ่านมา ตอนหลัง ๆ ผมเห็นมีคนเงื้ออีโต้เตรียมจะถากเรื่องเดิม ๆ อีกแล้ว (ฮ่า ฮ่า) เลยลองคิดอีกทีเอาสนุก ๆ
------ เพื่อวันหน้าที่ดีกว่า (หรือเปล่า?) คุณคิดว่าเรื่องใดบ้าง ? ที่ทุกคนในชุมชนนี้ควรได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (โปรดลองเสนอดู) อาทิเช่น
ก. การยกเลิก Account ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ข. การเพิ่มคอลัมน์ /เปลี่ยนกฎ/ ปลดโฆษณา ค. ทำจดหมายประท้วงใคร หรือหน่วยงานใดสักคน หรือสักแห่ง ง. เอ่อ..... จ. นึกไม่ออกแล้ว . . .
ปล. ถ้าเรื่องไหนที่ปกติเค้าก็เปิดให้มีส่วนร่วมอยู่แล้ว ไม่ต้องเสนอก็ได้ เปลืองเนื้อที่เปล่า ๆ (ฮา) ...และเพื่อให้สิ่งนี้เป็นรูปธรรม แลจับต้องได้ กรุณาอย่าเสนอแนะในเชิง "บ่น ๆ" (เพราะเดี๋ยวมันจะไม่มีวันจบ) ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ช่วยเสนอวิธีการ ในการ "มีส่วนร่วมกับเรื่องต่าง ๆ ดังกล่าว" ที่มีมาตรวัด และตัวนับที่ชัดเจน ประกอบด้วย (ไม่งั้นข้อเสนอ จะตกไปโดยปริยาย)
สุดท้าย ถ้าไม่มีอะไรจะเสนอ ก็โปรดเลิก "บ่น" (วู้...ผมคงต้องเตรียมตัวโดนด่า)
ด้วยความปรารถนาดี (มั๊ย ?) จาก BioLawCom.De น่าเกลียดไปเป่าครับ ที่แอบโฆษณาเว็บตัวเองซะงั้น *o*
เรามีหน้า FAQ หรือยังครับ ถ้าไม่มีเสนอให้สร้างครับ เขียนกฏให้ครอบคลุมกรณีที่เกิดขึ้นอยู่นี่ด้วยครับ --------------- dark.angular
อันนี้ปะ http://www.blognone.com/guideline ---------- แนทโวย
มันไม่ครอบคลุมถึง สมาชิกที่ไม่ได้เขียนข่าวน่ะสิครับ ผมคิดถึง "ข้อตกลงการอยู่ร่วมกัน" อะไรทำนองนั้น จะได้ชัดเจนตั้งแต่แรก ไม่มีมาเหน็บแนม ค่อนขอดกันอีกในปรากฏการณ์หน้าครับ --------------- dark.angular
เถียงกันสนุกดี แสดงว่ารักกันมาขึ้น