ตอนนี้กำลังจะเขียน Cobol ..แต่มีหลายๆคนบอกว่า มันเป็นภาษาเก่าตั้งแต่รุ่นคุณปู่.. ไม่รู้เค้าจะเลิกใช้ตอนไหน อนาคตไม่รุ่ง?? ให้ไปเขียน Java หรือ Sap หรือไปทำ Oracle ดีกว่าซะงั้น --?
ผมว่าถ้ายังมี Mainframe ยังไงก็ต้องมี Cobol หรือมีภาษาอะไรที่ทำงานทางธุรกิจ และทำงานกับ Mainframe ได้ดีกว่า Cobol ครับ บอกผมที ^^
ขอบคุณครับ
ผมแนะว่าให้ไป Java ครับ เพราะมีคนหลายคนยัดเยียดให้ Java เป็น Cobol แห่งยุค 2000 : P
Cobol เงินดีถ้าประสปการ์ณเยอะ ตอนทำแรกๆเงินธรรมดาๆ ตลาดต้องการเยอะนะ เพราะไม่มีคนยอมมาทำ
ตอบแบบนี้เพราะที่บ.มีแผนก Cobol แล้วหาคนมาทำยากมากๆเลย แล้วคนมีประสปการ์ณก็โดนดึงตัวกันเป็นว่าเล่น เงินดีด้วย
ส่วน SAP ถ้าจับได้เนี่ยะ ดีอยู่แล้วอะ เงินดีสุดๆ
ช่วงหลังๆ ผมเห็น C++ กำลังเข้ารูปแบบเดียวกัน เด็กรุ่นหลังๆ เริ่มไม่ยอมเขียนทั้งๆ ที่ซอฟต์แวร์จำนวนมากที่รันอยู่ใช้ C++
(แอบดีใจที่ค่าตัวของตัวเองแพงขึ้นโดยไม่ต้องทำอะไร :P ) ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
รอเงินเฟ้อเด่ะ
ทำอะไรก็ได้แต่ต้องเชี่ยวชาญจนไม่สามารถหาคนมาแทนที่ได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งเวลานั้นยาวมากพอที่จะทำให้เราเชี่ยวชาญมากขึ้นไปอีก
อยากรู้จริงๆ ระหว่างคนเก่งๆ Cobol กับคนเก่งๆ SAP กับคนเก่งๆ Java ใครจะได้เงินเดือนเยอะกว่ากัน ถ้าอยู่บริษัทเดียวกัน.. คำถามโลกแตกหรือเปล่าเนี๊ย? ---------------------------------------------------- -มแนะว่าให้ไป Java ครับ เพราะมีคนหลายคนยัดเยียดให้ Java เป็น Cobol แห่งยุค 2000 : P -แต่เดี๋ยวนี้คนเขียน Java ก็เริ่มเยอะแล้วหรือเปล่าครับ เหมือน VB แรกๆ คนเขียนเยอะ คงหาคนทำได้ไม่ยาก..แบบนี้ค่าตัวก็ต้องถูกลง ตามหลักแบบนี้ถูกต้องไหมครับ?? แล้ว Java จะแทน Cobol ที่เป็นภาษาทางธุรกิจแท้ๆ ได้จริงๆเหรอครับ?? -----------------------------------------------------
Cobol มันโชคดีที่ลูกค้าหลักคือธนาคารซึ่งเป็นองค์กรที่สะสมความกลัว ความระแวง ความไม่มั่นใจไว้เต็มเปี่ยม ก็ใช้ Cobol ต่อไปจนกว่าจะถึงวันที่ผู้ผลิตเมนเฟรมคิดว่าการให้บริการแบบนี้มันเริ่มจะไม่คุ้ม ซอฟต์แวร์ไม่ใช่ข้อจำกัดเดียวฮาร์ดแวร์แย่กว่าเยอะ
ผมคิดว่า SAP กับ Java จะได้เยอะกว่านะ อย่าง Cobol เนี่ยตลาดแคบ ถ้าไม่มั่นใจไม่มีใครอยากย้ายงาน แต่ SAP/Java นี่ตลาดกว้างกว่าเยอะมากๆ ในขณะที่คนเก่งจริงๆ น้อยจนแทบจะขาดแคลน โดยเฉพาะ SAP ถ้าบริษัทไม่ดูแลให้ดีเกิดลาออกไปเป็นศิลปินอิสระบริษัทจะแย่เอาได้ Java ก็คล้ายๆ กันย้ายกันได้เรื่อยๆ
SAP ถ้าอยากเงินเดือนเยอะๆมันต้องรับ freelance / project ถ้าทำงานประจำจะไม่ได้เยอะเว่อร์ๆแบบนั้น SAP แบบ freelance นี่เงินเดือนหลักแสน แต่ถ้างานประจำก็ซัก 40-60K
Java นี่ถ้าตำแหน่ง programmer อย่างเดียวน่าจะได้ซัก 30-45K ถ้าจะเอาเงินสูงกว่านี้ส่วนใหญ่จะต้องขึ้นไปตำแหน่งอื่นตามประสา นอกจากบ.ที่ยอมให้โตทางเทคนิคได้เรื่อยๆอาจจะขึ้นได้อีก แต่ยังไม่เคยเห็นเลย เมืองไทยมีมั้ย?
อ่านแบบนี้แล้ว อยากกลับไปเอนท์แล้วเรียนเป็นโปรแกรมเมอร์แทน...
โปรแรมเมอร์เงินเดือนเยอะตอนเริ่ม และจะหยุดเพิ่มในเวลาอันสั้น ส่วนสาขาด้านบริหารจะเริ่มน้อยมาก แต่จะกระโดดเพิ่มอย่างรวดเร็วและที่สำคัญเป็นเจ้านายของโปรแกรมเมอร์ มีโปรแกรมเมอร์ไม่น้อยเห็นซึ้งถึงสัจธรรมนี้เลยผันตัวเองไปทำงานด้านบริหาร
ถ้าอยากสบายผมแนะนำอาชีพหมอฟัน ผมไม่เคยง้อหมอ ไม่สบายก็หายากินเอง แต่ปวดฟันทีไรเป็นต้องวิ่งไปหาหมอฟันด่วนที่สุด
เห็นคำว่าหมอฟัน แล้วชอบอ่านสลับคำทุกที :D
ว่าแต่ java/sap เป็นอะไรที่ผมไม่ชอบทั้งคู่เลยแฮะ (แถมไร้เหตุผลที่ไม่ชอบด้วย เหอๆ)
---------- iPAtS
iPAtS
แถวบ้านเรียก อคติ
อาหารแช่แข็งไม่อร่อย
เหอๆ หยั่งงี้ต้องลองซะแล้วครับ ^ ^ (พูดงี้มาหลายปีล่ะ ไม่ได้ลองซะที --")
---------- iPAtS
iPAtS
แล้วชอบอะไรล่ะ
สายบริหารเงินเดือนขึ้นเยอะมากก็จริง แต่คนจำนวนน้อยมากที่จะได้ขึ้นอย่างนั้น ผมว่ามันก็เป็นความเสี่ยงอยู่เหมือนกันนะ ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ปัญหาคือทุกคนพยายามจะเฮโลไปสายบริหารสิ หลังจบมาทำงานปีแรกๆ คำถามแรกๆ ตอนเจอเพื่อนคือ "มึงยังเขียนโปรแกรมอยู่อีกเหรอ? นี่กูเป็น SA leader บลาๆๆ แล้ว"
- โดยส่วนตัวตอนเป็น SA ชีวิตมันไม่สนุกจริงๆ T_T
มันเป็นช่วงหนึ่งของชีวิต เมื่อจบออกมาความรู้แก่กล้าเข้าไปทำงานพร้อมไฟลุกท่วมตัว แค่วันเดียวก็พบว่ารุ่นพี่วิศวะที่อยู่มาได้ซักพักไหงไปเรียน MBA หรือไม่ก็ IT กันหมดแผนก
- ผมไม่เคยทำงานเลยไม่เจอกับตัว ได้แต่ฟังเพื่อนมาเล่า
เพราะเมืองไทยมันไม่มีทางให้โตแบบ technical อย่างเดียวไง แล้วใครจะอยากอยู่กับที่?
เคยได้ยินคนพูดว่า เพราะแบบนี้ บางทีเราจะเสีย programmer ดีๆไปหนึ่งคนแล้วได้นักบริหารห่วยๆมาแทน
manager ผมพูดประโยคนี้เหมือนกัน T_T
ตอนนี้มันเลยมีแต่ manager โง่ๆ ที่คิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่างเพราะตัวเองเป็น manager
:P
เออ... เกลียดประโยคแบบนี้มากๆ งานเขียนโปรแกรมนี่มันดูต่ำต้อยขนาดนั้นเลยเหรอ
pittaya.com
ภาพลักษณ์มันดูต่ำสุดในสายการผลิตซอพท์แวร์มั้ง
สุดท้ายก็ลงแรงลงสมองแลกข้าวกันทั้งนั้น
เลยมีคนหัวใสเรียนวิศวะตอนตรีแล้วไปต่อโทบริหารไง
ภาษาอังกฤษครับ แน่นอน :P - - - - - - - - - - - - - - - - - burlight@ปัญหาในประเทศไทย
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ถ้าอ่านภาษาปะกิตไม่ออก ก็จบกันครับ ไม่ว่าภาษาโปรแกรมมิ่งภาษาไหนก็เหอะๆ
สำหรับการย้ายไปเขียนภาษาไหนๆ ผมว่าถ้าเรามีแหล่งข้อมูลให้ศึกษา และ ติดต่อกับเจ้าของโปรแกรม หรือทีมผู้พัฒนาได้ นี้เราก็เขียนภาษานั้นได้ดีและใช้เวลาในการทำความเข้าใจกับมันน้อย แต่ถ้าเราติดต่อทีมผู้พัฒนาไม่ได้ แถมอ่านไม่ออก อันนี้ก็จบกันครับ อันนี้ผมพูดถึงคนที่มีสกิลในการเขียนโปรแกรมมาก่อนนะครับ
แต่ถ้าบริษัทใหญ่ๆ ผมว่า Manager ก็คงต้องเก่งจริงๆ ก็เหมือนกับว่า Manager รู้ทุกอย่างแต่ไม่ลึก เพราะต้องครอบคลุมเพื่อจัดการภาพรวม แต่ฝ่าย Technical หรือ Programmer รู้ลึกรู้จริง ผมว่ามันแตกต่างกันอยู่เหมือนกันนะครับ ความคิดการบริหาร ไม่ใช่จะมีกันง่ายๆ ผมยังปลื้ม Manager ผมอยู่เลยถึงเค้าจะรู้ไม่จริงไม่ลึก แต่เค้าก็สามารถความคุมงานทุกอย่างได้ เก่งจริงๆ
แตกไปยาว
สรุปว่ากลับไปเอนท์แล้วเรียนโปรแกรมเมอร์ เสร็จแล้วพอเริ่มตัน ก็ผันตัวไปเป็นผู้บริหารห่วยๆเพื่อหาเงินเพิ่ม เหอเหอเหอ
เหมือนเป็นวงจน ลูกน้ำ ยุง อะไรเทือกนี้เลยนะเนี่ย-_-"
หรือไม่ก็ไปเป็นหมอฟันแบบที่เฮีย sugree แต่คงจะยาก ทำอีกอย่างจะง่ายกว่าอิอิ
เป็นหมอฟัน ถ้าขูดหินปูนให้คนไข้มากๆ หินปูนมีโอกาสซึมเข้าสู่กระดูกสันหลังได้นะครับ ส่วนเขียนภาษาอะไรจะรุ่งนี่ ตอบยากแฮะ เพื่อนผมทำงานมา 3 ปี เขียน C ก็ราวๆ เดือนละ 50k ขณะที่เพื่อนผมบางคน ยังไม่ถึง 25k ก็มี ผมว่าก็ดูที่ demand-supply เอาอ่ะ ตอนนี้เห็นบริษัทเก่าผมต้องการคนเขียน C มาก แถมเงินดีอีก
ไม่รู้สิ อาจจะเพราะสายงานผม การเติบโตในหน้าที่การงานมันต่างกัน คนผู้เฒ่า ไม่ว่าสาย IT หรือไม่ สาย IT ก็แนะนำผมว่า คิดจะเป็นลูกน้อง ทำงานฝ่ายเทคนิคตลอดไปเหรอ หัดจับงานบริหาร งานเอกสาร เสียบ้าง ซึ่งทุกวันนี้ผมมีความสุขกับการซ่อมคอม ทำNetwork ทำ Hardware เหมือนกับว่ามันเป็นอะไรที่ผมรัก จนไม่สามารถตัดใจขาดมันได้ แต่คิดถึงคำผู้เฒ่าทีไรเป็นต้องตัดใจ จับงานอื่น ละงานที่ตัวเองรัก เสียบ้าง