Tags:
Forums: 

กำไรต่อหุ้น 0.39 เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 11%

รายรับภาคอุตสาหกรรม 26.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10%

รายรับภายในองค์กรในภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 5%

คำสั่งซื้อด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 15% เป็นงานประมูลได้ด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุด

ในประวัติศาสตร์ของจีอี มูลค่า200 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

เงินสดจากการดำเนินงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาส 4,

คิดเป็น 12.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2554

จีอีวางเป้าผลกำไรเพิ่มขึ้นในอัตราตัวเลขสองหลักในปี 2555

จุดเด่น ของไตรมาสที่สี่ และตลอดทั้งปี 2554

• กำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเจ็ดไตรมาส

ü ในไตรมาสที่สี่ มีกำไร 0.39 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 11% กำไรต่อหุ้นของปี 2554 ทั้งปี เพิ่มขึ้น 22% โดยไม่รวมผลกระทบจากการรับซื้อคืน (หรือไถ่ถอน) หุ้นบุริมสิทธิ์ (Preferred Redemption) จำนวน 1.37 เหรียญสหรัฐฯ

ü กำไรสุทธิต่อหุ้นของไตรมาสที่สี่คือ 0.37 เพิ่มขึ้น 3% กำไรสะสมต่อหุ้นของปี 2554 รวมถึงผลกระทบจาก การรับซื้อคืน (หรือไถ่ถอน) หุ้นบุริมสิทธิ์ (Preferred Redemption) จำนวน 1.23 เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8%

ü ไตรมาสสี่มีรายได้จำนวน 38.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลอดทั้งปีมีรายได้ 147.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

• ตัวชี้วัดที่สำคัญยังคงมีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง

ü คำสั่งซื้อด้านโครงสร้างพื้นฐานมีจำนวน 28.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 15% ในไตรมาสนี้ คำสั่งซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์เพิ่มขึ้น 23% การให้บริการเพิ่มขึ้น 7%

ü คำสั่งซื้อจากตลาดเกิดใหม่ในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 26% ในไตรมาสนี้

ü คำสั่งซื้อภายในองค์กรเพิ่มขึ้น 9%

• ไตรมาสที่สี่ จีอีแคปปิตอลมีผลกำไร 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 58% ส่วนกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 89%

ü อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยง ( Tier 1) ของ GECC/GECS อยู่ที่ 11.4%/9.9%

ü ปริมาณการลงทุน 49 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 13% สำหรับไตรมาสดังกล่าว โดยกำไรอยู่ที่ 5.4%

เมืองแฟร์ฟิลด์, มลรัฐคอนเนตติคัต – 20 มกราคม 2555 – จีอี (NYSE: GE) ประกาศผลกำไรจากการประกอบการไตรมาสที่สี่ของปี 2554 จำนวน 4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็น 0.39 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น ผลประกอบการเพิ่มขึ้น 6% และกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสที่สี่ของปี 2553

ในไตรมาสที่สี่ของปี 2554 จีอีมีรายได้จำนวน 38.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และตลอดทั้งปีมีรายได้ทั้งหมด 147.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ข้อมูลการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ด้านโครงสร้างพื้นฐานจำนวน 28.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สี่ส่งผลให้จีอีปิดปีด้วยงานที่ประมูลได้แล้วมูลค่า 200 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีอี

นายเจฟฟ์ อิมเมลท์ ประธานและผู้บริหารสูงสุดของจีอี กล่าวว่า “พอร์ตโฟลิโอของจีอี แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่น ด้วยการส่งต่อความเติบโตของผลประกอบการติดต่อกันเป็นไตรมาสที่เจ็ด ในขณะที่ยังสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง เพื่อสนับสนุนการลงทุนในธุรกิจของเรา และการเติบโตของเงินปันผล” เจฟฟ์ อิมเมลท์ ยังกล่าวต่อไปว่า “เราเชื่อมั่นในกรอบการทำงานปี 2555 ของเราว่าจะนำมาซึ่งการเติบโตของผลกำไรเป็นตัวเลขสองหลัก ทั้งจากธุรกิจภาคอุตสาหกรรมและภาคการเงินของเรา ซึ่งจะเพิ่มผลกำไร และเพิ่มเงินปันผลที่สอดคล้องกับผลกำไร ให้กับผู้ถือหุ้นของเรา”

อิมเมลท์ กล่าวต่อว่า “เราคาดว่าในปี 2555 จะมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง และเราได้เตรียมรับมือไว้แล้วด้วยการลงทุนในผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ การขยายฐานการตลาดที่เติบโตของเรา และก้าวสำคัญของเราคือการบริหารความเสี่ยงอย่างมั่นคงเข้มแข็ง จีอีแคปปิตอลมีความเข้มแข็ง คงไว้ซึ่งความปลอดภัยและมีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว เรามีการปรับโครงสร้างธุรกิจของเราในยุโรปเพื่อให้เข้ากับสภาพตลาด

การสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ทางด้านโครงสร้างพื้นฐานในไตรมาสที่สี่ มีมูลค่า 28.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 15% จากปีที่ผ่านมา คำสั่งซื้อภายในองค์กรเพิ่มขึ้น 9% ในไตรมาสที่สี่ ทำให้การเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 7 ไตรมาส และการสั่งซื้อในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมในตลาดเกิดใหม่เพิ่มขึ้น 26% สัดส่วนยอดสั่งซื้อต่อยอดส่งมอบอุปกรณ์อยู่ที่ 1.23 สำหรับไตรมาสที่สี่ และ 1.14 สำหรับทั้งปี

การสั่งซื้อที่มากของผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการบินและพลังงานเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นการเติบโต การสั่งซื้อในรอบไตรมาสนี้รวมถึง การสั่งซื้อเครื่องบินโอบิ้ง 777-300ER ที่ใช้เครื่องยนต์ GE90 ของจีอี จำนวน 50 ลำ ของสายการบิน อิมิเรตต์ และการทำสัญญาบริการ 12 ปี จีอียังได้ลงนามสัญญารวมมูลค่าเกือบ 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กับ Saudi Electricity Company ในการจัดหาเครื่องกังหันก๊าซจำนวน 13 เครื่อง และการบริการร่วมกันสำหรับการขยายโรงไฟฟ้าหกแห่งในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

รายได้รวมของไตรมาสที่สี่จำนวน 38.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4% ไม่รวมผลกระทบจาก NBCU รายได้ภาคอุตสาหกรรมของจีอีในไตรมาสที่สี่เพิ่มขึ้น 25% เป็นผลมาจากการเติบโตด้วยตัวเลขสองหลักในบราซิล รัสเซีย จีน อินเดีย และภูมิภาคอาเซียน รายได้ถูกกระทบในทางลบจากการลดลงของเงินลงทุนสุทธิ (Ending Net Investment - ENI) ของจีอีแคปปิตอล และ FX รวมทั้งการเติบโตที่ช้าลงของยุโรป กำไรของภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 2% เป็น 4.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สี่ ผลกำไรจากการประกอบปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 2.5 จุด แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่สี่ของปี 2553 กระแสเงินสดจากการดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมในปี 2554 รวม 12.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในจำนวนนี้เป็นของไตรมาสที่สี่จำนวน 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

จีอีลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ในปี 2554 สูงกว่าปี 2553 ถึง 16% และจะเป็นการช่วยบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า 800 รายการในปี 2555 นี้ หน่วยธุรกิจต่างๆ ของจีอีจะทำงานเพื่อประโยชน์ในการลงทุนของบริษัทที่ได้ทำการวิจัย โดยช่วยให้การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประสบความสำเร็จ เช่น เครื่องยนต์ LEAP-X ช่วยให้สายการบินต่างๆ จัดการเครื่องบินได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่าย รวมทั้งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เครื่องยนต์นี้ผลิตจาก CFM International (บริษัทร่วมทุน 50/50 ระหว่างจีอี กับ Snecma) โดยล่าสุดมียอดสั่งซื้อเครื่องยนต์ดังกล่าวกว่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในงาน Dubai Air Show

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีอี ยังรวมถึงนวัตกรรมล่าสุดด้านเทคโนโลยีกังหันก๊าซ นั่นคือ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม FlexEfficiency 50 ซึ่งนำเอาเทคโนโลยีเครื่องยนต์เจ๊ทมาปรับใช้กับกังหันก๊าซ จึงช่วยลดปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการสร้างพลังงานได้อย่างมาก ผลิตภัณฑ์ใหม่อีกหนึ่งรายการที่ได้ออกแนะนำสู่ตลาดเร็วๆ นี้ คือ Discovery IGS 730 ซึ่งเป็นเครื่องเอ็กซเรย์แบบเคลื่อนที่รุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีแขนหุ่นยนต์

อิมเมลท์สรุปว่า “เราปิดปี 2554 ด้วยการขับเคลื่อนไปข้างหน้าและกำลังมุ่งไปสู่ความแข็งแกร่งในปี 2555 กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมของเราจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจีอีแคปปิตอลจะเข้มแข็งและทำกำไร เรามีเงินสดมากพอที่จะเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น และบริษัทจะมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่เพื่อนักลงทุน”

เกี่ยวกับจีอี

จีอีมุ่งมั่นในการคิดค้นสิ่งที่ดีต่อมนุษยชาติ ด้วยบุคลากรที่เก่งที่สุด และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด เพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยากที่สุด โดยมุ่งหาวิธีแก้ปัญหาในด้านพลังงาน สุขภาพและที่อยู่อาศัย การขนส่งและการเงิน ด้วยการสร้างและเพิ่มพลังการขับเคลื่อนในการดูแลรักษาโลกของเรา เหล่านี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่จินตนาการ แต่จีอีเราลงมือทำ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ge.com

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ

เมธาวี เฉลิมธนศักดิ์/ภคินี เทียมคลี

บริษัท เอฟ เอ คิว จำกัด

โทรศัพท์: 1+66 2 971 3711 ต่อ 120

อีเมล์: maythavee@pc-a.co.th, pakinee@pc-a.co.th

มือถือ: 081-855 7394, 080-773 1068

Get latest news from Blognone