ตามนั้นครับ เห็นเพื่อนหลายคนทักษะ skill เมพมาก ประสบการณ์สูง แต่เห็นไปสัมภาษณ์ทีไร ปิ๋วทุกที น่าจะมีที่เค้าเปิดสอนประมาณนี้บ้าง
หรือว่าลักษณะงานในบ้านเรา ไม่ต้องการคนเก่ง skill เมพๆ ประสบการณ์สูง แต่ชอบคนที่พูดเก่งๆ เอาตัวรอดได้ ???
เก่งเกินไปก็ใช่ว่าจะดีคับ
ผมสงสัยแฮะ ว่าเก่งเกินไปไม่ดีอย่างไร ?
ไม่นับนิสัยส่วนตัวนะ เอาแค่ว่า เก่งมาก แล้วไม่ดียังไง ?
เก่งจนคุยกันคนอื่นไม่รู้เรื่องมันก็มีนะครับ แล้วแต่ที่ทำงานด้วยแหละนะ
แบบนั้นเรียกว่าไม่มีทักษะด้านการสื่อสารครับ ไม่ใช่ "เก่งเกินไป"
ตัวคนเก่งเองจะเหนื่อยครับ เพราะว่าทำอย่างไรคนอื่นก็ไม่ได้ดังใจ
แถมเข้าไปทีหลังเราก็ไม่อยากจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรอีก ...
บทความในอินเทอร์เน็ตมีเยอะแยะมากมายครับ เช่น http://th.jobsdb.com/TH/EN/Resources/JobSeekerIndex
LinkedIn
บางคนแค่อ่านก็พอครับ แต่กับหลายคน มันต้องให้คนอื่นมอง ให้คนที่มีประสบการณ์มอง ว่าอันต้องปรับบ้าง ถ้ามันมีธุรกิจแบบนี้น่าจะดีไม่น้อย
เพราะเพื่อนชอบมาปรึกษาผม ให้ช่วยดู resume ให้แปล จดหมายลางาน อะไรหลายครั้ง มันน่าจะมีความต้องการในตลาดอยู่บ้างแหละ
สิ่งสำคัญที่ผมมองควบคู่กับความเก่งก็คือ Attitude ครับเพราะความเก่งฝึกกันได้แต่ปรับ attitude นี่ยากมากๆ ฉะนั้นเวลาผมสัมภาษณ์จะไม่ได้เน้นเรื่องความเก่งอย่างเดียวครับ คงแนะนำสั้นๆว่าถ้าจะไปสัมภาษณ์งานนอกจากข้อมูลความรู้แน่นแล้วขอให้มีความมั่นใจและขอให้มีทัศนคติที่ดีครับ (ทุกวันนี้เด็กจบใหม่ไม่ค่อยชอบลุยงานหนักเหมือนสมัยผมเลยครับไม่รู้ทำไม --')
ทุกวันนี้สิ่งดึงดูดใจมันมีเยอะครับ ผมเองก็ยอมรับว่าผมยังต้องศึกษาอะไรอีกเยอะ มีหนังสืออีกเป็นตั้งที่ยังต้องอ่าน..
แต่บางอารมณ์วันหยุดก็ยังอดไม่ได้ที่แอบดอดไปทำไร้สาระอย่างอื่นครับ = =" (จะให้เด็กไทยจดจ่ออยู่กับอะไรนานๆ.. ยาก)
แบบที่คุณ KNPKT ว่าเอาไว้ครับ
เวลาสัมภาษณ์นั้น คนที่สัมภาษณ์เราเค้าจะดูที่ทัศนคติของเรา ว่าเรามีมุมมองต่อตัวเองและคนอื่นอย่างไร
บางคนเก่งมากๆ ก็จริงแต่พูดจาฟังแล้วติดลบกับคนอื่นทุกคน คำถามง่ายๆ ว่า "ทำไมจึงเปลี่ยนงาน" แต่คำตอบนี่ชี้ถึงความคิดของผู้สมัครเลยครับ
"หัวหน้าไม่เคยเข้าใจผมเลย" "งานไม่ท้าทาย" "เพื่อนร่วมงานทำงานไม่ทันผม" "คนเก่งอย่างผมน่าจะได้ทำงานในที่ๆ ดีกว่างานเก่า"
ที่ยกตัวอย่างมาคือการมองคนอื่นในแง่ลบทั้งหมดครับ ถ้าเป็นเพื่อนกันธรรมดาทั่วๆ ไปก็คงมีแซวว่า "ทุกคนไม่เข้าใจคุณ หรือคุณไม่เข้าใจทุกคนกันแน่"
มีเพื่อนผมอยู่คนนึงจบปวส.มาด้วยกัน มันสอบติดทั้งสามพระจอมฯ แต่ไม่มีที่ไหนรับมันเลยครับ
จำไว้ครับ "มากกว่าคนเก่ง สิ่งที่บริษัทต้องการคือคนดี" ครับ เพราะคนดีมักไม่สร้างปัญหาในที่ทำงาน เข้ากับทุกคนได้ และมักจะเห็นแก่บริษัทมากกว่าตัวเองครับ
คนดีแต่ไม่เก่งมีแต่สร้างความเสียหาย
เหมือนโง่แต่ขยัน ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
อ่านประวัตินโปเลียนมากไปหรือเปล่าครับ
งานของคนโง่นั้นมีแน่นอนครับ ยิ่งถ้าขยันล่ะก็ผมเชื่อว่าใครๆ ก็ยินดีรับทำงานครับ งานของคนเลวนั้นไม่มีครับ ยกเว้นเบียดเบียนคนโง่
ผมเลือกยกย่องคนโง่แต่จิตใจดีครับ
แต่ผมว่า บริษัทชอบรับคนที่ สร้างภาพเก่ง ที่สุดครับ ฮ่าๆ
ถูกครับ การสมัครงานคือการขายตัวเองครับ
ถ้าทำงานไม่ดีก็เป็นงานขายอีกอย่างครับ โดยเฉพาะถ้าไปทำหน้าแหกในวงลูกค้ายิ่งเป็นงานขายชั้นเยี่ยมครับ
ขายหน้าอ่ะนะ
ใช่ครับ ต้อง fake ใส่ ถึงจะรับ ถ้าบอกอะไรไปตรงๆ จะถูกมองว่าทัศนคติไม่ดี เข้ากับคนไม่ได้ สร้างปัญหา ฯลฯ
ความจริงใจใช้สมัครงานไม่ได้เลยสินะ
เคยเห็นผ่านๆตาก็พวกบริษัท Manpower อะครับ กลุ่มบริษัทด้านทรัพยากรบุคคลมักจะจัดอบรมด้านการสัมภาษณ์งานเรื่อยๆครับ :)
เทพขนาดไหน แต่ถ้าไม่ตรงกับความต้องการก็ปิ๋วนะครับ เหมือนว่าคุณวิ่งร้อยเมตรได้ในสิบวินาที แต่เขาอยากรับนักว่ายน้ำ ยังไงก็ไม่ได้
หรือว่าลักษณะงานในบ้านเรา ไม่ต้องการคนเก่ง skill เมพๆ ประสบการณ์สูง
แต่ชอบคนที่พูดเก่งๆ เอาตัวรอดได้ ???
เก่งเกินไปก็ใช่ว่าจะดีคับ
ผมสงสัยแฮะ ว่าเก่งเกินไปไม่ดีอย่างไร ?
ไม่นับนิสัยส่วนตัวนะ เอาแค่ว่า เก่งมาก แล้วไม่ดียังไง ?
เก่งจนคุยกันคนอื่นไม่รู้เรื่องมันก็มีนะครับ แล้วแต่ที่ทำงานด้วยแหละนะ
แบบนั้นเรียกว่าไม่มีทักษะด้านการสื่อสารครับ ไม่ใช่ "เก่งเกินไป"
ตัวคนเก่งเองจะเหนื่อยครับ เพราะว่าทำอย่างไรคนอื่นก็ไม่ได้ดังใจ
แถมเข้าไปทีหลังเราก็ไม่อยากจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรอีก ...
บทความในอินเทอร์เน็ตมีเยอะแยะมากมายครับ
เช่น http://th.jobsdb.com/TH/EN/Resources/JobSeekerIndex
LinkedIn
บางคนแค่อ่านก็พอครับ แต่กับหลายคน มันต้องให้คนอื่นมอง ให้คนที่มีประสบการณ์มอง ว่าอันต้องปรับบ้าง ถ้ามันมีธุรกิจแบบนี้น่าจะดีไม่น้อย
เพราะเพื่อนชอบมาปรึกษาผม ให้ช่วยดู resume ให้แปล จดหมายลางาน อะไรหลายครั้ง มันน่าจะมีความต้องการในตลาดอยู่บ้างแหละ
สิ่งสำคัญที่ผมมองควบคู่กับความเก่งก็คือ Attitude ครับเพราะความเก่งฝึกกันได้แต่ปรับ attitude นี่ยากมากๆ ฉะนั้นเวลาผมสัมภาษณ์จะไม่ได้เน้นเรื่องความเก่งอย่างเดียวครับ คงแนะนำสั้นๆว่าถ้าจะไปสัมภาษณ์งานนอกจากข้อมูลความรู้แน่นแล้วขอให้มีความมั่นใจและขอให้มีทัศนคติที่ดีครับ (ทุกวันนี้เด็กจบใหม่ไม่ค่อยชอบลุยงานหนักเหมือนสมัยผมเลยครับไม่รู้ทำไม --')
ทุกวันนี้สิ่งดึงดูดใจมันมีเยอะครับ
ผมเองก็ยอมรับว่าผมยังต้องศึกษาอะไรอีกเยอะ
มีหนังสืออีกเป็นตั้งที่ยังต้องอ่าน..
แต่บางอารมณ์วันหยุดก็ยังอดไม่ได้ที่แอบดอดไปทำไร้สาระอย่างอื่นครับ = ="
(จะให้เด็กไทยจดจ่ออยู่กับอะไรนานๆ.. ยาก)
แบบที่คุณ KNPKT ว่าเอาไว้ครับ
เวลาสัมภาษณ์นั้น คนที่สัมภาษณ์เราเค้าจะดูที่ทัศนคติของเรา ว่าเรามีมุมมองต่อตัวเองและคนอื่นอย่างไร
บางคนเก่งมากๆ ก็จริงแต่พูดจาฟังแล้วติดลบกับคนอื่นทุกคน
คำถามง่ายๆ ว่า "ทำไมจึงเปลี่ยนงาน" แต่คำตอบนี่ชี้ถึงความคิดของผู้สมัครเลยครับ
"หัวหน้าไม่เคยเข้าใจผมเลย"
"งานไม่ท้าทาย"
"เพื่อนร่วมงานทำงานไม่ทันผม"
"คนเก่งอย่างผมน่าจะได้ทำงานในที่ๆ ดีกว่างานเก่า"
ที่ยกตัวอย่างมาคือการมองคนอื่นในแง่ลบทั้งหมดครับ ถ้าเป็นเพื่อนกันธรรมดาทั่วๆ ไปก็คงมีแซวว่า "ทุกคนไม่เข้าใจคุณ หรือคุณไม่เข้าใจทุกคนกันแน่"
มีเพื่อนผมอยู่คนนึงจบปวส.มาด้วยกัน มันสอบติดทั้งสามพระจอมฯ แต่ไม่มีที่ไหนรับมันเลยครับ
จำไว้ครับ "มากกว่าคนเก่ง สิ่งที่บริษัทต้องการคือคนดี" ครับ เพราะคนดีมักไม่สร้างปัญหาในที่ทำงาน เข้ากับทุกคนได้ และมักจะเห็นแก่บริษัทมากกว่าตัวเองครับ
คนดีแต่ไม่เก่งมีแต่สร้างความเสียหาย
เหมือนโง่แต่ขยัน ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
อ่านประวัตินโปเลียนมากไปหรือเปล่าครับ
งานของคนโง่นั้นมีแน่นอนครับ ยิ่งถ้าขยันล่ะก็ผมเชื่อว่าใครๆ ก็ยินดีรับทำงานครับ
งานของคนเลวนั้นไม่มีครับ ยกเว้นเบียดเบียนคนโง่
ผมเลือกยกย่องคนโง่แต่จิตใจดีครับ
แต่ผมว่า บริษัทชอบรับคนที่ สร้างภาพเก่ง ที่สุดครับ ฮ่าๆ
ถูกครับ การสมัครงานคือการขายตัวเองครับ
ถ้าทำงานไม่ดีก็เป็นงานขายอีกอย่างครับ โดยเฉพาะถ้าไปทำหน้าแหกในวงลูกค้ายิ่งเป็นงานขายชั้นเยี่ยมครับ
ขายหน้าอ่ะนะ
ใช่ครับ ต้อง fake ใส่ ถึงจะรับ ถ้าบอกอะไรไปตรงๆ จะถูกมองว่าทัศนคติไม่ดี เข้ากับคนไม่ได้ สร้างปัญหา ฯลฯ
ความจริงใจใช้สมัครงานไม่ได้เลยสินะ
เคยเห็นผ่านๆตาก็พวกบริษัท Manpower อะครับ กลุ่มบริษัทด้านทรัพยากรบุคคลมักจะจัดอบรมด้านการสัมภาษณ์งานเรื่อยๆครับ :)
เทพขนาดไหน แต่ถ้าไม่ตรงกับความต้องการก็ปิ๋วนะครับ
เหมือนว่าคุณวิ่งร้อยเมตรได้ในสิบวินาที แต่เขาอยากรับนักว่ายน้ำ ยังไงก็ไม่ได้