By: Methasit Tubtim 
on 12 June 2023 - 17:43
Tags:
Topics:
Cybertruck สร้างความประทับใจแรกกับมวลชนตั้งแต่การเดโมในเวทีเปิดตัว ที่ Musk คุยว่ากระจกจะเป็น Armor Glass ที่แข็งเป็นพิเศษ ไม่แตกง่ายๆ แต่กลับแตกเมื่อถูกเขวี้ยงด้วยลูกเหล็ก
ล่าสุด Handelsblatt สื่อเยอรมนีเปิดเผยเอกสารภายในที่หลุดออกมาของ Tesla กว่า 23,000 ฉบับ ขนาดกว่า 100GB โดยมีรายละเอียดของปัญหาทางเทคนิคที่บริษัทเผชิญมาตลอด ตั้งแต่ช่วงปี 2015 จนถึงมีนาคม 2022 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเรื่องสารพัดปัญหาของระบบ Autopilot ด้วย
หนึ่งในประเด็นใหญ่ที่พบในเอกสารหลุด คือปัญหาของ Cybertruck รถกระบะไฟฟ้าของ Tesla ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2019 และกำหนดวางจำหน่าย 2021 ก่อนเลื่อนเป็น 2022 และล่าสุด 2024
เอกสารภายในของ Tesla ชี้ว่าทีมวิศวกรเจอปัญหาหลายอย่าง จากการทดสอบ Cybertruck รุ่น Alpha ที่เป็นรุ่นทดสอบสายการผลิต ไม่ว่าจะเรื่องของ handling อย่างการเร่งความเร็ว การสั่น การกระตุกของช่วงล่าง ระบบเบรก ไปจนถึงระบบ NVH (noise, vibration, and harshness) ที่ออกมาไม่ตรงกับการประเมินในซิมูเลชัน
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมรถยนต์ ก็ให้ความเห็นว่าปัญหาดังกล่าวที่เกิดกับ Cybertruck ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือแก้ไขไม่ได้ ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาพื้นฐานด้านวิศวกรรมเครื่องกลของรถยนต์ที่ต้องเจอในการผลิตรถยนต์ทุกรุ่น แต่สิ่งที่เขาอึ้งคือ Tesla “ดิ้นรนอย่างมาก” ในการแก้ปัญหาพื้นฐานเหล่านี้
ที่มา - Wired, Ars Technica
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- สงคราม GenAI บนคลาวด์ในปี 2024 ไปถึงไหนกันแล้ว | Cloudnone x AWS
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
Comments
เจ้าอื่นทำขายกันเยอะแล้วนะ
ดิ้นรนอย่างมาก เพราะแก้ยาก หรือไม่มีความสามารถในการแก้นะ
ในข่าวใช้ว่า struggling with the basics (classic mechanical automotive engineering challenges) ครับ (...ตามความเห็นของ engineer ในข่าวนะ)
รถเจ้าอื่นมีปัญหาแบบนี้ไหมเนี่ย
คืดว่าในช่วง development น่าจะเจอ ทุกยี่ห้อ
มี แต่เขามีความรู้ ว่า แก้อย่างไงได้จบและง่าย ซึ่งผลคือเราก็จะได้รถเดิมๆ ไม่พัฒนาไปไหน แต่เทสล่า จะเป็นแนวอีลอนเองนั่นล่ะ ลองแก้ไปเรื่อยๆ เพื่อให้ได้อย่างที่จะเอา จนกว่าสุดท้ายจะรู้ว่า ทางตัน มันคือตรงไหน และยอมทำเท่าที่ได้ไปก่อนแบบที่ผ่านมา
ไม่ค่อยเห็นด้วยนะ
ดูจาก defect งานประกอบของพวก model Y,3 ทั้งไทยและเทศรวมถึงปัญหาประหลาดๆที่เจอกันเรื่อยๆ บางเรื่องเป็นปัญหาที่รถยนต์ICE เจ้าใหญ่ๆแก้ปัญหาหรือป้องกันได้มาสัก 20-30ปีแล้ว
ล่าสุดในไทยเจอ กระจกข้างยกขึ้นเองตอนปิดประตู(จริงๆต้องลดลงเพื่อไม่ให้กระแทก) เจอกันหลายคนหลายเคสแถมไม่มีอะไหล่อีกตะหาก จนงงพวกรถยนต์ประตูกระจกไร้ขอบเฟรมเลส เห็นญาติซื้อรถยนต์ที่มีแบบเดียวกันตั้งแต่สมัยnissan presia(20ปี++) ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาแบบนี้
เข้าใจว่าก็อาจจะคิดเหมือนคุณ คือบางเรื่องแกไม่ยอมจ้างคนทำงานเก่าจากวงการรถยนต์เพราะกลัวจะติดกรอบความคิดเดิมๆ มันก็เลยเจอปัญหาเก่าๆที่วงการยานยนต์เจอเมื่อ 20ปีที่แล้ว และต้องมาคิดวิธีแก้ไขหรือป้องกันใหม่ๆจนดูประหลาดที่มาเจอในยุคนี้
+1 เอาจริง ๆ เลย สตาร์ทอัพจำนวนนึงในปัจจุบัน ก็ใช้แนวความคิดเมื่อ 20 ปีก่อน (ตัวเลขสมมติ) เอามาใช้ แล้วสร้างเป็นจุดขายว่า เออเราดีกว่า เราทำราคาได้ถูกกว่า เราทำความเร็วได้ดีกว่า ซึ่งจุดแข็งที่ได้มาทั้งหมดก็มาจากการที่สตาร์ทอัพพวกนี้ไม่รู้เรื่องข้อกฎหมาย ระเบียบต่าง ๆ หรือจริง ๆ รู้แต่ไม่สนใจ ก็ลดคอสต์ไปได้เยอะ ได้ความสะดวกเพิ่มขึ้นมา แต่ไม่ได้มีอะไรใหม่จริง ๆ
แล้วก็มาด่าว่า พวกบริการคู่แข่งที่อยู่มานานเค้าคิดแบบเราไม่ได้ เราทำได้ถูกกว่าเพราะนวตกรรม ~
แล้วพอถึงจุดที่มีปัญหาก็เพิ่มมาตรการแก้ไขเข้ามาเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ไปจบที่บริการแบบเดียวกับคู่แข่งและราคาไม่ได้ต่างกับคู่แข่ง แต่ณ.จุดนี้ก็คือ exit แล้ว ขายกิจการไปได้เรียบร้อย ไอ้ผู้ก่อตั้งก็ลอยหน้าลอยตาเป็นฟาวเดอร์เท่ๆ ไปเรียบร้อย อะไรแบบนี้ครับ
ไม่ค่อยมีครับ เพราะหลายค่ายรถส่วนใหญ่ มีประสบการณ์ในการทำรถมานานมาก เลยรู้ถึงปัญหาและมีวิธีแก้ของตัวเองอยู่แล้ว และมักจะแก้ได้ตั้งแต่ตอนเริ่มพัฒนารถแล้วหละครับ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
คิดว่าเพระาเอาวิศวกรไอทีกับไฟฟ้า มาทำรถหรือป่าว
พวกวิศวกรเครื่องกลเก๋าๆเค้าก็อยู่บริษัทรถอื่นกันหมด
นึกถึงคำพูดของท่านประธานโตโยต้า
ศึกษาเองพัฒนาเอง เจอปัญหาเอง แก้ไขเอง