Tags:
Node Thumbnail

แม้ระบบสาธารณสุขของประเทศไทย จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุดในโลก แต่ไม่ว่าสิ่งใดจะดีแค่ไหนก็ย่อมมีข้อจำกัด ทั้งด้านบุคลากร อุปกรณ์ รวมถึงความเหลื่อมล้ำในการให้บริการ ที่โรงพยาบาลใหญ่ๆ ในเมือง ย่อมมีผู้ต้องการรักษามากกว่า ทำให้เกิดการกระจุกตัวของผู้ป่วยในเขตเมืองใหญ่เป็นหลัก

Digital Health Venture หรือเรียกชื่อย่อว่า DHV เป็นบริษัทในเครือโรงพยาบาลสมิติเวช ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยการยึดคนไข้เป็นจุดศูนย์กลาง (Patient-centric) นำระบบสาธารณสุขออกไปสู่ผู้ใช้บริการ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการรักษาได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในประเทศ เป็นการลดภาระในการเดินทางของคนไข้ ลดความแออัด และเพิ่มประสิทธิภาพของ Healthcare Ecosystem ของเมืองไทย

No Description

นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร CEO ของกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และ BNH เล่าให้เราฟังถึงจุดกำเนิดของ DHV ระบุว่าสาเหตุหลักมาจากประโยค “เราไม่อยากให้ใครป่วย” จึงเกิดความคิดในการสร้าง Healthcare Ecosystem รูปแบบใหม่ที่ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว ลดการมาโรงพยาบาล และสามารถนำสุขภาพที่ดีไปสู่ผู้คนตามที่อยู่อาศัย หรือที่ทำงานแบบ Decentralized Healthcare ได้ โดยที่โรงพยาบาลไม่จำเป็นต้องเป็นจุดศูนย์กลางของระบบสาธารณสุขอีกต่อไป

No Descriptionนพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร CEO ของกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และ BNH

พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามเทคโนโลยี สมิติเวชจึงมีการปรับตัวเพื่อรองรับเทรนด์ในอนาคต คาดเดาพฤติกรรมของผู้บริโภค Disrupt ตัวเองก่อนที่จะถูกคนอื่น Disrupt ด้วยการจัดตั้ง Digital Health Venture (DHV) ขึ้นมา เป้าหมายหลักคือการสร้าง Digital Healthcare Ecosystem นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาเสริมสร้างคุณค่าต่อส่วนรวมและชุมชน

DHV ใช้การทำงานแบบ Agile Organization of Value ทำงานแบบ Startup-HealthTech เน้นความรวดเร็ว และคล่องตัว ไม่ยึดติดกับระบบและการทำงานแบบทั่วไปของโรงพยาบาล เป็นองค์กรที่ทีมงานสามารถพูดคุยโดยตรงกับ CEO ได้ทันที มีการทำงานเป็น Project-based ที่สามารถประยุกต์ให้เกิดการใช้งานจริงได้ รวมถึงให้อิสระในการคิดโครงการหรือวิธีการแก้ปัญหาใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้บริการ

No Description

DHV มี Solution ที่ส่งให้สมิติเวชเป็นผู้นำด้าน Healthtech อยู่มากมายทั้ง Pre-Hospital หรือการดูแลก่อนมาโรงพยาบาล และ Post-Hospital ระบบช่วยอำนวยความสะดวก ลดความยุ่งยาก และการใช้เวลาในโรงพยาบาล โดยมีผลิตภัณฑ์ที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย เช่น

Samitivej Virtual Hospital ให้บริการปรึกษาแพทย์แบบครบวงจร สามารถวีดีโอคอลกับแพทย์ ได้แบบ Real-time ตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจุบันมีแพทย์เฉพาะทาง 51 สาขาถึง 642 คน สามารถให้บริการได้ตั้งแต่โรคทั่วไป ปวดหัว เป็นไข้ ภูมิแพ้ จนถึงโรคเฉพาะทางไม่ว่าจะเป็น ผิวหนัง ทางเดินอาหาร จิตเวช ออฟฟิศซินโดรม หรือ โรคในเด็ก

SkinX เป็นความร่วมมือระหว่าง DHV และ SCB10X เป็นแพลตฟอร์มแรกของเมืองไทยที่รวมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางกว่า 200 คน จากโรงพยาบาลและคลินิกผิวหนังชั้นนำ เพื่อให้บริการด้านการปรึกษาปัญหาผิวหนังออนไลน์ครบวงจรแห่งแรกของประเทศ ตั้งแต่พบแพทย์ผ่านวิดิโอคอล สั่งยา ติดตามผล พร้อมบริการจัดส่งยาตามใบสั่งแพทย์โดยเภสัชกร

Samitivej Plus แอปพลิเคชันช่วยเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงบริการต่างๆ ของโรงพยาบาล เช่น บริการจัดการคิว โดยผู้รับบริการจะรับรู้คิว ตั้งแต่ลงทะเบียนไปจนถึงการรับยา ผ่านทางมือถือแบบเรียลไทม์ บริการตรวจสอบตารางออกตรวจของแพทย์และนัดหมายด้วยตัวเอง บริการการจ่ายเงินแบบออนไลน์ ดูประวัติการรักษาย้อนหลัง รวมถึงบริการเรียกรถพยาบาลผ่านทางแอปพลิเคชั่นในกรณีฉุกเฉิน

Risk Score and AI เทคโนโลยี AI ช่วยในการประเมินความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการตรวจพบความผิดปกติของคนไข้

Engage Care บริการ Remote Health Monitoring โดยเรามีทีมแพทย์และพยาบาลออนไลน์คอยดูแลค่าสุขภาพที่ผู้ป่วยเชื่อมต่ออุปกรณ์ IOT ผ่านแอพพลิเคชัน ไม่ว่าจะเป็น ค่าความดัน น้ำตาลในเลือด บันทึกยาฉีดอินซูลิน ชีพจร ระดับออกซิเจน อุณหภูมิ และน้ำหนัก พร้อมให้คำแนะนำเมื่อค่าผิดปกติแม้ว่าผู้ป่วยจะอยู่ที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรค

Samitivej Pace และ Samitivej Prompt แพลตฟอร์มแรกของเมืองไทย ที่เป็นระบบการสื่อสารแบบเรียลไทม์กับผู้ป่วย ญาติและครอบครัวของคนไข้ที่เข้ารับการผ่าตัดหรือพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เพื่อลดความวิตกกังวล และสร้างความสบายใจของผู้ป่วยและครอบครัวของคนไข้

No Description

ระบบการทำงานที่ DHV

DHV มีระบบการทำงานที่ให้อิสระในการคิด และทำ สิ่งใหม่ๆ ทุกคนในทีมสามารถคุยกัน และช่วยเหลือกันได้ตลอด โดยอิงอยู่กับหลักการและเหตุผลเพื่อขับเคลื่อนผลลัพท์ สมาชิกในทีมประกอบไปด้วยคนหลากหลาย Gen ที่พร้อมนำจุดแข็งมาผสานกัน โดยมีหัวใจหลักในการทำงานเป็นตัวอักษร 6 ตัว คือ TRICCS ซึ่งเป็นจุดแข็ง และคุณสมบัติสำคัญที่สมาชิกทีมของ DHV ต้องมี โดยตัวอักษรแต่ละตัว แสดงถึงคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้

  • T - Team ทำงานเป็นทีมได้
  • R - Result Oriented ทำงานโดยเน้นผลลัพท์เป็นสำคัญ
  • I - Insight ทำงานโดยมีข้อมูลที่ละเอียด ชัดเจน
  • C - Coordinate ทำงานโดยมีการจัดการที่ดี
  • C - Communication ทำงานโดยมีการสื่อสารในทีมและนอกทีมเสมอ
  • S - Speed ทำงานแบบรวดเร็ว และคล่องตัว

ทำไม DHV ถึงน่าทำงานด้วย?

ด้วยความที่บริษัทมีจิตวิญญาณของสตาร์ทอัพ การทำงานจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว ฉับไว ออฟฟิศเป็นแบบ Coworking Space สามารถนั่งตรงไหนก็ได้ ไม่มีบังคับ มีที่นั่งหลายแบบทั้งโต๊ะยาว โต๊ะกลุ่ม โต๊ะเดี่ยวมีเตียงให้พักผ่อน มี Cafeteria ให้หยิบของกินมากมาย นอกจากนี้ช่วงโควิด ยังมีการให้ Work from Anywhere ทำงานจากที่ใดก็ได้ โดยเน้นผลลัพธ์เป็นสำคัญ

No Description

สมาชิกในทีมล้วนมี Passion ในการสร้างอนาคตแห่งวงการเทคโนโลยีสุขภาพ มีทัศนคติที่เปิดกว้าง และความคิดทันสมัย พร้อมที่จะช่วยเหลือกันตลอดเวลา และเพราะเป็นการรวมตัวของกลุ่มคนที่มี Passion เดียวกัน ย่อมเป็นโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้เทคโนยีใหม่ๆ และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีคนเก่งๆ รายล้อมอยู่รอบตัว

นอกจากนี้ เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่สร้างขึ้นมา สามารถนำไปใช้งานได้จริง และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนจริงๆ เพราะ DHV เป็นบริษัทในเครือโรงพยาบาลสมิติเวช มีโรงพยาบาล มีระบบ มีบุคลากร และมีฐานคนไข้และผู้ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ ทุก Solution ที่ผ่านการคิดมาอย่างหนักของทีม จึงพร้อมที่จะถูกนำไปใช้งานและให้บริการคนไข้ได้ในทันที

No Description

ด้วยสาเหตุทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ทำให้ Digital Health Venture เป็นอีกหนึ่งบริษัทสาย HealthTech ที่น่าสนใจสำหรับชาวไอทีที่ต้องการไปสายเทคโนโลยีสุขภาพ ซึ่งหลังจากวิกฤตโรคโควิด น่าจะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเป็นอีกหนึ่งสายไอทีที่มีอนาคตไกล จากพฤติกรรมของมนุษย์ยุคหลังโควิด ที่น่าจะมีความใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ทั้งสังคม สภาพแวดล้อมแบบ Agile Organization ที่ทำงานแบบสตาร์ทอัพ รวมไปถึงการได้แวดล้อมไปด้วยคนเก่งๆ ที่มีแพชชั่นเดียวกัน ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสดีๆ ที่พลาดไม่ได้สำหรับการพัฒนาความสามารถ และการทำงานอย่างมีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ นั่นคือการพาระบบ Healthcare Ecosystem ของเมืองไทย ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้นหนึ่งในอนาคต

Get latest news from Blognone