เราจะหาแฟน ไอที Geek ๆ ได้จากไหนบ้างคะ
เราชอบผู้ชายโลกส่วนตัวสูง หนุ่ม Geek แต่(ต้อง)รักแฟน
เป็นคนคิดบวก จิตใจดี อยากมีความสัมพันธ์ชีวิตคู่นานๆ
ความเข้ากันได้ก็อีกส่วน ไว้รอเรียนรู้นิสัยดู
แต่อยากเจอคนที่ซื่อสัตย์ ซื่อตรงในความรัก
ไม่รู้ว่าจะต้องไปหาจากไหน ㅠ ㅠ
เคยมีแฟนเป็น Geek มีนิสัยส่วนตัว/โลกส่วนตัวสูง เรารับได้หมด
เสียใจอย่างเดียวถึงต้องยอมถอยออกมาคือ เค้าไม่ได้ชอบเราเลยแต่แรก
คบกันทั้งๆที่เค้าชอบคนอื่นอยู่ ไม่ได้จริงจังกับ Relationship ของเราเลย
เสียใจเลยถอยออกมา รู้เลยว่าชอบเค้ามาก ชอบคนไลฟ์สไตล์แบบนี้
แต่ต้องจบ เพราะเค้าไม่เปิดใจให้ เลยอยากเจอคนที่ Geek โลกส่วนตัวสูง ที่จริงใจบ้าง
อ่า ไม่รู้ดักรึเปล่า ในนี้ก็ Geek เยอะครับ
เราก็เพิ่งรู้จัก blogone กับคนที่เลิกไป
ปัญหาคือ เราไม่รู้จะเริ่มรู้จักกับใครยังไงมากกว่าค่ะ
สายงานที่ทำก็ไม่มีสายไอทีหรือ Geek เลยด้วย ㅠ ㅠ
เผื่อเพื่อนๆในที่นี้จะบอกแนวทางให้ได้ค่ะ
At Defense Attorneys Seattle, LLC we are at a mission to remove the cloud of mystery that surrounds the law by cutting out the barrier by secure communication.
DUI attorney seattle wa
เงยหน้าขึ้นจากจอ ลุกออกไปหาในโลกแห่งความเป็นจริง
ประเทศ geek
Greek
สาวๆชอบผู้ชายแบบนี้ผมว่าน่ารัก+หายากเลยนะเนี้ย
ผมว่าคุณตามหาถูกที่แล้วแหละ และคุณก็ต้องการข้อมูลเพิ่มเพื่อหาผู้ชายคนนั้นให้เจอ เพราะหลายคนแอบอยู่แถวนี้จริงๆ ตามความคิดผม(เอาจากตัวผมเองเลยดีกว่า)
ถ้าไม่เจอกันตอนเรียนมหาลัย ก็เจอตามบริษัทซอฟต์แวร์หรือฝ่ายITบริษัท และตามร้านกาแฟที่นั่งCoding วาดillusเพราะหลายคนก็ทำFree lanceกันและยอมออกจากห้องมานั่งทำงานข้างนอกเพราะเบื่อห้องตัวเอง หรือไม่ก็มาคุยงาน
ข้อสังเกตคือ พวกนี้หาตัวยากพบเจอแค่ไม่กี่ที่ บางคนมักไปไหนมาไหนคนเดียว เพราะมีค่อยมีเพื่อนหรือไม่เข้าสังคมหรือเข้าสังคมไม่เป็น(หรือพูดกับคนอื่นแล้วฟังไม่รู้เรื่องเลยไม่มีใครคบ)
ส่วนนิสัยผมว่าแล้วแต่คนด้วยครับ ถ้าเป็นตัวผมเองคงไม่ใช่คนคิด+(แต่ถ้าในเกมส์+แมง) มองโลกในแง่ดีหรือสวยงามนัก แต่ก็เห็นใจ อยากช่วยเหลือผู้หญิงแบบคุณให้เจอผู้ชายที่คุณตามหาได้ถูกคนและง่ายขึ้นครับ และหวังว่าข้อมูลที่ผมให้น่าจะพอมีประโยชน์ให้คุณได้เจอผู้ชายที่คุณตามหานะครับ
โชคดีครับ
ปล. แถมให้ Algorithm การคบกันของผู้ชายแบบนี้ซับซ้อนและใช้เวลาไม่นาน หรือบางคนก็ใช้เวลาProcessนานเพื่อทำ Data mining ตัวคุณก่อน แต่หลายอย่างก็ทำเหมือนเป็นแฟนกัน เพราะต้องการทดสอบดูการตอบสนองและเก็บข้อมูลตัวคุณไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงจุดนึงแล้ว เขาก็จะรู้สึกว่า “โอเค เธอน่ารัก ชั้นชอบเธอ ชั้นสบายใจเมื่อมีเธออยู่ด้วย และมีโอกาสน้อยที่เธอจะหักอกนอกใจเรา หึหึเสดกรู”
Geek มีหลายอย่างครับ แต่ถ้า Geek คอมก็คงตามด้านล่าง
ยากที่จะเจอเขาตามผับ เทค ร้านกาแฟ แต่มักจะเจอในงานเทคโนโลยีต่างๆ งานหนังสือ หรืออาจจะเจอในงานขายต้นไม้
อาจจะเจอบ่อยในเกมออนไลน์ หรือ Steam บางทีไม่เจอเขาเล่นไลน์แต่ไปสิงใน Teamspeak หรือ Discord
คุณอาจจะต้องให้พื้นที่เขาค่อนข้างเยอะ ทำความเข้าใจเยอะ แต่เชื่อว่าเขาไม่ไปไหนจากคุณครับ
ลองไปหาแถว ๆ Greece ดูนะครับ
นี่มุกหรือเปลือกหอยคะ?
ปล. แนะนำคนนะเป็นคนแรกเลย
ปลล. จะแตะ edit แต่ติด reply แทน ฮ่วย
ผมนี่ถึงกับ หื้มมมมมมมม
อ่านเกินไปตัวเดียวเอง 555
แหม่ ได้ๆ 555
ที่ผมพอนึกออกและน่าจะมีประโยชน์ก็ลองไปเข้ากลุ่ม Community หรือ Training ด้านคอม/Programming หรือสายอะไรที่คุณอาจสนใจดูครับ
แน่ๆผมว่าคุณถามถูกที่แล้วละ 555
ลงชื่อทิ้งไว้นี่ผิดมั้ยครับ ?
ผมว่าในนี้แหละเยอะ แต่ที่เยอะจริงๆ น่าจะอ่านแค่เนื้อข่าวแล้วก็ไปไม่เจอกระทู้นี้ด้วยมั้งครับ - -"
เพราะมีโลกส่วนตัวสูงมากนี่แหละ มันเลยหายาก เข้าถึงยาก คาดหวังก็ยากอีก
มีคนนึงเป็นเจ้านายเก่าผม เป็นคนที่ positive thinking มาก(จนบริษัทเจ๊ง) เลิกกับเมียแล้วก็ไปแต่งกับคนใหม่
บอกเลยว่าคนประเภทนี้ แรร์
หมายเหตุ คนทำงานสายนี้เครียดจะตาย**
ผมว่าตามงานเทคโนโลยีต่างๆนี้ก็ geek เยอะนะครับ แต่ว่าจะต้องอาศัยตามข่าวเองเพราะบางงานก็ไม่ได้โปรโมทซักเท่าไหร่
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
แนะนำลองไป Co Working Space บ่อยๆ และอาจจะต้องเป็นฝ่ายเข้าถึงก่อนนะ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
อยากรู้จัก แต่บล็อกนันไม่มีหลังไมค์ ทำไงจะแมทช์กันได้เนี่ย
?
สงสัย Blognone ต้องเพิ่มฟีเจอร์ Matchmaking แล้ว
ลองมาเป็น Contributor แล้วไปงาน Blognone W/C Meetup ดูครับ (เดี๋ยวนี้ยังมีอยู่ไหมครับ?)
ถ้าเอาจริงก็มาถูกที่แล้วล่ะ ใบสมัครเป็นตั้งๆแหงม 55
ว่าแต่ส่งใบสมัครที่ไหนครับ 55
?
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
Geek นี่มีหลายแนวมาก แต่ก็จะมีจุดร่วมเด่นๆ บางอย่าง ถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง แนะนำลองตามอ่านคอมเมนต์ตามข่าวต่างๆ ดูครับ เผื่อว่าจะได้มองเห็นได้คร่าวๆ ว่า ลักษณะอุปนิสัยใจคอ Geek มันมีแบบไหนบ้าง ใช่แบบที่คิดไว้บ้างหรือเปล่า ขอให้โชคดีมี Geek ควงสมใจนะครับ
กรี๊กได้แต่ต้องหน้าตาดีด้วย นะอย่างลืมหนุ่มๆ
แฟน Geek ที่เราเลิกไป ก็ไม่ได้หน้าตาดีนะ แต่งตัวไม่เป็น แต่แต่งถูกกาลเทศะ เราก็ไม่ใช่คนหน้าตาดี แต่เราชอบคนที่วิสัยทัศเปิดมากกว่า ช่วยกันพัฒนาได้ เราก็ไม่อยากไปบังคับใครให้เป็นตามที่เราอยากให้เป็นหรอก เราชอบหนุ่ม Geek แต่ต้องเป็น Geek ที่รับตัวตนเราได้เหมือนกัน แล้วเราก็ชอบตัวตนเค้าเหมือนกัน
เราไม่ใช่คนเก็บตัวเลยนะ ค่อนข้างจะ extrovert มากๆ อยู่ข้างนอกแล้วมีแรง มีพลังทำนู้นนี่ สนุกกับทุกสิ่งอย่าง มีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง แต่เราดันชอบหนุ่ม intervert ที่บางครั้งบางคราวจะออกไปเที่ยวด้วยกันมากกว่าคนที่ตัวติดเรานะ
เราไม่ใช่ผู้หญิงแข็งแกร่ง ทอมบอยนะแต่เราแค่ดูแลตัวเองได้ชอบอิสระ แต่ก็ติดคนที่ให้ความอบอุ่นเราได้มากกว่า คนที่จิตใจดี มีเหตุมีผล เข้าอกเข้าใจผู้อื่น
สำหรับเราหน้าตาไม่ได้สำคัญนะ แค่รู้จักดูแลตัวเองบ้าง มีระเบียบ สะอาด คุณสมบัตินี้ไม่ว่า ญ หรือ ช ก็น่าคบนะ
ตอนแรกคิดว่าเล่นๆ ตอนนี้รู้สึกได้ว่าจริงจังครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ทำไงจะได้คุยกัน บล็อกนันเปิดหลังไมค์ให้ที
คงทำได้แค่แปะวาร์ปครับ (ใน profile ?) แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าบางทีก็คงไม่อยากเปิดตัวกันเท่าไหร่
ลองตั้งคำถามที่อยากรู้เกี่ยวกับเราคร่าวๆไว้ก็ได้ค่ะ
ถามเยอะก็ได้ ถามน้อยก็ได้ ถามอะไรก็ได้ค่ะ
เราจะได้แนะนำตัวถูก
ถ้ารู้สึกว่ายังอยากคุย อยากทำความรู้จักต่อ
จะได้ลงข้อมูลติดต่อไว้ค่ะ
เราผู้หญิงค่ะ แต่ไม่ใช่กุลสตรีไทยแน่นอน ไม่ถึงกับห้าวทอมบอยด้วย
อายุ 22 แล้วค่ะ
ผู้ชายอายุมากกว่าได้กี่ปีครับ
ผู้ชายอายุมากกว่าได้ ไม่เกิน 12 ปีค่ะ
จริงๆ มากกว่านั้นได้หน่อย ต้องดูว่า
รักษาสุขภาพร่างกายตัวเองดีขนาดไหน
อายุมากแล้ว ถ้าไม่ค่อยออกกำลังกาย
ถ้าเราชวนไปออกกำลังกายจะไปด้วยกันมั้ย
เราไม่ใช่สาย healthy มาก ไม่ได้เข้าฟิตเนส
แต่ว่างๆ จะหาเวลาไปวิ่งตามสวนสาธารณะ เดินเล่นชิวๆ วิ่งชิวๆ ปั่นจักรยานให้ร่างกายรู้ว่ามาเผาผลาญแคล มารักษาสมดุลเซลล์แล้วนะ
เราค่อนข้างจะวิตกกังวลกับคนที่เราแคร์
อยากให้สุขภาพดีไปด้วยกัน เราไม่ค่อยป่วยนะ
เราจะกลัวเวลาคนรอบข้างป่วยมาก เราไม่ใช่หมอ เรารักษาใครไม่ได้หรอก เลยอยากพาไปป้องกันมากกว่า บางคน Geek ไม่ค่อยสนใจตัวเอง กินอะไรก็ได้ นั่งหน้าคอม บางทีคว้าอะไรง่ายๆได้ก็กิน เราไม่ว่านะ แต่จะกังวลมาก ว่า ถ้าเผลอกินโดยไม่คิดอะไรมาก แล้วอายุมากกว่านี้ ป่วยง่าย แล้วจะดูแลตัวเองได้ไง แล้วจะอยู่กับเรานานๆได้มั้ย อาการร่างกายจะออกช่วงอายุ 30
ถ้ารู้ว่าอายุมากแล้ว แต่รู้จักรักษาสุขภาพ ดูแลตัวเองเป็น เราก็ยินดีนะ
เราอาจจะสัมผัสกับ Geek แค่เสี้ยวเดียว เลยจินตนาการออกแค่กับบางคน
เฉพาะมุมมองเรานะคะ ไม่ได้พาดพิงทั้งหมด
ถ้ารู้ตัวว่าทำงานกับคอมส่วนใหญ่ ใช้เวลานาน
นั่งนานๆ เผลอนั่งผิดท่า ก้มหลังบ่อยๆ กระดูกจะเสื่อมมั้ย กินแต่ของไม่มีประโยชน์ ของทอดๆ มันๆ แป้ง ง่ายๆเป็นประจำทุกวัน จะไปสะสมในร่างกายมั้ย เราชอบนะ คนมุ่งมั่นสนใจสิ่งที่ทำ แต่เราอยากให้ดูแลตัวเองด้วย คือเป็นห่วง
Geek ส่วนใหญ่(ที่เราสัมผัส) จะไม่สนใจปาร์ตี้ แอลกอฮอล์ เสพสารเสพติด เราชอบนะ จะทำงานบ้างานก็ได้ หมกตัวกับเรื่องที่สนใจก็ได้ แต่ถ้าคบเรา ถ้าเราไปเป็นห่วง แทรกแซงตรงนี้จะยอมมั้ย เราไม่ได้ทำอาหารเป็นเลย คงไม่ถึงขนาดเป็นแม่ศรีเรือนทำข้าวกล่องให้แน่ๆ
แต่ถ้าอยู่ยืดยาวถึงแต่งงานสร้างครอบครัว ฝึกทำอาหารให้กันได้อยู่แล้ว แต่นี้เรา 22 เอง เพิ่งเริ่มต้นใช้ชีวิต วัยสร้างเนื้อสร้างตัว เราก็ยังพูดไม่ได้ว่าจะดูแลกันได้ขนาดไหน ยังไงก็ต้องแยกกันอยู่ นัดเจอ ดูแลกันทางอ้อมมากกว่า
อ่านแล้ว เขียน(พิมพ์)ผ่านการเรียบเรียง เหมือนพูดให้ฟังต่อหน้าเลยครับ และจากความเห็นด้านล่างขอชมว่ามีแนวคิดที่ดีครับ
ส่วนตัวคิดว่าตัวเองไม่ได้ healthy จ๋า ต้องคุมแคลอรี่ งดแป้งอะไรขนาดนั้น แค่มีวินัย รับประทานแต่พอประมาณ ออกกำลังกาย (วิ่งเป็นหลัก) สม่ำเสมอจนติดเป็นนิสัยไม่ได้รู้สึกบีบบังคับตัวเองแต่อย่างใด ก็รู้สึกได้ว่าสุขภาพดีขึ้นเยอะ มันก็ส่งผลดีกับการใช้ชีวิต การทำงานครับ
22 เองครับ ยังมีเวลาหาอีกเยอะนะครับ
my blog :: sthepakul blog
ผมว่าไม่เยอะนะ ในทางการแพทย์ ผญ.ควรท้องไม่เกินอายุ 30 ครับ ตอนนี้ 22 ยังไม่มีแฟน พอหาแฟนได้ ต้องคบหาดูใจกันซักพัก อย่างน้อยคงปีสองปีเพื่อให้แน่ใจว่าจะสร้างครอบครัวกับคนนี้แน่ ๆ ถึงค่อยแต่งงาน แต่งเสร็จก็คงต้องหาจังหวะพร้อมอีกซักพัก (สมัยนี้แต่งงานทีนึงเงินเก็บเกลี้ยงกันเลยทีเดัยว) พอพร้อมจะมีลูกแล้ว หลายคนมันก็ไม่ได้มาง่าย ๆ ของผมล่อไปสองปีครับ บวกลบคูณหารดู อาจเหลือเวลาแค่ปีสองปีในการหาคู่ให้เจอนะครับ (นี่ยังไม่นับว่าถ้าอยากมีลูกหลายคนอีก ลูกคนที่สองที่สามคุณแม่ก็จะอายุเกิน 30 ละ)
Edit เขียนเสร็จเพิ่งนึกได้ ตัวเลขคือ 35 นี่นา ไม่ใช่ 30 งั้นก็พอมีเวลาอยู่ครับ 5-7 ปี เหลือเฟือ (สำหรับลูกคนแรก)
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
คิดเห็นยังไงกับแนวคิดว่าทั้งสองฝ่ายเท่าเทียมกันครับ
คิดเห็นยังไงกับแนวคิดทั้งสองฝ่ายเท่าเทียมกัน
สำหรับเรา ความเท่าเทียมคือไม่เข้าไปแทรกแซงชีวิตของอีกคนมากเกินไป ควรเว้นให้พื้นที่ส่วนตัวแต่ละคน
ความเท่าเทียมที่การมีตัวตนอยู่ของเราไม่ไปทำให้เค้าเดือดร้อน จากชีวิตประจำวันที่เค้าเป็นอยู่
การให้อิสระซึ่งกันและกันได้ใช้ชีวิตของตัวเอง
คือความเท่าเทียม
ความเท่าเทียมสำหรับเราไม่ใช่ คนละ 50-50
ต้องครึ่งๆ เท่ากันเป๊ะๆ ทุกครั้ง ทุกสถานการณ์
แต่คือ บางครั้ง เรา 60 คุณ 40
บางครั้ง คุณ 55 เรา 45 เป็นการสมดุลกันทั้งสองฝ่ายมากกว่า
ยอมกันได้บางครั้งบางเรื่อง บางอย่างไม่ได้จริงๆ ก็ต้องคุยกันได้ให้เข้าใจได้ด้วยเหตุผล ว่าทำไม
ความเท่าเทียมคือการเกื้อกูลซึ่งกันและกันค่ะ เข้าอกเข้าใจกันค่ะ ไม่ใช่วิธีที่ต้องมีข้อแม้ ข้อบังคับ กฎเกณฑ์กันนะ
เช่น กรณีกินข้าวด้วยกัน หารครึ่งครึ่ง จ่ายเฉพาะส่วนของตัวเอง เท่านั้น เรายินดีนะ
เช่น ไปดูหนังด้วยกัน ถ้าต่างคนต่างมีแนวที่ชอบ
แล้วผลัดกันไปนั่งดูหนังเป็นเพื่อนอีกคน ในแนวที่อีกฝ่ายชอบก็โอเคนะ หรือ เรื่องไหนสนใจเหมือนกัน ก็ไปดูด้วยกัน แต่ถ้าไม่สนใจจริงๆ แล้วอยากขอเวลาส่วนตัวไปแยกกันดู ก็โอเคนะ
นี้คือความเท่าเทียมในความคิดของเรา
การขอเวลาส่วนตัวไปใช้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วอีกฝ่ายให้ได้ แล้วหาเวลาอื่นมาเติมเต็มกัน ก็โอเคนะ คือการไม่ทิ้งกันไปไหน แต่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการทำอะไรอยู่ บางเรื่องเราเข้าไม่ถึง ก็ได้แต่อยู่เฉยๆ อะไรที่เข้าไป ซุ้มๆมองๆได้ ช่วยเหลือได้นิดหน่อย อยู่แบบชะเง้อมองได้ แค่ขออยู่ใกล้ๆ (แต่ช่วยอะไรไม่ได้) เราก็โอเคแล้วนะ
เราก็อยากซัพพอร์ต เท่าที่เราทำได้ แต่จะกลัวกลายเป็นมาหงุดหงิดเรามากกว่า ว่าไม่รู้แล้วจะมาวุ่นวายทำไม
สำหรับเรา ความเท่าเทียม คือการเกื้อหนุนกัน สมดุลกันมากกว่าค่ะ
+1 ชอบความคิดครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ขอบคุณที่ตอบครับ ตอบละเอียดดีและชัดเจนมาก ผมเห็นด้วยตามนั้น ส่วนตัวผมมีเสริมอีกอย่างนึงคือไม่มีใครมีสิทธ์มากกว่ากัน ถ้าฝ่ายนึงทำอะไรได้อีกฝ่ายต้องมีสิทธ์ทำแบบเดียวได้เช่นกันถ้าไม่ใช่ข้อจำกัดทางกายภาพนะ
ฝากโปรไฟล์คนอายุอยู่ในเกณฑ์ วิ่งได้จักรยานดีแต่ไม่เข้าฟิตเนส
กินตามใจปากพอควรแต่มีลิมิต สายตาดีไม่เคยมีออฟฟิศซินโดรมไว้ด้วยครับ ?
มายืนยันว่าคุณ hisoft คือ Geek สาย healthy ครับ จากการที่เคยอ่านความคิดความอ่านผ่านตัวอักษรก็พอเห็น lifestyle ในเรื่องการให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพอยู่เป็นระยะๆ
เคลมไว้ก่อนว่าไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวนะครับ แต่แค่เวลาที่มีการคุยกันในข่าวที่เกี่ยวกับ gadget ด้านสุขภาพก็มักจะมีความเห็นจากคุณ hisoft อยู่ในข่าวนั้นเสมอๆ
อุ่ย ขอบคุณครับ ☺️
ผม +1 ให้ว่า เท่าที่ทราบประวัติมาถือเป็นบุคคลไอทีที่ Healthy อันดับแรกๆ ที่ผมเคยรู้จักมาเลย ผมว่ามากกว่า จขกท. ไปเยอะเลยด้วย
แอบมา +1 เบา ๆ
ขอบคุณที่ตอบครับ หลายๆ ท่านน่าจะสบายใจได้แล้วนะ
กับ introvert นี่ยากตรงจะให้รู้จักกันดีนี่แหละครับ 55T5T5
ปัญหาของ introvert คือ อยากรู้จักคน แต่ไม่อยากคุยกับคน อยากสื่อสาร แต่ไม่อยากเสียความเป็นส่วนตัว
ใครที่แสดงความกระเหี้ยนกระหือรือให้เห็น ผมว่า introvert ส่วนมากจะถอยหมด ไม่ว่าจะ introvert หญิงหรือชายก็ตาม
ถ้าไม่รู้จักกันในระดับนึงแล้วมาขอเบอร์ ขอไลน์ ขอเมล์ ผมนี่หนีก่อนเลย ถ้าคุยกันผ่านเว็บบอร์ด หรือระบบกว้างๆ ที่มีทุกคนเห็นผมยังโอเคนะ
แต่สมมติคุยกันในโพสต์เฟสบุคแล้วจู่ๆ inbox มาคุย อันดับแรกคือบล็อกก่อนเลย ยกเว้นเป็นเพื่อนกันอยู่ก่อนแล้ว ส่วนมากเจอตาม FB group ต่างๆ
ใครแก้ปัญหานี้ได้ ใครรู้จักอดทนรอ ใครรู้ approach คงได้คุยกับเจ้าของกระทู้นี้แหละครับ
ปล. ผมว่าเจ้าของกระทู้บอกเพศตัวเองก็ดีนะ ผมอ่านมานานแล้วเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงตามคำลงท้ายที่ใช้ (คะ ค่ะ) แต่จะดีกว่าถ้าจะระบุให้ชัดเจนครับ
5555 ผมนี่ไม่ถึงขนาดนั้นครับ ทักมาได้ไม่หนีแค่บางทียังไม่ตอบนะ ขอเวลาไปคิดก่อนว่าจะตอบยังไง :p
เกิดเป็น introvert นี่ย้อนแย้งในตัวเองหลายระดับ ปวดหัวเหมือนกันครับ
ไม่คิดว่าจะมี thread แบบนี้ในบล็อกนันด้วย 55555+
(- -)?
คนที่เหมาะกับเราโดยที่เราไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร
สำหรับ หนุ่ม Geek คิดว่ายังไงคะ
(เปลี่ยนในที่นี้หมายถึงเปลี่ยนความเป็นตัวเองนะคะ
ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงข้อเสีย)
เราไม่คิดเปลี่ยนแฟนบ่อยแน่ๆ แต่กว่าจะเจอคนที่เข้ากับเราได้
กว่าจะเรียนรู้กันก็ใช้เวลาสักพักเหมือนกัน
หนุ่ม Geek เป็นประเภทที่ต้องใช้เวลาเรียนรู้นานเหมือนกัน กว่าจะเข้าถึงกันได้ กว่าจะรู้จักนิสัยที่แท้จริง
พอจะแนะนำได้มั้ยคะว่า เวลาศึกษานิสัยใจคอหนุ่ม Geek
ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง ต้องเตรียมใจเผื่อไว้ขนาดไหน
หรือวิธีเข้าหาที่ไม่กระเหี้ยนกระหือรือให้เห็นจนเกินไป ให้แตกตื่น
เราไม่อยากบุกรุกนะ แต่จะเอาชนะใจหนุ่ม Geek ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
แล้วนิสัยเราแบบนี้อีก จะเข้าถึงเค้าได้จากที่ไหน วิธีไหนกันนะคะ
เรายังไม่ได้ลงข้อมูลติดต่อไว้ในนี้เลย
แล้วเรายังไม่รู้ด้วยว่าถ้าลงไว้ แล้วได้คุยกัน
จะได้รู้จักกันจริงได้ถึงขนาดไหน
ใจจริงก็อยากเน้นได้เจอตัวจริงมากกว่าด้วยค่ะ
แต่ก็ไม่รู้จริงๆ จะรู้จักได้จากที่ไหน ไปแล้วจะเข้าหาได้ยังไง
ถ้าไม่ได้บอกว่าจะนัดลองเจอทำความรู้จักกันก่อน
^^; ขอรบกวนทุกคนด้วยนะคะ สำหรับข้อมูล
เอาแค่คหสต. เลยนะครับ คนเราไม่เหมือนกันตอบแทนกันไม่ได้
ถ้าแค่ตอบช้านี่ปกติครับ ทักบ่อยได้ตราบเท่าที่ยังตอบ คนเราแตกตื่นได้แต่นานไปก็ชินไปเองแต่ถ้าไม่ทักมาก่อนนี่ก็ยากที่จะเปิดบทสนทนาก่อน ? ถ้าหายไปเลยไม่ตอบนั่นอีกเรื่อง
ถ้าไม่เริ่มจากคุยด้วยข้อความจนเริ่มชินก่อนนี่ยากครับ เอาผมไปนั่งก็คงนั่งตัวแข็งเป็นรูปปั้นอยู่นั่นแหละ ? ตอนพิมพ์ล่ะคล่อง เจอหน้านี่แทบจะมุดแผ่นดินหนี
เข้าใจเลยค่ะ เคยเจอสถานการณ์นั้นมาเหมือนกัน
เราขอแค่ได้เจอเพื่อให้รู้ว่าเค้าคือใคร แค่สักครั้งก็พอค่ะ
นอกนั้นก็พิมพ์คุยกันตามอัชฌาสัยได้เลยค่ะ
ถ้าไม่มองว่าไม่เห็นจะคุยเลยนี่แย่ก็ยินดีครับ ?
introvert, geek, nerd, otaku, reserved เป็นคนละประเภทนะครับ
ผมไม่ได้จะขัด แต่จะบอกว่ามันไม่เหมือนกัน คุณต้องบอกได้ว่าชอบแบบไหน อย่างน้อยก็ต้องบอกตัวเองได้ครับ
อยู๋ที่เข้าใจและยอมรับได้ไหมน่ะครับ
ยกตัวอย่างข้างบนเรื่องดูหนัง สมมุติผมอยากดู avengers endgame แต่ถ้าคุณไม่ชอบหนังฮีโร่ผมก็ไม่บังคับ การที่มานั่งแกร่ว 3 ชั่วโมงกับสิ่งที่ไม่ชอบคงจะไม่ดีเท่าไร
หรืองานอดิเรก ผมเล่นหูฟัง ถ้าบอกว่าให้ขายทิ้งหมดก็คงจะไม่ใช่ แต่ถ้ามาลองฟังก็โอเคนะ ชอบไม่ชอบอีกเรื่องนึง
คนเราใช้ชีวิต มีนิสัย แนวทางมาเป็นสิบๆปี จะให้เปลี่ยนแบบดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ อาจจะลำบากหน่อย อยู่เรียนรู้ เข้าใจและยอมรับ กันได้มากกว่าจะไปเปลี่ยนความเป็นตัวเองครับ
ขอแสดงความเห็นเป็นข้อๆ ไปนะครับ (เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะครับ)
ผมเชื่อว่าแทบทุกวงการจะมี Geek/Nerd เรื่องนั้นๆ ซ่อนตัวอยู่ ถ้าคุณหาคนที่ชอบอะไรเหมือนกับคุณอยู่แล้ว ต่างกันแค่บุคลิก (เช่น ชอบถ่ายรูปเหมือนกัน คุณชอบไปเที่ยวถ่ายรูปกับเพื่อนๆ เค้าชอบออกไปคนเดียว ถ่ายวิว/สตรีทคนเดียว หรือชอบดูอนิเมเหมือนกัน คุณดูแล้วออกไปเดินงานคอมมิค เค้าดูอยู่คนเดียวเงียบๆ) ก็จะมีเรื่องที่ชอบเหมือนกัน ช่วยให้สามารถสนิทกันได้เร็วครับ
อันนี้ผมว่าจีบใครก็เหมือนกัน ต้องใช้เวลาทั้งนั้นครับ
ที่ผมเคยพยายามทำความรู้จัก introvert (ญ) มา ถ้าเราเป็นฝ่ายอยากคุยก่อนต้องช่างสังเกตมากๆ ครับ แต่ละคนจะมี Comfort Zone กับ Safe Zone ไม่เท่ากัน
Comfort Zone = คนอื่นเข้ามาได้ แต่รู้สึกอึดอัด
Safe Zone = ห้ามเหยียบเข้ามา
วิธีของผมคือ หลังจากเริ่มรู้จักกันแล้ว ให้พยายามสังเกตทั้ง 2 โซนของคนๆ นี้ให้ได้ แล้วเอาตัวเองเสียบเข้าไปใน Comfort Zone เค้า แต่ไม่แตะ Safe Zone แรกๆ ก็อาจจะมีความอึดอัดหงุดหงิดกันบ้าง เราก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ทำเหมือนเป็นปกติ ถ้าเค้ายินดีรู้จักเรา สุดท้ายเราจะกลายเป็นส่วนนึงของ Comfort Zone ของเค้าเอง เราก็อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเค้าเชิญเราเข้า Safe Zone เค้าเองครับ ถ้าจะให้ดีควรเริ่มเข้า Comfort Zone เค้าโดยอาศัยสิ่งที่เค้าชอบเป็นสื่อนำ เช่น ถ้าอยู่ๆ เราขอไลน์ตรงๆ เค้าคงไม่ให้ แต่ถ้าบอกว่าจะเอาไว้คุยเรื่องนี้ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เค้าสนใจ เค้าก็อาจจะให้ได้ครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีที่ว่ามาคือเจอกันต่อหน้า ทำให้แสดงความจริงใจด้วยท่าทางง่ายกว่า สังเกตอากัปกิริยาต่างๆ ง่ายกว่า ถ้าจะเอาวิธีนี้ไปใช้ผ่านการสื่อสารออนไลน์ น่าจะยากกว่ามากครับ อย่างน้อยต้องลองเจอกันก่อน และอย่าเร่งมากเกินไปครับ
อย่างที่บอกข้างบนว่า ผมเชื่อว่า Geek/Nerd หลบซ่อนตัวอยู่ทั่วไปนี่แหละ ถ้าสภาพแวดล้อมที่อยู่ในปัจจุบันไม่มี ลองเริ่มเข้าร่วมกลุ่มกิจกรรม/ชมรมที่ตัวเองชอบ แล้วลองทำความรู้จักคนเยอะๆ ดูครับ ถ้าเป็น Extrovert อยู่แล้วน่าจะออกไปหาเพื่อนใหม่ๆ ไม่ยาก แต่ไม่ต้องรีบมากก็ได้ ผมว่าอายุ 22 ยังมีเวลาอีกเยอะ พอทำงานไปเรื่อยๆ ก็รู้จักคนเพิ่มขึ้นเองครับ
ปล. ข้อสำคัญข้อนึงว่า ที่บอกว่าชอบสเปคแบบนี้คือชอบเองจริงๆ ไม่ใช่ว่าชอบคนเก่าซึ่งมีนิสัยแบบนี้แล้วอกหัก เลยอยากหาคนแบบเดียวกันมาเป็นตัวแทนนะครับ
ขอบคุณมากนะคะ ช่วยตอบให้อย่างละเอียดชัดเจนเลย
จะลองตอบคำถามตัวเองดูนะคะ ว่าตัวเองเหมาะกับ หนุ่ม Geek จริงๆรึเปล่า
เคยศึกษาดูใจมา 3 คน แค่ความซื่อย์ตรงที่เราให้คงไม่พอ เท่าอยู่ยังไงให้เค้าสบายใจใช่มั้ยคะ ทั้ง Comfort Zone และ Safe Zone ต่างๆที่เราเข้าไม่ถึง หรือยังใช้เวลาไม่มากพอให้เค้าเปิดใจ หรือเค้าเบื่อเราไปก่อนเอง
เราติดชอบคนบุคคลิก เด็ก Geek/Nerd มาตั้งแต่ประถมเลยค่ะ ทั้งที่เรา Extrovert แต่เราก็ชอบสเปคแบบนี้มาตลอด กว่าชอบคนสายปาร์ตี้ สังสรรค์ เพื่อนเยอะ
ลึกๆเราชอบความเป็นส่วนตัว สงบค่ะ
ถ้าแบบที่เราเป็น (Extrovert / Active ) เข้ากับหนุ่มกลุ่มนี้ไม่ได้จริงๆ เราตัดใจและลองเปลี่ยนก็ได้ค่ะ ไม่ใช่เพราะแฟนคนเก่า แต่เพราะแฟนคนเก่าเป็นแบบที่ชอบ ก็เลยดีใจมาก ไม่เผื่อใจเลยว่าจะเลิกกัน แต่สุดท้าย เราไม่ผ่านเกณฑ์ที่เค้าตั้งไว้ค่ะ ไม่ใช่อย่างที่เค้าต้องการ แค่นั้นเลย
พอถามทุกคนในที่นี้ เราเริ่มจะไม่มั่นใจแล้วค่ะ ว่านิสัยส่วนตัวเรา เราไม่เหมาะ ไม่แมทกับหนุ่มประเภทนี้เลยจริงๆ หรือว่า หนุ่มๆ แต่ละคน ตั้งความต้องการไว้สูง ในแบบที่ตัวเองต้องการเท่านั้น แล้วถ้าไม่ใช่ก็ตัดจบง่ายๆ รึเปล่า
เราก็กลัว เราคิดว่าตัวเองพยายามสุดแล้ว ที่แน่ๆคือเราจริงใจ จริงจังมาก ซื่อสัตย์ รับในสิ่งที่เป็นเค้า แต่เหมือนสุดท้าย เค้าที่เคยศึกษาดูใจมา แต่ละคน ก็หลีกจากไปหาในสิ่งที่เค้าต้องการมากกว่า
สงสัยเพราะเราเป็นแบบที่ตรงข้ามกับเค้าเลยใช่มั้ยคะ เค้าถึงไม่สนใจ ไม่อยากยุ่งเกี่ยว
ความซื่อสัตย์เป็นคุณสมบัติที่ดีและสำคัญ ช่วยให้ความรักที่มียืนยาวครับ แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้นมันต้องเริ่มมีความรักก่อน
ผมไม่รู้ว่าที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของคุณกับคนก่อนๆ เป็นแบบไหน คุณทำตัวอย่างไรเวลาอยู่ด้วยกัน ใครเป็นคนบอกเลิก etc. แต่โดยพื้นฐานแล้ว การที่บุคลิกต่างกันก็เป็นสาเหตุให้ไม่สบายใจได้ แม้คุณจะไม่เรียกร้องอะไรก็ตามครับ
ผมขยายความว่า มนุษย์ Geek มักจะมีสิ่งที่ตัวเองชอบทำในมุมของเค้า พื้นที่ของเค้า ซึ่งเค้าอาจจะชอบทำคนเดียว หรือกับคนที่ชอบในสิ่งที่เหมือนกับเค้า คุยกับเค้ารู้เรื่องเท่านั้น ทีนี้ การที่เค้ามีคุณเป็นแฟน หากเค้าแคร์คุณ เป็นห่วงคุณจริงๆ เค้าจะพบว่าตัวเองต้องแบ่งเวลาของเค้ามาใช้ร่วมกับคุณ ถึงแม้ว่าเค้าอาจจะให้เวลากับคุณได้ แต่นั่นก็คงไม่ใช่สิ่งที่เค้าชอบทำจริงๆ ครับ
ทีนี้ คุณอาจจะคิดว่าคุณให้เวลากับเขาแทนก็ได้ ปล่อยให้เค้าใช้เวลาทำสิ่งที่เค้าชอบไป คุณสามารถไปนั่งอยู่กับเค้าเฉยๆ นั่งดูเค้าทำอะไรไปตามเรื่องตามราว โดยไม่เรียกร้องงอแง ไม่เข้าไปยุ่งสิ่งที่เค้าทำ หรือไม่ชวนออกไปข้างนอกได้ก็จริง แต่ถ้าเป็นผม ผมก็คงรู้สึกผิดที่ต้องให้คุณมานั่งเสียเวลาชีวิตไปเปล่าๆ กลัวว่าคุณจะเบื่อ หรืออึดอัดที่มีคนเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว หรือไม่ก็รำคาญไปเลยก็เป็นได้ครับ
ทั้งนี้ ปัญหาทั้งหมดที่ว่ามามันสามารถใช้เวลาในการปรับจูนเข้าหากันได้ จะใช้เวลาด้วยกันยังไง จะใช้เวลาแยกกันยังไง ขอบเขตอยู่ที่ไหน แต่มันต้องเริ่มจากทั้งสองฝ่ายรักกัน และยินดีมากพอที่จะปรับเปลี่ยนตัวเองมากพอก่อน สาเหตุที่ความสัมพันธ์ก่อนๆ ของคุณไปไม่รอด อาจจะเกิดจากสาเหตุพื้นฐานง่ายๆ ที่สุดคือ คุณสองคนไม่ได้รักกันขนาดนั้นก็ได้ ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่ามีใครผิด แค่คุณยังไม่เจอคนที่ใช่แค่นั้น
ในบรรดาคนรอบตัวผมก็มีคนที่บุคลิกประมาณนี้ ผช. ชอบอยู่บ้าน ถ้ามีเวลาว่าง เลือกได้จะไม่ออกไปไหนทั้งนั้น ส่วน ผญ. เป็นนักกิจกรรม ชอบออกข้างนอกทุกวัน สนใจเรื่องใหม่ๆ ทุกสัปดาห์ ก็ต้องปรับตัวกัน ตกลงกันนานพอดูถึงจะอยู่ด้วยกันได้ครับ สุดท้ายถ้ารักกันจริง อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขแม้จะต้องปรับตัว ยังไงปัญหาก็แก้ได้ครับ
ยังไงก็ขออวยพรให้เจอคนที่ใช่นะครับ หาไปเรื่อยๆ บางทีโอกาสก็มาตอนที่คาดไม่ถึง บางคนไปฝึกงานที่เดียวกัน ไปร้องเกะเจอเพื่อนของเพื่อน ไปงานเลี้ยงบริษัท เป็นเพื่อนร่วมกิลด์ในเกมออนไลน์ ฯลฯ แค่เปิดใจ ไม่ต้องตั้งธงแต่แรกก็พอครับ
ขอบคุณ คุณ Holy มากๆเลยค่ะ
คุณพิมพ์เหมือนเข้าใจทุกสิ่งที่เราเป็น รู้ทุกสถานการณ์ที่เราเจอเลย
เหมือนรู้ทุกอย่างแล้ว เป็นอย่างที่คุณว่ามาหมดเลยค่ะ
ในขณะที่เรารักตัวตนของเค้ามากพอที่จะไม่สนใจข้อด้อยที่เค้ามองตัวเอง
แต่เค้ารู้สึกว่าเราไม่ใช่ เค้าก็ไม่รักเราพอที่จะปรับตัวเข้าหาเราเลย
พอเจอเหตุการณ์โดนปฎิเสธความรักบ่อยๆ กับหลายคนที่ต้องศึกษาดูใจ บางครั้งเราก็ไม่ไหวที่ต้องเสียใจซ้ำๆเดิมๆ แต่แค่ไม่ใช่คนเดิม แต่เป็นหนุ่ม Geek ทั้งหมดเลยที่ผ่านมา
พอคุณ Holy บอก เราถึงเริ่มตระหนักว่า มันคงเป็นที่คาแรคเตอร์ของเราเอง
ที่ไม่เป็นที่ถูกเลือกของเค้า พยายามแค่ไหน เข้าใจเค้าแค่ไหน ถ้าไม่รักเค้าก็ไม่สนใจ สงสัยเราคงไม่เหมาะจริงๆ
ตามลักษณะมนุษย์ Geek ที่คุณบอกเรา
เราเข้าใจดีแจ่มแจ้งเลยร่ะ รู้ทั้งหมดที่คุณบอก ทำทุกอย่างตามที่คุณบอกเลย
แต่ยังโดนปฎิเสธทั้งหมดเหมือนกัน
ถ้าสักวันฟ้าเปิดใจ หวังว่าสักวันคงส่งคนที่ใช่มาให้เราพบนะคะ
ตอนนี้ยังรักษาความรู้สึกตัวเองอยู่ ถ้าวันไหนพร้อมจะเริ่มต้นใหม่
สักวันจะขอลงข้อมูล Contact ไว้ในนี้ เผื่อสักวันใครผ่านมาเห็นกระทู้นี้จะติดต่อมาทำความรู้จักกันนะคะ
เราจะไม่เริ่มคุยกับใครในขณะที่ยังรู้สึกแย่อยู่ มันไม่แฟร์ที่ความรู้สึกของเราที่ยังไม่มั่นคง แล้วให้คนอื่นมาเกี่ยวข้อง
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้คำแนะนำนะคะ
ขอบคุณที่อวยพรให้ค่ะ
ยินดีครับ :)
ผมเชื่อว่าคนแถวนี้หลายๆ คนสนใจอยากได้ Contact อยู่นะครับ ถ้าเคลียร์ความรู้สึกได้แล้วจะแวะมาทิ้งไว้ก็ดี ถึงสุดท้ายได้คุยกันแล้วไม่ใช่ก็ยังได้เพื่อนเพิ่มครับ
ยินดีด้วยครับที่เข้าใจตัวเอง
อยากจะแนะนำสักนิดหนึ่งในฐานะคนที่อยู่ในข่าย Introvert คนหนึ่งว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรานิยามหรือว่าตั้งสเป็คเอาไว้ มันจะถูกมองข้ามไปเมื่อเราเจอคนที่ใช่และคนที่รักเราจริงๆ ครับ อย่างเช่นเรื่องการใช้เวลาร่วมกัน ถ้าหากเรารักใครมากพอ เราจะสามารถหาเวลาให้กับเขาได้เสมอ ผมเองเคยอยู่ในสถานะแอบรักคนอื่นและถูกคนอื่นรัก เลยเข้าใจในเรื่อง "คนที่ใช่" พอสมควร ซึ่งพอผ่านประสบการณ์ตรงนี้ก็เลยทำให้เข้าใจได้ว่า เรื่องความรัก ถ้าเมื่อไหร่ที่มันใช่แล้ว เราจะรู้สึกเลยว่ามันไม่ต้องพยายามหรือต้องฝืนอะไรเลย ทุกอย่างจะดูเป็นธรรมชาติ ตรงนี้เป็นเพียงประสบการณ์ส่วนตัว ที่อยากจะแชร์ ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ไปทั้งหมด ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจ และขอให้เจอคนที่ใช่ในเวลาอันใกล้นี้นะครับ
มาถูกที่แล้วล่ะครับ เหลือแค่ทิ้งช่องทางไว้ให้หนุ่มๆ เขาได้ศึกษาว่าคุณเป็นคนยังไง มีแนวโน้มเป็นอย่างที่เขาต้องการหรือเปล่า แล้วก็ทิ้งช่องทาง contact เอาไว้ครับ เดี๋ยวก็น่าจะมีคนทักไปบ้างแหละ
SPICYDOG's Blog
ว่าง ๆ ก็มาอัพเดตความคืบหน้าเป็นระยะ ๆ นะครับ :)
ปิดตาจิ้มเอาชื่อใน thread นี้เลยครับ #ล้อเ่ล่น. อยากได้ลูกเสือต้องเข้าถ้ำเสือครับ ถ้ำเสือก็คือร้านกาแฟที่ให้นั่งได้ยาวๆมีไวไฟแรงๆฟรีๆ, blog IT ดังๆเวลาโพสก็ใส่ลายเซนต์เฟสบุค, IG ซักหน่อย, หรือจะงานพวก hackaton ก็ได้ครับ.
หลังจากผ่านมา 8 วันนับจากที่ผม comment ไป 1 ครั้ง มาอ่านดูอีกที จึงรู้ว่าผู้ถามจริงจังมาก และยังเปิดใจรับคำแนะนำของผู้อื่นดีมาก... ผิดจากที่ผมคาดว่ามา "ดัก" เฉยๆ เมื่อ 8 วันที่แล้ว ก็ต้องขออภัยคุณ RainAki ไว้ตรงนี้ด้วย ที่ละเลยความตั้งใจจริงคุณไปหน่อยเมื่อ 8 วันที่แล้วครับ
ผมไม่แก้ไขความเห็นที่ผมผิดพลาดไปแล้วนะครับ แต่วันนี้ผมขอไถ่โทษด้วยคำแนะนำแบบตั้งใจจริงบ้างแล้วกันนะครับ
ผมเชื่อว่า ปัญหาของคุณคือ ความเข้าใจในตนเองและผู้อื่นครับ มาจากความหยาบในการพินิจพิเคราะห์ในการแบ่งแยกผู้คน ซึ่งคุณแบ่งแยกเหลือแค่คนเป็น Geek/Nerd และ "คนธรรมดา" เพียง 2 ข้าง จึงทำให้ยากมากในการมองขาดในเรื่อง "ความเข้ากันได้" ตลอดจน "ช่องทางและวิธีการในการเข้าหา"
ผมขอแนะนำให้คุณลองปรับวิธีคิดในการแยกแยะลักษณะคน แล้วจัดกลุ่มใหม่ ปรับวิธีคิด/มุมมองใหม่ ด้วยศาสตร์อื่นๆ ดู เช่น Enneagram เป็นต้น
https://www.gotoknow.org/posts/381895
อาจจะทำให้คุณมองเห็นตัวเองชัดขึ้น จัดตัวเองอยู่ในคนลักษณะไหน เข้าใจตนเองมากขึ้น แล้วมองออกง่ายขึ้นว่า ตัวเองจะเข้ากันได้กับคนลักษณะเช่นใด กลุ่มใด ตลอดจนมีข้อสังเกตุเพิ่มขึ้นเยอะกว่าเดิม ว่าคนลักษณะนั้น เราสังเกตุอะไรได้บ้าง ว่าใช่หรือไม่ใช่ มากกว่าที่จะสังเกตุเพียงแค่ Extraversion และ Introversion ครับ
และเมื่อคุณมีจุดสังเกตุในการพิจารณาผู้คนได้มากขึ้น ก็จะละเอียดขึ้น แยกแยะได้ชัดเจนขึ้น ตลอดจนมีความเข้าในคนลักษณะนั้นมากขึ้น ก็จะรู้ถึงวิธีเข้าหาเป้าหมายได้อย่างมีกลยุทธ์ได้เองครับ
ด้วยความปราถนาดีครับ
มาลงชื่อในว่าที่กระทู้ในตำนาน (ผมมีลูกมีเมียแล้วครับ มาตามลุ้นให้กำลังใจเฉย ๆ)
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
+1
มีเมียมีลูก...มากองรวมกันตรงนี้
อยู่แต่หน้าคอม ไม่ทำเว็บก็เขียนนิยาย เรียกได้ว่ามีเวลาให้คนอื่นน้อยมาก แม้แต่กระทั่งพ่อแม่
เป็นหนักถึงกระทั่งผู้หญิงบอกเลิก
แบบนี้ ผมจะเป็นประเภทไหนดีละหนอ ระหว่าง Nerd กับ geek
กระทู้นี้ ทำให้ผมเกิดคำถามกับตัวเอง // ยิ้ม
น่าจะมีคนได้คู่ในนี้แล้วแหละครับ
spam มาแล้วครับ รู้สึกว่าจะไปหลาย post เลย
คอมเม้นเยอะ เหมือนแฟนบอย Apple กับ Samsung ตีกัน ??????
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
อยากทำความรู้จักครับ ผมเองก็อายุ 22
ทัก Facebook ส่วนตัวไปหาเเล้วนะครับ ^^
ห๊ะ เค้าทิ้ง contact ไว้ตอนไหนหว่า?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ต้องเพิ่ม stalker skill ครับ
ถ้าเจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจให้ไว้ แต่ไปหาเองแล้วแอดไปเองเสร็จสรรพ ไม่รู้เข้าตัวจะรู้สึกยังไงอ่ะนะครับ
อาจชอบ หรือไม่ชอบก็ได้
เฮ้ย geek จริง ๆ ด้วย เค้าอาจจะชอบก็ได้นะ 555 ผมยังนึกไม่ออกเลยว่ามีอะไรให้ตามรอยบ้าง
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
มีครับถ้าหาดู Username และอายุเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ
แต่ผมมองว่าถ้าเจ้าตัวเค้าอยากรับแอด เค้าคงจะทิ้ง Contact ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว การไปตามขุดคุ้ยหาแล้วแอดไป อย่างดีก็มองว่ามีความพยายามอยากรู้จักจริงๆ แต่อย่างร้ายคือมันดู Creepy มาก
ปล. สกิลค้นข้อมูลผมว่าไม่ Geek นะ แค่บางทีต้องอาศัยจินตนาการช่วย
รู้สึกผิดเลยครับ ....
จากแนว Romantic Comedy กลายเป็นแนว Thriller ซะงั้น
เมื่อก่อนก็เคยชอบทำอะไรแบบนั้นนะครับ รู้สึกเท่ดี ตอนหลังมาคิดนี่สยองมากแล้วก็เลิกแบบเลิกขาดไปเลย
จริงๆ ไม่อยากให้บอกวิธีเลยครับ แม้มันจะเบสิคมากก็เถอะ
ด้วยเหตุที่ว่าสกิลนี้มันเทาเข้มๆ แค่ตามเช็คข้อมูลส่วนบุคคล ที่แม้ว่าจะเป็นข้อมูลที่เปิดเผยไว้ในที่สาธารณะ แต่ยังไงๆ มันก็คือจุดเริ่มต้นของการคุกคามแบบนึงอยู่ดีครับ
Good post.
https://sggreek.com/house-of-the-dragon-release-date-trailer-vs-the-game-of-thrones-prequel-watch-online-hbo/
เพราะมีโลกส่วนตัวสูงมากนี่แหละ มันเลยหายาก เข้าถึงยาก คาดหวังก็ยากอีก mobdro and tubemate
keek หาได้ตามร้านบอร์ดเกมส์ ร้านหนังสือต่างประเทศตามห้างใหญ่ ๆ
หรือบางทีก็ไปกระจุกกันอยู่ตาม co-workspace ตามร้านกาแฟดัง ๆ ก็มีบ้าง
หรือ อาจจะมีกี้คบางคนเขียนบล็อค และ ทำยูทู้ป บางรายมีสอนฟรีผ่านซูม ก็ไปลงทะเบียนเรียนกะเขา
แล้วก็ขอเมล์ขอเฟซไว้เพื่อขอคำปรึกษา
คนติดเกมส์ ติดโซเชียล ไม่ใช่ keek นะครับ