ความพยายามของ SpaceX ในการลดค่าใช้จ่ายในการยิงจรวดต่อครั้งนั้นใช้วิธีการหลักคือนำชิ้นส่วนกลับมาใช้ใหม่ ที่เราเห็นชัดๆ ก็เป็นการนำจรวดขั้นที่ 1 (stage 1) บินกลับมาลงจอดบนโลก แต่อีกชิ้นส่วนที่ Elon Musk เคยบอกว่ามีราคาสูงถึง 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5% ของราคาจรวด ก็คือ fairing หรือส่วนหัวของจรวดที่ประกบกันและให้ payload อยู่ด้านใน โดยปกติจะปล่อยทิ้งไปเลย
SpaceX พยายามนำ fairing กลับมาใช้ใหม่มาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ด้วยการใช้เรือชื่อ Mr. Steven ติดตั้งตาข่ายขนาดใหญ่อยู่ด้านบน เพื่อไปรอรับ fairing ที่ตกลงมาก่อนจะลงน้ำ อย่างไรก็ตามความพยายามเก็บ fairing หลายครั้งยังคงล้มเหลว
ล่าสุด SpaceX ได้ปล่อยภาพเรือดังกล่าวพร้อมตาข่ายใหม่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก เมื่อกางเต็มที่มีขนาดถึง 3700 ตารางเมตร เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะจับ fairing ให้ได้
นอกจากนี้ยังมีคนพบว่า SpaceX ได้ทดสอบแล่นเรือ Mr. Steven ที่ความเร็วสูงถึง 20 น็อต หรือ 37 กม./ชม. รวมถึงทดสอบเลี้ยวอย่างรุนแรง ซึ่งเรือนี้มีความยาว 62 เมตร และมีน้ำหนักตัวเกือบ 82 ตัน จึงคาดการณ์ว่าการทดสอบดังกล่าวทำเพื่อซ้อมการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วหาก fairing ที่กำลังตกลงมาเกิดเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน
SpaceX จะใช้เรือ Mr. Steven ที่อัพเกรดใหม่นี้ในการจับ fairing จากจรวด Falcon 9 ในภารกิจปล่อยดาวเทียม Iridium NEXT 7 วันที่ 25 กรกฏาคมนี้
ที่มา – Interesting Engineering
ภาพโดย SpaceX
A post shared by SpaceX (@spacex) on Jul 13, 2018 at 9:03am PDT
Comments
ลุยไปเลยสตีเว่ฟ!!!
สงสัยว่า ... มันมีโอกาสแค่ไหน ที่จะไม่ตกลงในตาข่าย แต่ตกลงใส่เรือส่วนที่ไม่มีตาข่ายรองรับ ????
มันใหญ่ขึ้นมากเลยนะ
แรงที่ตกกระทำกับเรือที่กำลังเคลื่อนที่มันจะเป็นยังไง เรือมันจะโคลงไหม
ตาข่ายใหญ่ขึ้น Balance จะได้ไหมหนอ? เขาคงทดลองมาแล้วล่ะนะ
แต่ในความคิดผมน่าจะทำเป็นแนว Catamaran หรือ Trimalan แล้วมีตาข่ายตรงกลางแบบในเรื่อง Water World นะ ได้ทั้งความเร็วทั้งการทรงตัวทั้งประโยชน์ใช้สอยจากตาข่าย
คนขับเรือคงเสียวน่าดู
จริงๆ น่าจะควรต้องเป็นโดรน (-.-')
เรือโครงเครงแน่ มันควรจะมีคานทุ่นแบบพับได้มารับน้ำหนักเพิ่ม เหมือนเรือแข่งบนทะเลที่มีทุ่นประคองข้างเรือนะ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
กลายเป็นต้องไปพัฒนาเทคโนโลยีของเรืออีก / Space Boat แตกเป็นบริษัทใหม่ได้อีกแบรนด์
my blog
ใช่ครับ ตามข่าวบอกว่ามีนักวิจารณ์บางส่วนก็บอกว่ารวมๆ แล้วอาจกลายเป็นเพิ่มค่าใช้จ่ายแทนที่จะลด (แต่ถ้าทำสำเร็จคงลดได้ในระยะยาว) รวมถึงเพิ่มความซับซ้อนของภารกิจเข้าไปอีกในส่วนของเรือนี้
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
อยากรู้ว่าตาข่ายใช้วัสดุอะไรที่จะปลอดภัยว่ามันไม่ขาด...
เรือไม่น่ามีปัญหาอะไร ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ตัว Faring เองมีร่มชูชีพอยู่แล้ว ถ้ากางปกติก็ร่อนลงมาก็ไม่แรงมาก
น่าติดทุ่นลอยแบบอัดลมเข้ากะ Fairing ด้วย
แล้วตามไปเก็บตอนมันลอยอยู่บนทะเล
น่าจะง่ายกว่า กางตาข่าย รับให้ได้ก่อนมันตกลงทะเล
หรือมันต้องไม่โดนน้ำทะเลเลย ไม่งั้นจะสนิมกินแล้วเอากลับมาใช้ใหม่ไม่ได้?
น้ำทะเลทำให้เกิดสนิมได้ง่ายมาก วัสดุบางชนิดต้องทนต่อแรงเสียดสีของชั้นบรรยากาศถ้าเกิดสนิมจะเสียโครงสร้าง ทิ้งลูกเดียว
โดนน้ำทะเลเมื่อไหร่คือใช้ไม่ได้แล้วครับ เลยต้องรอรับก่อนตก
เว้นแต่ถ้าตัวถังมีการเคลือบกันสนิม + กันน้ำทะเลด้วย หรือใช้วัสดุแทนที่เหล็กที่ไม่ขึ้นสนิมและไม่พังเมื่อโดนน้ำทะเล ก็น่าจะช่วยได้นะ อย่างน้อยก็นำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก 2-3 ครั้ง
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ต้องรับให้ได้แบบนี้แลดูยากมากเลย ถ้าออกแบบให้ทนทาน เก็บกู้ได้ง่ายจะสะดวกกว่าหรือเปล่านะ
หวาดเสียวมาก
กำลังสงสัยว่าดู Before แล้ว ถ้ารับวืดหล่นมากระแทกสะพานเรือนี่เรื่องใหญ่เลยนะ (กลายเป็นดีแล้วที่วืดลงทะเลไปเลย)
สรุปผ่านไปอีกสองปี รับไม่ได้สักที เลยออกแบบ Fairing รุ่นใหม่มีเครื่องยนต์ Mini Merlin บินไปจอดเองได้
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.