Tags:
Node Thumbnail

ไมโครซอฟท์ได้ออกมายอมรับว่าบริษัทได้สร้างเทคโนโลยีที่เรียกว่า Computer Online Forensic Evidence Extractor (COFEE) ที่เป็นซอฟต์แวร์กว่า 150 คำสั่งเพื่อใช้ในการเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยของวินโดวส์เอง โดยซอฟต์แวร์ในชุดนี้จะสามารถถอดรหัสผ่านออกมาเป็นตัวอักษรปรกติ, ตรวจสอบประวัติการใช้อินเทอร์เน็ต, หรือค้นหาหลักฐานอื่นๆ

ยังไม่มีรายละเอียดในเชิงเทคนิคของซอฟต์แวร์ชุดนี้แต่อย่างใด แต่ซอฟต์แวร์ชุดนี้ได้รับการเผยแพร่ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว และคาดว่าในตอนนี้จะมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 2,000 คนจาก 15 ประเทศที่สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ชุดนี้ได้ โดยไมโครซอฟท์แจกจ่ายซอฟต์แวร์ชุดนี้โดยไม่คิดมูลค่าแต่อย่างใด

น่าสนใจว่าการออกเทคโนโลยีเช่นนี้เป็นธรรมต่อผู้บริโภคที่จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าของไมโครซอฟท์หรือไม่ แต่ไมโครซอฟท์ก็มีนโยบายเช่นนี้มาหลายครั้งเช่นวินโดวส์วิสต้าที่ไม่สามารถใช้งานกับหูฟังแบบ Bluetooth ได้เพราะไม่รองรับ DRM ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถใช้งานบางส่วนได้ทั้งที่ไม่มีประเด็นด้านเทคนิคใดๆ และครั้งนี้คงเป็นอีกครั้งที่ลูกค้าอาจจะต้องยอมรับนโยบายของไมโครซอฟท์

ที่มา - ArsTechnica, The Seattle Times

UPDATE: ล่าสุดทางไมโครซอฟท์ได้ติดต่อทาง The Seattle Times เพื่ออธิบายว่า COFEE นั้นเป็นเพียงการรวมเอาเครื่องมือการเก็บหลักฐานเข้าไว้ด้วยกันและเพิ่มความสะดวกในการทำงานแบบอัตโนมัติ โดยไม่ได้ใช้ช่องทางพิเศษที่ไม่มีใครรู้แต่อย่างใด โดยความตั้งใจของเครื่องมือชุดนี้คือการลดเวลาการเก็บหลักฐานจากเดิมที่ต้องใช้มากกว่าสี่ชั่วโมงให้ลดลง

ไมโครซอฟท์ยืนยันว่าเครื่องมือชุดนี้ออกมาด้วยความตั้งใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจในการใช้งานเท่านั้น

ที่มา - Tech Track

Get latest news from Blognone

Comments

By: banky118
iPhone
on 30 April 2008 - 11:27 #50133
banky118's picture

ถ้าโปรแกรมนี้เกิด "หลุด" ออกมาสู่โลกอินเตอร์เนต คงเป็นปัญหาด้าน Security ครั้งใหญ่ที่สุดในโลกเลยล่ะมั้งเนี่ย

อารมณ์ครั้งนี้คงเหมือนกับปืน ถ้าอยู่กับคนดีก็ดีไป ถ้าอยู่กับคนร้ายก็... ไม่ต้องคิดเลย

By: mp3wizard
iPhone
on 30 April 2008 - 13:09 #50156 Reply to:50133

เชื่อเถอะ ถ้าผู้ก่อการร้ายต้องการจะใช้งานมัน... คงหาได้ไม่ยากหรอก เงินซื้อได้ทุกอย่าง...

ว่าแต่.. OSX จะมีเหมือนกันไหมน้อ...

By: tomazzu
AndroidUbuntu
on 30 April 2008 - 11:39 #50136

จะมีหลุดไหมน่อออ ท่าทางมีแน่ๆ

http://tomazzu.exteen.com

By: onimaru
SymbianWindows
on 30 April 2008 - 11:43 #50138

ถ้ามีก็คงได้ฟ้องกันเละเทะล่ะครับ เค้าคงมีอะไรที่ยืนยันตัวตน หรืออะไรที่น่าจะบอกได้ว่าซอฟแวร์ชุดนี้อยู่กับใครประเทศไหนอะไรงี้มั้ง
ลองคิดกันดูเล่น ๆ ถ้าซอฟแวร์ชุดที่อยู่ในความรับผิดชอบของ FBI รึว่า
กลาโหมสหรัฐหลุดออกมาสู้อินเตอเน็ตซิ สร้างเป็นหนังได้เลยนะนั่น

By: mp3wizard
iPhone
on 30 April 2008 - 13:08 #50155 Reply to:50138

ผมว่า หน่วยข่าวกรอง คงมี s/w ชุดนี้ไว้อยู่แล้ว.. สามารถอ้างได้ว่า...เพื่อความมั่นคงของชาติ

By: revolution
AndroidUbuntu
on 30 April 2008 - 12:07 #50144

อย่างนี่เข้าข่ายละเมิลหรือเปล่าเนี่ย ระบบปฏิบัติการเป็นของเขา แต่ข้อมูลเป็นของเรานะ

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 30 April 2008 - 12:45 #50148
put4558350's picture

ทำ backdoor แบบนี้ ละเมิดแน่นอนครับ
แต่ที่หนักกว่านั้น เมื่อข่าวรั้วออกไปแล้ว ทั้ vista และ 7 น่าจะโดนหางเลข(ยอดขายตก)ไปด้วย

^^


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: audy
AndroidUbuntu
on 30 April 2008 - 13:34 #50157
audy's picture

Open source ดีก็ตรงนี้แหละ

By: ipats
ContributorNOOBIn Love
on 30 April 2008 - 14:02 #50163

พวกตัวย่อทั้งหลาย.. NSA CIA FBI CSI เอ๊ะ.. DSI ด้วยมั๊ยนะ :p

---------- iPAtS


iPAtS

By: Marque on 30 April 2008 - 14:27 #50168

"Microsoft device helps police pluck evidence from cyberscene of crime"

อันที่จริง Software แบบนี้ก็มีประโยชน์นะคับ ตามหัวข้อข่าวของ Seattle
ในกรณีที่ใช้ตรวจสอบเครื่องที่ใช้ Windows และมีส่วนเกี่ยวข้่องกับอาชญากรรม

คิดในแง่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องมานั่ง Brute Force Password หรือต้องไปว่าจ้าง Hacker มาแงะข้อมูลจากเครื่องคอมที่ยึดมาจากอาชญากร

ผมว่าคงไม่ดีแน่

ส่วนในกรณี "น่าสนใจว่าการออกเทคโนโลยีเช่นนี้ เป็นธรรมต่อผู้บริโภคที่จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าของไมโครซอฟท์หรือไม่"

ถ้าจะกล่าวกันตรงๆ ผมว่าทำให้ผู้บริโภคเริ่มขาดความมั่นใจใน OS เหมือนกัน คิดดูสิ ไหน M$ บอกว่า OS ของตัวเองมีความปลอดภัยสูง แต่กลับออก Tools มาเจาะของตัวเองซะงั้น แล้วจะให้เชื่อได้อย่างไรละคับ ว่าข้อมูลสำคัญในคอมเราเนี่ย จะไม่โดน Tools ตัวนั้นล้วงเอาเข้าซักวัน (กรณีมีข้อมูลสำคัญนะคับ อิอิ ^^)

แต่ผมกลับมองอีกมุมนึงว่า

"ความยินยอมเพื่อประโยชน์แห่งมหาชน มีค่าสูงยิ่งกว่าการเสียประโยชน์แห่งเอกชน"

แต่ก็ยังเป็นดาบสองคมอยู่ดี หากใช้ซอฟท์แวร์ไม่ถูกวิธี ^^

ปล.รู้สึกว่าข่าวยังขาดรายละเอียดไปนิดนึงนะคับ ในส่วนเหตุผลของการออกแบบซอฟท์แวร์ตัวนี้ขึ้นมา

กรณีถ้าคนที่ไม่ตามไปอ่านแหล่งที่มา อาจจะคิดไปได้ว่า M$ ออก Tools มาเจาะระบบตัวเองเพื่ออะไรน่ะคับ

อาจจะกลายเป็น Blognone ออกข่าวคลุมเครือเพื่อ Discredit M$ ไป

ถ้าเพิ่มเติมรายละเีอียดอีกนิดนึงจะดีมากคับ

....ปล.2 ผมไม่ใช่สาวกนะ ^^

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 30 April 2008 - 14:44 #50170 Reply to:50168
lew's picture

ผมจงใจเขียนข่าวนี้โดยเน้นเรื่องที่ไมโครซอฟท์ "อาจจะ" ละเมิดสิทธิ์ของลูกค้าตัวเองได้ผ่านการออกซอฟต์แวร์นี้ครับ ในกรณีนี้ผมอาจจะขาดข้อมูลอีกด้านไปก็จะนำไปปรับปรุงครับ

กรณีเช่นนี้มุมมองผมแล้ว ไม่ใช่หน้าที่ของไมโครซอฟท์ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่แม้แต่น้อย เว้นแต่จะมีกฏหมายบังคับไว้ แม้ว่าจะทำไปด้วยเจตนาที่ดีก็ตาม

หน้าที่ของไมโครซอฟท์นั้นคือทำให้ระบบปฏิบัติการของตนนั้นหนาแน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้

ส่วนเรื่องเจ้าหน้าที่จะลำบากในการตรวจหาหลักฐานนั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่เองครับ ไมโครซอฟท์อาจจะสนับสนุนได้บ้าง แต่ไม่ใช่ด้วยการเปิดช่องโหว่บางประการในระบบปฏิบัติการของตนเองแน่นอน

กรณีเช่นนี้หากเป็นการกระทำตามกฏหมาย ผมว่าควรมีหน่วยงานออกมาเรียกร้องให้ไมโครซอฟท์ต้องแปะคำเตือนถึงช่องโหว่ที่ไมโครซอฟท์ให้ไว้กับหน่วยงานต่างๆ อย่างชัดเจน ไม่ใช่ปล่อยไปแล้วเป็นปีเพิ่งมาพูดถึงเช่นนี้

LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: tvchampion on 30 April 2008 - 16:13 #50187 Reply to:50170

เห็นด้วย กับ lew ไม่ใช่หน้าที่ของ MS เลย
และผมก็คิดว่าไม่เป็นธรรมกับผู้บริโึภคด้วย
ถ้าMSแฟร์จริงๆต้องกล้าเขียนคำเตือนตัวเป้งๆ ข้างกล่องว่า
"OS นี้ มีช่องโหว่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐตรวจสอบได้ เราไม่รับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดจากช่องโหว่นี้"

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 30 April 2008 - 16:40 #50199 Reply to:50168
put4558350's picture

ผมว่ามันละเมิดความเป็นส่วนตัวชัดเจนนะ

โดยเฉพาะผมติดใจชื่อมันมากเลย Computer "Online" Forensic Evidence "Extractor" แปลว่าดึงข้อมูลจากเครื่องที่ online ใด้ตามใจชอบ ?

แล้วไอ้ “ความยินยอมเพื่อประโยชน์แห่งมหาชน มีค่าสูงยิ่งกว่าการเสียประโยชน์แห่งเอกชน” มันอาจจะเป็น “ความจำยอมต้องเปลี่ยนไปไช้ vista เพราะว่าเครื่องมือ hack ระบบหลุดไปสู้สาธารณชน (และ MS ไม่ยอม update อุดให้ xp)”

^^


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: Soul_Master
Windows Phone
on 30 April 2008 - 17:06 #50211 Reply to:50199

No Description

COFEE (Computer Online Forensic Evidence Extractor), designed for use during police raids, is a USB thumb drive that captures evidence on a computer that could be lost when the computer is shut off, according to Kornblum.
http://www.news.com/8301-10784_3-9930664-7.html

มันก็แค่ software ตัวหนึ่งทำงานบนเครื่องที่ต้องการเก็บประวัติก็แค่นั้นครับ อย่าคิดมาก โปรแกรมแบบนี้ใน internet มีเยอะจะตายไป

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 30 April 2008 - 17:27 #50213 Reply to:50211
put4558350's picture

ผมว่าเป็นข่าวปลอม ทำออกมากลบข่าวมากกว่าครับ
ชื่อมันบอกว่า online นะครับ

ดึง system password ออกมาใด้เนี่ยไม่ปรกติแล้ว

แถมภาพก็มาจากทาง microsoft เองอีกต่างหาก

^^


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: Soul_Master
Windows Phone
on 30 April 2008 - 17:58 #50216 Reply to:50213

The Computer Online Forensic Evidence Extractor, or COFEE for short, is a USB thumb drive that contains software capable of executing approximately 150 separate commands. Once plugged in, COFEE can be ordered to decrypt system passwords, display a history of internet activity, and search the system for evidence.

http://arstechnica.com/news.ars/post/20080429-new-microsoft-law-enforcement-tool-bypasses-pc-security.html

ก็ที่มาที่คนเขียนอ้างถึงก็ยังบอกอยู่ว่าเป็น USB thumb drive และถ้าให้ผมเดา คำว่า Online ที่เค้าใช้ในชื่อนี้คงหมายความว่า เครื่องบันทึกหลักฐานสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้อง internet ครับ เพราะความสามารถของเครื่องมือจะเน้นไปที่การบันทึกพฤติกรรมของผู้ใช้ระหว่างใช้งาน internet ครับ เช่น ประวัติการเข้าเว็บซึ่งดูง่ายๆจาก history, โปรแกรมที่เคยใช้งานก็ดูได้จาก pagefile หรือ log ของ os และใน registry

ถ้าจะให้หาโปรแกรมมาเปรียบเทียบก็คงเหมือนกันของเจ้านี้มั้ง
http://www.forensics-intl.com/suite1.html

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 30 April 2008 - 18:24 #50222 Reply to:50216
put4558350's picture

อืม ... เป็น bootable usb ที่แกะ password เปิดเครื่อง และกอป internet log ไว้สินะ

เข้าใจหละสบายใจขึ้นเยอะเลย

แต่ก็น่าโมโหอยู่ดี ที่เห็นช่องว่างแล้วไม่ยอมอุดหรือไม่ก็จงใจเปิดช่องว่างทิ้งเอาไว้

^^


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 30 April 2008 - 18:54 #50225 Reply to:50222
lew's picture

ผมว่าต้องทำ memory jammer ติดกันเองล่ะครับ เอาแบบกด reboot ปั๊บ ก็ล้าง memory กันทันที อาจจะใช้ไฟฟ้าจากตัวเก็บประจุตัวเล็กๆ ใช้เวลาสักครึ่งวินาทีน่าจะพอแล้ว

อันนี้อาจจะต้องไปบอก asustek ให้ใส่ฟีเจอร์ในไปในเมนบอร์ด

LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: rocketbomb on 30 April 2008 - 16:54 #50204 Reply to:50168

“ความยินยอมเพื่อประโยชน์แห่งมหาชน มีค่าสูงยิ่งกว่าการเสียประโยชน์แห่งเอกชน” <<< ประโยคที่น่ารังเกียจนี้ไงครับ ที่ อเมริกัน อ้างเพื่อขับไล่อินเดียนแดง จนเค้าไม่มีที่จะอยู่

ลองคิดว่าถ้า homeless ยึดบ้านใครต่อใครด้วยข้ออ้างนั้นจะรู้สึกยังไง

ps ประโยคหรูๆ ที่น่ารังเกียจ

By: cwt
AndroidRed Hat
on 30 April 2008 - 20:55 #50241 Reply to:50204

ถ้าใครเคยดู Star Trek จะเคยได้ยิน Spock พูดประโยคนี้ก่อนที่จะยอมตายคนเดียวเพื่อให้ส่วนรวมอยู่รอด ผมเลยไม่รู้สึกว่ามันน่ารังเกียจนะ ขึ้นอยู่กับว่าใครพูด

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 30 April 2008 - 21:25 #50245 Reply to:50241
put4558350's picture

ปัญหาคือมันไม่ไช่การยอมเสียสละของ 1 คน แล้วหลายคนใด้ประโยชน์

แต่เป็นการแย่งความเป็นส่วนตัวจากทุกคนโดยไม่รู้ตัว และให้สิทธ์กับคนกลุ่มเล็กๆที่ใด้ usb ที่ชื่อ COFEE นี้ไป - ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรีอคนไม่ดี -

วันใหน image ของ usb นี้หลุดลงไปในระบบ p2p ใด้มีคนปวดหัวหนักแน่

^^


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: ABZee on 2 May 2008 - 05:32 #50382 Reply to:50241

ผมว่าประโยคนี้ให้คนที่เสียสละพูดมันจะดูดีกว่าให้ใครก็ไม่รู้มาพูดเพื่อให้คนอื่นเสียสละครับ

PoomK

By: onimaru
SymbianWindows
on 30 April 2008 - 16:25 #50190

ของ os ตัวอื่น ๆ ก็คงมีเหมือนกันแหละ แค่ยังไม่มีใครมาพูดอะไร และไม่ได้ทำขึ้นมาโดยเจ้าของซอฟแวร์เองอย่างวินโดว์

ลองคิดดูว่าถ้าพระเอกยึดโน๊ตบุ๊คที่เก็บข้อมูลและแผนการของผู้ก่อการร้ายได้แล้ว
แต่ก็จนปัญญาเพราะ os ที่คนร้ายใช้นั้นมีระบบรักษาความปลอดภัยสุดยอด
อีกทั้งฮาร์ดแวร์ก็มีการเข้ารหัสไว้ซะอีก(เดี๋ยวนี้มันเหลืออะไรที่ยังไม่ต้องยืนยันตัวตน หรือถอดรหัสมั่งเนี่ย)แล้วก็ ๆ ๆ ปึ๊ด ๆ ๆ บึ๊ม ตายเป็นล้าน ๆ เลย
แย่จัง
์ ใครจะรู้บางทีความมืดที่เรากลัวนักหนา อาจทำให้เรารอดพ้นจากศัตรูก็เป็นได้
(เกี่ยวมั้ยนะ)

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 30 April 2008 - 16:43 #50201
put4558350's picture

ไอ้ UPDATE เนี่ยน่ากลัวมากเลย

เหมือนกับบอกว่าใครใด้คอมเราไป hack 4 ช.ม. ก็อาจจะใด้ข้อมูลแล้ว

^^


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: lew
FounderJusci&#039;s WriterMEconomicsAndroid
on 30 April 2008 - 16:49 #50203 Reply to:50201
lew's picture

ผมเข้าใจว่าเค้าไม่นับเครื่องที่ทำ full disk encryption มังครับ

LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: serene
Contributor
on 30 April 2008 - 20:45 #50237 Reply to:50203

ที่ทำงานผมกำหนด Policies ให้ Notebook ของบริษัทรุ่นใหม่ๆ ทุกเครื่องต้องใช้ Full Disk Encryption ครับ ผมก็ใช้อยู่ด้วยครับ

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 30 April 2008 - 21:01 #50243 Reply to:50203
put4558350's picture

full disk encryption ถ้า hack จนใด้ system password มาก็จะสามารถ login ใด้เหมือนเป็นเจ้าของเครื่องนะครับ

ลองคิดว่าใส่ usb ลงไป เปิดเครื่องแล้วใด้ password มา

จากนั้นปิดแล้วเปิดเครื่องใหม่ เจอช่องให้ใส่ password (จากข้างบน)

^^


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: serene
Contributor
on 30 April 2008 - 21:56 #50249 Reply to:50243

จะ hack ยังไงหรือครับ ถ้าก่อนที่จะ access ข้อมูลใดๆ ใน harddisk จะต้องกรอก password ให้ถูกต้องก่อนครับ ?

ลืมบอกไปครับ ผมใช้ hardware FDE ครับ ไม่ใช่ software FDE ครับ

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 1 May 2008 - 04:50 #50288 Reply to:50249
put4558350's picture

นึกว่า vista BitLocker ^^


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: ampz on 30 April 2008 - 17:19 #50214

อันนี้ไม่ทราบจริงเท็จอย่างไรนะครับ แต่ถ้าจริงก็ไม่สมควรปล่อยให้มันโหว่ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว

UPDATE: ล่าสุดทางไมโครซอฟท์ได้ติดต่อทาง The Seattle Times เพื่ออธิบายว่า COFEE นั้นเป็นเพียงการรวมเอาเครื่องมือการเก็บหลักฐานเข้าไว้ด้วยกัน และเพิ่มความสะดวกในการทำงานแบบอัตโนมัติ โดยไม่ได้ใช้ช่องทางพิเศษที่ไม่มีใครรู้แต่อย่างใด โดยความตั้งใจของเครื่องมือชุดนี้คือการลดเวลาการเก็บหลักฐาน จากเดิมที่ต้องใช้มากกว่าสี่ชั่วโมงให้ลดลง ไมโครซอฟท์ยืนยันว่าเครื่องมือชุดนี้ออกมา ด้วยความตั้งใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจในการใช้งานเท่านั้น

อีกอย่าง ไม่ชอบกับความคิดที่ว่าเจ้าหน้าที่มีแต่คนดี แล้วคนที่ถูกใช้เครื่องมือนี้จะต้องเป็นคนเลวเท่านั้นครับ คำพูดตรงนี้มันสื่อมาว่าอย่างนั้นน่ะครับ

By: mr.k on 30 April 2008 - 18:21 #50221

ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐที่มีสิทธิ์ใช้โปรแกรมคิดไม่ซื่อล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น

By: lancaster
Contributor
on 30 April 2008 - 22:13 #50253

Online หมายถึงขณะที่เครื่องกำลังเปิดอยู่รึเปล่า (ไม่ต้องรีบูท)

By: bankkung
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 30 April 2008 - 22:19 #50254

นึกแล้วว่าต้องมาอารมณ์เดียวกับพวก hardlock software ที่ถ้าไม่เป็น usb ก็ต้องอะไรทำนองนี้ซักอย่าง เพราะขืนเป็นซอฟท์แวร์คงอิมเมจว่อนกันให้ทั่วอินเทอร์เน็ต
ปล. ที่ lew บอกว่าหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ก็ถูกครับ แต่ถ้าโดนกดดันจากรัฐหรือกฏหมายมันก็อีกเรื่องนึง(มีรัฐหรือกฏหมายที่แย่ขนาดนี้ด้วยหรือ?) ว่าแต่เหมือนเคยจำได้ว่า FBI หรืออะไรเรียกร้องให้ Microsoft ใน backdoor ใน Vista ไว้นี่ครับ ถ้าครั้งนั้น MS ไม่ยอม ครั้งนี้ก็น่าจะไม่ยอมได้เหมือนกันนี่นา