note: วันนี้ผมมาร่วมงาน NBTC Public Forum ที่รับฟังความคาดหวังของภาคประชาสังคมต่อกสทช. ผมและ mk จึงร่างจดหมายเพื่อแสดงความคาดหวังของเราในด้านการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อแสดงต่อกสทช. ในงานนี้ครับ
ถึง กสทช. ทุกท่าน
ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา บริการโทรคมนาคมมีความสำคัญต่อชีวิตประชาชนขึ้นอย่างมาก คนจำนวนมากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการเข้ามาของเทคโนโลยีโทรคมนาคม คนจำนวนมากมีชีวิตโดยต้องพึ่งพิงโทรคมนาคมเพื่อการดำรงค์ชีวิต ทั้งการอาชีพและการปฎิสัมพันธ์กับผู้อื่นในสังคมตามอัตภาพ
เป็นเรื่องน่ายินดีที่พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ได้กำหนดให้จัดตั้งสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) โดยที่ผ่านมาหน่วยงานแห่งนี้ก็ได้มีบทบาทในการเรียกร้องสิทธิผู้บริโภคในประเด็นต่างๆ เรื่อยมา
แต่ความเปลี่ยนแปลงของสังคมในช่วงหลัง โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อสิทธิของผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมของไทยเป็นวงกว้าง แม้สบท. และกสทช. จะออกมาแถลงการเตือนผู้บริโภคต่อเหตุการณ์เหล่านั้น แต่กลับไม่ได้ออกแสดงถึงเจตน์จำนงค์ที่จะยืนยันสิทธิแห่งผู้บริโภค การออกแถลงการณ์เตือนให้ผู้บริโภคต้องระวังตัวเองนั้นแม้จะช่วยลดความเสี่ยงให้กับผู้บริโภคแต่ในทางหนึ่งกลับเป็นการยอมรับให้ผู้บริโภคถูกกระทำ
ทีมงาน Blognone ขอเสนอสิทธิแห่งผู้บริโภค ที่หน่วยงานต่างๆ ทั้งกสทช. และสบท. ควรต้องยืนยันสิทธิเหล่านี้ให้กับผู้บริโภคทุกคน และเรียกร้องให้มีการสร้างกฏเกณฑ์เพื่อบังคับใช้ในการคุ้มครองสิทธิเหล่านี้ให้กับผู้บริโภคทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
- ผู้บริโภคพึงสามารถใช้งานตามปรกติสุขได้โดยไม่ต้องมีกังวล: กรณีคดีอากง SMS เป็นคดีที่สร้างความกังวลต่อผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก การเตือนให้ผู้บริโภคพกเครื่องไม่ห่างตัวไม่ใช่การใช้งานอย่างเป็นปรกติสุขโดยทั่วไป หากการใช้งานโดยทั่วไปมีความเป็นไปได้ที่การกระทำจากตัวเครื่อง กระบวนการคุ้มครองผู้บริโภคต้องให้ความคุ้มครอง และเรียกร้องต่อสิทธิการใช้งานอย่างเป็นปรกติต่อไปโดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ
- ผู้บริโภคมีสิทธิกำหนดขอบเขตการรับผิดชอบค่าใช้จ่าย: ปัญหาค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่ผู้บริโภคคาดคิด ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานอินเทอร์เน็ตจากในประเทศ หรือการใช้งานจากต่างประเทศ สร้างปัญหาและเรื่องร้องเรียนอย่างต่อเนื่องตามประวัติของสบท. และในอนาคตก็คาดว่าจะมีปัญหาในรูปแบบอื่นๆ ในแนวทางเดียวกันอีก จากความซับซ้อนของระบบการคิดค่าบริการของบริการโทรคมนาคม ผู้บริโภคควรมีสิทธิกำหนดขอบเขตการรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง เช่นหากผู้บริโภคกำหนดความรับผิดชอบไว้ที่ 15,000 บาท เป็นหนัาที่ของผู้ให้บริการ ที่จะต้องไม่ปล่อยให้มีการใช้งานเกินกว่า 15,000 บาท โดยที่ผู้บริโภคยังไม่ได้รับแจ้งและมีการยินยอมเพิ่มขอบเขตความรับผิดชอบนี้ หากผู้ให้บริการให้บริการเกินกว่าขอบเขต ต้องถือเป็นความผิดของผู้ให้บริการและผู้บริโภคไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกิน
- ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะรับรู้เงื่อนไขและข้อจำกัดอย่างชัดเจน: เงื่อนไขของการใช้งานบริการต่างๆ ทางโทรคมนาคมนั้นมักมีเงื่อนไขที่ซับซ้อนหลากหลาย หลายครั้งผู้ให้บริการเลือกที่จะนำข้อดีของบริการในเงื่อนไขหนึ่งๆ มาโฆษณาร่วมกับข้อดีในเงื่อนไขอื่นๆ ผู้บริโภคควรได้รับข้อมูลอย่างถูกต้อง และต้องมีการคุ้มครองให้ข้อความในโฆษณานั้นอยู่ภายในเงื่อนไขเดียวกัน เช่นโฆษณา "อินเทอร์เน็ตความเร็ว 7.2Mbps ไม่จำกัด" ที่จริงแล้วกลับเป็น "อินเทอร์เน็ตความเร็ว 7.2Mbps ในปริมาณ 5GB แรก และความเร็ว 512kbps ไม่จำกัด" หากการโฆษณาจำเป็นต้องรวบรัดเพื่อให้เหมาะกับพื้นที่โฆษณา ผู้บริโภคควรได้รับความคุ้มครองที่จะเห็นโฆษณาในเงื่อนไขเดียวกันเช่น "อินเทอร์เน็ต 7.2Mbps ปริมาณ 5GB" หรือ "อินเทอร์เน็ตไม่จำกัด 512kbps" โดยข้อความทั้งหมดต้องเด่นชัดในระดับเดียวกัน
- ผู้บริโภคต้องได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: บริการต่างๆ ทางด้านโทรคมนาคมนั้น เป็นผู้ให้บริการที่รับผิดชอบต่อข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ทั้งข้อมูลทั่วไปเข่น ข้อมูลที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ ตลอดจนถึงข้อมูลการสื่อสารระหว่างกัน กสทช. ต้องให้ความคุ้มครองผู้บริโภคที่จะไม่ถูกนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้งานอย่างไม่เป็นธรรม เช่นการส่งต่อข้อมูลไปยังบริษัทในเครือหรือคู่ค้าเพื่อใช้ส่งโฆษณา จนถึงการส่งข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่รัฐโดยไม่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง
- ผู้บริโภคมีสิทธิในการเลือกประเภทบริการที่ต้องการใช้งาน: บริการโทรคมนาคมหลายประเภทในตอนนี้มักผูกติดกันหลายต่อหลายประเภทบริการ เช่นบริการเสียงเพลงรอสายที่ผูกมากับบริการโทรศัพท์, หรือบริการอินเทอร์เน็ต ขณะที่มันอำนวยความสะดวกให้คนจำนวนมากเข้าถึงบริการต่างๆ ได้โดยง่าย ผู้บริโภคจำนวนหนึ่งกลับไม่ได้ใช้บริการเหล่านั้น และไม่ต้องการให้บริการเหล่านั้นมารบกวนการทำงานประจำวัน ผู้บริโภคพึงสิทธิในการตัดบริการใดๆ ออกจากการรับบริการ เช่น บริการโทรศัพท์, บริการ SMS, บริการข่าวสาร, บริการโทรระยะไกล, หรือบริการอื่นๆ ผู้บริโภคทุกคนพึงมีสิทธิในการเลือกรับหรือไม่รับบริการเหล่านี้ตามความต้องการของตนเอง เช่น ผู้ใช้บางรายที่ต้องการใช้งานเฉพาะการโทรศัพท์ พึงมีสิทธิที่จะตัดบริการอื่นออกทั้งหมดเพื่อไม่ให้มีความกังวลกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
ทีมงาน Blognone เชื่อว่าการคุ้มครองผู้บริโภคในสิทธิที่เสนอมาเหล่านี้จะทำให้ปัญหาร้องเรียนต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับกสทช. และสบท. น้อยลงอย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว จากการคุ้มครองสิทธิอย่างสมเหตุผลให้กับผู้บริโภคก่อนที่จะเกิดกรณีพิพาทระหว่างผู้บริโภคกับผู้ให้บริการ ผู้บริโภคจะสามารถมั่นใจที่จะใช้บริการต่างๆ และสามารถวางใจที่จะใช้บริการโทรคมนาคมได้สืบไป
เราหวังว่ากสทช., สบท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จะรับพิจารณาข้อเสนอนี้ และมีการดำเนินการให้ออกมาเป็นข้อบังคับในส่วนที่อยู่ในอำนาจกสทช. และข้อเรียกร้องหรือการดำเนินการอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือไปจากอำนาจของกสทช. เพื่อให้มีผู้บริโภคได้รับความคุ้มครองตามที่สมควรได้รับต่อไป
วสันต์ ลิ่วลมไพศาล
อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์
ผู้ดูแลเว็บไซต์ Blognone.com
Comments
"แต่ความเปลี่ยนแปลงของสังคมในช่วงหลัก" = ในช่วงหลังหรือป่าวครับ
ปล.โดนใจข้อ 3 ครับ ส่วนดีๆ ลงประกาศซะตัวใหญ่เวอร์ ส่วนเสียหมกเม็ดทำเป็น * เล็กๆ แถมหลบอยู่ข้างล่างอีก
ใช่ครับ ข้อ 3 ถูกใจสุดๆ ถึงมันจะเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด แต่ช่วยทำให้มันดีกว่านี้หน่อยครับ
จะได้เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค
+1 เห็นด้วยทุกข้อครับ
เห็นด้วยทุกประการกับจดหมายฉบับนี้ครับ ผมเองก็คิดว่าการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคนั้นหละหลวมมาก โดยเฉพาะในภาคโทรคมนาคมซึ่งนับวันจะมีบทบาทต่อชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่กลไกการคุ้มครองสิทธิฯ ตรงนี้กลับตามไม่ทัน เงื่อนไขซ่อนเร้นของผู้ประกอบการก็ไม่ได้รับการจัดการอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้ผู้บริโภคเสียผลประโยชน์
ศรวิษ เสียงแจ้ว
ร่วมลงชื่อครับ
นิธิพัฒน์ ยูวะสนธิ
ลงชื่อสนับสนุน
เอกศักดิ์ ช่างหลก
ชอบข้อ 2 กับ 5 มากครับ
ผมเคยโดนสมัครรับ sms เองด้วย
http://inunt.blogspot.com/2010/10/blog-post_1883.html
ตรงที่มีแสง
ผมตามอ่านบล็อคคุณนะครับ เพลิน ^^"
ดำรงค์ชีวิต => ดำรงชีวิต
เจตน์จำนงค์ => เจตจำนง
+100 ทุกประการครับ
เห็นด้วยครับ
อรรคพล เปี่ยมจิตต์
เห็นด้วยครับ
ข้อ 3 จิงครับทุกวันนี้ทุกค่ายกั๊กได้ทุเรศมาก...ข้อ4 นี่ใช่เลยครับ เบื่อสัญญาผูกมัดแบบมักมือชกเดิมๆมาก
เห็นด้วยครับ
ลงชื่อ
เห็นด้วยทุกข้อ โดยเฉพาะข้อ 4
ชอบมีโฆษณามากวนใจ เป็น sms ที่ไม่ได้สมัคร
หลังๆ ไม่ใช่ sms แล้ว เป็นข้อความที่ส่งแล้วต้องกดเพื่อให้ข้อความหายไป
กับโทรศัพท์บางรุ่น ข้อความประเภทนี้มัน bypass lock keyboard ได้ด้วย
^
^
that's just my two cents.
เห็นด้วยทุกข้อ โดยเฉพาะข้อ 4 เช่นกันครับ
คุณ mk คุณ lew ทำข่าวเก็บประสบการณ์อีกซัก 10 ปี แล้วลงสมัคร ส.ส. นะครับ
ผมจะเลือกพวกคุณไปเป็นรัฐมนตรีของประเทศนี้อีก 1 เสียง
คงยากครับ ถ้าบ้านเรายังเป็นแบบนี้
2 ท่านนี้ทำโฆษณาชวนเชื่อไม่เป็นซะด้วย
ถ้าเห็นด้วยแค่ข้อเดียวหรือสองข้อทำไงดีครับ?
เขียนเอง แล้วหาทางส่งถึงกสทช. ครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ขอบคุณครับ
+1
ลงชื่อไม่เห็นด้วยครับ :)
เรื่องอะไรบ้างครับ
อยากรู้จริงๆ ไม่ได้กวน
(ข้อ 2) มีอยู่ แต่มีปัญหากับกรณี roaming ครับ ซึ่งเป็นปัญหาทางเทคนิคของผู้ให้บริการ ซึ่งผู้บริโภคไม่รับรู้และไม่สามารถแก้ไขได้ จึงไม่ควรเป็นความรับผิดชอบของผู้บริโภค
LinkedIn
จากหัวข้อข่าวเขียนไว้ว่าโรมมิ่งอันลิมิท การเปิดโรมมิ่งแบบนี้คือการเปิดแบบไม่จำกัดค่าโทรครับ
ถ้าผู้ใช้ต้องการจำกัดค่าใช้บริการก็บอก call center ตอนเปิดโรมมิ่งว่าต้องการจำกัดค่าใช้บริการที่ 5,000 บาท (ตัวเลขสมมติ) เราก็สามารถใช้ได้ถึง 5,000 บาทครับ พอครบ 5,000 บาทเราจะโทรออกรับสาย ส่งข้อความไม่ได้ ถ้าอยากเพิ่มวงเงินก็โทรขอเพิ่มวงเงินได้ครับ :)
ไม่ใช่ครับ "อ่าน" ดีๆ ครับ
มันคือ internet unlimited ครับ เลือกประเทศที่ต้องการใช้งานไว้ล่วงหน้า
lewcpe.com, @wasonliw
ผมไม่ได้เข้าไปอ่านเนื้อข่าวตอนตอบด้านบนเลยทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเค้าสมัครแบบไม่จำกัดค่าบริการ พอไปอ่านแล้วเข้าใจว่าเป็นการสมัคร internet unlimited
ทีนี้กลับมาที่ internet unlimited แบบเลือกประเทศ ถ้าใครเคยใช้งานจะรู้ว่าเราต้องเลือกเครือข่ายที่ใช้งานด้วย เช่น สมัครบริการ internet unlimited ที่ประเทศอังกฤษ เครือข่าย ABC
สมมติคุณ lew สมัครบริการ internet unlimited ที่ประเทศอังกฤษของเครือข่าย ABC แต่คุณไปใช้บริการ internet ผ่านเครือข่าย DEF คุณก็ต้องจ่ายเงินค่าบริเพิ่มไปต่างหากเพราะคุณไม่ได้สมัครบริการของเครือข่าย DEF ไว้ครับ ตรงนี้คิดว่าคงเข้าใจ :)
ถ้าคุณ lew ไม่รู้วิธีการเลือกใช้งานเครือข่าย คุณก็สามารถให้พนักงานสอนให้ได้อีกเช่นกัน
นอกจากนี้ถ้าคุณ lew ยังกังวลว่าใครจะเอามือถือคุณ lew ไปเล่นอินเตอร์เน็ตของเครือข่ายอื่นๆ คุณ lew สามารถบอกพนักงานได้ด้วยว่าจำกัดวงเงินไว้ที่ 100 บาท ถ้ามีคนเอามือถือคุณ lew ไปเล่นคุณ lew จะเสียเงินมากที่สุดแค่ 100 บาท :D
หวังว่าคุณ lew จะรู้และเข้าใจใน "สิทธิ" ของตัวเองสำหรับเรื่องนี้นะครับ
ผมเจอหลายคนบนอินเตอร์เน็ต "อ่าน" ข่าวแล้วก็เชื่อเลยโดยไม่ได้"คิด"ว่ามันเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่า เวลาผมเจอปัญหาแบบนี้ผมก็พยายามช่วยอธิบายเพื่อให้พวกเค้าเข้าใจมากขึ้น :)
ผมทราบครับว่าคุณไม่ได้อ่าน ผมถึงบอกให้คุณอ่าน และจากพฤติกรรมที่ผ่านๆ มาของคุณ ผมมองว่าคุณควรเรียนรู้ที่จะอ่านก่อนแสดงความเห็นนะครับ ไม่อย่างนั้นก็จะชวนให้บทสนทนาเป็นอย่างนี้ร่ำไป
ปัญหาในรายละเอียดนั่นเรื่องหนึ่ง แต่ที่ผมเรีียกร้องให้สิทธิการจำกัดวงเงินมีสภาพบังคับ ผู้ให้บริการไม่สามารถอ้างข้อจำกัดของตัวเองว่าตัดเงินไม่ทัน ทำให้สามารถให้บริการเกินวงเงินได้
การเรียกร้องวงเงินจำกัด ไม่จำกัดเฉพาะกรณีนี้ครับ ถ้าผมลงชื่อสัญญาใช้งานไว้ 500 บาทต่อเดือน แล้วญาติผมเอาเครื่องไปเล่น สมัคร ring tone, ดาวน์โหลดเพลง, เปิด roaming ฯลฯ ก็ต้องจำกัดความรับผิดชอบของผมเช่นกัน
มันเป็นการเรียกร้องสิทธิ ว่าผู้ให้บริการต้องมีช่องทางให้ ไม่ใช่เรื่องว่าบริการไหน ค่ายไหนจำกัดได้หรือไม่ ไม่ว่าผมจะใช้บริการค่ายไหนๆ ภายใต้ใบอนุญาตของกสทช. ผมเชื่อว่าผู้บริโภคควรได้รับสิทธิเช่นนี้ ผ่านกลไกบังคับของกสทช. ไม่ใช่ว่ามีช่องทางจากบางค่าย ในบางบริการ
lewcpe.com, @wasonliw
คือผมไม่เข้าใจว่าคุณ lew จะเรียกร้องกับสิทธิที่ตัวเองมีอยู่แล้วเพื่ออะไร เพราะการจำกัดวงเงินต่อเดือน เช่น 500 บาทต่อเดือนคุณก็สามารถทำได้อยู่แล้ว อยากจำกัดวงเงินเวลาเปิดโรมมิ่งคุณก็ทำได้อยู่แล้ว และทำได้ทุกค่ายในประเทศไทยครับ
ผมเห็นคนไม่รู้ผมก็อยากช่วย แต่ถ้ารู้ว่ามีสิทธินั้นอยู่แล้วแต่ดันทุรังจะเรียกร้องก็ถือว่าเป็นแนวทางของคุณ lew ครับ :D
ข้อ 5 ผมกำลังพูดถึงการ "รับประกันสิทธิ" ใน "บริการใดๆ" ครับ นั่นหมายถึงผู้ให้บริการต้องมีช่องทางให้ผู้บริโภคเลือก ไม่รับบริการได้ทุกตัว โดยขอรับบริการอย่างน้อยเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
ถ้าผมมีเบอร์อยู่แล้ว อยากใช้รับ voice อย่างเดียว โดยไม่รับ SMS ก็ต้องทำได้ ไม่รับ internet ก็ต้องทำได้ ไม่รับบริการ payment ก็ต้องทำได้ ฯลฯ
มันไม่ใช่เรื่องของการ "ใจดี" ว่าผู้ให้บริการไหนจะให้เปิดอันไหน ปิดอันไหนได้ แต่ผมมองว่ามันเป็นสิทธิที่จะเลือกเปิดปิดบริการใดๆ
lewcpe.com, @wasonliw
เท่าที่อ่านดูผมคิดว่าคุณ lew คงไม่รู้สิทธิของตัวเองแน่เลย
ส่วนการใช้งานแบบอื่นๆ เช่น ซื้อซิมมาโทรอย่างเดียว ไม่อยากรับส่ง sms เท่าที่ผมทราบทำไม่ได้เพราะเทคโนโลยีปัจจุบันไม่รองรับครับ (พูดถึงเฉพาะที่ไทยและอเมริกานะครับ ประเทศอื่นอาจจะใช้เทคโนโลยีคนละตัว และสามารถทำได้) แต่ถ้าหมายถึง sms โฆษณาสามารถโทรไปปิดบริการได้เช่นกัน
ย้ำอีกครั้งครับว่าคุณ lew มีสิทธิทุกอย่างที่คุณเรียกร้องในข้อ 5 (ถ้าเทคโนโลยีรองรับ) เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
เทคโนโลยีไม่รองรับคืออะไรครับ? มีอะไรให้ไม่รองรับ?
lewcpe.com, @wasonliw
มั่วเรื่องเทคโนโลยีที่เว็บนี้ไม่ได้นะครับ
(ตามความรู้เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว) เทคโนโลยีปัจจุบันไม่สามารถ disable sms แบบระบุเบอร์ต้นทางได้ ถ้า disable คือ disable ทั้งหมด ไม่รับจากเพื่อนและระบบเลย ซึ่งพอมันรับ sms จากระบบไม่ได้มันจะเกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น การ reset password เข้าใช้บริการออนไลน์, ไม่ได้รับ sms ตอบกลับเวลาเราใช้สิทธิพิเศษต่างๆ ไม่ได้รับ sms เงินคงเหลือในมือถือหรือค่าบริการค้างชำระ ฯลฯ
ลงชื่อด้วยคนครับ ' w')/
ไม่เห็นด้วยครับ
เห็นด้วยจ้า
เห็นด้วยครับ
ร่วมลงชื่อครับ
แต่คงไม่คาดหวัง
เสื้อกระดาษ กัดใครไม่ได้
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
เห็นด้วย (ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว..) ให้มันได้จิงๆจังๆ
ยาวๆไปยาวๆ
ผมไม่เห็นด้วยกับ "คนจำนวนมากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการเข้ามาของเทคโนโลยีโทรคมนาคม"
ผมรู้สึกว่าชิวิตมันวุ่นวายมากขึ้น
อยากให้องค์กรใดๆ หรือใครก็ได้ช่วยทำให้มันใช้งานได้งายๆ เหมือนการใช้ไฟฟ้าได้หรือเปล่าครับ
ไม่มีรายเดือน ไม่มีระยะเวลาจำกัดว่าต้องใข้ในเวลาเท่านี้เท่านั้น เท่านี้
มือถือแพงแล้วค่าบริการยังแพงอีก
แจก Internet ฟรีทั่วประเทศ โทรหากันผ่าน Wi-Fi
หรือทำให้ PC + Internet โทรหา 2G หรือ 3G ได้ในราคาต่ำ
ผมคิดว่านี้คือสื่งที่ข้าม 4G ไปมากกว่าที่เราๆท่านๆ จะวิ่งตามนายทุนครับ
ขอบคุณครับ
เห็นด้วยครับ
{$user} was not an Imposter
forward ไปให้ @supinya เลยครับ
ไม่เห็นด้วยกับข้อหนึ่งครับ ยังแคลงใจเรื่องการแก้ต่างของอากง กับ ทนายอยู่ (เอามือถือไปซ่อมที่ไหน บอกจำไม่ได้, เอาวิกิมาใช้อ้างอิง) มันเหมือนเป็นการจุดประเด็นเพื่อแก้กฎหมายหมิ่นมากกว่า
ส่วน 2-5 เห็นด้วยตามนั้นครับ
อันนี้ชี้แจงสักหน่อยว่า ผมใส่ข้อ 1 เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อจดหมายข่าวของกสทช. ที่ออกมาบอกให้ประชาชนไม่วางโทรศัพท์ไว้ห่างตัวนะครับ
คดีจะเป็นอย่างไรอีกเรื่องหนึ่ง แต่กสทช. ควรพยายามทำให้ประชาชนสามารถใช้งานได้อย่างเป็นปรกติสุขอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่มาบอกว่าถ้าจะใช้ก็อย่าเอาเครื่องทิ้งไว้ห่างตัว
lewcpe.com, @wasonliw
ส่วนตัวผมยังใช้ชีวิตปรกติสุขดี ไม่ได้รู้สึกว่ากินไม่ได้นอนไม่หลับเนื่องจากคดีของอากง น่าเห็นใจคุณ lew กับคุณ mk นะครับ ที่คดีอากงมีผลกระทบต่อจิตใจอย่างมากและทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตตามปรกติสุขได้ :)
คุณ lew มีวิธีการแก้ปัญหาแนะนำสำหรับกรณีนี้หรือเปล่าครับ เผื่อทาง กสทช. ได้อ่านแล้วจะได้แนวคิดและวิธีการแก้ปัญหาที่ดีขึ้นครับ
ผมไม่คิดว่าคุณปรกติสุขดีครับ ผมเห็นคุณพยายามอย่างมากเพื่อจะแสดงให้เห็นว่าคดีนี้ไม่ได้สร้างมาตรฐานอะไรที่มีปัญหา คุณก็กำลังกลัวอะไรบางอย่าง แค่คนละอย่างกับที่ผมกลัวเท่านั้นล่ะครับ
แนวทางมีครับ เคยคุยกับคนทำงานข้างในอยู่บ้าง เมื่อตกผลึกแล้วคงออกมาเป็นบทความแถวๆ นี้ล่ะครับ ของพวกนี้ตอนอ่านดูง่าย แต่ตอนเขียนจริงๆ ใช้เวลาพอสมควรครับ มีใส่เข้าตัดออกกันหลายรอบ
lewcpe.com, @wasonliw
คุณลิ่วจะคิดว่าผมกลัวหรืออะไรก็ได้ครับ เพราะโดยพื้นฐานแนวคิดของผมต่างกับคุณ lew อยู่แล้ว :)
ผมขอแนะนำว่าถ้าจะเขียนบทความใหม่ๆ หรือจดหมายเปิดผนึกอะไรก็ตาม คุณ lew และคุณ mk ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนว่าคุณ lew และคุณ mk ขาดความรู้ในสิ่งที่ตัวเองพยายามเรียกร้องและไม่ได้ศึกษาข้อมูลก็คือจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้นี่แหละครับ คุณ lew และคุณ mk เรียกร้องในสิ่งที่มีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดวงเงินค่าโทรในข้อ 2 หรือการปิดการใช้บริการอินเตอร์เน็ต ปิดการใช้งานโทรออก-รับสายจากต่างประเทศในข้อ 5
ผมจะรออ่านบทความอันใหม่ของคุณลิ่วครับ
^
^
^
พิมพ์มาทั้งหมดรู้เลยว่าอ่านผ่านๆแค่หัวข้อ
อ่านแค่ผ่านๆ ยังไงครับ? ผมอ่านบทความนี้อีกรอบก็ยังเข้าใจว่าคนเขียนทั้งสองคนพยายามเรียกร้องสิ่งที่มีอยู่แล้ว ตรงไหนที่ผมเข้าใจผิด แนะนำได้เลยครับ ถ้าผมเข้าใจผิดจริงแล้วคุณแนะนำผมจะได้เข้าใจมุมมองของคุณด้วย :)
ถ้าคุณไม่กลัวอะไรเลย คุณคงไม่ต้องพยายามออกมาบอกคนอื่นว่า คุณไม่มีปัญหา คุณใช้ชีวิตสงบสุข ณ เวลาที่คนอื่นกำลังบอกว่าสิ่งนี้คือปัญหา
คุณกลัวว่าสิทธิเสรีภาพของคนอื่น จะมาทำลายหลักการหรือจุดยืน หรือฐานคิดบางอย่างที่คุณเชื่อมั่น
และการที่คนอื่นออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ มันก็จุดกระแสมาจากคดีอากง นี่คือสิ่งที่เป็นลูกโซ่ ว่า A ทำให้เกิด B และ B อาจจะทำให้เกิด C ที่คุณกลัว คุณจึงต้องรี่ออกมาโวยวายตลอดเวลาว่า "ผมไม่เห็นมีปัญหา พวกคุณคิดไปเอง กลับไปอยู่สงบๆซะ" ในขณะที่คนอื่นเห็นปัญหา
ถ้าคุณไม่กลัวอะไรเลย ก็คงปล่อยผ่าน ไม่สนใจ ไม่พูดอะไรเลย เพราะไม่ว่าใครจะทำอะไรก็ไม่ใช่ปัญหาของคุณ
นี่คือสิ่งที่ผมถอดความได้จากข้อความคุณลิ่ว (และส่วนตัว ผมเห็นด้วย)
โดยปกติ ผมจะอ่านเว็บนี้อยู่เงียบๆ ไม่ค่อยอยากแสดงตัว
แต่หลังจากอ่านความเห็นของคุณ qute ทำให้ผมรู้สึกค่อนข้างกังวล
ว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ตระหนักถึงเหตุผลที่ว่าทำไมคดีอากงจึงเป็นข้อกังวลใจของนักเทคนิคนักหนา
ถึงขั้นนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว ถ้าเราตัดเรื่องตัว"อากง"ออกไป ไม่สนว่าอากงแกจะสีอะไร
พิจารณาเฉพาะข้อมูลทางเทคนิคที่อ้างอิงในการตัดสินนั้น เพราะผมเห็นว่าหลักฐานที่ใช้นั้นปลอมแปลงได้
ถ้าผมไม่ค่อยชอบคุณ qute อย่างหนัก แล้ววันหนึ่งคิดอุตริขึ้นมา
ผมอาจจะปลอมแปลง IMEI ของคุณ qute
แล้วส่งข้อความไปในทางเสียๆหายๆ ให้กับคนที่ปักใจว่าคุณ qute จงเกลียดจงชัง
แล้ว เค้าไปตรวจสอบข้อมูลการใช้งานเครือข่าย ยืนยันว่า IMEI นี้คุณ qute แน่นอน
ซึ่ง ณ ตรงนี้ เรารู้อยู่แก่ใจกันดีว่ามันปลอมแปลงได้
ตามที่ผมเข้าใจแล้ว สิ่งที่คุณ lew ต้องการจะสื่อคือ
แล้วอะไรคือสิ่งที่ กสทช. จะมีมาตรการมาป้องกันไม่ให้กรณี อากง ซ้ำรอยขึ้นมาอีก
ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการพิสูจน์ทางเทคนิคที่มีข้อมูลมากกว่านี้
หรือ แม้แต่การเปลี่ยน IMEI /ปลอมแปลง IMEI ที่ทำกันเกลื่อนทั่วไปตามห้าง นั้นถือว่าเป็นการกระทำผิด หรือไม่
เพราะ ถ้ามีคนมาใช้เลข IMEI ของคุณที่อาจจะถือเป็นสินทรัพย์ของคุณ โดยที่คุณไม่รู้ได้นั้น มันไม่น่าจะถูกนะครับ
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเฉพาะความเห็นส่วนตัวนะครับ อย่าถือโทษโกรธกัน คิดซะว่า แลกเปี่ยนความคิดเห็นนะครับ
เรื่องอากงถ้าเค้าเรียกร้องเรื่องการพิสูจน์หลักฐานในกระบวนการยุติธรรมดาผมก็ว่าดีครับ
แต่ส่วนใหญ่เท่าที่ผมเห็นจะมุ่งไปที่ประเด็นเรื่องเสรีภาพเพื่อยกเลิกกฎหมายหมิ่นซะมากกว่า อย่างเช่น คห. ของคุณ Thaina ข้างบน เป็นต้น
ถ้าคดีอากงเกิดจากการปลอม IMEI ใส่ร้ายอากงจริง ผมก็มองว่ามันคงเป็นการทำเพื่อจุดกระแสยกเลิกกฎหมายหมิ่นมากกว่า ไม่งั้นจะทำไปเพื่ออะไร
ไม่เห็นด้วยแค่ข้อ 1 ครับ นอกนั้นเห็นด้วยครับ
ข้อหนึ่งเห็นด้วยที่หัวข้อแต่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหา ก็เขาผิดนี่หว่า จะต้องให้คนทำผิดใช้งานได้ไม่มีกังวลทำไม.... (มุขอีมี่ปลอมแปลงได้ สาม สอง หนึ่ง)
ปล. ถ้าเชื่อว่าสิ่งที่ทำนี่ดีจริงๆแล้วส่วนใหญ่เขาไม่อายที่จะบอกจุดประสงค์ตรงหรอกครับ มีแต่พวกชั่วๆนี่แหละที่พยายามตีพุ่มไม้ไม่ยอมเข้าประเด็น....
ผมว่าบทความนี้ก็แค่เอาคำร้องเรียนผู้บริโภคมาเรียนเรียงให้สละสรวยอ่านเข้าใจง่าย ซึ่งโดยรวมๆแล้วทาง providerก็ทำแล้ว(คู่แข่งมันเพียบนี่) ทาง สคบ.ก็ทำแล้ว(บ้าง)บล็อกนี้มี it expert มากมายน่าจะนำเสนอการคุ้มครองโดยอิงเทคนิคที่ยังคงมีแฝงมากมาย(เช่น number portability ทำไมเสียค่าใช้จ่ายเยาะจัง หรือNGOที่ไม่รู้เรื่องIT ยังคิดได้เรื่องการยึดเงินในระบบเติมเงิน) เราน่าจะหาข้อมูลสนับสนุนด้านเทคนิคให้เขาอ้างอิง ดีกว่าเอาซีรีย์ดรามา มาอ้างอิง