Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

หลังจากที่ไมโครซอฟท์ได้ยิงโฆษณาบ่งบอกว่าแล็ปท็อปจากแอปเปิลมีราคาสูงเกินไป และนักลงทุนทั้งหลายที่คาดการณ์ไว้ว่าสินค้าที่มีราคาสูงขนาดแอปเปิลจะต้องได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ปรากฏว่าจากยอดขายไตรมาสที่ 2 ล่าสุดของแอปเปิลนี้ แอปเปิลกลับทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์หากไม่นับยอดขายช่วงคริสต์มาส

โดยแอปเปิลมีรายได้ทั้งหมด 7.5 พันล้านดอลลาร์​ เป็นกำไร 1.21 พันล้านคิดเป็นรายได้ 1.33 ดอลลาร์ต่อหุ้น (EPS) จากที่บริษัทแนะนำการลงทุนทั้งหลายคาดไว้ว่ารายได้ต่อหุ้นน่าจะอยู่ที่ 1.09 ดอลลาร์

ในไตรมาสนี้ แอปเปิลขายแมคได้ 2.22 ล้านเครื่อง ไอพ็อดขายได้ 11 ล้านเครื่องและไอโฟนได้ 3.79 ล้านเครื่อง หากรวมตัวเลขทั้งหมดแอปเปิลได้ขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม iPod touch และไอโฟนแล้วไปกว่า 37 ล้านเครื่อง (นักพัฒนาแถวนี้สนใจไหม?)

แต่หากมาดูตัวเลขดี ๆ นั้นจะเห็นว่ายอดขายเครื่องแมคนั้นลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว แต่อัตราส่วนยอดขายภายในสหรัฐกับต่างประเทศนั้นเริ่มเปลี่ยนไป โดยแอปเปิลทำยอดขายแมคในต่างประเทศได้สูงกว่าแล้ว

ที่มา - C|net

Get latest news from Blognone

Comments

By: Montimedia on 23 April 2009 - 09:09 #97869

เคยลองคิดเล่นๆค่าครองชีพอเมริกาสูงกว่าเราตั้งหลายเท่า
ถ้าเทียบค่าคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องกับค่าครองชีพแล้ว
เค้าซื้อคอมพิวเตอร์ในราคาถูกมากเลยนะเนี่ย
แต่ทำไมฝรั่งมันขี้บ่นกันจัง

By: toandthen
WriterMEconomics
on 23 April 2009 - 09:20 #97871 Reply to:97869
toandthen's picture

เพราะว่าเขาชินกับของราคาถูกไงครับ ...​ผมก็เคยคิดว่าอเมริกันได้เปรียบมาก ๆ ค่าครองชีพก็ไม่ได้สูงมากมาย แต่ของอย่างลำโพง หูฟัง คอม รถ เขาถูกกว่าเราอีก

ยิ่งตอนนี้ ที่ดินกับบ้านในสหรัฐถูกกว่าคอนโดนใน กทม มากมาย


@TonsTweetings

By: natt_han
ContributoriPhoneAndroid
on 23 April 2009 - 09:55 #97876 Reply to:97871

เทียบระหว่างกทม กับสหรัฐมันกว้างไปมั้งครับ น่าจะเทียบกับเมืองที่เป็นเมืองท่า และเป็นเขตเมืองด้วย

By: toandthen
WriterMEconomics
on 23 April 2009 - 14:35 #97916 Reply to:97876
toandthen's picture

Santa Monica อย่างแพงสำหรับเขา แต่ไม่ค่อยแพงสำหรับเรานะครับ บ้านหลังหนึ่งพร้อมที่ดิน ราคาเฉลี่ยแค่ 200,000 ดอลลาร์เอง ถูกกว่าออสเตรเลีย/อังกฤษ/กทมบางเขตเยอะ


@TonsTweetings

By: ping.freebsd
AndroidUbuntu
on 23 April 2009 - 09:40 #97872

| เข้าใจว่า iPhone หรือสินค้าบางอย่างของ Apple ยังไม่มีขายในหลายประเทศ ผลกระทบของเศรษฐกิจ จึงอาจจะมีผลน้อยมากถ้าหาก Apple เปิดตลาดในประเทศใหม่ๆ ถ้ามองในภาพรวมคือยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว ยังเปิดตลาดได้อีก

@CHIANGRAI

By: gotobanana
iPhoneAndroidBlackberrySymbian
on 23 April 2009 - 09:48 #97873
gotobanana's picture

อือๆๆ +1

By: DrRider
WriterAndroid
on 23 April 2009 - 09:51 #97874
DrRider's picture

ช่วยเพิ่มรายได้ให้ Apple ไปอีก 1 เครื่อง :P ไปแล้ว

We need to learn to forgive but not forget...


We need to learn to forgive but not forget...

By: btssky
ContributoriPhoneAndroidRed Hat
on 23 April 2009 - 09:56 #97877

Microsoft ถือหุ้น Apple อยู่กี่ %

By: Night on 23 April 2009 - 13:00 #97902 Reply to:97877

ตอนนี้ MS ไม่มีหุ้นของ Apple แล้วครับ รู้สึกว่าขายออกไปนานแล้ว

คำพูดของคุณ cyberdude

หุ้น $150 ล้านที่ MS ได้ไปตอนนั้น คิดเทียบกับมูลค่ารวมของบริษัท Apple มันก็ยังน้อยมากนะครับ ถือว่าเป็นเงินสดเอามาช่วยสภาพคล่องในช่วงนั้นมากกว่า และมีข้อจำกัดในการขายอีกว่า MS ไม่สามารถออกเสียงโหวดในฐานะผู้ถือหุ้นได้เลย
ต่อมา MS คงขายหุ้นจำนวนนั้นออกไป เพราะหลังจากนั้นหุ้น Apple เคยตกแบบน่าใจหายอีกหลายรอบ ใครๆก็เทขาย
(เป็นคุณๆจะเก็บไว้นานมั๊ย? บริษัทไม่ค่อยทำเงิน แถมเงินที่ลงไปแต่เราไม่มีสิทธ์ออกเสียง)
และนั่นเป็นช่วงอีกตั้งนานก่อน iMac, OS X , iPod จะออก แทบไม่มีใครคิดว่า Apple จะกลับมารุ่งได้อีกอย่างทุกวันนี้

มองให้ดีๆ เงิน $150 ล้าน มันเป็นค่าใช้จ่ายเชิงกลยุทธของ MS ในตอนนั้นครับ ไม่ใช่ทำในเชิงลงทุน เพราะ:

-เป็นเงินก้อนเล็กมากๆ สำหรับ Microsoft
-สิ่งที่ MS ได้คือ Mac ทุกเครื่องตอนนั้น มากับ IE ซึ่งเท่ากับช่วย MS ตอกตะปูฝาโลงให้ Netscape ได้เร็วขี้น
-ได้ภาพว่าเป็น good guy มาช่วย Apple
ดังนั้น MS คงไม่ได้คิดว่าการเก็บหุ้นไว้เพื่อทำกำไรจะเป็นสาระสำคัญ สู้ค่อยๆปล่อยออกไปเอาเงินคืนมามั่งยังจะดีกว่า

ส่วนทาง Apple
-ได้เงินสด 150 ล้านมาหมุน
-ได้คำสัญญาว่า MS Office จะมีอยู่บน Mac ต่อไปอีก 5 ปี
-กลบกระแสข่าวร้ายๆว่า ใครๆก็เทขายทิ้ง "เห็นมั๊ย ขนาด บิล เกตส์ยังมาซื้อไว้เลย"
-MS ไม่มีสิทธิมาแทรกแซงด้านนโยบายใดๆอยู่ดี

ถ้าติดตามข่าว จะเจอว่าเค้ามีสัญญากันว่า Apple ห้าม MS ขายหุ้นอันนั้นภายใน 3 ปี แต่พอพ้นจากนั้นก็มีการขายไปแล้วครับ เพราะเป็นหุ้นห้ามออกเสียง ซึ่งมีข้อจำกัดอยู่
MS เอาเงินมาลงเพราะต้องการให้ Apple แถม IE เข้ามาในแผ่น Mac OS เพื่อเบียดแย่งตลาดเบราเซอร์จาก Netscape ให้ได้

150 ล้าน ฟังดูเหมือนเยอะ แต่มูลค่าของ Apple นั้นมีอยู่หลายพันล้านนะครับ เงินที่ MS ลงมาถือเป็นเปอร์เซนต์หุ้นไม่มากเลย

และรายชื่อผู้ถือหุ้นในปัจจุบันไม่มีชื่อเกสต์หรือไมโครซอฟท์ครับ

และ

Microsoft later sold their 150 million dollars worth of AAPL stock for a very nice profit in 2001.

Microsoft Made $18 Billion Off of AAPL - ลองหาข่าวเอาเองครับ

ความคิดเห็นส่วนตัว

By: cloverink
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 23 April 2009 - 10:10 #97878
cloverink's picture

กำลังพัฒนา iPhone และอื่นๆ อยู่ครับเพราะคิดว่ามันน่าจะขายตัวอย่างต่อเนื่อง

By: Kindaichi on 23 April 2009 - 10:33 #97880 Reply to:97878

"น่าจะขายตัวอย่างต่อเนื่อง"

บรื๋อออออ ^^

ผมแสดงความคิดเห็นเฉยๆนะครับ มิได้มา"รุม"ใดๆ คุณ cloverink โปรดเข้าใจเจตนารมณ์

By: kae347 on 23 April 2009 - 10:39 #97882 Reply to:97880

โอ๊ะ ใจตรงกัน ไวกว่าผม 4 นาที

By: kae347 on 23 April 2009 - 10:37 #97881 Reply to:97878

"ขายตัว" ขยายตัวหรือเปล่าครับ :P

By: IceDagger on 23 April 2009 - 12:40 #97901 Reply to:97881

"ขายตัวอย่างต่อเนื่อง" ขืนเป็นงี้โทรมกันพอดี

By: cloverink
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 23 April 2009 - 14:10 #97911 Reply to:97878
cloverink's picture

เวรกำพิมพ์ผิด แก้ยังไงหว่า lol

By: isunsunsun on 23 April 2009 - 11:31 #97889

อยากมีหุ้น AAPL จังเลย

By: khajochi
WriteriPhoneIn Love
on 23 April 2009 - 12:28 #97900
khajochi's picture

AT&T ก็รวยไปเลยนะ แค่ Q1 ปีนี้มีลูกค้ามา activate 1.6 ล้านราย คิดไม่ออกเลยว่าถ้าคูณด้วยค่ารายเดือนเข้าไปจะเป็นเท่าไหร่ต่อเดือน

TrueMove ไม่รู้เป็นไงมั่ง

---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature


แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com

By: fujitarc on 23 April 2009 - 14:37 #97917

แมคสู้ๆ

By: lew.★ on 23 April 2009 - 15:41 #97925
lew.★'s picture

รวยเละ

By: ninja741 on 23 April 2009 - 15:58 #97927

แปลผิดบางจุดนะครับ

รายได้ไตรมาสนี้ 8.16 นะครับ

1.33 ไม่ใช่เงินปันผล แต่เป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นต่อ 1 หุ้น

ยอดขายนอก US ยังน้อยกว่าใน US นะครับ ปกติ apple จะแยก retail ออกมาอีก group ซึ่งจริงๆแล้ว retail รวมทั้งร้าน apple store ใน US ด้วย

By: toandthen
WriterMEconomics
on 24 April 2009 - 12:46 #98063 Reply to:97927
toandthen's picture

http://en.wikipedia.org/wiki/Earnings_per_share

ไม่ใช่เงินปันผลจริง ๆ ซะด้วยครับ แต่เป็นรายได้ต่อหุ้น (ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องหมายความว่าเป็น Dividends)


@TonsTweetings

By: ninja741 on 23 April 2009 - 15:58 #97928

ผมกดทีเดียวนะ ไมมันเด้งมา 2 อัน _

By: ntprojecth on 23 April 2009 - 17:09 #97932

เหอะๆๆๆ น่าจะเกี่ยวกับค่าครองชีพนะผมว่า

By: bankkung
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 23 April 2009 - 21:41 #97961

ไตรมาส2? เขาเริ่มนับไตรมาสแรกเดือนไหนหว่า

By: exFictitiouZ
ContributorAndroid
on 23 April 2009 - 21:48 #97963

ผมว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะกลุ่มตลาดแมคและแอปเปิลส่วนมากเป็นกลุ่มคนที่ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ไม่กระทบพวกเขานักและยังคงสามารถหาเลี้ยงปากท้องได้อย่างไม่เดือดร้อน

และกลุ่มผู้บริโภคของแอปเปิลจะมี brand loyalty ค่อนข้างสูงด้วย เพราะงั้นจึงมีลูกค้าหน้าเดิม ๆ บริโภคสินค้าของบริษัทเดิม ๆ อยู่เยอะ เมื่อรวมกับกลุ่มตลาดที่ขยายตัวออกเรื่อย ๆ (แม้ช่วงนี้อาจจะขยายตัวช้า) ก็เป็นจุดแข็งในด้านการตลาดของแอปเปิลเขาครับ

ผมคิดว่านะ


twitter.com/exfictz

By: bricker
Contributor
on 23 April 2009 - 22:50 #97971

ของเขาดีนี่ครับ เหมือนเวลาเราจะซื้อของ เพิ่มเงินอีกหน่อยได้ของดี ผมก็ยอมนะ การรับประกันสินค้าของเขาก็ดีมาก ๆ iPod เสีย เอาไปเคลมได้ตัวใหม่เลยอะ

By: wiennat
Writer
on 24 April 2009 - 00:38 #97986 Reply to:97971

สงสัยมานาน ได้ทีถามทีเดียว

ipod นี่มันประกัน worldwide รึเปล่าครับ

onedd.net


onedd.net

By: coloragent on 24 April 2009 - 03:06 #98010 Reply to:97986

worldwide ครับ

By: isunsunsun on 24 April 2009 - 08:03 #98017 Reply to:97986

World wide ครับ ยกเว้นประเทศไทย :-)

By: pit
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 24 April 2009 - 11:17 #98035 Reply to:98017

ของประเทศไทย = world wild?

By: Pinery
ContributoriPhoneAndroidIn Love
on 24 April 2009 - 15:23 #98100 Reply to:98017

จริงง่ะ?