Announcement

ช่วงหลัง Blognone มีสมาชิกจำนวนมากขึ้นมากนะครับ (ล่าสุดเกิน 19,000 คนแล้ว) เนื้อหาในเว็บก็มากขึ้นตามไปด้วยอย่างสม่ำเสมอทั้งข่าวและการแสดงความเห็น จากเดิมที่เราเคยมีปัญหาเรื่องเขียนแล้วมีคนอ่านไม่มากนัก หรือไม่มีการแสดงความเห็นในข่าว หลายครั้งเรามีการแสดงความเห็นที่มากจนยากมากที่ใครจะอ่านทั้งหมด สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือบางครั้งการพูดคุยกลับเป็นการทุ่มถกเถียงกันอย่างไม่ก่อเนื้อหาใดๆ เพิ่มเติมกับเนื้อหาในเว็บ

ดังนั้นนับจากนี้ไป สมาชิกทั่วไปทุกคนจะถูก__จำกัดปริมาณคอมเมนต์ไว้ที่ 8 คอมเมนต์ต่อวัน__ ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับสมาชิกส่วนใหญ่ หลังจากที่หมดโควต้าต่อวันแล้วการแสดงความเห็นถูกปิดลง และต้องรอไปอีก 24 ชั่วโมงจึงจะใช้งานได้ใหม่อีกครั้ง

สมาชิกที่เป็น Contributor และ Writer จะไม่ถูกจำกัดโควต้านี้ พร้อมกับสมาชิกใหม่จะไม่สามารถ "สมัครมาโพส" ได้อีกต่อไป โดยจะต้องรอระยะเวลาเพื่อรับโควต้าในวันถัดไป

มาตรการใหม่อีกเรื่องหนึ่งคือสมาชิกใดๆ ที่ "ไม่สุภาพ" ต่อสมาชิกท่านอื่นๆ จะถูกจัดเข้ากลุ่มควบคุมซึ่งจะทำให้เหลือโควต้าคอมเมนต์เป็น 2 คอมเมนต์ต่อวัน จะเป็นมาตรการเบื้องต้นก่อนการแบนชั่วคราวและการแบนถาวรต่อไป

ตัวเลขทั้งหมดนี้จะมีการปรับเปลี่ยนในตามเวลาระหว่างใช้งาน สมาชิกที่มีความเห็นเสนอแนะสามารถแจ้งเข้ามาได้เช่นเดิม

แต่ทั้งนั้นความเห็นของคุณจะเริ่มถูกนับโควต้าตั้งแต่ 24 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ไปแล้ว

Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ

CP AXTRA Public Company Limited - Lotus's company cover
CP AXTRA Public Company Limited - Lotus's
CP AXTRA Lotus's is revolutionizing the retail industry as a Retail Tech company.
Token X company cover
Token X
Blockchain, ICO, Tokenization, Digital Assets, and Financial Service
Carmen Software company cover
Carmen Software
Hotel Financial Solutions
Next Innovation (Thailand) Co., Ltd. company cover
Next Innovation (Thailand) Co., Ltd.
We are web design with consulting & engineering services driven the future stronger and flexibility.
United Information Highway Co., Ltd. company cover
United Information Highway Co., Ltd.
UIH is Thailand’s leading Digital Infrastructure and Solution Provider for Business
KKP Dime company cover
KKP Dime
KKP Dime บริษัทในเครือเกียรตินาคินภัทร
Kiatnakin Phatra Financial Group company cover
Kiatnakin Phatra Financial Group
Financial Service
Fastwork Technologies company cover
Fastwork Technologies
Fastwork.co เว็บไซต์ที่รวบรวม ฟรีแลนซ์ มืออาชีพจากหลากหลายสายงานไว้ในที่เดียวกัน
Thoughtworks Thailand company cover
Thoughtworks Thailand
Thoughtworks เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโยลีระดับโลกที่คว้า Great Place to Work 3 ปีซ้อน
Iron Software company cover
Iron Software
Iron Software is an American company providing a suite of .NET libraries by engineer for engineers.
CLEVERSE company cover
CLEVERSE
Cleverse is a Venture Builder. Our team builds several tech companies.
Nipa Cloud company cover
Nipa Cloud
#1 OpenStack cloud provider in Thailand with our own data center and software platform.
CDG GROUP company cover
CDG GROUP
Provider of IT solutions to public, state, and private sectors in Thailand for over 56 years
Bangmod Enterprise company cover
Bangmod Enterprise
The leader in Cloud Server and Hosting in Thailand.
CIMB THAI Bank company cover
CIMB THAI Bank
MOVING FORWARD WITH YOU - CIMB is the leading ASEAN Bank
Bangkok Bank company cover
Bangkok Bank
Bangkok Bank is one of Southeast Asia's largest regional banks, a market leader in business banking
Gofive company cover
Gofive
“We create world-class software experience”
KBTG - KASIKORN Business-Technology Group company cover
KBTG - KASIKORN Business-Technology Group
KBTG - "The Technology Company for Digital Business Innovation"
Siam Commercial Bank Public Company Limited company cover
Siam Commercial Bank Public Company Limited
"Let's start a brighter career future together"
Icon Framework co.,Ltd. company cover
Icon Framework co.,Ltd.
Global Standard Platform for Real Estate แพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร มาตรฐานระดับโลก
REFINITIV company cover
REFINITIV
The Financial and Risk business of Thomson Reuters is now Refinitiv
H LAB company cover
H LAB
Re-engineering healthcare systems through intelligent platforms and system design.
LTMH TECH company cover
LTMH TECH
LTMH TECH มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยพันธมิตรของเราให้บรรลุเป้าหมาย
Seven Peaks company cover
Seven Peaks
We Drive Digital Transformation
Wisesight (Thailand) Co., Ltd. company cover
Wisesight (Thailand) Co., Ltd.
The Best Choice For Handling Social Media · High Expertise in Social Data · Most Advanced and Secure
MOLOG Tech company cover
MOLOG Tech
We are Modern Logistic Platform, Specialize in WMS, OMS and TMS.
Data Wow Co.,Ltd company cover
Data Wow Co.,Ltd
We enable our clients to realize increased productivity by solving their most complex issues by Data
LINE Company Thailand company cover
LINE Company Thailand
LINE, the world's hottest mobile messaging platform, offers free text and voice messaging + Call
LINE MAN Wongnai company cover
LINE MAN Wongnai
Join our journey to becoming No.1 food platform in Thailand

ทีแรกก็งงเหมือนกันว่ามันเพิ่มภาระให้กับเซิพเวอร์ยังไง ตอนนี้เริ่มเข้าใจแล้วครับ (จากคนที่ไม่รู้เรื่องระบบเหมือนกัน)

เอาเข้าจริงแล้วคนโพสมากๆ จนเกินตัวเลขนี้ มีไม่เยอะครับ

แต่ระบบต้องเช็คทุกคน ทุกโพสว่าเกินแล้วหรือไม่

+1 ผมไม่แน่ใจว่า การนับ post แต่ละคน กับ เตือนเมื่อมีผู้มา Reply ของวัน อันไหนโหลด server กว่ากัน แต่ถ้าเตือน Reply คงจะมี drama กันเยอะกว่านี้ แต่ก็จำกัดแค่ 8 post เหมือนเดิม :)

ถ้าแสดงความเห็นครั้งแรกสามครั้ง เว้นไปห้าชั่วโมงอีกห้าครั้ง พอครบ ๒๔ ชั่วโมงจากครั้งแรก จะแสดงความเห็นได้สามครั้ง หรือว่าต้องรอ ๒๔ ชั่วโมงจากครั้งหลังที่ทำให้โดนจำกัดครับ?

ที่จริงผมชอบ drama นะ ข่าวไหนมีจำนวนความเห็นมาก ๆ จะรีบเข้าไปอ่านเลย แต่ส่วนตัวก็ไม่ค่อยจะออกความเห็นแบบมีสาระเท่าไหร่ เพราะข้อมูลไม่ค่อยแน่น กลัวพลาดเหมือนกันครับ

สังเกตเห็นเหมือนกันครับว่าหลังๆ Blognone มีคนแสดงความคิดเห็นแต่ละข่าวกันเยอะขึ้นมาก คนเขียนข่าวคงชื่นใจ (รึเปล่า? ฮ่าๆ)

ก็แอบสงสัยเหมือนกันว่าเป็นเพราะว่าสมาชิกใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา

ว่าแต่จะมีกราฟสถิติจำนวนสมาชิกมาเปิดเผยให้ดูในอนาคตมั้ยครับ ^^

latesleeper Sun, 08/21/2011 - 23:05

ติด badge ให้หน่อยดิครับผมจะได้รู้ตัวว่าผมเป็นแบบ 8 หรือ 2 คอมเม้นท์

อยากให้มี คอมเม้นแบบหลังไมค์ ด้วยครับ สำหรับพวกแก้ทำผิด อะไรพวกนั้น คือแยกส่วนจากช่องแสดงความคิดเห็นปรกติ ไม่แน่ใจว่า มีทางทำได้ไหม

เคยมีระบบ PM แล้วพักหนึ่ง ปัญหาคือสมาชิกไม่อ่านครับ (ประมาณว่าอยู่ในที่ลับมันเลยไม่ค่อยรู้สึกด่วนมั้ง) เลยเลิกไป

อันนี้เค้าเคยบอกว่า อยากให้คนทั่วไปรู้ด้วยว่าการใช้ภาษาอะไรถูก/ผิด นะ่ครับ (ผมว่าเป็นการส่งเสริมการใช้ภาษาที่ถูกต้องนะครับ) ผมเห็นด้วยนะ... แต่ก็เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ก็ลองเสนอๆ กันดูคนดูแลเค้าจะได้รู้... (^ ^)

พวกแก้คำผิดนี้ ก็ดีนะ แต่มันสร้างความรำคาญให้ผู้อ่านคนอื่นนะครับ ถ้าอย่างนั้น พวกแก้คำผิดนี้ เอามาอยู่ด้านขวาดีไหม เห็นมีพื้นที่เหลืออยู่ ถ้าทำได้นะครับ

ต้องเรียนรู้ที่จะไม่รำคาญแล้วล่ะครับ

ต้องย้ำว่าผมคาดหวังว่า "ทุกคน" ที่เป็นสมาชิกของ Blognone จะเขียนข่าวบ้างในสักวันหนึ่งนะครับ ดังนั้นการคอมเมนต์ตัวข่าว แนวทางการเขียน และความถูกต้องสำคัญสำหรับผู้เขียนมากครับ เราคงไม่เอามันหลบไปที่อื่น

ทำแบบการเขียนคอลัมน์ในนิตยสารดีไหมครับ
คือ approve ก่อนแล้วค่อยเอาขึ้นจริง

เพราะยังไงก็มีคนใช้ภาษาพูด หรือ คำที่เขียนไม่ถูกต้องตามหลักไวยกรณ์ใน comment ได้อยู่ดี

ปล. อันนี้ความเห็นส่วนตัวครับ

ปกติ ถ้าเป็นสมาชิกทั่วไปมาเขียน ก็ต้องรอให้ writer ตรวจเนื้อหา/ความถูกต้องของการสะกดในเบื้องต้นก่อนอยู่แล้วครับ

เรื่องการตรวจสอบการสะกด ก็อาจจะเป็นความเห็นแรกๆ เท่านั้น ผมว่าคงไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้เท่าใดนักหรอกครับ

ก็อาจจะต้องขอความร่วมมือนักตรวจทุกท่าน ให้ลองดูก่อนว่า ข้อผิดพลาดที่ท่านตรวจพบ มีคนตรวจพบไปก่อนแล้วรึเปล่า ถ้ามีแล้วก็ไม่ต้องบอกซ้ำ ก็จะลดปริมาณคอมเมนท์สะกดคำลงไปได้เยอะครับ

ตัวเลขสมมติครับ ผมคิดเอาเองว่าควรจะเท่าใหร่เพื่อให้คนเขียน "คิด" ก่อนคอมเมนต์

คิดว่าเป็นเลขตัวเดียวน่าจะดี (ดูน้อยๆ ดี) แต่ 9 จะดู marketing เกินไป แบบ 99, 199 อะไรแบบนั้น เลยกลายเป็น 8

แต่อย่างที่บอกครับ ผมขอคงตัวเลขนี้สักสัปดาห์ ถึงตอนนั้นการปรับก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ขอเสนอ ความเห็น เพื่อลดความยาวคอมเม้นท์

(เอา comment กลุ่มที่ แจ้ง แก้ไข Wording ออกไปสำหรับ User ทั่วไปดีไหมครับ (ทางกลุ่ม admin อ่านกันเอง) (ผมไม่ได้อยากอ่าน เรื่องแก้ไขคำต่างๆ)

เรื่องนี้อธิบายไปหลายรอบแล้วครับ ลองไปค้นข่าวเก่าๆ ดูกันเอง

คำตอบแบบรวบรัดก็คือ ถ้าไม่อยากเห็นคอมเมนต์แก้คำผิด ก็จงเขียนข่าวที่มันไม่ผิดส่งมาครับ

ผมว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของการไม่อยากเห็นครับ แต่เป็นปัญหาที่ว่า คนที่ช่วยแก้คำผิด โดนหักโควต้าคอมเมนท์ไปด้วย

KNPKT Sun, 08/21/2011 - 23:42

+1 ว่าเห็นด้วยครับ

ชอบอ่านดราม่าจากเว็บจ่า แต่ไม่ชอบให้มีดราม่าที่นี่
คอมเม็นท์ที่นี่ควรชี้แจงถกเถียงด้วยเหตุผลมากกว่าการใช้อารมณ์
เช่น เมื่อมีคนคอมมเม็นต์ขัดใจก็ด่ากลับไปว่า "นี่เป็นตัวอย่างที่เลว...บลา บลา บลา"
ควรจะหมดไปได้แล้วครับ

nidku53 Mon, 08/22/2011 - 08:09

In reply to by KNPKT

ผมอยากให้คำว่า ".... แสดงว่าคุณเป็นคนที่มีโลกทัศน์แคบมาก..." อะไรทำนองนี้หมดไป ถ้ามีให้กด Bad ผมว่าสมาชิกคนนี้โดนแบนไปนานละ :)

การ Reply ถือว่า อยู่ใน โควต้า 8 คอมเม้น นี้ด้วยหรือไม่

ถ้าการ Reply อยู่ใน โควต้า ผมไม่เห็นด้วยครับ

ความรู้หลายๆอย่าง มักจะหลุดออกมาตอน Reply

และหลายๆเรื่องก็ ตกผลึก จากการ ตอบกันไปมา

เข้าใจว่าสมาชิกทั่วไปที่คอมเม้นต์มากกว่า 8 ครั้งต่อวัน น่าจะไม่น่าเกิน 20% ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ถ้าลบกลุ่ม C, W ก็น่าจะลดลงอีก คงไม่มีผลกับคนใช้มากนัก และก็เห็นด้วยครับ

ผมว่าผมเห็นด้วยแต่ไม่ทั้งหมดนะครับ คือน่าจะจำกัดปริมาณคอมเมนต์ไว้ที่ 8 คอมเมนต์ต่อวันต่อกระทู้ น่ะครับ คือบางกระทู้มันอาจจะไม่ใช่แค่การถกเถียง แต่อาจจะเป็นการสอบถามในเรื่องเทคนิค หรือเรื่องศัพท์แสงต่างๆ ที่ใช้กันในวงแคบซึ่งคนนอกวงการอาจจะไม่เข้าใจ และต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมอะไรอย่างนี้น่ะครับ คือบางทีมัวแต่ตอบกันอยู่ในกระทู้เดียวกลายเป็นไม่สามารถไปตอบกระทู้อื่นได้ อะไรทำนองนี้ หรืออาจจะจำกัดปริมาณต่อกระทู้ไว้ที่ 4 อะไรแบบนี้น่ะครับ (เวลาผมอ่านศัพท์บางตัวที่ไม่ค่อยคุ้นตา โดยเฉพาะเกี่ยวกับการเงินและหุ้นทีไร มึนทุกทีซึ่งคำบางคำใช้กันเฉพาะมากเลยครับ หรือแม้แต่เทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งยังไม่ได้บัญญัติศัพท์ภาษาไทย หรือยังไม่แพร่หลายผมเองบางทีก็ถามในกระทู้เหมือนกันน่ะครับว่ามันคืออะไร)

ส่วนตัวผมเห็นด้วยกับแนวคิดนี้มากกว่า ประมาณ limit 3-4 ต่อข่าว แต่กี่ข่าวก็ได้

แต่ในทางเทคนิคแล้วมันจะโหลดหนักมากครับ

แต่ขอเสนอว่า อาจจะทำ Module limit นี่ไว้ที่ Google App Engine ซึ่งเร็วส์และประสิทธิภาพดีกว่า

ถ้าใครเห็นว่า 8 comment ไม่พอต่อการใช้งาน ผมแนะนำให้เขียนข่าว เพื่อจะได้เป็น Contributor หรือ Writer ครับ :D

วิธีนี้ก็ทำได้จริง และผมกลัวว่า.. มันจะกลายเป็นช่องทางให้คนที่พยายามก่อดราม่า ก็แค่เขียนข่าว (แค่ข่าวนึง) แล้วก็ได้ Contributor แล้วก็ก่อดราม่ากันต่อไป...

และเดาว่ามาตรการถัดไปก็จะเป็นว่า ต้องเขียนข่าวต่อเนื่อง (ในอัตรานึง) เพื่อรักษาสถานะ Contributor แน่ๆ เลย

ปล. เหลือ 7! เอ้ย เรามีตรา Contributor นี่หว่า :D

อันนี้จริงๆ เป็นความตั้งใจครับว่า Contributor จะมีค่าจำกัดที่มากจนไม่น่าใช้หมดเช่น 40-50

แต่ขั้นทดสอบก็เอาง่ายๆ ไปก่อนครับ

คนคิดว่า คนที่อยากก่อดราม่า ไม่มีความพยายามขนาดนั้นครับ

การเขียนข่าวสักข่าว จริงๆมันจะผ่านกระบวนการคิดมาระดับนึงกว่าจะได้เขียวข่าวออกมา

การพยายามจะเขียนข่าวเพื่อให้สามารถคอมเมนต์ได้ไม่จำกัด เพื่อเอามาก่อดราม่า ผมว่าค่อนข้างจะเกิดน้อยครับ

ผมว่า คนที่ชอบก่อดราม่า คงไม่มีความพยายามมากพอที่จะมาเขียนข่าวเพื่อคนอื่น ๆ หรอกครับ

ถ้าลองเขียนดูสักข่าวนึงจะรู้ว่าการเขียนข่าวเนี่ยมันต้องใช้ความพยายามสูงอยู่นะ แถมจริง ๆ ก็ทำฟรีไม่ค่อยได้อะไรกลับมาด้วย คนที่ทำน่าจะเป็นคนที่ชอบที่จะทำมากกว่าครับ (ผมล่ะคนนึง)

1.ถ้าใครไม่อยากถูกจำกัดจำนวนคอมเมนต์ -> จงมาร่วมเป็น contributor โดยการช่วยกันสร้างสรรค์สังคมด้วยการเขียนข่าวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันครับ

2.ถ้าใครเบื่อเคอมเมนต์แจ้งแก้ไข -> ท่านจงทำตามข้อ 1. และเขียนข่าวให้ถูกต้องไม่มีคำผิด

ถ้าให้ blognone ทำได้ทุกอย่างตามที่ขอมา มีหวัง server overload แหงมๆ เพราะโดยปกติแล้ว drupal ตัวสดๆ เองก็กินทรัพยากรพอตัวอยู่แล้วครับ เคยเช่าโฮสท์ถูกๆ ลง drupal ปรากฏว่าทำ server เค้าเดี้ยงเลยครับ

server ตอนนี้ยังรับโหลดได้อีก 5 เท่าครับ ตัว drupal ที่ใช้อยู่ก็จูนไปมากแล้ว ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด

จูนนี้คือ hardcode หรือเปล่าครับ เคย hardcode ตัว Wordpress พบว่าไม่น่าทำเลย อัพเกรดทีน้ำตาจะไหล ทำได้ครั้งเดียวกลับมาใช้แบบเดิมๆ - -*

Badru Mon, 08/22/2011 - 01:01

8 commentต่อกระทู้หรือรวมทั้งวัน

พอดีเพิ่งนึกออก คือมีบางทีผมก็ไม่เข้าเวบหลายวัน... ทีนี้พอเข้ามาก็มาไล่อ่านเป็น 20-30 หัวข้อ แล้วก็เม้นท์กระจาย.... หึหึ ตอนนี้ก็ทำไม่แบบนี้ไม่ได้แล้วดิ๊...
...เป็นข้อมูลครับ... เราก็มาทดลองกันต่อไปปปปปปปป
ปล.หัวข้อนี้ โดนไป -3 แล้ว.... (>_<)

เวลาคนเข้ามาดู ไม่ต้องเสียเวลาคำณวนโควต้าที่เหลือ
แต่ให้แสดงช่อง Post new comment เลย
แต่มาตรวจสอบโควต้าคงเหลือเมื่อ Submit แทน
น่าจะช่วยลดภาระได้พอสมควร

เพราะยังไงก็ต้องตรวจสอบเมื่อ Submit อยู่ดี
(Server-Side)
เพราะถึงไม่มี Form ให้ Submit ก็สามารถ Submit ได้อยู่ดี
(Client-Side)

ยังไงครับไม่เข้าใจ

ถ้า ณ เวลาที่โหลดหน้ามีโควต้าเหลือเท่าใหร่ มันก็แสดงตัวเลขเท่านั้นอยู่ดีครับ

ผมปิดฟอร์มเพื่ออำนวยความสะดวกว่าไม่ต้องเผลอโพสอยู่แล้ว

สิ่งที่ต้องการแนะนำคืออะไรหรือครับ?

เวลาคนเข้ามาดู ไม่ต้องเสียเวลาคำณวนโควต้าที่เหลือ แต่ให้แสดงช่อง Post new comment เลย แต่มาตรวจสอบโควต้าคงเหลือเมื่อ Submit แทน น่าจะช่วยลดภาระได้พอสมควร

อันนี้น่ะครับ

หรือผมเข้าใจความหมายของเขาผิดก็ไม่รู้นะ

  • ถ้าเป้นเช็คหลัง post ก็ไม่เปลืองทรัพยากร แค่เช็คหลังจากที่ กด post
  • แล้วก็เพิ่ม quota เป้น counter ที่ reset ทุกวันตอน เที่ยงคืน หรือ ตีสองก็ได้ ซึ่ง reset ทั้งหมดในเวลาเดียวกันไม่ต้องรอ 24 ชม ถ้ามันเป็น กฏ ผมว่ามันก็ ok นะครับ ไม่ต้องไปเช็ค ครั้งล่าสุด 24 ชมให้เสียเวลา ซึ่งหมดหมด quota ก็ทำแบบที่คุณ lew ว่า ปิด form ไป ซะ

WDbank Mon, 08/22/2011 - 01:37

เห็นด้วย เป็นทางออกและกรองเนื้อหา comment ทีดีทางหนึ่งครับ

ส่วนตัวจะโฉบเข้ามาอ่านแล้วจากไป ยกเว้นมี comment ขัดลูกกะตา

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เขียนข่าวเลย หมกมุ่นอยู่กับ final year project ทั้งวันทั้งคืน

ผมว่าพิจารณาส่วนนี้ดีกว่าจะได้ไม่กระทบต่อสมาชิกคนอื่นๆ

'มาตรการใหม่อีกเรื่องหนึ่งคือสมาชิกใดๆ ที่ "ไม่สุภาพ" ต่อสมาชิกท่านอื่นๆ จะถูกจัดเข้ากลุ่มควบคุมซึ่งจะทำให้เหลือโควต้าคอมเมนต์เป็น 2 คอมเมนต์ต่อวัน จะเป็นมาตรการเบื้องต้นก่อนการแบนชั่วคราวและการแบนถาวรต่อไป'

สงสัยทิศทางของ Blognone จะตรงข้ามกันกับ facebook Facebook เลือกให้ฮาร์ดดิสก์หมุนช้าลงบางครั้ง เพื่อประหยัดพลังงานในศูนย์ข้อมูล 5 5 +

สิ่งที่ผมอยากให้คุณรู้

1. Blognone มีเครื่องไม่กี่ตัว (ไม่น่าเกิน 10)
2. Facebook มีเครื่องเป็นร้อยเป็นพัน มี DataCenter ของตัวเองด้วยซ้ำ
3. Blognone ไม่ได้มีทุน (ค่าโฆษณาก็ต่างกันมากๆๆๆ) เหมือนกับ Facebook คนก็น้อยกว่าไม่รู้กี่เท่า

สำหรับเว็บเล็กๆ (เมื่อเทียบกับ Facebook) อย่าง Blognone การกำหนดโควต้าก็เป็นสิ่งที่ควรจะทำ ส่วนเรื่องประหยัดพลังงานให้เว็บใหญ่ๆทำกันจะดีกว่าครับ (เขามีเครื่องหลายร้อยตัวที่จะช่วยกันทำงานนะครับ)

แล้วถ้าเป็นระบบ vote comment อ่ะครับ เหมือนใน youtube ผมว่าจะได้เป็นการให้อิสระสำหรับคนทั่วไป อีกทั้งบางคนเห็นด้วยกดกดไลท์ไปเลย ไม่รกดีครับ :)

ผมคิดว่า จะมีกรณีที่ไม่ชอบหรือพูดขัดกัน ก็จะมีการคุยกันเหมือนเดิมแลก comment ไปมา คนเห็นด้วยส่วนใหญ่มักไม่ตอบ ถ้าขัดหูปุ๊ปก็ลุยกันไรแบบนี้

ระบบนี้เราก็เคยลองแล้วครับ ตอนนั้นมีโหวตทั้งบวกและลบ ผลคือคนจะโดนโหวตลบตามชื่อผู้ใช้ เช่น คุณ xyz ชื่อเสียงไม่ค่อยดีจะโดนโหวตลบเสมอ โดยไม่เกี่ยวกับเนื้อหาคอมเมนต์เลย

ผมไม่มีปัญหากับการทำเองครับ หลายๆ โมดูลใน Blognone ผมก็นั่งโค้ดเอง แต่ทรัพยากรณ์มีจำกัด ผมมีเวลาให้ Blognone วันละประมาณสามชั่วโมง ก็ต้องเอาไปใช้ในส่วนที่ได้ผลมากกว่าก่อน

เดี๋ยวนี้สมาชิกเชอะแฮะ

ผมเห็นด้วยตรง สมัครปุ๊บ รออีกวัน อันนี้คงอาจจะใช้ไปได้ตลอด

แต่ที่นับ comments นี่ เป็นเคสน่าสนใจเหมือนกัน

Virusfowl Mon, 08/22/2011 - 04:57

อ้อๆ ลืมแซว คนที่ชอบเผลอนึกว่าปุ่ม "Save" เป็นปุ่ม "Like" กดรัวๆๆ แล้วกลายเป็นเม้นซ้ำ ก็เสียสิทธิ์ฟรีสินี่ 555

เริ่มจะเป็นเว็บปิดขึ้นไปทุกที เข้าใจดีครับว่ามันไม่ใช่เว็บฟอรั่ม(เว็บบอร์ด) จริงๆ แล้วน่าจะปรับปรุงให้ไปในทางสาระบ้างกิจกรรมความรู้บ้างอะไรประมาณนี้ เน้นข่าวมากไปมันก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

อยากได้อะไร อยากให้เว็บเป็นแบบไหน ก็เขียนส่งเข้ามาได้เลยครับ หรือถ้าอยากจัดกิจกรรมก็จัดเลย ถ้าเนื้อหาน่าสนใจ เราก็ยินดีสนับสนุนผ่านช่องทางต่างๆ ครับ

Blognone เกิดขึ้นเพราะผมรู้สึกว่าเว็บไอทีในตอนนั้นมันห่วย และผมมีภาพฝันว่าเว็บที่มันดีเป็นอย่างไร จึงลงมือทำตามนั้น ถ้าคุณคิดว่ามีแนวทางในการสร้างเว็บที่ดีกว่า (ซึ่งก็เป็นไปได้ทั้งนั้น) ก็แสดงให้โลกเห็นครับว่าหน้าตาเป็นอย่างไร

GuBaRaK Mon, 08/22/2011 - 06:58

ผมเสนอว่า น่าจะมีปุ่มกดถูกใจให้กิฟต์เหมือนพันทิพย์ครับ ได้รับกีฟ ก็เพิ่มโควตาในการโพสท์ของวันนั้น อะไรอย่างงี้
555+
ไม่รู้ว่าเวอร์ไปป่าวนะครับ

รู้สึกเหมือนว่าจะต้องการกรองคุณภาพสมาชิกมากกว่าจะกรองคุณภาพเนื้อหานะครับ ถ้าแบบนี้ผมว่าแทนที่จะใช้วิธีลิมิตจำนวนโพส แต่ใช้วิธีแจ้งลบโพสที่ไม่สุภาพดีกว่า แค่เพิ่มปุ่มกดลงในแต่ละโพส พอสมาชิกกดก็มีกรอบโต้ตอบขึ้นมาป้อนสาเหตุของการลบโพสนั้นๆ เสร็จแล้ว mod ก็เก็บสถิติเอาว่าใครโดนเสนอลบโพสบ่อยที่สุด แล้วค่อยออกมาตรการควบคุมเป็นรายบุคคลไป ผมเชื่อว่ามีไม่กี่ท่านหรอกครับที่จำเป็นต้องถูกควบคุมด้วยวิธีการนี้ ทำแบบนี้น่าจะไม่กินแรง cpu มากเท่าวิธีลิมิตจำนวนโพสนะครับ

นอกจากนั้นวิธีลิมิตโพสยังมีผลข้างเคียงอย่างที่ท่านบนๆ เสนอด้วยเช่น บางโพสเค้าเข้ามาช่วยแก้คำผิดก็ถูกหักแต้มเฉยเลย บางโพสมีการถกเถียงในเชิงวิชาการ แต่มันมีการโต้ตอบด้วยข้อมูลไปมาก็อาจจะใช้หลายโพส เค้าก็เหลือโควต้าไปโพสกระทู้อื่นน้อยลง
บางคนโพสน้อย แต่มาจุดไฟแล้วเผ่นไป วิธีลิมิตจำนวนโพสจะจัดการสมาชิกแบบนี้ได้อย่างไร?

ที่แน่ๆ ผมว่ากระทู้นี้จะเป็นกระทู้ที่เปลืองโพสที่สุดเท่าที่ blognone เคยมีมา XD

ปล. อยากรู้ว่า เวลามีการแก้ไขโพส ระบบนับเป็นโพสเพิ่มหรือเปล่าครับ

อันนีค่อนข้างเห็นด้วยครับ ถ้ากรองเนื้อหาตรงนี้แทนอาจจะไม่ต้องถึงกับจำกัดกระทู้เลยก็ได้
สาเหตุใหญ่ที่เกิดการโต้เถียงน่าจะมาจากโพสต์ที่ไม่สุภาพนี่แหละครับ

ถ้าโดนเพ่งเล็งก็สมัครนอมินีมาคอมเมนต์สิครับ สรุปว่าที่เสนอคนที่โดนเพ่งเล็งก็หลุดออกอยู่ดี

tunnnnnn Mon, 08/22/2011 - 08:22

อิสรภาพ ถูก จำกัด...

มองอีกมุมนะครับ ว่าการ ให้คนได้แสดงออกทางความคิดหรือถกเถียงกันอย่างอิสระ (โดยไม่ใช้คำหยาบคาย) ผมเห็นว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่จะกลับทำให้ ผู้อ่าน(ชม) ใด้มุมมองที่กว้างขึ้น ถึงแม้ว่าในบางทีจะมีการ แถถูไถกันไปบ้าง และต้องไม่ลืมว่า ไม่มีใครที่ไม่เคย ทำผิดหรือคิดผิด นะครับ ให้หลายๆคนได้แสดงออกกันอย่างเต็มที่น่าจะดีกว่านะครับ...

เห็นด้วยเช่นกันครับ แต่รู้สึกว่าที่นี่จะมีแนวคิดที่ค่อนข้างตรงข้ามกับแบบนี้ คือเขาค่อนข้างป้องกันและจำกัดในสิ่งที่พวกเขาดูแลอยู่ครับ ซึ่งมันก็เป็นแนวคิดคล้าย ๆ กับ Apple นั่นแหละ

ใครที่ไหนจำกัดว่าคุณควรพูดอะไรครับหรือไม่ควรพูดอะไรหรือครับ? หากคุณพูดอะไรไปก็ควรต้องยอมรับกับผลที่เกิดขึ้นว่าจะต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วยกับคุณและไม่เห็นด้วยกับคุณเสมอ การจะมาเอาแต่ใจว่าทุกคนจะต้องเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณพูดนั้นมันเกินไป และผมคิดว่าคุณไม่พอใจเรื่องนี้ เรื่องลิมิต 8 คอมเมนต์นั้นไม่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณพูดมาเลยซักนิด

"เห็นด้วยเช่นกันครับ แต่รู้สึกว่าที่นี่จะมีแนวคิดที่ค่อนข้างตรงข้ามกับแบบนี้ คือเขาค่อนข้างป้องกันและจำกัดในสิ่งที่พวกเขาดูแลอยู่ครับ ซึ่งมันก็เป็นแนวคิดคล้าย ๆ กับ Apple นั่นแหละ"

เข้าใจนะครับว่าคุณไม่พอใจเว็บนี้รวมถึงทั้งผู้ดูแลเว็บ แต่พฤติกรรมของคุณมันเหมือนจะยิ่งกว่าคนที่คุณไม่ชอบอีกนะครับ

ผมแค่ยืนยันแนวคิดถึงความอิสระในการแสดงความคิดเห็นครับ ไม่อยากให้ถูกจำกัดด้วยจำนวนของการแสดงความคิดเห็นในแต่ละวัน เพราะหลายหัวข้อผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์(ในความเวิ่นเว้อของเนื้อหาอยู่บ้าง)

อย่างไรก็ดีผมก็ยอมรับในกฏของพื้นที่ตรงนี้ครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ถูกใจผมก็ตาม แต่ก็มีหลายส่วนที่เป็นส่วนใหญ่ในที่แห่งนี้ทำให้ผมพอใจอยู่ครับ ตั้งแต่เนื้อหา คุณภาพของสังคม เป็นต้น

การถกเถียงกันโดยประเด็นยังอยู่ที่เดิม และเนื้อหาของข้อมูลยังเหมือนเดิมทุกคอมเม้น ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆทั้งต่อคนอ่านและคนคอมเม้นต์นะครับ

จริงอยู่ที่การทำให้เหลือ 8 ครั้งต่อวันนั้นทำให้สามารถเมนต์ได้น้อยลง แต่ก็ทำให้ผู้คอมเม้นตรวจดูสาระของคอมเม้นที่ตัวเองตอบไปด้วย ผมว่ามันเป็นการเพิ่มคุณภาพของคอมเม้นต์ทั้งทางตรงและทางอ้อมเลยนะครับ

เห็นด้วยครับ รำคาญพวกเน้นด่าไม่เน้นความรู้เหมือนกัน

แต่ที่รำคาญมากกว่าคือพวกตอบคำถามด้วยคำถาม (เปลืองโพสเราอีก -_-")

เปล่าครับ เมืิ่อวานกะจะคอมเม้ัน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะมันไม่ขึ้นอะไรเลยตรงส่วนคอมเม้นทั้ง ๆ ที่ Log In อยู่ (ช่วง 3 ทุ่มครับ)

ถกกันได้เท่าเดิมครับ พอครบ 8 คอมเมนต์แล้วคุณต้องรออีก 24 ชม. หมายถึงคุณมีเวลาให้ทบทวนเหตุผลที่คุณใช้ถกกันอีก 24 ชม.

ถ้าคุณใช้สติทบทวนดีแล้ว ว่าน่าจะลุยกันต่อ เหตุผลเมื่อ 24 ชม.ก่อนไม่ได้เกิดจาก "อารมณ์" มากกว่า "เหตุผล" ไม่ได้เกิดจาก "อีโก้ล้วนๆ" ก็ซัดกันต่อเลยครับ

แต่หลังจากเลย 24 ชม.ไปแล้วก็น่าจะอารมณ์เย็นลง แยกกันนอนคนละมุมห้องแล้วค่อยมาคุยกันใหม่ แล้วก็แฮปปี้เอนดิ้งจุ๊บๆ

ก็แปลว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญเถียงกันไปก็ใช้แต่อารมณ์ พอหมดอารมณ์ก็เลิก มีกะใจอยู่แค่นั้นไม่ต้องเถียงกันให้รกดีกว่า น่ะสิครับ

ถ้าผ่านไป 24 ชั่วโมงแล้วยังมีกะใจจะเถียงอยู่ก็แปลว่ามันเรื่องสำคัญจริงๆ

บางคนก็ต้องทำงานอ่ะครับ ลืมบ้างอะไรบ้าง
ที่จริงการคอมเม้นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลยนะครับ
ไม่ต้องคอมเม้นเลยก็ได้

เห็นด้วยครับที่มีมาตรการนี้ แต่อยากเสนอนิดนึง มันอาจปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นไปพอสมควร
อาจใช้วิธี hide หรือ grouping หรือใดๆ เพื่อลด time line ในส่วน comment ทำให้คนนั้นยังสามารถเขียนอะไรออกมาได้อยู่ครับ ถ้ายังมากไปค่อย ban อะไรประมาณนี้ครับ

แต่ถ้าเกรียนมากไป แบน เลยก็ได้ อิอิ

คิดว่าอีกวิธีหนึ่งที่ดีคือ ใช้ plugin commenting system เช่น disqus มาช่วยทำให้ มีการ vote comment อะไรแบบนี้อะครับ
น่าจะช่วยให้ ผู้อ่าน กรอง comment ที่ดีๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ

ที่อยากได้จริงๆนะครับ ระบบแจ้งเตือนคนที่ตอบหัวข้อ post ของเราเวลาเราถามสิ่งที่ไม่เข้าใจไปครับ เพราะบางที ไม่รู้ว่าคนมาตอบเมื่อไหร่ เหมือน facebook อ่ะครับ คิดว่าหน้าจะมีประโยชน์ ต่อการแลกเปลื่ยนความคิดทาง IT

รับทราบครับ
ตรงจุดนี้ผมดูจากสถิติใน Google reader เวบ Blognone มีข่าวเข้ามาเฉลี่ย 87.3 ข่าวต่อสัปดาห์หรือ 12 ข่าวต่อวันโดยเฉลี่ย

ผมขอนั่งเทียนคิดเองเออเองว่า 1 ข่าวสมาชิกทั่วไปแสดงความคิดเห็นอย่างต่ำ 2 ครั้ง เป็น 24 ครั้ง
คิดต่อไปว่า มีแค่ 7 ใน 10 ข่าว ที่อยากแสดงความคิดเห็นจริงๆเหลือ 16 ครั้ง

ในมุมของผมเลยอยากให้เพิ่มเป็น 16 ครั้งต่อวันดังที่นั่งเทียนข้างต้นครับ

ได้เห็นคอมเมนท์ยาวๆก็งานนี้หละ ฮ่าๆ

เข้าใจกับเจ้าของเว็บแต่รู้สึกไม่ดีเลยในการจำกัดครั้งนี้ ในการแสดงความเห็น แม้ว่าส่วนตัวจะไม่ได้เม้นบ่อยขนาดนั้นก็ตาม

077023 Mon, 08/22/2011 - 12:45

ผมชอบอ่านนะ คอมเม้นยาวๆ

ยิ่งคอมเม้นเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งอยากเข้ามาอ่านเท่านั้น

แต่บางทีก็รำคาญบางกรณีที่คอมเม้นเยอะเกินไปเหมือนกัน

ผมเห็นด้วยกับการทดลองใช้การจำกัดจำนวนความคิดเห็นต่อวัน เป็นแนวทางแรกในการผลักดันให้เกิดความคิดเห็นที่น่าจะเน้นคุณภาพมากกว่าเน้นปริมาณ

ผมชอบให้เถียงกันนะ แต่ผมชอบให้เถียงกันทีสองทีจบ คืองัดเหตผลมายาวๆเลย ไม่ต้องเถียงไปเถียงมา เสียเวลาอ่านและได้สาระน้อยลง เถียงกันไม่จบก็ให้ถือว่า agree to disagree ไป ช่วงหลังๆมานี่ผมแทบจะเลิกอ่านความคิดเห็นในเว็บไปแล้ว ผมอ่านแล้วรู้สึกไม่ค่อยได้อะไร เหมือนรอตั้งท่าจะเถียงกันมากกว่ามาแสดงทัศนะกัน

มารอดูผลกันเถอะครับ ถ้าเลขจำนวนต่อวันไม่พอ ด้วยเหตผลที่ดี ผมคิดว่าทางเว็บก็เพิ่มให้ครับ :)

ผมดูจาก Twitter @Blognone Tweet เฉลี่ย 8.1/วัน
แปลว่ามีข่าวประมาณ 8.1 ข่าว ถ้า comment แค่ข่าวละ 1 Comment ยังไม่พอเลยนะครับเนี่ย ขาดไป 0.1
แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับผมหรอก ผมไม่ค่อยได้ comment เท่าไหร่

ผมไม่เห็นด้วยเลยครับ กับการจำกัด comment

กลายเป็นว่าความสามารถของคนในการแสดงความคิดเห็นลดลง
เพราะสมมติ ผมเกิดแสดงความคิดเห็นอย่างมีสาระ อยู่
โต้ตอบกันเกิน 8 รอบ ผมก็ต้องหยุดแสดงความคิดเห็น...

หรือถ้าวันนั้นมีเกิดมีข่าวที่ผมสนใจแสดงความคิดเห็นมากกว่า 1 ข่าว
ก็กลายเป็นว่าโอกาสในการโต้ตอบของผมลดลงไปอีก

ผมคิดว่าการ comment นั้น ไม่ควรมีการจำกัด
แต่ควรจะหาระบบ rating มาใช้มากกว่า

แนะนำดูระบบของ Quora เขาสามารถ hide comment ที่ไร้สาระได้
พอ comment ไร้สาระโดน hide ไปเยอะๆ คนก็จะลดการ post comment ไร้สาระไปเอง

  • กลับไปนั่งคิดประเด็นอีก 24 ชั่วโมงแล้วก็กลับมาคุยต่อได้ครับ ผมไม่ได้ว่า
  • ทำไมไม่ควรจำกัดหรือครับ ขอเหตุผลที่หนักแน่นกว่านี้ได้ไหม ผมควรปล่อยให้คอมเมนต์แบบไม่มีสาระ (อย่างที่คุณว่า) เพื่อไม่ให้โดนแสดงผล???

เราไม่ใช่ Quora ครับ เขามีแนวทางของเขา เรามีแนวทางของเรา ผมไม่มีปัญหาถ้ามีเหตุผลที่จะใช้รูปแบบเหมือนกับ Quora ถ้ามีเหตุผลที่โน้มน้าวผมได้

เห็นด้วยครับ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่กลุ่มที่โดนจำกัด

ตัวผมเองก็ยังนึกไม่ออกเลยว่า มีวันไหนที่คึกขนาดโพสต์เกิน 8 ความเห้น

8 โพสส์ต่อ วัน ผมว่าน้อยไปนะคับ
ข่าว blognone แต่ละวันก้หลายโพสส์อยู่
น่าจะทำ like , dislike
comment ที่โดน dis เยอะๆก็ กำจัด user นั้น 8 โพสส์ต่อวัน หรือ 1 โพสส์ต่อกะทู้เป้นเวลา กี่ชั่วโมง กี่วัน ถึงจะปลดยศได้
ส่วนใหญ่ผมก็มาอ่านข่าวและอ่านคอมแมนเพื่อสาระความรู้นะครับ คิดว่าคอมแม้นที่มีประโยชน์สาระก็เยอะนะครับยังไงก้อย่าให้กระทบกับผู้อ่านส่วนใหญ่นะครับ

เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่มีหลักการคิด
เอาปัญหาโน้นมาปนกับปัญหานี้แล้วแก้รวมกันมันจะแก้ได้เหรอครับท่านนายก

โดยตัวเองเป็นสื่อ ที่ต้องการเสรีภาพในการนำเสนอข่าว
แต่มีกฏบังคับสมาชิกโดยจำกัดการแสดงความเห็น
มันดูไม่ฉลาดและขาดความเข้ากันได้

กลไกที่เว็บใหญ่ๆใช้กันเช่น like, dislke, report abuse
ที่เขาใช้กันไม่ใช่ว่าความคิดอยากเลียนแบบ แต่กระบวนการนี้ได้ถูกทดสอบกับคนหมู่มากแล้วว่ามัน
ถูกยอมรับได้มากที่สุดในเวลานี้ในเว็บที่ประกาศตัวเองว่าเป็นเว็บ สาธารณะ(หรือเว็บนี้เป็นเว็บทำเล่นๆส่วนตัว)

ผมละสงสัยนักว่า ความเห็นแบบไหนจึ่งจะถือว่าเป็นความเห็นแบบไร้สาระ
เอาบรรทัดฐานใครเป็นคนตัดสิน

มันอาจจะมีความเห็นที่แตกต่างแต่ด้วยกลไลการจำกัดเหล่านี้จะทำให้เกิดความแตกแยกซะมากกว่า
จะคอยดูว่าการแบ่งชนชั้น จะแก้ปัญหาเกรียนๆ ได้จริงหรือไม่

เราไม่เคยประกาศตัวว่าเป็นเว็บสาธารณะนะครับ ถ้าหาเจอข้อความนี้ก็เอามาให้ผมดูได้ครับ

มันยังไงละครับเนี้ย

"Blognone ก่อตั้งเมื่อ 27 สิงหาคม 2004 โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นเว็บข่าวไอทีอิสระ มีเนื้อหาคุณภาพ ให้ข้อมูลในเชิงลึกที่คนในวงการไอทีสนใจ และเป็นชุมชนของกลุ่มคนไอทีที่มีความสนใจร่วมกัน"

คำพูดของคุณที่บอกว่าไม่ใช่มันเหมือนกับการตีคำเล่นความ บอกว่าไม่ใช่ทั้งที่เนื้อหา
และการแสวงหาประโยชน์ของคุณมันก็เป็นผลพลอยได้จากสาธารณชนทั้งนั้น

การที่มีคนอ่านคนแสดงความคิดเห็นมันก็เป็นการ contribute ให้กับเว็บไซต์เหมือนกัน
ผมเข้าใจคำว่า founder, co-founder ผม respect ในสิ่งที่คุณทำกันมานะ

แต่สิ่งที่พวกคุณกำลังจะทำกันต่อจากนี้ มันดูถูกคน
ด้วยการตีกรอบความคิด จำกัดการแสดงความคิดเห็นของสาธารณชน
มันจะดีมันจะแย่ ทำไมไม่ให้ สาธารณชนเขาตัดสิน

การจำกัดนั้นไม่ว่าจะเป็น 1 เป็น 8 เป็น 1000 มันก็ได้แสดงทัศนคติของกลุ่มคนที่เรียกว่า
เป็นเจ้าของเว็บว่ามีความคิดอ่านยังไงกับสาธารณชน

มันเหมือนกับค่ายเพลงฟ้องคนโหลดเพลงเถื่อน คุณฟ้องลูกค้าคุณเอง
ถามว่าวันนี้ยังมีการโหลดเพลงเถื่อนเหมือนเดิมหรือไม่ ก็ตอบได้ล้านเปอร์เซนต์ว่า มี
มันไม่ได้แก้อะไร เพราะคุณไม่ได้เสนอวิธีเยียวยาและปรับปรุงวิธีคิดคุณเองใหม่
คุณได้แต่คิดว่าคุณสามารถเปลี่ยนความคิดคนอื่นได้ คุณนั่นแหละขาดการปรับตัว

กลุ่มคนที่ดราม่าและเกรียนนั้นในสมาชิก 19000 คน
มันคิดเป็นกี่ % และการที่คุณแก้ปัญหาด้วยวิธีที่คุณว่ามันกระทบกี่ %

บวกลบแล้วไร้ซึ่งความสมเหตุผล ในกระบวนการแก้ปัญหา

  1. การควบคุมในบางระดับมีมาเสมอ เว็บที่คุณเป็นทุกวันนี้ไม่ได้เกิดมาจาก "สาธารณะชนตัดสิน" สแปม, การเนียนโฆษณา, ความพยายามเลียบเคียงหาผลประโยชน์มีเรื่อยมา เรื่องพวกนี้มีคนตัดสินใจเสมอครับ ในสมัยแรกเราไม่ต้องแม้แต่ login เพื่อให้คนแสดงความเห็น และมาตรการแรกๆ คือการบังคับล็อกอิน ถ้าจะเรียกร้องว่าทุกอย่างต้องให้สาธารณะชนตัดสินคงต้องเปิด anonymous ซึ่งผมคงไม่ทำ
  2. ถ้าคุณเชื่อว่าเว็บในแบบที่คุณอยากเห็นจริงๆ คือเว็บที่ทุกคน (ไม่ว่ามีตัวตนจริงหรือไม่) สามารถทำเว็บที่ดีได้ ลองเลยครับ ลงมือ ถ้าคุณทำแล้วดีผมอาจจะเอาอย่างคุณก็ได้
  3. ผมไม่ได้เชื่ออย่างสนิทใจว่าแนวทางนี้จะแก้ปัญหาทุกอย่างได้ ถ้ามันแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ผมก็ไม่ได้มีปัญหาที่จะยกเลิกเมื่อได้เห็นผล
  4. ตัวเลขคนเกรียนมีกี่คนผมคงไม่ทราบได้ (เกรียนของคุณกับเกรียนของผมไม่เหมือนกัน แต่ 8 คอมเมนต์นั้นเหมือนกันทุกคน) แต่ตัวเลขคนได้รับผลกระทบนี้น้อยกว่า 1% ของทั้งเว็บครับ และเชื่อว่าหลังจากนี้ที่มีการประกาศ คนจะเลิกคอมเมนต์ "+1" ส่งผลให้ต่ำลงมาก
  5. ผมเคารพในการแสดงความเห็นเสมอแม้จะมีความเห็นต่างกัน แต่เราชัดเจนว่าเราจะเคารพความเห็นของผู้ที่ออกความเห็นอย่างเดียวน้อยกว่าความเห็นของผู้ที่ลงมือทำเสมอ

คือผมสงสัยเหมือนกันนะครับ เหมือนว่าคุณจะไม่พอใจทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ก็ยังมีความพยายามอย่างมากที่จะมาวิจารณ์แบบยาวๆ โดยที่ไม่เสนออะไรเป็นรูปธรรม

ถ้ามีเวลาว่างขนาดนี้ น่าจะลองเปิดเว็บที่ดีกว่า Blognone ให้เห็นนะครับ พิสูจน์ให้ดูหน่อยว่าแนวทางของเราผิด (ซึ่งเราก็ยินดีมากที่จะแข่งขันในเรื่องนี้)

ตกใจอีกครั้ง
เจ้าของเว็บทั้งสองบอกผมไปเปิดเว็บเอง งงกันเลยทีเดียว

มันเหมือนกับชาวบ้านไม่พอใจตำรวจจับโจรไม่ได้ซักที
แล้วตำรวจบอกให้ชาวบ้านไปเป็นตำรวจจับโจรเองแล้วกัน

คุณไม่ได้อ่านหรืออีโก้มันเยอะจนตามันบอด
ผมเสนอไปแล้วแนวทางที่เป็นรูปเป็นร่าง
ว่าอะไรที่มันได้รับจากสาธารณชนก็ควรให้สาธารณชนตัดสิน
ส่วนกระบวนการ 1,2,3 ต้องให้ผม coding ให้ด้วยเลยหรือเปล่า

"เว็บในฝัน" ของใครครับ ?
ประเด็นที่เถียงกันอยู่เนี้ยมันก็เป็นเรื่องของเว็บคุณทั้งนั้นแหละครับ

ทำไมบอกให้ผมโน้นน้าวคุณ คุณต่างหากต้องโน้นน้าวผมโน้มน้าวสาธารณชน
ถ้าความคิดพวกคุณเจ้าของเว็บเป็นเช่นนี้แล้ว มันก็น่าอดสู

อาจจะเป็นเพราะพวกคุณไม่เคยแจงรายได้
รายได้ที่ก่อเกิดจากสาธารณชน
ถึงวันนี้คุณจะบอกว่าคุณจะยอมทำฟรีแล้วที่ผ่านมาคืออะไรคุณได้ไปเท่าไหร่
จริงๆเรื่องเหล่านี้ สาธารณชนไม่เคยไปทักท้วงหรอก เขานับถือคุณในฐานะเจ้าของ
แต่สิ่งที่คุณกำลังจะทำกับสาธารณชนต่อไปนี้คือ "การจำกัด" มันตัวแทนคำขอบคุณสินะ

น่าเบื่อที่จะถกเกียงต่อไป ขอทิ้งท้ายด้วยเรื่องขำขันของรัฐบาลประเทศสารขัน
วันนี้รัฐบาลประกาศให้ทุกคนห้ามขี้เกิดวันละ แปดครั้ง สาเหตุจากมีประชาชนบางคน
ไร้ซึ่งจรรยาบรรณในการขี้ ขี้เรี้ยราด ไม่เป็นที่เป็นทาง จึงจำเป็นต้องจำกัดการขี้
ของประชาชนทุกคน ยกเว้นรัฐมนตรีและครอบครัวรวมถึงคนขับรถและคนสวน

เพราะที่นี่ไม่ใช่สถาณที่ราชการครับ พวกเขาไม่ใช่ตำรวจ ไม่ได้ได้เงินจากภาษีของคุณ

แม้แต่รัฐบาลที่ได้เงินจากภาษีประชาชน เวลาออกนโยบายก็ต้องมีคนได้และคนเสีย คนที่ไม่เห็นด้วย

สำหรับรัฐบาลแล้ว ก็ต้องยึดเสียงข้างมากของประชาชนแต่แม้แต่ใน Blognone ก็ไม่ได้มีใครคัดค้านมากขนาดนั้น คุณเองเป็นเสียงส่วนน้อยด้วยซ้ำ ไม่สามารถโน้มน้าวคนอื่นให้มาร่วมเห็นด้วยกับคุณได้

และที่นี่ก็ไม่ใช่ประเทศ เขตพื้นที่การทำเว็บมันไม่มีดินแดนจำกัด คุณจะไปเล่นที่อื่น หรือไปทำเอง มันง่ายกว่าการย้ายสัญชาติ หรือไปตั้งประเทศใหม่หลายเท่า

ทุกคนมีอีโก้ คุณก็มี ไม่งั้นคุณไม่มาเถียงอยู่นี่หรอก

มันบังตาคุณอยู่รึเปล่าล่ะ

นั่นสิไม่เข้าใจอะไรก็ถามได้นะครับผมเหนื่อยจะอธิบายทั้งหมด

เอาง่ายๆ คือทำไมต้องแจกแจงต่อสาธารณะชน? หรือพูดตรงๆ คือเราหลงเข้ามาติดเว็บส่วนตัวของเค้าเองนี่

คุณรู้จักคำว่าทรัพยสินส่วนบุคคลไหม

ขำคุณมากกว่า คุณคิดว่าคุณเป็นใครที่จะบอกให้เจ้าของเวปทำตามคุณ

เจ้านายหรือก็ไม่ใช่ ผู้มีพระคุณ ผู้ให้ทุนอุดหนุน ก็ไม่ใช่

หรือคุณคิดว่าคุณเป็นลูกเขาที่เขาต้องตามใจคุณ

พูดง่าย ๆ ว่าเว็บนี้ไม่เคยง้อคนครับ XD และเพราะไม่ง้อนี่แหละถึงทำให้มันมีแนวทางของตัวเองและคนที่ชอบแนวทางนั้นมารวมตัวกันอยู่

ผมแค่รู้สึก WM ที่นี่เค้าเห็นว่าอะไรที่มันน่าปรับปรุงเค้าก็ตกลงกันแล้วก็ทำ ผมอ่านที่นี่มาตั้งนาน ก็เห็นเค้าลองผิดลองถูกมาหลายอย่าง คนที่ไม่เห็นด้วยหลายทีก็เห็นเค้าเข้มเหมือนกัน ที่นี่ผมไม่ค่อยกล้าออก คห. เท่าไหร่หรอกครับ ที่นี่ข้อมูลค่อนข้างแน่นกัน

ส่วนเรื่องนี้เท่าที่ผมเข้าใจ ก็เป็นการลองอย่างหนึ่งของ WM เค้า นะครับ อ่าน คห.ข้างบนเค้าก็บอกแล้วนี่ลองดูสักวันละ ๘ ก่อน โดยสรุปก็ถึงแม้ยุทธวิธีครั้งนี้อาจไม่ถูก แต่ยุทธศาสตร์(ใจที่รักการพัฒนา) ยังมีอยู่ ผมก็โอนะครับ เพราะคงจะเห็นการปรับปรุงไปเรื่อยๆ

คล้อยตามเหมือนกันครับกับความเห็นคุณ scarface เพียงแต่การแสดงออกฮุคตรงไปหน่อย อาหารอร่อยผมว่ามันต้องค่อยๆ เคี้ยว เนื้อหาดีก็ต้องค่อยๆ ป้อนเหมือนกันนะครับ

เว็บใหญ่ๆ ที่คุณว่ามาจะโน้มน้าวผมได้ควรศึกษามาให้ดีกว่านี้นะครับ คุณเห็นระบบ "dislike" ใน YouTube ไหมครับทำให้เกิดอะไรขึ้น??

report abuse ต้องใช้คนดูแลและพิจารณาครับ "ผมไม่ว่างพอ" และการยกสิทธิให้ตัวแทนอื่นๆ สร้างปัญหาหลายมาตรฐานใน Pantip.com มาต่อเนื่อง เพราะผู้รับเรื่อง report abuse มีหลายคน

ผมเลือกที่จะไม่ลงไปตัดสินเองว่าความเห็นไหนไร้สาระ แต่จำกัดปริมาณเพื่อให้ทุกคน "คิดก่อนพิมพ์" แน่นอน ผมอาจจะผิด และผมตัดสินใจผิดหลายครั้งครับ สิ่งที่คุณเสนอหลายอย่างผมเคยทำมาแล้วตั้งแต่หลายปีก่อนเช่น Dislike มันไม่แก้ปัญหาอะไรนอกจากสร้างความไม่พอใจต่อกัน เนื้อหาการพูดคุยจะลดความสร้างสรรค์ลงไปอย่างไม่จำเป็น

ผมยืนยันว่าเว็บนี้ "แบ่งชนชั้น" ครับ โลโก้ตัว C, W, และ F นี่ยืนยันเป็นอย่างดี เราแบ่งชนชั้นตามความทุ่มเทเสมอ เราเชื่อว่าในโลกออนไลน์ที่ทุกคนสามารถสร้างตัวตนใหม่ได้ไม่จำกัด เราควรจะฟัง "ตัวตน" ที่ผ่านการพิสูจน์ตัวเองมาแล้วมากกว่าตัวตรทั่วไป

ระบบ dislike ใน youtube ไม่ได้สร้างปัญหาให้คนใช้เลยแม้แต่ประการเดียว
มันคือส่วนที่สะท้อนความคิดของคนส่วนใหญ่ ปัญหาที่คุณว่ามันคืออะไรเหรอครับ
ผมจะได้แนะนำ youtube เขาไป

report abuse ในกรณีใช้คำหยาบคำคำต้องห้าม
ไม่ได้เกี่ยวกับการตีความความเห็นต่างๆว่ามีสาระหรือไม่มีสาระ
ซึ่งถ้ามีก็ควรปล่อยให้สาธารณชนตัดสินไปสิครับ

คุณเชื่อผมเถอะว่าการจำกัดของคุณไม่ได้ช่วยให้คนคิดก่อนจะพิมพ์ถ้ามันอยากจะเกรียน

การ dislike ถ้าเขาจะไม่พอใจก็ควรจะไม่พอใจต่อสาธารณชนไม่ใช่กลุ่มคนใดคนหนึ่ง
ซึ่งผมว่าก็สมควรแล้วถ้าทุกคนเข้ามาที่นี่ด้วยกติกาเดียวกัน

ที่นี่ผมว่าไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไร เราจะมีตัวตนไปทำไมเยอะเยอะ
ถ้าเราต้องมีมากกว่าหนึ่งก็ไม่น่าไว้ใจว่าสิ่งที่เล่าจะเป็นจริง

ผมเพิ่งทราบว่าคุณเรียกโลโก้เหล่านั้นว่า ชนชั้น
ผมเข้าใจผิดมาตลอดนึกว่า มันเป็นตัวแทนการยอมรับที่สาธารณชนแห่งนี้มอบให้
เพื่อแสดงว่าบุคคลเหล่านี้มีความสำคัญกับที่แห่งนี้อย่างไร

ผมไม่ได้มาก่อกวน ถ้าคุณอยากได้ความเห็น นั่นแหละที่ผมให้กับเว็บนี้

คุณอาจจะไม่เรียกว่าปัญหาครับ แต่ผมเห็นว่าการที่ top comment ของวิดีโอดีๆ เป็นการด่าคนกด dislike สี่ห้าคนมันแทบทุกวิดีโอเป็นปัญหา ผมไม่คิดจะให้เว็บนี้เดินทางเดียวกัน

ผมเข้าใจครับ และผมเคารพการแสดงความเห็นของคุณ แต่ผมบอกได้ว่าในฐานผู้ดูแลเว็บนี้ ผมไม่รู้สึกว่าโน้มน้าวว่าต้องทำตามความเห็นของคุณแต่อย่างใด

ผมเชื่อว่าภาพ "เว็บในฝัน" ของคุณและของผมต่างกัน และหวังว่าคุณจะเคารพการตัดสินใจของผมเช่นเดียวกัน

อยากให้คุณ scarface รับฟังผมนิดนึง ผมไม่ได้จะมาร่วมซ้ำเติมแต่อย่างใดนะครับ

พูดตามตรงว่าความเห็นมันของคุณ คือการแสดงความชอบ - ไม่ชอบ, อยากได้ - ไม่อยากได้ แต่ไม่มีเหตุผลใดๆ รองรับว่าความชอบของคุณนั้นมันดีกว่าที่เป็นอยู่อย่างไร ซึ่งถ้าคุณอยากโน้มน้าวใครสักคน ... เหตุผลของคุณก็ยังไม่พอครับ

การ dislike ถ้าเขาจะไม่พอใจก็ควรจะไม่พอใจต่อสาธารณชนไม่ใช่กลุ่มคนใดคนหนึ่ง ซึ่งผมว่าก็สมควรแล้วถ้าทุกคนเข้ามาที่นี่ด้วยกติกาเดียวกัน

8 ความเห็นนี่แหละครับกติกาเดียวแน่นอน like - dislike มันไม่มีมาตรฐาน ความชอบแบ่งมาตรฐานไม่ได้ เป็นได้ก็แค่ตัวชี้วัดแนวโน้มครับ ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวก็แตกต่างกันไปในแต่ละสังคม

แต่ 8 ความเห็นนี่มาตรฐานเดียวแน่นอนครับ ขออนุญาติย้อนและย้ำคำพูดคุณอีกครั้งนะครับ

ซึ่งผมว่าก็สมควรแล้วถ้าทุกคนเข้ามาที่นี่ด้วยกติกาเดียวกัน

เดี๋ยวจะมีคนมาบอกว่า คุณไม่ใช่เป้าหมาย คุณเข้ามาผิดที่ ถ้ายอมรับกฏที่นี่ไม่ได้ก็อย่าเข้ามาเพราะยังต้องเจออีกหลายเรื่อง เถียงหรือให้เหตุผลมากก็หาว่าแถโดยเฉพาะเมื่อความเห็นนั้นอยู่ตรงข้ามตัวเอง แต่เมื่อความคิดเห็นนั้นอยู่ฝ่ายเดียวกันถูกผิดยังไงไม่ต้องวิเคราะห์จะรีบยกหางกันเลยทีเดียว

ผมว่ามันเป็นเรื่องของทางเทคนิคมากกว่าครับ คุณต้องลองมาเป็น admin สักเว็บ แล้วคุณจะรู้ว่าการให้เว็บมัน up time ได้ 100% มันยากขนาดไหน (เว็บล่มทำไง) แล้วต้องดูแลเรื่อง spam อีกและอื่นๆอีกมากมาย เช่นการทำ backup

มันไม่ยากขนาดนั้นหรอกครับเฮีย
ผมว่ามันต้องแก้ไปทีละประเด็น
เรื่องการรับโหลดของ server ที่เป็นเว็บ
สามารถทำการ load balancing โดยการนำ
nginx มาขวางลำทำเป็น proxy และ load balance
พ่วงกับ web server อีก 2 ตัวด้านหลัง
สำหรับเว็บที่มีอัตราการ read มากกว่า write มันรองรับได้สบาย
ซึ่งก็จะทำให้รับ concurrent user เพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าตัว
ทีนี้อาจจะติดคอขวดที่ SQL Server

ถ้าไม่รู้จักใช้ connection pool มันจะกลายเป็น
DOS attack Database Server ตัวเอง รวมกันการเขียนคำสั่ง SQL
แบบพื้นๆและไม่เคยวัด performance ว่า 1 SQL กระซวก CPU เครื่องไปเท่าไหร่
วัดเวลาแล้วกินเวลาไปเท่าไหร่

SQL Server ถ้ามีตัวเดียวยังไงก็ไม่รอดต้องทำ เรื่อง Clustering เพิ่มขึ้นมาอีกตัว
มันอาจจะยื้อเวลาให้ได้ซักระยะ จนกว่าท่านเจ้าของเว็บฟ้าประทาน
จะมีเวลาไปศึกษา NOSQL กันจริงๆจัง เพื่อแก้ปัญหาการ scalability

จริงๆผมพูดมากไปก็ไม่ดีเดี๋ยวท่านเจ้าของเว็บไล่ผมไปทำให้ดูอีก
ผมเผ่นดีกว่า ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด

ที่คุณกล่าวมาทั้งหมดนั่นอาจไม่ยากจริงอย่างที่คุณพูดนะครับ ... แต่ถามว่าเว็บข่าว "ต้องทำขนาดนั้น" เลยเหรอครับ

ผมเข้าใจนะครับว่าคุณมีความรู้ แต่ที่คุณทำน่ะขี่ช้างจับตั๊กแตนครับ เว็บนี้คนดูแลสองคนครับ มีรายได้เข้าเว็บจากการแปะโฆษณาสองตำแหน่ง

ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีนะครับ แต่มันเกินไป แต่ถ้าคุณ lew และคุณ mk มีรายได้หลักมาจากเว็บนี้ผมว่าเค้าคงไม่หลีกเลี่ยงที่จะทำตามคำแนะนำของคุณหรอกครับ

อย่างที่คุณ lew บอกครับ อยากได้เว็บที่ถูกใจคุณก็ต้องทำเอง นี่ไม่ใช่การไล่ครับ แต่เป็นคำเชิญให้คุณร่วมกันสร้างสรรค์เว็บดีๆ แบบที่คุณต้องการออกมา

คำพูดใดๆ ก็ตามมันตีได้สองมุมเสมอครับ ผมไม่อยากให้คุณเก็บเอาไปแต่ด้านร้ายๆ ลองนึกถึงแง่ดีบ้าง

อะไรที่ไม่ถูกใจผมก็ทำเองเหมือนกันครับ

สุดยอดครับ แต่ดูคุณจะหลงประเด็น (หรืออีโก้บังตา ;P) ประเด็นหลักๆ เรื่องการจำกัดไม่ใช้เรื่องภาระของเซิร์ฟเวอร์ครับ แต่เป็นประเด็นเรื่อง

จากเดิมที่เราเคยมีปัญหาเรื่องเขียนแล้วมีคนอ่านไม่มากนัก หรือไม่มีการแสดงความเห็นในข่าว หลายครั้งเรามีการแสดงความเห็นที่มากจนยากมากที่ใครจะอ่านทั้งหมด สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือบางครั้งการพูดคุยกลับเป็นการทุ่มถกเถียงกันอย่างไม่ก่อเนื้อหาใดๆ เพิ่มเติมกับเนื้อหาในเว็บ

เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น ขอสรุปสั้นๆ ว่า "มีแต่คอมเมนต์เถียงกัน" เจ้าของเว็บเลยประกาศจำกัดจำนวนความเห็น แต่ก็ได้เปิดโอกาศให้สมาชิกได้เสนอแนะไอเดียได้ครับ และเท่าที่อ่านความเห็นบนๆ ของคุณ ดูเหมือนจะไม่มีแนะนำอะไรที่น่าจะใช้ได้ มีแต่บอกว่าไม่พอใจ

เรื่องเทคนิคคุณสุดยอดครับ และเรื่องจับประเด็น ก็ขอแนะนำให้คุณเริ่มอ่านตั้งแต่บรรทัดแรกมาใหม่ครับ

อันไหนที่ผมหลงครับคุณ
ปัญหา "มีแต่คอมเมนต์เถียงกัน" แล้วเจ้าของเว็บฟ้าประทานบอกว่าจำกัดการตอบโต้ละกัน
ผมก็เลยให้ความเห็นตามที่เขาขอไปว่า อย่าไปเผาป่าจับหนูเลย เก้งกวางชะนีแรดจะโดนหางเลขไปด้วย
เมื่อปัญหามันเกิดจากสาธารณชนก็ต้องให้สาธาณชนช่วยกันดูแล

ส่วนด้วยวิธีอะไรนั่น
"ก็ขอแนะนำให้คุณเริ่มอ่านตั้งแต่บรรทัดแรกมาใหม่ครับ"

ผมจำเป็นต้องใช้อีโก้ที่นี่ด้วยเหรอ ?
ผมอยากเอาชนะคะคาน ?
ผมจะได้ตังค์จากส่วนแบ่งค่าโฆษณามั้ยครับ ถ้าได้จะนั่งเถียงต่อในประเด็น

อ๋อจะโพสทีเว็บช้ามาก
อย่าหาว่าผมอวดดีเลยผมอยากแนะนำเจ้าของเว็บฟ้าประทานหน่อย
เรื่องการตรวจสอบสิทธิ์การโพส และจำนวณโควต้า
แนะนำให้ทำ Index ในตารางที่เก็บของมูลเหล่านี้
ถ้าไม่ได้ทำ Index ใน field ที่จะต้องทำการ where clause มันจะช้ามาก
และอย่าใช้ วิธีการ วน loop ใน script เพราะทุกครั้งที่มีวน loop
CPU จะทำงาน 100% เพื่อให้งานเสร็จเร็วที่สุดและเป็นไปได้ว่า CPU จะทำงาน 100% ตลอดเวลา
หลีกเลี่ยงการ join หลาย table
เลิกคิดที่จะหาวิธีทำ SQL Query Caching มันไม่ work สำหรับกรณีที่มีเงื่อนไขเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

อย่าหาว่าสอนจระเข้ว่ายน้ำเลย
ถ้ามันจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นผมก็อยากแนะนำ ผมมันอีโก้ตรงไหน ?

แต่เสียดายการแสดงความเห็นผมคงจะหมดโควต้าล่ะ กลัวพิมพ์เก้อ
ไว้ต่อกันวันพรุ่งนี้แล้วกันครับ มิตรรักแฟนเพลง

ดีขึ้นยังไงล่ะครับ ผมถามไปหลายรอบแล้ว ดีขึ้นเพราะถูกใจคุณ หรือว่าดีขึ้นเพราะทุกคนได้ประโยชน์ พรุ่งนี้ถ้าโควต้ามาก็ช่วยตอบผมด้วยนะครับ

สรุปกันเป็นประเด็นๆ นะครับ

  • ประเด็นเรื่องคุณอีโก้หรือเปล่า - คุณเปิดตัวมาก็เปิดฉากเลยว่า "เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่มีหลักการคิด", "มันดูไม่ฉลาดและขาดความเข้ากันได้" แถมมีแต่ถ้อยคำที่เต็มไปด้วยคำประชดประชันเช่น "เว็บฟ้าประทาน" ซึ่งสาธารณชนอย่างผมขอตัดสินว่าเป็นอีโก้ล้วนๆ ครับ ทั้งๆ ที่ผู้ประกาศก็บอกแล้วว่ายังไงก็ยินดีรับข้อเสนอแนะและอาจเปลี่ยนแปลง แต่คุณบอกฟันธงไปเลยว่าไม่ฉลาด

  • คุณนำเสนอกลไกแบบ Like, Dislike แต่ทางคุณ lew ก็บอกแล้วว่าไม่ขอใช้ เพราะเห็นว่ามันไม่ได้ผล เพราะมันไม่รับประกันว่าความเห็นเกรียนๆ จะลดลง (อย่างที่คุณบอก คนมันจะเกรียน มีโควต้าเขาก็ยังจะเกรียน ถูก Dislike เป็นพันก็ยังคงเกรียน เผลอๆ ผมว่าเกรียนหนักขึ้นอีก เพราะเห็นว่าได้รับความสนใจ แต่ถ้ามีโควต้า เขาก็จะเกรียนได้ตามโควต้า ซึ่งลดภาระสารธารชนคนอ่านที่ประเมินแล้วว่าเขาเป็นเกรียน หรือความเห็นเกรียน)

  • จากนั้นคุณก็ตอบคำถามสมาชิกท่านหนึ่งด้วยเทคนิคสุดยอดเรื่องลดภาระบริการของเซิรฟ์เวอร์ ผมเลยบอกว่ามันผิดประเด็น กระทู้นี้เจ้าของเขามาประกาศจำกัดจำนวน และมาขอข้อเสนอแนะว่ามีอะไรจะเพิ่มเติมหรือไม่

  • เรื่องที่เจ้าของเว็บแนะนำให้คุณลองทำเว็บตามที่คุณถูกใจ ผมก็ว่ามันถูกต้องแล้ว ไม่ใช้การไล่ เพราะที่นี่มีกฏเกณฑ์ข้อบังคับในระดับหนึ่ง ถ้าคุณเห็นว่าไม่ถูกต้อง มันแย่ คุณก็แค่ไปทำเว็บที่ถูกใจคุณเองได้ ผมเห็นหลายๆ คนในนี้ก็มีเว็บของตัวเอง ผมก็มี อะไรที่ผมเห็นว่าที่นี่ไม่ถูกใจผม ผมก็ไปเขียนที่เว็บของผมเองได้ ก็แค่นี้ครับ ไม่น่าตกใจอะไรครับ

น่าจะทำแบบ ให้คนอื่นมา กดให้คะแนน ว่า บวก หรือ ลบ ถ้าบุคคลใดที่มีคะแนน ลบ มากๆ ก็ถูกจำกัดไว้ 2 ความเห็นต่อวัน
แต่หาก มีคะแนน บวก มากๆ ก็แสดงความเห็นได้ สัก 12 ความเห็นต่อวัน ส่วนคนปกติ ก็ 8 แหละครับผมว่าพอดีแล้ว

ปล. ความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่พอใจ ก็ผ่านๆ ไปนะครับ ^^

ผมว่าทางแนวทางแก้ไขออกมาแบบปลายเหตุแบบนี้ ปล่อยให้มันรกไปเหมือนเดิมดีกว่ามั้งครับ

มันดูเป็นการแก้ปัญหา ที่ไม่ต้องคิดก็แก้ได้ (คนโพสต์มาก ก็จำกัดซะ - -')

เว็บนี้ไม่ใช่เว็บแรกที่มีปัญหาแนวนี้ซักหน่อย ลองดูตัวอย่างเว็บอื่นก็ได้ครับ

youtube, dek-d, pantip, facebook คือแนวทางครับ

ปล. ถ้าคุณคิดว่าแบบนี้ดีแล้วก็ OK ส่วนในมุมมองผมเห็นอะไรว่าดีผมก็ว่าไปตามนั้น

เสนอสิครับ ว่าควรทำอะไรอย่างไร อะไรคือเหตุ - ผล วิธีการ แนวคิด

บ่นเฉยๆ แบบนี้รู้แค่ว่าไม่พอใจครับ แต่ก็อย่างที่คุณบอก ... มันเป็นแค่การบ่น ช่วยแก้ปัญหาที่คุณไม่พอใจไม่ได้ ถ้าคุณไม่พูดครับ

untilate Wed, 08/24/2011 - 12:05

In reply to by PaPaSEK

พี่ผมพิมพ์ไป คือสิ่งที่ผมเสนอแล้วครับ คือเสนอให้ไปดูเว็บที่ผมบอก

เว็บพวกนั้น คือเว็บที่ผมเห็นแล้วว่าเค้าแก้ปัญหาได้ดี ไม่ใช่ปลายเหตุเหมือนเว็บนี้

ผมไม่ได้มาพิมพ์อะไรไร้สาระแบบคุณครับ

อยากให้มีกด like หรือ +1 และโชว์ชื่อคนกดที่คอมเม้นนั้น (เหมือนถูกใจใน pantip) น่าจะลดปริมาณคอมเม้นไปได้มาก ไม่รู้ทำยากหรือเปล่า โชว์ชื่อน่าจะดีเพราะเหมือนรวมคนที่คอมเม้นว่า +1 อะไรแบบนี้มารวมกันเฉยๆ

อันนี้เห็นด้วยครับ เรื่อง +1 แล้วเห็นชื่อแบบในพันทิป ประหยัดเนื้อที่ในส่วน reply และเห็นชัดเจนด้วยว่าคนเห็นด้วยกับข้อความนั้นมากแค่ไหน

เรื่องโหวตนี่มีอยู่ในแผน แต่ก็เป็นคนละปัญหากันกับกรณีนี้ครับ (โหวต = ช่วยเลือกคอมเมนต์ที่ดี แต่ไม่ได้แก้ปัญหาคอมเมนต์แย่)

งั้นอาจจะเป็นบั้คมั้งครับ คือผมโพส Comment สุดท้ายไปแล้วหลังจากนั้นคิดได้ว่าจะเพิ่มข้อความนิดนึงแต่มันไม่มีปุ่ม Reply,Edit ให้กดเลย = ="

อ่านข่าวนี้ แล้วให้อารมณ์ประมาณ facebook ให้เซิร์ฟเวอร์หมุนช้าลงในบางช่วง เลยอ่ะ^^

ส่วนตัวผมว่าวิธีนี้ไม่ได้แย่นะครับ แต่ส่วนตัวถ้าเป็นผมผมไม่อยากรอ 24 ชั่วโมงเพื่อ comment แน่นอน เพราะหากผมมี argument อะไรที่เพิ่งจะคิดได้ บางครั้งก่อนนอนอาจจะกลับเอาไปคิด ซึ่งเป็นเรื่องดี แต่บางครั้งเราจะลืมมันไปเลยข้ามคืน

ผมอยากจะเสนอให้มีการใช้การจำกัดจำนวนลักษณะเดียวกันนี้ล่ะครับ แต่อยากจะให้มีการเพิ่ม Quota ให้ทุก ๆ 3 ชั่วโมง (ครั้งละ 1 comment) เผื่อคนที่ Quota หมดไปแล้วสามารถกลับเข้ามาโพสอีกรอบได้เพียงแค่รอ 3 ชั่วโมง ไม่ต้องรอข้ามคืนแล้วลืมไปเลย โดย Quota จะถูกจำกัด Cap ไว้ที่ 8 comments คือถ้าใครไม่ใช้สิทธิ มันก็จะเต็มได้มากที่สุดที่ 8 comments มากไปกว่านี้ไม่ได้ แต่ถ้าใช้ไปแล้ว 1 comment เหลืออีก 7 หากรออีก 3 ชั่วโมงก็จะกลับมามี 8 อีกครั้ง

คิดว่าอย่างไรครับ

kswisit Tue, 08/23/2011 - 09:32

ขอโทษครับ ไม่ได้อ่านคอมเม้นต์ทั้งหมดด้านบน

มีคนแนะนำไปหรือยังครับ ว่าน่าจะมีตัวแสดงโควต้าเหลือเท่าไหร่ เหลือเวลาอีกเท่าไหร่จะได้ 8 เท่าเดิม เป็นต้น

จะว่าไป เมื่อคืนตอนผมพยายาม Reply ข่าวนี้ ผมเจอทั้งคำเตือนที่ว่า "เหลือโควต้าอีกแค่ 1 Reply" (ผมจำคำมันจริง ๆ ไม่ได้น่ะครับ) กับ "โควต้าหมดแล้ว กรุณารอ 24 ชม." (ไม่ใช่คำนี้จริง ๆ เหมือนกัน) อ้อ แล้วก็ Reply Box ก็ไม่ขึ้นมาด้วย

ซึ่งทั้งสองคำเตือนนี้มันขึ้นมาพร้อม ๆ กัน และผมก็ถือ Badge Contributor อยู่ ไม่ทราบว่าเป็นบั๊กหรือเปล่าครับ ?

ผมเห็นด้วยนะ เพราะส่วนใหญ่จะไม่ค่อยโพสกันเกิน 8 อยู่แล้ว

แต่ผมกำลังคิดอยู่ว่า ถ้าทำแบบนี้จะมีปัญหาเรื่อง 1 คนมีหลาย User ตามมารึเปล่า

ิอยากให้เป็นต่อข่าวมากกว่าครับสัก 3 ต่อข่าวก็ได้เพราะว่ามันแก้ข้อความใน Comment ได้
บางทีผมมาอ่าน 2-3 วันทีนะครับ ถึงจะปกติไม่ค่อยได้ตอบอะไรก็ตามแค่ถ้ามีการสอบถาม
สัก 4 - 5 ข่าวนี่แป๊บเดียวหมดเลย

อันนี้จริงๆ ผมค่อยข้างเห็นด้วยนะครับ (ตามข้างบนหลายๆ คน) แต่ยังนึกวิธีทางเทคนิค (ที่ง่าย ดูแลต่ำ) ไม่ออกครับ

ถ้าใช้วิธีนี้จะทำให้ขอบเขตของการค้นหาน้อยลงเยอะเลยนะครับ เหลือแค่ต่อข่าวแทนที่จะเป็นทั้งหมด น่าจะช่วยลดการประมวลผลลงได้เยอะนะครับ

Ton-Or Tue, 08/23/2011 - 16:31

รอดไป ผมไม่มีผลกระทบ
ช่วงนี้เปลี่ยนงานหลักมาเป็นเลี้ยงลูก
ส่วนงานอื่นๆ จัดเป็นงานอดิเรก ทั้งหมด
ไม่ค่อยมีเวลาเหมือนเมื่อก่อน

นานๆจะมาคอมเมนท์ซักที ปกติก็อ่านอย่างเดียวอยู่แล้ว
ไม่มีปัญหากับมาตรการนี้เลยค่ะ เห็นด้วย

แต่แอบอ่านดราม่าข้างบนที่มีคนไม่เห็นด้วย แล้วคิดว่ามันเป็นการจำกัดเสรีภาพหรือไม่?
นัทว่า เราก็ยังมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเหมือนเดิมนี่คะ?
เพียงแค่ ปริมาณของความเห็นนั้น ถูกจำกัดลง แต่ก็เป็นข้อดี ทำให้เรากรองความคิดเห็นก่อนจะกด reply ออกไปนะคะ

นัทมีแงคิดนึง ที่อยากจะขอเพิ่มความคิดที่คิดเอาเอง ที่น่าจะเป็นไอเดียอะไรให้กับทุกคนบ้าง (รึป่าว?)
นัทคิดว่า FB นี่มีแนวทางที่ดีนะคะ
เคยสงสัยมั๊ยคะ? ทำไมถึงมีแค่ปุ่ม like ไม่มี dislike
พอมาอ่านคอมเมนท์ตอนนี้เลยเริ่มเข้าใจแล้วว่า การที่จะกด dislike มันง่ายกว่าการกด like น่ะค่ะ
คล้ายๆกับว่าการทำเลวง่ายกว่าการทำดี ถ้ามี dislike มันก็อาจจะมีการแกล้งกันหมั่นไส้กันเกิดขึ้นได้ง่าย อย่างที่พี่ลิ่วและพี่ mk ว่า

แต่ถ้ามีแค่ like อย่างเดียว ถ้าไม่ชอบก็แค่ไม่กด like แค่นั้น
แต่ถ้าใครชอบถูกใจจริงๆก็กด like มันทำให้องค์รวมอะไรหลายๆอย่าง ดูไปในแง่บวก
แล้วปุ่มเดียวมันก็สื่อได้สองความหมายอยู่แล้ว

ส่วน youtube บอกตรงๆว่าการมี dislike มันก็ทำให้เกิดดราม่าเกิดการแกล้งกันจริงๆค่ะ
น่าจะ obtimize ลงให้มีแค่ like อย่างเดียวดีกว่า
:)

อุ๊ย เหลือ 7 แระ อิอิ

1)ไม่เห็นด้วยกับการจำกัดจำนวนความเห็นหรือเงื่อนเวลาใดๆครับ
เพราะผมคิดว่ามันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของ blognone ที่บางข่าวอ่านแล้วยังไม่จบ มาจบที่ความเห็น ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะได้ขยายมุมมองของความคิดและเป็นประโยชน์ต่อคนอ่านคนอื่นๆด้วย
ถึงจะมีดราม่าบ้าง แต่ผมคิดว่าเรามีสิทธิเลิอกที่จะอ่านแต่ข่าว หรือจะให้ความเห็น แต่เมื่อตัดสินใจโพสต์ก็ต้องเตรียมใจที่จะรับกับความเห็นทั้งที่แตกต่างหรือเห็นด้วยกับตนเอง และเราก็มีสิทธิเลือกที่จะตอบโต้หรือวางเฉยกับความเห็นที่แตกต่างนั้นๆ

2)ไม่เห็นด้วยทั้งเรื่อง Like และ disLike
แค่ชอบหรือไม่ชอบผมคิดว่ามันง่ายไป เพราะการให้ความเห็นควรมีเหตุผลมารองรับทุกกรณี

3)ผมเชื่อในความแตกต่าง ทั้งประสบการณ์ ความรู้ คุณวุฒิ วัยวุฒิ วุฒิภาวะ ซึ่งความเป็นจริงคือไม่มีใครที่ถูกเสมอ หรือ ผิดตลอด

เท่าที่ลองอ่านแล้ว ก็โอเคกับกฏนะครับ
และก็ชอบไอเดียของความเห็น #325041 ครับ

คราวนี้เรื่องการตรวจสอบเวลาสำหรับ comment
ถ้าเก็บด้วย text ไฟล์จะทำให้ load ลดลงหรือเปล่าครับ (จะได้ไม่ต้องยุ่ง Database)
โดยเก็บเวลาที่ comment ล่าสุด 8 comment หรือแล้วแต่ครับ
มันจะทำให้ I/O สูงขึ้นหรือเกิด deadlock อย่างไรหรือเปล่าครับ (ทฤษฏีผมไม่แน่นเสียด้วย)

ขอบคุณครับ

เท่าที่อ่านผ่านๆ (มันเยอะมาก) ยังไม่มีพูดเรื่องไปใช้บริการเว็บอื่นๆแทน และปิดปิดระบบคอมเม้นของเว็บไป เพื่อตัดปัญหาเรื่อง cpu ออกไป แต่จะได้เรื่อง bandwidth กลับมาแทน และคงเกิดปัญหาใหม่ๆขึ้นมา เช่นชื่อที่คอมเม้นจะไม่ตรงกับชื่อในเว็บ เสนอเพื่อเป็นอีกทางออกครับ

สำหรับผมก็เห็นด้วยกับจำกันจำนวนครับ

เรื่องนี้มีคนเสนอมาเรื่อยๆ นะครับ ส่วนสาเหตุที่เราไม่ไปใช้พวก Disqus หรือ Intense Debate ก็เพราะ Blognone มีระบบสมาชิกของเราเอง ที่ใช้ได้ทั้งการเขียนข่าว ตั้งกระทู้ และคอมเมนต์ครับ การจะย้ายบางส่วนไปก็คงจะไม่เหมาะเท่าไร

ระบบคอมเมนต์แบบข้างต้นจะเหมาะสำหรับเว็บที่ไม่มีระบบสมาชิกสำหรับคนทั่วไป (เช่น บล็อกส่วนตัวที่เปิดให้ anonymous คอมเมนต์ได้ แต่เจ้าของบล็อกเขียนเนื้อหาได้เท่านั้น) มากกว่าครับ

ผมนึกได้อีกอันครับ ใช้ระบบเหมือนกับ Yahoo รู้รอบ และ Google กูรู ซึ่งทั้งสองใช้วิธีโหวตคำตอบที่น่าสนใจ สำหรับ Blognone การโหวตผมเสนอว่าให้ W ขึ้นไปถึงจะโหวตได้ ซึ่งคำตอบที่คุณภาพมาอยู่ได้บนสุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างในอดีต

ผมขอตีความจุดประสงค์ของการจำกัด Comment คือ ตอนนี้มีสมาชิกมาก มี comment ในข่าวมาก และหลาย comment ดูไม่มีสาระ ทำให้ไม่น่าอ่าน (ประมาณนี้มั้ง)

ในความเห็นผมถ้าเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้น ในความเห็นผม ผมไม่เห็นด้วยครับ มองว่าเกาไม่ถูกที่คัน comment ที่ดีมีคุณภาพ กับ comment ที่ไร้สาระเช่น +1 โดยไม่มีความเห็นใดๆ หรือความเห็นเกรียนๆ ไม่สุภาพ (จริงๆ ผมก็ไม่ค่อยชอบ comment แก้คำผิดเท่าไร ถ้ามันผิดเพียงเล็กน้อย ยกเว้น ความหมายผิด ภาษาวิบัติ ก็ค่อย comment)

ซึ่ง comment เหล่านี้ ไม่สามารถแก้ด้วยการจำกัด comment เลยครับ ผมเคยอ่านหลาย comment มีการ comment ตอบไปมายาวมาก แต่ผมอ่านแล้วดี ชอบ เพราะมันมี สาระ! ได้ความรู้

ผมไม่แน่ใจว่ามีที่ไหนใช้วิธีการนี้ เพื่อวัตถุประสงค์นี้หรือเปล่า แต่ผมพึ่งเคยเห็น

ผมว่าใช้วิธีการทั่วไปที่ทำกันก่อนเถอะครับ เช่น Ban user หรือ คาดโทษที่มีเสนอว่าห้าม post 3 วัน หรือจำกัด Post ก็ดี และรณรงค์ educate user ให้รู้ว่าควรจะ post อย่างไร อะไรไม่ควร post

การใช้วิธีการนี้ผมว่ามันเหมือนจำกัดสิทธิทุกคน ที่ไม่เกี่ยวข้องไปด้วย และไม่ได้เข้าวัตถุประสงค์ตั้งแต่แรกของการทำเช่นนี้ และผมว่า Blognone มันมีเสน่ห์ เพราะ comment นี่แหล่ะ)

จริงๆ ผมไม่เดือดร้อนเรื่องนี้เลย เพราะไม่เคย comment ฮ่า!! แต่อ่านมาหลายปีแล้วนะ นี่สมัครมา comment เลย เพราะผมแค่กลัวบรรยากาศบางอย่างของ Blognone มันจะหายไป

การจำกัดโควต้าของความเห็นเนี่ย มีจุดประสงค์หลักคือ ลดการ "คิดจะพูดแต่ก็พูดอย่างไม่คิด" (รู้ไหมว่าหนึ่งชีวิตของใคร...) น่ะครับ การจำกัดมันทำให้คนคิดก่อนว่าที่พูดมาเนี่ยมันมีประโยชน์หรือเปล่า

ส่วน ... ผลพลอยได้หนึ่งอย่างก็คือ การทำให้คนกระตือรือร้นขึ้นมาเป็น contributor (โดยเฉพาะคนพูดมากอย่างผม) เพราะว่าสามารถคอมเม้นได้เรื่อย ๆ (แต่ถ้า contributer พูดไร้สาระบ่อย ๆ ก็อาจจะโดนจำกัดความเห็นเหมือนกันแฮะ ผมก็คงต้องระวังตัวอีกหน่อย)

ส่วนเรื่องแบนเนี่ยมันก็มีทำมาเป็นปรกติอยู่แล้วนะครับ ใครที่ละเมิดกฎก็ถูกแบน อะไรทำนองนั้น

ระบบการให้คะแนนของคอมเมนต์น่าจะโอเคมาก คะแนนเยอะโพสได้เยอะขึ้น คะแนนน้อยโพสได้น้อยลง คะแนนให้เกบไว้ที่ account เลย ส่วนการปั้มการหมั่นไส้ก็ ทำกติกาครอบไปอีกที

รับทราบครับ

พักหลังๆ ผมไม่ค่อยอ่านคอมเม้นต์แล้วมีแต่อะไรก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนผมชอบอ่านมากกว่านี้

ผมไม่เข้าใจระบบการหักเหลือสองครับ

มันเป็นยังไง? มีรายละเอียดแบบไหน? ลงโทษนานกี่วัน? แล้วมันจะส่งผลอะไรยังไงบ้างครับ?

คือผมโดนไปแล้ว แต่ก็ยังงงๆ

กลับมาอ่านอีกที ยาวกันเลยทีเดียว 555

จากกฏใหม่ จำกัดจำนวนคอมเมนต์ ผมไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหาเลย ชอบเสียด้วยซ้ำ

เพราะผมยังเป็นคนใช้กล้องฟิล์ม...
ความรู้สึกมันเหมือนกันเลย ตรงที่ทุกครั้งก่อนที่คุณจะกดชัตเตอร์ คุณจะคิดแล้วคิดอีกว่ามุมมันดีรึยัง แสงมันเหมาะมั้ยนะ จังหวะเวลา เรื่องต่างๆ เหล่านี้มันจะเกิดกับกล้องฟิล์มเท่านั้นเพราะจำนวนรูปมันจำกัด ไม่เหมือนกล้องดิจิตอลที่กระหน่ำกดชัตเตอร์เยอะไว้ก่อนไม่ชอบไม่ดีก็ช่างมันลบทิ้งไป

"คิดก่อนทำ" ปัญหาความขัดแย้งจะได้ไม่เกิดนะครับ ^^

อ่านมาจนตาลาย ยาวๆทั้งนั้น ขอยาวๆต่ออีกคน
ที่ผ่านมาผมนับถือ และเคารพ comment ต่าวๆของท่าน mk และ lew มาก
มีเหตุผล ตรงไปตรงมา และ เป็นการตอบคำถามต่างๆที่ดีและชัดเจนมาก
จะมีแค่ node นี้หละครับที่ผมไม่ชอบเลยกับการให้คำตอบในแนวที่ว่า

"ถ้าไม่ชอบใจ คุณก็เชิญไปเปิดเว็บของคุณเอง"

ถึงแม้ว่าคนที่โพสมาจะมีความคิดเห็นไม่เข้าท่าน่ายั่วะขนาดไหน ผมว่ามันก็ดูจะเกินไปนิดนึง
เพราะถ้าเขามีปัญญาทำเอง คงไม่เอาเวลาว่างมาหายใจและพิมพ์บ่นแบบนั้นหรอกครับ
อยากให้อโหสิกรรมไปแทน อย่าเอาคนประเภทนั้นมาเป็นอารมณ์เลยครับ

ฝากไว้สำหรับผู้ที่เข้าใจอะไรยากๆอีกนิดนึง

เรามาอยู่บ้านเขา เจ้าบ้านเขามีกฎอะไรยังไง ก็ทำตามเขา จะได้อย่ร่วมกันได้อย่างดี
ไม่ใช่มาอาศัย แล้วทำตัวเป็นเจ้าของบ้านซะเอง ทั้งๆที่ค่าเช่าก็ไม่ช่วยจ่าย
เค้ามีเตียงให้นอน มีหมอนให้หนุน ยังอยากจะได้ แอร์ ได้ มุ้ง
เรียกร้องแบบนี้ เจ้าบ้านเค้าเลยไล่ให้ไปสร้างบ้านอยู่เอง นี่ไงครับ

Apple
public://topics-images/apple_webp.png
SCB10X
public://topics-images/347823389_774095087711602_515970870797767330_n_webp.png
Windows 11
public://topics-images/hero-bloom-logo.jpg
Huawei
public://topics-images/huawei_standard_logo.svg_.png
Google Keep
public://topics-images/google_keep_2020_logo.svg_.png
Instagram
public://topics-images/instagram_logo_2022.svg_.png
SCB
public://topics-images/9crhwyxv_400x400.jpg
Microsoft
public://topics-images/microsoft_logo.svg_.png
Basecamp
public://topics-images/bwpepdi0_400x400.jpg
FTC
public://topics-images/seal_of_the_united_states_federal_trade_commission.svg_.png
Pinterest
public://topics-images/pinterest.png
Palantir
public://topics-images/-nzsuc6w_400x400.png
AIS Business
public://topics-images/logo-business-2021-1.png
PostgreSQL
public://topics-images/images.png
JetBrains
public://topics-images/icx8y2ta_400x400.png
Krungthai
public://topics-images/aam1jxs6_400x400.jpg
Palworld
public://topics-images/mccyhcqf_400x400.jpg
Bill Gates
public://topics-images/bill_gates-september_2024.jpg
VMware
public://topics-images/1nj4i1gp_400x400.jpg
Take-Two Interactive
public://topics-images/0khle7nh_400x400.jpg
OpenAI
public://topics-images/ztsar0jw_400x400.jpg
Thailand
public://topics-images/flag_of_thailand.svg_.png
NVIDIA
public://topics-images/srvczsfq_400x400.jpg
ServiceNow
public://topics-images/ytnrfphe_400x400.png
Klarna
public://topics-images/urcllpjp_400x400.png
Google Play
public://topics-images/play.png
Drupal
public://topics-images/drupal.png
Virtua Fighter
public://topics-images/virtua_figther_2024_logo.png
Paradox Interactive
public://topics-images/paradox_interactive_logo.svg_.png
Europa Universalis
public://topics-images/europa-icon.png
Nintendo Switch 2
public://topics-images/mainvisual.png
Cloudflare
public://topics-images/cloudflare_logo.svg_.png
Samsung
public://topics-images/samsung.png
Google
public://topics-images/google_2015_logo.svg_.png
Uber
public://topics-images/uber.png
Microsoft 365
public://topics-images/m365.png
USA
public://topics-images/flag_of_the_united_states.svg_.png
GM
public://topics-images/0pe0po-z_400x400.jpg
Perplexity
public://topics-images/perplex.jpg
Xperia
public://topics-images/xperia.png
iOS 18
public://topics-images/ios-18-num-96x96_2x.png
True
public://topics-images/true_logo.png
SoftBank
public://topics-images/softbank.jpg
Pac-Man
public://topics-images/pacman.png
Harry Potter
public://topics-images/harry.png
Marvel
public://topics-images/marvel.png
Skydance
public://topics-images/skydance.png
SEA
public://topics-images/sealogo.png
Find My Device
public://topics-images/find.png
Gemini
public://topics-images/google_gemini_logo.svg__1.png
Accessibility
public://topics-images/accessibility-128x128_2x.png
Material Design
public://topics-images/m3-favicon-apple-touch.png
Android 16
public://topics-images/android16.png
Android
public://topics-images/android_0.png
Firefox
public://topics-images/firefox_logo-2019.svg_.png
Google Messages
public://topics-images/messages.png
Notepad
public://topics-images/notepad.png
Singapore
public://topics-images/flag_of_singapore.svg_.png
Airbnb
public://topics-images/airbnb.png
PS5
public://topics-images/ps5.png
Krafton
public://topics-images/krafton.png
Doom
public://topics-images/doom-game-s_logo.svg_.png
AMD
public://topics-images/amd_logo.svg_.png
GTA
public://topics-images/gta_0.png
DoorDash
public://topics-images/doordash.png
YouTube
public://topics-images/yt.png
YouTube Music
public://topics-images/yt-music.png
Facebook
public://topics-images/fb.png
iQiyi
public://topics-images/iqiyi_0.png
Viu
public://topics-images/viu.png
Amazon Prime Video
public://topics-images/prime-vid.png
Spotify
public://topics-images/spotify.jpg
Apple TV
public://topics-images/apple-tv.png
HBO Max
public://topics-images/max.png
Threads
public://topics-images/threads.png
Alexa
public://topics-images/alexa.png
Kindle App
public://topics-images/kindle.png
Shopee
public://topics-images/shopee.png
Waze
public://topics-images/waze.png
Bilibili
public://topics-images/bili.png
Google Maps
public://topics-images/maps.png
Apple Music
public://topics-images/apple-music.png
Claude
public://topics-images/claude.png
TikTok
public://topics-images/tiktok.png
Xbox
public://topics-images/xbox.png
Tesla
public://topics-images/tesla.png
Chrome
public://topics-images/chrome.png
Google Calendar
public://topics-images/gcal.png
Google Home
public://topics-images/ghome.png
Google Meet
public://topics-images/meet.png
NotebookLM
public://topics-images/notebooklm.png
Reddit
public://topics-images/reddit.png
Assassin’s Creed
public://topics-images/ac.png
Mark Zuckerberg
public://topics-images/zuck.jpg
Meta
public://topics-images/meta.png
Meta AI
public://topics-images/meta-ai.png
Epic Games
public://topics-images/epic_games_logo.svg_.png
Unreal
public://topics-images/unreal_engine_logo-new_typeface-svg.png
Fortnite
public://topics-images/fortnite.png
DeepMind
public://topics-images/deepmind.png
Databricks
public://topics-images/databricks.png
Netflix
public://topics-images/netflix-logo.png
Microsoft Azure
public://topics-images/azure.png
Microsoft Copilot
public://topics-images/microsoft_copilot_icon.svg_.png
Bing
public://topics-images/bing.png
EA
public://topics-images/ea.png
Intel
public://topics-images/intel.png
Amazon
public://topics-images/amazon.png
AWS
public://topics-images/aws.png
Zoom
public://topics-images/zoom.png
Dropbox
public://topics-images/dropbox_0.png
Roblox
public://topics-images/roblox.png
Dell Technologies
public://topics-images/dell-tech.png
Nothing
public://topics-images/nothing.svg_.png
Microsoft Teams
public://topics-images/teams.png
Mojang
public://topics-images/mojang.png
Minecraft
public://topics-images/minecraft.png
Redis
public://topics-images/redis_logo.svg_.png
Ubisoft
public://topics-images/ubisoft_logo.svg_.png
Elden Ring
public://topics-images/elden.png
Brave
public://topics-images/brave.png
Opera
public://topics-images/opera.png
Vivaldi
public://topics-images/vivaldi.png
Microsoft Edge
public://topics-images/edge.png
Duolingo
public://topics-images/duolingo.png
LinkedIn
public://topics-images/linkedin.png
Canva
public://topics-images/canva.png
Realme
public://topics-images/realme.png
NASA
public://topics-images/nasa-logo.png
Booking.com
public://topics-images/booking.png
Agoda
public://topics-images/agoda.png
Bolt
public://topics-images/bolt.png
Grab
public://topics-images/grab.png
Temu
public://topics-images/temnu.png
LINE
public://topics-images/line.png
Facebook Messenger
public://topics-images/messenger.png
WhatsApp
public://topics-images/whatsapp.png
Telegram
public://topics-images/telegram.png
Signal
public://topics-images/signal.png
X.com
public://topics-images/x.png
Grok
public://topics-images/grok.png
xAI
public://topics-images/xai.png
CapCut
public://topics-images/capcut.png
Edits
public://topics-images/edit.png
Google One
public://topics-images/gone.png
Tinder
public://topics-images/tinger.png
Whoscall
public://topics-images/whoscall.png
OneDrive
public://topics-images/onedrive.png
Lightroom
public://topics-images/lr.png
Meitu
public://topics-images/meitu.png
Outlook
public://topics-images/outlook.png
Excel
public://topics-images/excel.png
PowerPoint
public://topics-images/ppt.png
Microsoft Word
public://topics-images/word.png
Phone Link
public://topics-images/phone-link.png
OneNote
public://topics-images/onenote.png
Windows App
public://topics-images/windows-app.png
Notion
public://topics-images/notion.png
Google Drive
public://topics-images/drive.png
YouTube Kids
public://topics-images/yt-kids.png
Gboard
public://topics-images/gboard.png
DeepSeek
public://topics-images/deepseek_logo.svg_.png
Prince of Persia
public://topics-images/prince-persia.png
Sony
public://topics-images/nq0nd2c0_400x400.jpg