“ตอนนี้ยังไม่ได้นอนเลยจะสิบโมงเช้า” กลายเป็นเพลงฮิตของหลายคน แต่คงไม่ใช่กับเจ้าของร้าน 7-Eleven แห่งหนึ่งที่ญี่ปุ่น เพราะเขาไม่ได้นอนติดต่อกัน 50 ชม. หลังสำนักงานใหญ่ไม่ให้ปิดร้าน แม้ตอนนั้นมีพายุหิมะรุนแรง
การทำงานต่อเนื่อง 50 ชม. ของเจ้าของร้าน 7-Eleven แห่งหนึ่งในจังหวัดฟุคุอิ ประเทศญี่ปุ่นเกิดขึ้นจากในวันที่ 7 ก.พ. มีพยากรณ์อากาศว่าจะมีพายุหิมะรุนแรงเข้ามาโจมตีในตัวจังหวัด ทำให้เจ้าของร้านคนนั้นได้แจ้งไปยัง 7-Eleven สำนักงานใหญ่ เพื่อขอปิดร้านในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะกลัวลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจะได้รับอันตราย
แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ บริษัท Seven-Eleven Japan ปฏิเสธการปิดร้านในช่วงเวลาดังกล่าว แถมบอกว่าถ้าลูกค้าเกิดอุบัติเหตุก็มีประกันคุ้มครอง ทำให้เจ้าของร้านคนนั้นต้องเร่งตักหิมะที่ตกมาอย่างหนักตั้งแต่เย็นวันที่ 6 ก.พ. จนถึงเช้าวันที่ 8 ก.พ. หรือรวม 50 ชม. โดยไม่ได้พักนอนหลับแต่อย่างใด เพราะต้องเตรียมรับบริการลูกค้า
ถ้านึกไม่ออกว่าช่วงนั้นหิมะตกหนักเป็นอย่างไรบ้าง จะเล่าให้ฟังว่าในวันที่ 7 ก.พ. มีหิมะตกลงมาหนาถึง 147 ซม. หนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2522 มีผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติดังกล่าวถึง 12 คน และสร้างความเสียภายให้กับบ้านเรือนกว่า 1,000 หลังคา รวมถึงรถยนต์อีกประมาณ 1,500 คันด้วย
สำหรับเหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยโดยประธานสหภาพเจ้าของร้าน 7-Eleven ในประเทศญี่ปุ่น เพราะรู้สึกข้องใจกับการบริการงานของบริษัท Seven-Eleven Japan ที่ทำให้เจ้าของร้านไม่ได้หลับไม่ได้นอนถึง 50 ชม. ทั้งๆ ที่ควรจะต้องปิดร้าน รวมถึงภรรยาของเจ้าของร้านดังกล่าวก็ป่วยไม่สบาย
หนำซ้ำเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานใหญ่ส่งเข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวแค่เพียงไม่กี่ชม. แล้วก็กลับไป อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องแดงขึ้นมา บริษัท Seven-Eleven Japan ก็ไม่นิ่งนอนใจ พร้อมเข้าไปตรวจสอบเหตุการณ์นี้อย่างจริงจังว่าทำไมถึงเกิดขึ้น พร้อมกับแจ้งข้อความว่า
“ภายใต้กฎการเปิดให้บริกาของเจ้าของราน 7-Eleven ทุกรายนั้นระบุว่า พวกเขาควรตัดสินใจได้เองว่าจะเปิดให้บริการภายใต้สถานะการณ์ที่มีภัยธรรมชาติ หรือสัญญาณอันตรายอื่นๆ หรือไม่ นอกจากนี้เราก็ให้คู่มือกับพวกเขาไปแล้วว่าต้องบริหารจัดการอย่างไรเมื่อมีภัยธรรมชาติเข้ามา”
สรุปถือเป็นอีกบททดสอบการใช้ Risk Management ของบริษัท Seven-Eleven Japan เพราะไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะจบลงอย่างไร ภาพลักษณ์ของ 7-Eleven ในประเทศญี่ปุ่นก็จะดูเป็นด้านไม่ค่อยดีเท่าไรในทันที ทำให้การฟื้นภาพลักษณ์กลับมาจำเป็นที่สุด ว่าแล้วก็อยากให้สาขาที่ญี่ปุ่นลองมาศึกษาเรื่องนี้ในประเทศไทยบ้างว่าเขาจัดการอย่างไร
อ้างอิง // Japan Today
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
เบียร์แบรนด์ Poker ได้ร่วมกับเอเยนซี่ DDB Colombia ในการจำลองร้านของชำที่หัวมุมถนนใหม่เป็นของตัวเอง เป็นเหมือนพื้นที่สาธารณะให้นักดื่มมาเจอกัน หลังจากทางรัฐบาลประกาศกฎที่ทำร้ายจิตใจนักดื่ม
เมื่อปีก่อนทางรัฐบาลโคลัมเบียได้ประกาศกฎหมายที่ว่าห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะเด็ดขาด เพราะต้องการควบคุมเรื่องการละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นทั้งเรื่องเสียงดัง และการพ่นภาพกราฟิตี้ในที่ต่างๆ ซึ่งอาจจะสร้างความรบกวนคนอื่นได้ โดยมีการส่งสายตรวจ ตำรวจลงพื้นที่ตรวจตราอยู่สม่ำเสมอ
กฎหมายนี้ทำให้นักดื่มต้องเศร้าคอตกกันไปตามๆ กัน เพราะเหมือนเป็นพฤติกรรมของนักดื่มที่มักจะไปพบปะกับคอเดียวกันตามที่สาธารณะ ตามถนน หรือสวนสาธารณะต่างๆ เหมือนเป็นก๊วนที่พูดคุยกันถูกคอ ทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่สามารถดื่มกับเพื่อนๆ ได้อย่างเปิดเผย
จึงทำให้แบรนด์เบียร์ Poker และเอเยนซี่โฆษณา DDB Colombia ปิ๊งไอเดียในการแก้ปัญหานี้ด้วยการร่วมมือกับช่างในท้องถิ่นในการสร้างร้านขายของชำที่อยู่ในพื้นที่นั้น เรียกว่าโคลนนิ่งออกมาทุกรายละเอียด ยกร้านค้ามาอยุ่อีกมุมถนน มีการเก็บรายละเอียดทุกอย่างทั้งป้าย ลายกราฟิตี้ ป้ายโฆษณา
การจำลองร้านของชำที่หัวมุมถนนครั้งนี้เหมือนเป็นการสร้างพื้นที่สาธารณะให้เป็นของตัวเอง ยังได้บรรยากาศความเป็นพื้นที่เปิดให้นักดื่มมาเจอกัน แต่อยู่ในขอบเขตของพื้นที่ส่วนตัวเพราะสร้างขึ้นมาเอง
จุดประสงค์ที่สำคัญที่สุดของแคมเปญนี้ก็คือต้องการกระตุ้นให้บรรดานักกฎหมายชาวโคลัมเบียได้พิจารณากฏหมายใหม่อีกครั้ง
Leo Macías หัวหน้าฝ่ายความคิดสร้างสรรค์ของ DDB Colombia บอกว่า “เมื่อกฎหมายห้ามไม่ให้ดื่มเบียร์กับเพื่อนๆ ในที่สาธารณะ ซึ่งกฎหมายได้เริ่มบังคับใช้แล้วด้วย แต่เราต้องปกป้องพื้นที่เหล่านี้เพราะเป็นเหมือนวัฒนธรรมของพวกเราในการแฮงค์เอาท์ หรือพบปะกับเพื่อนๆ ในโคลัมเบีย”
เราจึงโคลนนิ่งทางเท้าในทุกๆ รายละเอียด จึงได้พื้นที่ทางเท้าที่เหมือนที่สาะรณะที่อยู่ในพื้นที่ส่วนตัว และสามารถดื่มกับเพื่อนๆ ได้อย่างถูกกฎหมาย
ซึ่งคนหนุ่มสาวในโคลัมเบียก็ไม่ได้ชื่นชอบกับกฎหมายข้อนี้ของทางรัฐบาลเช่นกัน มีผู้ตอบแบบสอบถาม 11,000 คน มีความคิดว่า การดื่มเบียร์กับเพื่อนๆ บนทางเท้า ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าอันตรายอะไร
สำหรับแบรนด์ Poker มีการวางจุดยืน หรือการสื่อสารในเรื่องของ Friendship หรือมิตรภาพเพื่อนฝูงอยู่แล้ว มองว่ากฎหมายข้อนี้อาจจะดูขัดแย้งในสังคมไปหน่อย การทำแคมเปญนี้จึงเป็นการเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วย
และแน่นอนว่า Poker ไม่ได้สร้างทางเท้าแค่ที่เดียว เขายังมองไปยังที่อื่นๆ อีกด้วย เหมือนเป็นการกดดันทางรัฐบาลให้พิจารณากฎหมายแบบกลายๆ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
ล่าสุดแอปเปิลได้ปล่อย iOS 11.4 Beta 2 ให้กับนักพัฒนา และเวอร์ชัน Public Beta ให้กับผู้ใช้ทั่วไปได้ทดสอบกันแล้ววันนี้ โดยใน iOS 11.4 มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ซึ่งได้แก่
สำหรับใน iOS 11.4 Beta 2 นั้น ได้มีการแก้ไขบั๊กในส่วนของ AirPlay, Keychain และ Music (สามารถอ่านรายละเอียดได้จากที่มา) และอีกสิ่งหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาใน Beta 2 นี้คือ Wallpaper ใหม่ที่เหมือนกับรูปที่ใช้ในการโฆษณา ซึ่งมีเฉพาะบน iPhone 8 สีแดง (PRODUCT)RED เท่านั้น
และวันนี้ทีมงาน MacThai จะมาแจก Wallapaper ใหม่นี้ ให้กับผู้ที่ใช้ iPhone รุ่นอื่น ๆ นำไปใช้กัน สามารถดาวน์โหลดรูปขนาดเต็ม (1125 x 2436 พิกเซล) ได้จาก ที่นี่
ที่มา – 9to5Mac
The post Apple ปล่อย iOS 11.4 Beta 2 ให้นักพัฒนา มาพร้อม Wallpaper iPhone 8 (PRODUCT)RED ใหม่ appeared first on Macthai.com.
เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ค่อยได้ใช้ Spotlight Search บน iPhone และ iPad กันสักเท่าไหร่ เพราะอาจจะชินกับการค้นหาบนเว็บบราวเซอร์มากกว่า จริงๆ แล้ว Spotlight Search มีประโยชน์และฉลาดมากกว่าที่คิด ลองชมเทคนิคการใช้งานที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
Spotlight search เป็นเครื่องมือสำหรับค้นหาข้อมูลบนอุปกรณ์ iOS ที่ทำงานร่วมกับ Siri ที่แสนฉลาด เพื่อเดาใจว่าเราต้องการค้นหาอะไร และก็จะนำเสนอผลลัพธ์ที่ตรงใจผู้ใช้ เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลมากขึ้น
ไม่ว่าจะค้นหาแอป ข่าว อีเมล หรือข้อมูลทุกอย่างในเครื่อง Spotlight Searchก็จะทำหน้าที่ล้วงเอาข้อมูลทั้งหมดออกมาตามใจเราต้องการ ซึ่งความสามารถของ Spotlight Search บอกได้เลยว่า ค้นหาอะไรก็เจอ เพียงแค่เลื่อนหน้าจอไปทางขวาจากหน้าจอ Home
7 เทคนิคการค้นหาด้วย Spotlight Search บน iPhone, iPad 1. ค้นหาสถานที่ใกล้เคียงไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน เราก็สามารถค้นหาสถานที่ใกล้เคียงที่ต้องการได้ เพียงแค่พิมพ์ชื่อสถานที่หรือประเภทของสถานที่ แล้วต่อท้ายด้วย near me ตัว Spotlight Search ก็จะแสดงสถานที่ที่อยู่ใกล้เคียงมาให้ สามารถแตะลูกศร เพื่อดูแผนที่หรือการนำเส้นทางต่อได้เลย
หากเรามีแผนจะไปรับคนในครอบครัวหรือเพื่อนที่สนามบิน เพียงแค่กรอกไฟลท์บิน ก็จะพบกับรายละเอียดของเที่ยวบินนั้น โดยเฉพาะเวลากำหนดที่ถึงสนามบิน บางเที่ยวบินก็ระบุหมายเลขประตูรับกระเป๋า เพิ่มความสะดวกเข้าไปอีก นอกจากนี้ยังสามารถแตะ เส้นทางไป เพื่อให้แผนที่นำทางไปยังสนามบินได้
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย การเช็คสภาพอากาศล่วงหน้าจะทำให้เราเตรียมตัวและวางแผนการเดินทางได้ เราสามารถเช็คสภาพอากาศบน Spotlight Search เพียงแค่พิมพ์คำว่า อากาศพรุ่งนี้ ก็จะพบกับข้อมูลพยากรณ์อากาศล่วงหน้าในพื้นที่ที่เราอยู่
สำหรับคอกีฬาก็สามารถเช็คผลคะแนนได้ โดยพิมพ์รายการกีฬาที่ต้องการ เช่น premier league scores, nba score ก็จะพบกับผลคะแนนล่าสุด
หากต้องการดูตารางผลบอล ก็พิมพ์รายการฟุตบอลที่ต้องการตามด้วย table ดังตัวอย่าง premier league table เพียงเท่านี้ก็สามารถ ดูการจัดอันดับของฟุตบอลได้เลย
ใครที่ต้องใช้การแปลงสกุลเงินบ่อยๆ ก็สามารถพิมพ์จำนวนเงินและสกุลเงิน เพื่อให้ Spotlight Search แปลงสกุลเงินได้อย่างรวดเร็ว
เพียงแค่พิมพ์สูตรตัวเลข บวก ลบ คูณ หาร Spotlight Search ก็จะแสดงผลลัพธ์ให้ทราบทันที
ติดตามข่าวที่น่าสนใจได้ทั่วโลก โดยพิมพ์คีย์เวิร์ดหรือคำที่ต้องการค้นหา จากนั้นก็เลื่อนไปยังหัวข้อข่าว เพื่อเลือกอ่านข่าวยอดนิยมได้เลย
และนี่ก็เป็นเพียงเทคนิคส่วนหนึ่งที่คาดว่าจะมีประโยชน์สำหรับใครหลายๆ คนที่อาจจะต้องพึ่งพา Spotlight Search ในยามฉุกเฉินหรือเวลาที่คิดอะไรไม่ออกก็สามารถมาค้นหาที่นี่ได้เลย ซึ่งความสามารถของ Spotlight Search ยังมีอีกมากมาย เพียงแค่คุณลองป้อนคำที่ต้องการลงไปในช่องค้นหา ก็จะได้สิ่งที่ต้องการในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ยังไงก็ลองใช้งานกันดูนะคะ และสำหรับใครที่มีเทคนิคเจ๋งๆ ก็สามารถแชร์กันได้เลย
The post 7 เทคนิคการค้นหาด้วย Spotlight Search บน iPhone, iPad appeared first on iPhoneMod.
ในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ สตาร์บัคส์ในสหรัฐอเมริกาจะเปิดให้บริการเพียงช่วงเช้าเท่านั้น เพราะครึ่งวันบ่ายจะปิดทุกสาขา เพื่ออบรมพนักงานเรื่องอคติทางสีผิว
สตาร์บัคส์ประกาศปิดหน้าร้านทุกสาขาในช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 29 พฤษภาคมนี้ เพื่อทำการอบรมเรื่อง “อคติทางสีผิว” ให้กับพนักงานทั้งหมดกว่า 175,000 คนทั่วสหรัฐอเมริกา
เหตุการณ์ขยายวงกว้างออกไปมากขึ้น เมื่อมีการเผยแพร่คลิปจับกุมชายผิวดำทั้ง 2 คนในร้านสตาร์บัคส์ [ดูคลิปได้ในท้ายบทความ] ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจต่อร้านสตาร์บัคส์ลุกลามออกไป เพราะหลายคนมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติทางสีผิว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดจากปรากฏการณ์นี้ คือการที่มีผู้คนออกมาเรียกร้องให้สตาร์บัคส์ปิดร้านไปอย่างถาวร หรืออย่างในโลกออนไลน์ได้เกิดแฮชแท็กที่ได้รับความนิยมอย่าง #ShutdownStarbucks (ปิดร้านสตาร์บัคส์) และ #BoycottStarbucks (คว่ำบาตรสตาร์บัคส์)
แค่ขอโทษไม่พอ ขอปิดร้านไปอบรมพนักงานกว่าแสนคนหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น Kevin Johnson ซีอีโอคนใหม่ของสตาร์บัคส์ เดินทางไปเมืองฟิลาเดลเฟียเพื่อพบปะกับชายผิวดำทั้ง 2 คนเพื่อกล่าวแสดงความขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แค่คำขอโทษดูเหมือนจะไม่พอ ซีอีโอสตาร์บัคส์ตอบสนองข้อเรียกร้องให้ปิดร้าน แต่ขอปิดเพียงครึ่งวันบ่ายเท่านั้น เพื่อทำการฝึกอบรมพนักงานกว่า 175,000 คนของสตาร์บัคส์ทั่วสหรัฐอเมริกา โดยหลักสูตรในการอบรม แน่นอนว่า จะเน้นอบรมเรื่องอคติทางสีผิวและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่แสดงการกีดกันทางเชื้อชาติ รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาอย่างไม่เลือกปฏิบัติต่อทุกคนเข้ามาใช้บริการในร้านสตาร์บัคส์
ต้องติดตามดูว่าสตาร์บัคส์จะแก้ไขปัญหานี้ในระยะยาวได้อย่างไร เพราะเหตุการณ์เหยียดเพศทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม การปิดร้านทุกสาขาเพื่ออบรมพนักงาน สตาร์บัคส์เคยทำมาแล้วก่อนหน้านี้ อย่างเช่นในปี 2008 ที่สตาร์บัคส์ยังอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ Howard Schultz ซีอีโอคนเก่า เขาได้สั่งปิดร้านทุกสาขาในสหรัฐอเมริกา เพื่อทำการอบรมเรื่องการทำกาแฟและเติมไฟในการทำงานให้กับพนักงานกว่า 135,000 คน
ที่มา – Business Insider, CNNMoney, Financial Times
@Starbucks The police were called because these men hadn’t ordered anything. They were waiting for a friend to show up, who did as they were taken out in handcuffs for doing nothing. All the other white ppl are wondering why it’s never happened to us when we do the same thing. pic.twitter.com/0U4Pzs55Ci
— Melissa DePino (@missydepino) April 12, 2018
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
Apple ได้เผยแพร่ 2 วิดีโอโฆษณาใหม่ ชุด Switch (แนะนำให้เปลี่ยนมาใช้ iPhone) โดยเป็นการแนะนำฟีเจอร์ Portrait และ App Store
Apple ได้เผยแพร่ 2 โฆษณาใหม่ผ่าน Apple Mexico ใน YouTube ดังนี้
iPhone — Retratosในวิดีโอสื่อว่า ผู้ใช้จะสามารถถ่ายภาพได้หลากหลายขึ้น เช่น Portrait เมื่อเปลี่ยนมาใช้ iPhone
iPhone — App Storeในวิดีโอสื่อว่าถ้าผู้ใช้เปลี่ยนมาใช้ iOS และแอปใน App Store จะไม่เจอปัญหาแอปค้าง ใช้งานไม่ได้ หรือเสียหาย
Apple ได้โฆษณาให้ผู้ใช้ Android และระบบอื่นเปลี่ยนมาใช้ iPhone หรือ iOS และได้เปิดหน้าเว็บ apple.com/th/switch เพื่อประชาสัมพันธ์ถึงความง่าย และความสะดวกหากเปลี่ยนมาใช้ iPhone
The post โฆษณาใหม่ Apple ชุด Switch แนะนำฟีเจอร์ Portrait และ App Store appeared first on iPhoneMod.
ล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศ UDN ได้ออกมารายงานว่า Samsung เตรียมเดินสายการผลิตหน้าจอ OLED ให้ iPhone X และ iPhone X Plus ในเดือนพฤษภาคมนี้
แหล่งข่าวจากหนึ่งในโรงงานผู้ผลิตหน้าจอของ Samsung นั้นเผยข้อมูลว่า ในปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบยอดการผลิตหน้าจอเป็นอย่างมาก เหตุเนื่องมาจากยอดขาย iPhone X ไม่ค่อยดี จนทำให้สายการผลิตหน้าจอ OLED ต้องชะลอมาหลายเดือน และทางผู้ผลิตคาดว่าน่าจะเริ่มเดินสายการผลิตอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมิถุนายน หรือไม่ก็ประมาณไตรมาสที่ 3 ของปีเลย
แต่ล่าสุด Samsung ได้มีแผนที่จะผลิตหน้าจอให้กับแอปเปิลประมาณ 2-3 ล้านชิ้น ในเดือนพฤษภาคม และอีก 4-6 ล้านชิ้นในเดือนมิถุนายน ทำให้สายการผลิตของซัมซุงเตรียมเดินสายการผลิตเร็วกว่าที่การณ์ไว้ตอนแรก
UDN ให้ความเห็นว่าการสั่งผลิตหน้าจอของแอปเปิลในปีนี้ ถือว่าเร็วกว่าปีก่อน ๆ ซึ่งเขาคาดว่าน่าจะเพื่อแก้ปัญหาวันจำหน่ายของ iPhone X ล่าช้าในปีที่แล้ว ที่เริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน หรือระยะเวลาเกือบ 2 เดือนหลังจากวันเปิดตัวในเดือนกันยายน
สำหรับไอโฟนรุ่นใหม่ในปีนี้ คาดว่าน่าจะมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ iPhone หน้าจอ OLED 5.8″ (iPhone X รุ่นที่ 2), iPhone หน้าจอ OLED 6.5″ (iPhone X Plus) และ iPhone หน้าจอ LCD 6.1″ ต้องมาดูกันว่าในปีนี้แอปเปิลจะวางกลยุทธ์ไอโฟนรุ่นใหม่ไว้อย่างไรบ้าง กันยายนปีนี้เจอกัน
ที่มา – iClarified
The post Samsung เตรียมเดินสายการผลิตจอ OLED ให้ iPhone X และ X Plus พฤษภาคมนี้ appeared first on Macthai.com.
การค้นหาและการดูวิดีโอบน YouTube จะมีการเก็บประวัติไว้ ซึ่งบางครั้งเราอาจจะให้คนอื่นดู YouTube ในเครื่องของเรา และไม่ต้องการให้คนอื่นรับรู้การค้นหาวิดีโอและการเข้าชมล่าสุด รับชมวิธีลบประวัติการค้นหาและประวัติการเข้าชมวิดีโอบน YouTube ได้เลย
หลายคนอาจจะให้บุตรหลานเล่นโทรศัพท์มือถือ และแน่นอนว่าต้องไม่พลาดกับการดู YouTube หากต้องการป้องกันไม่ให้บุตรหลานดูเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือวิดีโอที่คุณต้องการหลีกเลี่ยงให้เด็กๆ ดู ก็สามารถลบประวัติการค้นหาและประวัติการเข้าชมวิดีโอได้ทั้งบนแอป YouTube และการเปิด YouTube บนเว็บบราวเซอร์ ดังนี้
วิธีลบประวัติการค้นหาบน YouTube บนแอป YouTubeไปที่แอป YouTube แตะแท็บคลังวิดีโอ > แตะ ประวัติการเข้าชม > แตะไอคอน 3 จุดด้านหลังวิดีโอที่ต้องการลบ > แตะ ลบจากดูประวัติ
กรณีต้องการลบประวัติทั้งหมด ให้แตะไอคอน 3 จุดด้านบนขวา > แตะ ลบทั้งหมด
ต้องล็อกอิน Account YouTube บนเว็บบราวเซอร์ให้เรียบร้อยก่อนนะคะ
ไปที่ https://www.youtube.com/feed/history > แตะ แท็บดูประวัติ > แตะไอคอน 3 จุดด้านหลังวิดีโอที่ต้องการลบ > แตะ ลบจาก ประวัติ
หากต้องการลบทั้งหมด ให้แตะ ลบทั้งหมด > ล้างประวัติการดูทั้งหมด
ไปที่แอป YouTube > แตะไอคอนรูปแว่นขยายด้านบน > จะพบกับรายการที่เราเคยค้นหา ให้เลื่อนรายการค้นหาไปทางซ้าย และแตะ ลบ
ต้องล็อกอิน Account YouTube บนเว็บบราวเซอร์ให้เรียบร้อยก่อนนะคะ
ไปที่ https://www.youtube.com/feed/history > แตะ แท็บประวัติการค้นหา> แตะไอคอน 3 จุดด้านหลังคำค้นหาที่ต้องการลบ > แตะ ลบจาก ประวัติการค้นหา
หากต้องการลบทั้งหมด ให้แตะ ลบทั้งหมด > ล้างประวัติการค้นหาทั้งหมด
และนี่ก็เป็นวิธีการลบประวัติการค้นหาและประวัติการเข้าชมวิดีโอบน YouTube ช่วยป้องกันคนอื่นที่มาเล่นโทรศัพท์เข้าถึงหรือรับรู้การใช้งาน YouTube ของเรา ก็ลองนำไปปฏิบัติกันดูนะคะ
ขอบคุณ iMore
The post วิธีลบประวัติการค้นหาและประวัติการเข้าชมบน YouTube appeared first on iPhoneMod.
iPhone X เป็น Smartphone ที่ สร้างกำไร สูงสุดในไตรมาส 4 ปี 2017 โดยมีสัดส่วนกำไรอยู่ที่ 35% เมื่อเทียบกับ Smartphone รุ่นอื่นในตลาด
iPhone X ทำกำไรได้ดีมากในไตรมาส 4 ปี 2017Counterpoint รายงานข้อมูลการเติบโตของ Smartphone ว่าในช่วงเดือน ต.ค. – ธ.ค. 2017 หรือไตรมาส 4 ปี 2017 การเติบโตของตลาด Smartphone โดยรวมลดลง 1% ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ซื้อกำลังเปลี่ยนมือถือรุ่นใหม่
ถึงแม้ตลาด Smartphone โดยรวมจะมีสัดส่วนลดลงแต่ Counterpoint เผยว่า Apple เติบโตขึ้น 1% จากยอดขาย iPhone X ถึงแม้ iPhone X จะเปิดขายในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของไตรมาสก็ตาม
ในรายงานเผยว่า iPhone X สามารถสร้างยอดขายได้ 21% จากรายได้ทั้งหมดในตลาด Smartphone และสามารถสร้างกำไรได้ 35% ซึ่งสูงที่สุดในบรรดา Smartphone ที่ขายได้ในไตรมาส 4 ปี 2017
เมื่อดูในอันดับของ Counterpoint พบว่า iPhone ของ Apple นั้นติด 10 อันดับแรกของ Smartphone ที่สร้างกำไรได้ดีในไตรมาส 4 ปี 2017 และ iPhone 6 ที่เป็นรุ่นเก่าก็ยังสามารถทำกำไรให้ Apple ได้อยู่ (มากกว่า iPhone 6s)
สำหรับ iPhone X ที่สามารถทำกำไรได้สูงสุดนั้นแน่นอนว่าปัจจัยด้านราคามีผลอย่างแน่นอน เนื่องจาก iPhone X เป็น iPhone ที่มีราคาเปิดขายสูงที่สุด คือ เริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์ และ Tim Cook เผยว่า iPhone X สร้างยอดขายได้ดีมากตั้งแต่เปิดขาย ส่วนปี 2018 นี้จะเป็นอย่างไร ติดตามกันต่อไป
ที่มา – iClarified
The post iPhone X สร้างกำไรสูงสุด 35% ในตลาด Smartphone ไตรมาส 4 ปี 2017 appeared first on iPhoneMod.
ก่อนหน้านี้ Apple ได้ปล่อยอัปเดต iOS 11.4 Beta 2 ให้นักพัฒนาได้อัปเดต และหลังจากนั้นไม่นานก็ได้ปล่อยอัปเดต Public Beta ให้ผู้สนใจทั่วไปได้อัปเดตทดสอบกันด้วย
Apple ปล่อย iOS 11.4 Public Beta 2 สำหรับผู้สนใจทั่วไปสำหรับ iOS 11.4 Public Beta 2 นี้เป็น iOS สำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการทดสอบโดยแน่นอนว่าใน iOS 11.4 Public Beta 2 จะยังมีปัญหาเรื่องการใช้งานทั่วไป ปัญหาการใช้งานแอปต่างๆ และอื่นๆ ดังนั้นผู้ที่จะทดสอบควรพิจารณาความเหมาะสมให้ดี
สิ่งใหม่ใน iOS 11.4 Beta 2ผู้ใช้ทั่วไปที่ลงทะเบียน iOS 11 Public Beta สามารถอัปเดตเป็น iOS 11.4 Public Beta 2 ผ่าน OTA ได้เลย
อุปกรณ์ที่รองรับ iOS 11.4 Public Beta 2สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการติดตั้ง iOS 11 Public Beta เพื่อทดสอบหรือทดลองใช้งาน สามารถชมวิธีติดตั้งตามนี้ได้เลย
วิธีติดตั้ง iOS 11 Public Betaเริ่มต้นโดยกดที่ Download Profile
เลือก iPhone
เลือก ติดตั้ง
เลือก เริ่มการทำงานใหม่
จากนั้นเครื่องจะรีบูตใหม่แล้วสามารถตรวจสอบซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ผ่าน OTA ได้เลย
ข้อควรจำThe post Apple ปล่อย iOS 11.4 Public Beta 2 สำหรับผู้สนใจทั่วไป ได้อัปเดตทดสอบกันแล้ว appeared first on iPhoneMod.
บทความโดย นฤพนธ์ ชมภูศรี
ปัญหาเรื่องขยะพลาสติกล้นท้องทะเล เป็นปัญหาที่หลายๆ ประเทศได้พยายามแก้ไขอยู่ตลอด ไม่ใช่แค่มนุษย์ที่ได้รับผลกระทบ แต่สัตว์ในท้องทะเลที่ไม่รู้ว่าอันไหนขยะหรืออาหารก็สูญเสียไปมาก จากขยะถุงพลาสติกในแต่ละปี
ดังนั้น TESCO ที่ประเทศมาเลเซีย ได้คิดแคมเปญ Unforgettable Bag หรือ ถุงพลาสติกที่คุณจะลืมไม่ได้! ออกมาเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนนำถุงพลาสติกมาใช้ซ้ำ (Re-use) มากขึ้นนั่นเอง โดยสาเหตุหลักที่จะทำให้เราไม่ลืมถุงพลาสติกนี้ เพราะสามารถเอามาเป็นส่วนลดได้!
นำถุงกลับมาใช้ซ้ำ ได้รับส่วนลดไปอีกวิธีการ คือ ผลิตถุงพลาสติกที่มีบาร์โค้ดติดไว้ที่ตัวถุง เมื่อลูกค้านำถุงพลาสติกที่ได้ กลับมาใช้ซ้ำอีกรอบ พวกเขาก็จะได้ส่วนลดราคาในการซื้อของครั้งถัดไปนั่นเอง นอกจากนั้น ตัวบาร์โค้ดที่ถุง ยังเป็นรูปของสัตว์ทะเลต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากขยะพลาสติก อย่าง ปลาวาฬ เต่า เป็นต้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนเห็นถึงความสำคัญของการใช้ถุงพลาสติกอย่างจำเป็น
สำหรับในไทย มีการรณรงค์ให้ลดการใช้ถุงพลาสติก อย่าง TESCO Lotus ของไทยมีการแจก แต้มกรีนพ้อยท์ เพิ่มสำหรับคนที่ไม่รับถุงพลาสติกและรณรงค์ให้นำถุงผ้ามาใช้ น่าเสียดายที่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่ไม่แน่ ด้วยนิสัยของคนไทยที่ชอบส่วนลดอยู่แล้ว ไอเดีย Unforgettable Bag นี้อาจจะได้รับความนิยมในไทยก็ได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
เทศกาลดนตรี Coachella นอกจากจะเป็นสวรรค์ของคนรักดนตรี และศิลปะแล้ว ยังกลายเป็นพื้นที่ระเบิดแฟชั่นอย่างเต็มที่ ภายในงานยังได้กลายเป็นเวทีสำหรับแบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ในการโปรโมทคอลเล็กชั่นใหม่ด้วย
ด้วยหลายปีมานี้อิทธิพลของโซเชียลมีเดียมีมีมากขึ้น ส่งผลต่อกลุ่ม Gen M ทั้งหลาย กลายเป็นว่าภายในงาน Coachella ได้เป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำหรับแบรนด์แฟชั่นในการทำการตลาด ยิ่งภายในงานมี Influencer เข้าร่วมงานเพียบ แบรนด์ไม่พลาดที่จะตะครุบช่วงเวลานี้ไว้อย่างแน่นอน
แบรนด์ H&M ฟาสต์แฟชั่นจากสวีเดนได้ใช้งานอีเวนต์นี้ประกาศความร่วมมือกับนางแบบชื่อดัง Gigi Hadid และโปรเจคต์ Collaboration กับ Moschino ซึ่งคอลเล็กชั่นนี้จะแฝงความขี้เล่นของ Moschino ในราคาเบาๆ ฉบับ H&M
สำหรับ Adidas เป็นอีกหนึ่งสปอนเซอร์ของงานนี้ โดยใช้โอกาสนี้ในการเปิดตัว Ultra Boost Clima รองเท้ารุ่นใหม่ในราคา 200 เหรียญ มีจำหน่ายที่ร้านป็อปอัพ
ส่วน Puma ได้ร่วมมือกับ Drippin ในการจัดปาร์ตี้สระว่ายน้ำสำหรับคอลเล็กชั่นใหม่ Fenty X Puma พร้อมกับ Rihanna และ Levi’s ได้ Snoop Dog มาร่วมเปิดมินิเฟสติวัลของตัวเอง สร้างความฮือฮาไม่น้อย
ในขณะที่แบรนด์ความสวยความงามก็ไม่น้อยหน้า แบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง Urban Decay, Sephora tent และ Dior ใช้โอกาสนี้ในการเปิดตัวสินค้าใหม่ น้ำหอมใหม่ๆ เช่นกัน
ไม่ใช่แค่แบรนด์แฟชั่น ไลฟ์สไตล์อย่างเดียวที่ใช้พื้นที่งาน Coachella เป็นเครื่องมือการตลาดในการสื่อสารแบรนด์ ยังมีแบรนด์อื่นๆ อีก ทั้ง HP, Red Bull, BMW i พร้อมกับสร้างแคมเปญ #roadtocoachella บนโซเชียลมีเดีย เพื่อแนะนำเทศกาลดนตรีนี้
ในปีนี้งาน Coachella ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 19 แล้ว สามารถสร้างรายได้รวม 114.6 ล้านเหรียญ มีคนเข้าร่วมงาน 125,000 คน โดยที่บัตรขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
สาเหตุที่หลายคนยังเลือกใช้ HDD เพราะราคาต่อความจุถูกกว่า SSD เป็นอย่างมาก แต่ข่าวดีก็คือปีนี้ NAND Flash ซึ่งหมายถึงหน่วยความจำแบบแฟลชทุกชนิด ตั้งแต่สมาร์ทโฟน, แฟลชไดร์ว, หน่วยความจำคอมพิวเตอร์, ฯลฯ อาจมีราคาของชิปที่ถูกลงตามการคาดการณ์ของ บริษัท วิจัยตลาด DRAMeXchange
ด้วยกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปี 2018 ที่ผลิตมาเกินความต้องการเล็กน้อย แถมช่วงนี้ลามไปจนถึงไตรมาสที่ 2 ก็ยังไม่น่ามีสินค้าตัวใหม่ ๆ มากระตุ้นตลาด ซึ่งส่งผลให้ราคาของ NAND Flash มีแนวโน้มที่จะต่ำลงเรื่อย ๆ นั่นเอง แต่หากครึ่งปีหลังหากตลาดสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ยังมีความต้องการที่จะผลิตรุ่นความจุสูงขึ้นกว่าเดิม ก็มีแนวโน้มที่ราคา NAND Flash จะไม่ตกต่ำลงกว่านี้
หลายปีก่อนหน้านี้เคยมีความต้องการ NAND Flash อย่างมหาศาลจะผู้ผลิตต้องขยายโรงงานเพิ่ม ส่วนในเรื่องของอนาคตในการผลิตเม็ดความจำรุ่นถัดไป 9x-layer ก็ดูเหมือนจะต้องเลื่อนไปจนถึงปี 2019 และสุดท้ายนี้ก็ได้แต่หวังว่าราคาของ NAND Flash จะตกลงไว ๆ เพราะคอเกมหลายคนก็อยากอัปเกรด RAM, SSD, VGA กันเต็มทนแล้ว และสำหรับ iPhone ความจุสูง ราคาจะถูกลงหรือไม่ คงต้องลุ้นกันต่อไป
ที่มา – guru3d
The post NAND Flash (RAM, SSD) ปีนี้อาจราคาถูกลงเพราะผลิตมาเยอะเกินไป appeared first on iPhoneMod.
บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ของปี 2561 ซึ่งประเด็นเรื่องของ NPL ธนาคารที่ลดลง และรวมไปถึงเรื่องสัญญาโอนขายลูกหนี้ส่วนบุคคล รวมไปถึงธุรกิจบัตรเครดิต ให้กับธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น. เอ. สาขากรุงเทพ (Citibank)
รายได้รวมของ TISCO ไตรมาสนี้อยู่ที่ 5,518 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้ว 25.4% สำหรับกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,765 ล้านบาท เติบโตกว่าไตรมาส 1 ปีที่แล้ว 18.5% กำไรที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ส่วนหนึ่งมาจากการตั้งสำรองหนี้ที่ลดลงของบริษัท
ส่วนรายได้ที่ได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ เพิ่มขึ้น 22.4% อยู่ที่ 260.84 ล้านบาท ส่วนทางด้านธุรกิจจัดการกองทุนยังคงเพิ่มขึ้นจากการออกกองทุนใหม่ๆ รับความต้องการของลูกค้า โดยรายได้เพิ่มขึ้น 27.9% อยู่ที่ 385.03 ล้านบาท
สำหรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการรับโอนลูกค้ามาจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ทางบริษัทได้แจ้งว่าบริษัทยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดีอยู่
ในส่วนของเรื่องของ NPL ของบริษัทนั้นอยู่ที่ 2.32% อยู่ที่ 5,711.82 ล้านบาท ซึ่งจำนวนเงินลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาคือเรื่องของสัญญาโอนขายลูกหนี้ส่วนบุคคล รวมไปถึงธุรกิจบัตรเครดิต ของบริษัทให้กับธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น. เอ. สาขากรุงเทพ จำนวน 132,000 ราย เป็นลูกค้าสินเชื่อบุคคล 32,000 ราย ลูกค้าบัตรเครดิตอีก 100,000 ราย มูลค่าของสินเชื่อที่โอนให้ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 5,700 ล้านบาท
ซึ่งมูลค่าสินเชื่อทั้งหมดที่ต้องโอนให้ทาง ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น. เอ. สาขากรุงเทพ อยู่ที่ 6,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินเชื่อที่ทางธนาคารซื้อต่อมาจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ในปีที่ผ่านมา ซึ่งการโอนขายลูกค้ากลุ่มนี้นั้นเป็นกลยุทธ์ระยะยาวของธนาคาร ซึ่งทางธนาคารคาดว่าจะทยอยโอนแล้วเสร็จไตรมาสที่ 4
ที่มา – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา