Canonical บริษัทแม่ของ Ubuntu ประกาศข่าวเกี่ยวกับการซัพพอร์ต Kubernetes ชุดใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ของสำคัญคือ MicroK8s เป็นแพ็กเกจ Kubernetes ในฟอร์แมต Snap ที่ Ubuntu และดิสโทรอื่นๆ ใช้งาน ช่วยให้การติดตั้ง Kubernetes บนดิสโทรลินุกซ์ทำได้ง่ายเพียงแค่คำสั่งเดียว และอัพเดตอัตโนมัติเมื่อมีเวอร์ชันใหม่
นอกจากนี้ Canonical ยังประกาศซัพพอร์ต kubeadm เครื่องมือจัดการคลัสเตอร์ Kubernetes ให้ครอบคลุมถึงลูกค้าองค์กรที่จ่ายเงินซื้อผ่านบริการ Ubuntu Advantage
Mark Shuttleworth ผู้ก่อตั้ง Canonical ผู้พัฒนา Ubuntu ประกาศในในงาน OpenStack Summit ว่า Ubuntu 18.04 จะเป็นรุ่นที่ซัพพอร์ตยาวถึง 10 ปี
ไม่ชัดเจนว่าซัพพอร์ตยาว 10 ปีนี้จะรวมถึงผู้ใช้ฟรีด้วยหรือไม่ โดยปกติแล้ว Ubuntu เวอร์ชั่น LTS (ซัพพอร์ตระยะยาว) จะมีแพตช์ให้ฟรี 5 ปี และหลังจากนั้นจะมีแพตช์ความปลอดภัยระดับร้ายแรงสูงให้สำหรับลูกค้า Ubuntu Advantage ต่อไป โดย Ubuntu 12.04 ที่หมดระยะซัพพอร์ตปกติไปแล้ว จะยังมีแพตช์ให้ลูกค้าต่อไปจนถึงปี 2020 แต่อย่างไรก็ดี การซัพพอร์ตระยะยาวเช่นนี้จะทำให้ Ubuntu มีข้อเสนอที่ใกล้เคียง Red Hat มากขึ้น
Ubuntu 18.10 โค้ดเนม Cosmic Cuttlefish ออกรุ่นจริงแล้ว ของใหม่มีดังนี้
ไมโครซอฟท์จับมือ Canonical ออกอิมเมจ Ubuntu 18.04.1 LTS เวอร์ชันพิเศษที่ปรับปรุงให้ทำงานร่วมกับ Hyper-V ได้ดีกว่าเดิม เมื่อติดตั้งแล้วจะได้ Ubuntu ที่เป็น Enhanced Session Mode เชื่อมต่อระหว่าง host/guest ได้ดีขึ้น (เช่น แชร์ไฟล์ หรือ คลิปบอร์ด) โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเองเลย
วิธีใช้งานสามารถเรียกจาก Hyper-V Quick Create ได้โดยตรงจากตัว Windows 10 เลย (ต้องเป็น Fall Creators Update ขึ้นไป)
ฟีเจอร์นี้จำเป็นต้องใช้ Hyper-V ซึ่งมีใน Windows 10 เกือบทุกเวอร์ชันยกเว้น Home
หากใครยังจำกันได้ Ubuntu เคยมีระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตอยู่ ใช้ชื่อว่า Ubuntu Touch (หรือบางคนอาจจะเรียกว่า Ubuntu Phone) แต่พอ Ubuntu เลิกพัฒนา Unity จึงทำให้โครงการ Ubuntu Touch ต้องยุติลงตามไปด้วย แต่ล่าสุด โครงการ UBports ได้นำ Ubuntu Touch มาพัฒนาต่อ จนกระทั่งเพิ่งออกอัปเดท OTA-4 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ไมโครซอฟท์ออก PowerShell เวอร์ชันแมคและลินุกซ์มาตั้งแต่ปี 2016 คราวนี้ไมโครซอฟท์ขยับขยายเพิ่มเติม โดยออกแพ็กเกจ PowerShell Core เวอร์ชัน Snap สำหรับใช้งานบน Ubuntu ด้วย
Snap เป็นระบบแพ็กเกจซอฟต์แวร์แบบใหม่ที่เริ่มใช้ใน Ubuntu 16.04 LTS เป็นต้นมา มันถูกออกแบบด้วยแนวคิดแบบเดียวกับแพ็กเกจซอฟต์แวร์บนสมาร์ทโฟน ติดตั้งง่าย ลบง่าย อัพเดตง่าย ไม่ต้องติดปัญหา dependency และภายหลัง Snap ก็นำไปใช้กับดิสโทรอื่นๆ ได้ด้วย
LG เปิดตัวมอนิเตอร์แบบจอโค้ง ที่มาพร้อมซีพียู AMD Ryzen 3 และสามารถลงระบบปฏิบัติการ Windows / Ubuntu เองได้
มอนิเตอร์รุ่นใหม่นี้ใช้ชื่อว่า ‘LG 38CK900G-B’ จอโค้ง UltraWide IPS ขนาด 38 นิ้ว สัดส่วน 21:9 ความละเอียด 3840 x 1600 มาพร้อมซีพียู AMD Ryzen 3 แบบ dual-core ไร้พัดลมระบายความร้อน มากับ Vega graphics, แรม 8GB DDR4 อัพเกรดได้สูงสุด 16GB, SSD 128GB, สามารถลงระบบปฏิบัติการ Windows 10 / Ubuntu เองได้
ตัวมอนิเตอร์มีความเร็วในการตอบสนอง คือ 5 ms, มี Wireless และ Bluetooth ในตัว, มี webcam, ลำโพงสเตอริโอขนาด 10 วัตต์ นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อกับพอร์ท HDMI, USB 3 พอร์ท, USB Type-C 2 พอร์ท, mic และ ethernet
Ubuntu 18.04 LTS โค้ดเนม "Bionic Beaver" ออกแล้ว เวอร์ชันนี้ถือเป็น LTS ตัวแรกที่เปลี่ยนกลับมาใช้ GNOME หลังการเปลี่ยนแปลงใน Ubuntu 17.10 เมื่อปีที่แล้ว
ของใหม่ใน Ubuntu 18.04 LTS
ในยุคของคลาวด์ที่ระบบปฏิบัติการต้องแข่งกันเล็กเพื่อความคล่องตัว ล่าสุดทีมงาน Ubuntu ระบุว่าไฟล์อิมเมจขนาดเล็กที่สุด (Ubuntu Base) ของ Ubuntu 18.04 LTS ที่กำลังจะออกในเดือนหน้า ถูกลดขนาดลงเหลือเพียง 28MB เท่านั้น
ขนาดอิมเมจของ Ubuntu Base LTS ลดลงเรื่อยๆ ตามกาลเวลา จาก 65MB ในเวอร์ชัน 14.04 มาเหลือ 37MB ในเวอร์ชัน 16.04 และล่าสุด 28MB ในเวอร์ชัน 18.04 (เป็นไฟล์ที่บีบอัดเรียบร้อยแล้ว)
Ubuntu Base ถูกนำไปใช้ปรับแต่งเป็นอิมเมจสำหรับดิสโทรเฉพาะงาน ความสามารถของมันมีแค่ rootfs และสามารถติดตั้งแพ็กเกจเพิ่มเติมจาก repository ได้ นักพัฒนาอาจนำ Ubuntu Base เพิ่มแพ็กเกจบางตัวเฉพาะที่ต้องใช้ แล้วสร้างเป็นอิมเมจใหม่สำหรับใช้ในงานด้าน embedded หรือ container
Red Hat เผยผลสำรวจการใช้งานลินุกซ์บน public cloud โดยสอบถามไปยังผู้รับผิดชอบด้านไอทีของบริษัทขนาดใหญ่ในอเมริกาเหนือและยุโรป 500 ราย การสำรวจเกิดขึ้นช่วงกลางปี 2017
ถึงแม้ผลออกมาเป็น Red Hat Enterprise Linux (RHEL) ได้รับความนิยมสูงสุด (ตามคาด) แต่ข้อมูลอื่นๆ ในรายงานก็ช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมของลินุกซ์บนคลาวด์ได้มากขึ้น
คนส่วนใหญ่ทราบว่าพนักงานของกูเกิลส่วนใหญ่ใช้แมค แต่ก็มีพนักงานบางส่วนที่ใช้ลินุกซ์ด้วย โดยพนักงานของกูเกิลใช้ดิสโทรของบริษัทเองชื่อ Goobuntu ที่พัฒนาอยู่บนฐานของ Ubuntu
อย่างไรก็ตาม ในเดือนสิงหาคม 2017 กูเกิลก็เปิดเผยว่าเปลี่ยนจาก Goobuntu มาเป็นดิสโทรตัวใหม่ชื่อ gLinux ที่พัฒนาเองเช่นกัน และเปลี่ยนฐานจาก Ubuntu มาเป็น Debian (ใช้ Debian testing หรือ "buster" ที่จะนับเป็น Debian 10)
กูเกิลไม่ได้อธิบายเหตุผลที่เปลี่ยนจาก Ubuntu มาเป็น Debian แต่ระบุแค่ว่ามีระบบย้ายจาก Ubuntu 14.04 LTS มาเป็น Debian buster แล้ว
จากปัญหา Ubuntu 17.10 ทำให้ BIOS ของโน้ตบุ๊ก Lenovo, Acer และ Toshiba บางรุ่นเสียหาย ล่าสุดทาง Ubuntu กำลังจะออกอิมเมจ ISO ของ Ubuntu 17.10 ใหม่ทั้งหมด ที่แก้บั๊กนี้แล้ว
เป้าหมายของทีมงานคือออกในวันพฤหัสนี้ (11 มกราคม) แต่อาจเลื่อนออกไปได้ถ้าทดสอบแล้วยังเจอปัญหา
อย่างไรก็ตาม อิมเมจตัวใหม่นี้ถูกพัฒนาขึ้นก่อนข่าว Spectre/Meltdown ทำให้มันไม่รวมแพตช์ป้องกันมาด้วย ผู้ที่ดาวน์โหลดอิมเมจไปใช้งานต้องอัพเดตแพตช์กันเองหลังติดตั้งเสร็จแล้ว
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้ใช้เริ่มรายงานถึงอาการแปลกๆ เมื่อติดตั้ง Ubuntu 17.10 แล้วพบว่าไบออสไม่สามารถแก้ไขค่าอะไรได้ และยังไม่สามารถบูตเครื่องผ่าน USB ได้
ทาง Canonical พบว่าปัญหาเกิดจากบั๊กในไดรเวอร์ intel-spi-*
อย่างไรก็ตาม เครื่องที่ได้รับผลกระทบมีเพียงบางรุ่น ส่วนใหญ่เป็น Lenovo โดยตอนนี้ที่มีการรายงานปัญหาแล้ว ได้แก่
มีผู้ใช้โน้ตบุ๊ก Lenovo บางส่วนรายงานว่า เมื่อติดตั้ง Ubuntu 17.10 ลงในโน้ตบุ๊ก จะทำให้ BIOS ของตัวเครื่องได้รับความเสียหาย โดยมีอาการแตกต่างกันออกไปตั้งแต่ไม่สามารถบันทึกการตั้งค่าใน BIOS ได้ ไม่สามารถออกจากหน้าการตั้งค่า BIOS ได้ หรือไม่สามารถบูตจาก USB drive ได้
หลังจาก Ubuntu เปลี่ยนกลับมาใช้ GNOME ในเวอร์ชัน 17.10 แล้ว ในเวอร์ชันหน้า 18.04 ก็จะมีชุดไอคอนแบบใหม่ด้วย
ไอคอนใหม่ของ Ubuntu 18.04 คือชุดไอคอน Suru ที่สร้างโดย Sam Hewitt เจ้าของผลงานชุดไอคอน Paper และ Moka มาก่อน เขาระบุว่าได้รับการติดต่อจากทีม Ubuntu Desktop ให้นำ Suru มาเป็นไอคอนดีฟอลต์ตัวใหม่ของ Ubuntu นั่นเอง
ตอนนี้ไอคอน Suru ยังไม่สมบูรณ์ 100% โดย Hewitt ระบุว่าจะรีบเร่งวาดให้ทันกำหนดออกในเดือนเมษายน
จากข่าว Samsung DeX จะรองรับการรันลินุกซ์เดสก์ท็อปจากมือถือ ล่าสุดซัมซุงโพสต์วิดีโอบนช่อง YouTube ของตัวเอง โชว์คอนเซปต์การรัน Ubuntu บน DeX ให้เห็น
วิดีโอนี้ยังระบุว่าเป็นแค่ Concept Demo อาจไม่ใช่เดโมที่ใช้งานได้จริง ในวิดีโอแสดงการรัน Ubuntu 16 จากไอคอนในเดสก์ท็อปของ DeX แล้วรัน Eclipse ใน Ubuntu อีกต่อหนึ่ง สามารถทำงานเขียนโค้ด C/C++ ที่คอมไพล์เป็นเนทีฟสำหรับสถาปัตยกรรม ARM ได้ทันที
ซัมซุงเรียกฟีเจอร์นี้ว่า Linux on Galaxy และประกาศว่าจะใช้กับดิสโทรใดๆ ก็ได้
Mark Shuttleworth ประกาศโค้ดเนมของ Ubuntu เวอร์ชันหน้า 18.04 ที่จะเป็นเวอร์ชันซัพพอร์ตระยะยาว (LTS) ว่า Bionic Beaver หุ่นยนต์บีเวอร์จอมพลัง
ภาพรวมของ Ubuntu 18.04 LTS จะยังเดินหน้าไปในแนวทางเดิม นั่นคือ
Mark Shuttleworth ซีอีโอของบริษัท Canonical ผู้พัฒนา Ubuntu ให้สัมภาษณ์กับ eWeek ว่ามีแผนจะนำบริษัทขายหุ้น IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ และเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาตัดสินใจยกเลิกระบบเดสก์ท็อป Unity
Shuttleworth บอกว่าการเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ จำเป็นต้องคำนึงว่าผลิตภัณฑ์ใดทำเงินบ้าง ซึ่ง Ubuntu ทำเงินในตลาดเซิร์ฟเวอร์และคลาวด์ มีรายได้เลี้ยงตัวเองอย่างยั่งยืน แต่ฝั่งเดสก์ท็อปโดยเฉพาะ Unity กลับไม่ทำเงิน ทางทีมบริหารจึงตัดสินใจหยุดกระบวนการพัฒนา
Ubuntu 17.10 Artful Aardvark ได้ฤกษ์ออกตัวจริง เวอร์ชันนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Ubuntu ในรอบหลายปี เพราะเลิกใช้เดสก์ท็อป Unity หันมาใช้ GNOME แทน
Ubuntu 17.10 ใช้ GNOME 3.26.1 ที่รันบนระบบแสดงผล Wayland (แทน Mir), ย้ายปุ่มควบคุมหน้าต่างกลับมาไว้ด้านขวา (ครั้งแรกนับจากปี 2010), เปลี่ยนซอฟต์แวร์หน้าจอล็อกอินจาก LightDM มาเป็น GDM
ที่มา - Ubuntu, Release Notes
Ubuntu เวอร์ชัน 17.10 ที่จะปล่อยเดือนตุลาคมนี้ เตรียมยกเลิกไฟล์ ISO รุ่น 32-bit แล้ว โดย Dimitri John Ledkov จาก Canonical ยืนยันว่า Ubuntu จะเลิกปล่อยไฟล์อิมเมจ ubuntu-desktop-i386.iso จริง โดยเริ่มตั้งแต่เบต้าไปจนถึงตัวจริงของ Ubuntu 17.10
ทั้งนี้ โปรดทำความเข้าใจว่า ที่ Ubuntu จะยกเลิกนั้น เฉพาะไฟล์อิมเมจแบบ 32-bit ปกติเท่านั้น ในขณะที่ตัวเลือกในการติดตั้งแบบอื่นอย่าง minimal install ISO หรือ net install นั้นจะยังคงสามารถติดตั้ง Ubuntu 32-bit ได้เหมือนเดิม และผู้ใช้ที่ใช้ Ubuntu 32-bit อยู่จะยังคงสามารถดาวน์โหลดอัพเดตได้
เคยเป็นประเด็นขัดแย้งอย่างหนักในปี 2010 ตอนที่ Ubuntu ย้ายปุ่มควบคุมหน้าต่างจากมุมขวาบนมาเป็นมุมซ้ายบน เวลาผ่านมาอีก 7 ปี เมื่อ Ubuntu กลับลำ ย้ายจาก Unity มาเป็น GNOME ปุ่มก็จะถูกย้ายกลับมาด้านขวามืออีกครั้ง
ทีมงาน Ubuntu ประชุมกันแล้วได้ข้อตกลงว่า จะรักษาความเป็น GNOME ต้นฉบับให้มากที่สุด โดยจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานของ GNOME ให้น้อยที่สุด แปลว่า Ubuntu เวอร์ชันหน้า 17.10 ก็จะใช้การเรียงปุ่มควบคุมด้านขวาเหมือน GNOME ด้วย
สิ่งที่ Ubuntu จะใส่เพิ่มเข้ามามีเพียงแค่ธีม Ambience, ไอคอน และฟอนต์ ส่วนคนที่อยากได้พฤติกรรมแบบ Unity ก็สามารถปรับแต่งได้ผ่านส่วนขยายของ GNOME Shell
จากที่ประกาศไว้ในงาน Build 2017 และแล้วเราก็สามารถดาวน์โหลด Ubuntu ได้จาก Windows Store แล้ว
Ubuntu on Windows ตัวนี้เป็นแค่บางส่วนของ Ubuntu ที่ใช้งานได้เฉพาะคอมมานด์ไลน์บางคำสั่งเท่านั้น ผู้ใช้จำเป็นต้องเปิดฟีเจอร์ Windows Subsystems for Linux ก่อนค่อยดาวน์โหลดได้ การดาวน์โหลดผ่าน Store จำเป็นต้องเป็น Windows 10 Fall Creators Update หรือที่เป็น Insider เลข Build 16215 ขึ้นไป
การดาวน์โหลดดิสโทรผ่าน Store จะทำให้เราสามารถติดตั้งดิสโทรหลายตัวบนวินโดวส์ไปพร้อมๆ กันได้ (ควบคู่ไปกับ SUSE และ Fedora ที่เคยประกาศไว้แล้วแต่ยังไม่ลง Store ในตอนนี้)
System76 ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ที่พรีโหลด Ubuntu มาให้พร้อมไดรเวอร์อุปกรณ์อย่างครบครัน ได้ประกาศเปิดตัว Pop!_OS เป็นดิสโทร Linux ใหม่ (แต่ System76 เรียกว่า “ระบบปฏิบัติการ” ไม่ได้เรียกว่าดิสโทร) พัฒนาขึ้นบน Ubuntu และใช้ GNOME เป็นเดสก์ท็อปมาตรฐาน
Pop!_OS นี้จะออกมาเน้นการใช้คอมพิวเตอร์ของเหล่าโปรและนักสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง AI, โมเดลสามมิติ, งานด้านวิชาการ หรืองานประดิษฐ์ต่าง ๆ ส่วนติดต่อผู้ใช้ของ Pop จะถูกออกแบบมาให้สามารถปรับแต่งได้อย่างครอบคลุมเพื่อช่วยให้ flow การทำงานราบรื่น
Ubuntu Core ระบบปฏิบัติการรุ่นเล็กของ Ubuntu ซึ่งมีระบบจัดการแพ็กเกจแบบใหม่ Snappy ได้ออกเวอร์ชันใหม่รองรับ Raspberry Pi Compute Module 3 (CM3) แล้ว
CM3 เป็นโมดูลฮาร์ดแวร์แบบบอร์ดเดียว สามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ใดก็ได้โดยใช้ช่องเชื่อมต่อ DDR2 SODIMM ใช้หน่วยประมวลผล BCM2387 ที่ใช้ใน Raspberry Pi 3 มีแรม 1GB หน่วยความจำแบบแฟลช 4GB
Ubuntu เตรียมเปลี่ยนจาก LightDM มาใช้ GDM (GNOME Display Manager) เป็นตัวจัดการแสดงผล (display manager) หลักบน Ubuntu เวอร์ชัน 17.10 และ 18.04 LTS พร้อมกับการเปลี่ยนจาก Unity มาเป็น GNOME
ในตอนแรกนั้น ทีมงานพยายามจะทำให้ GNOME Shell เป็น LightDM Greeter แต่เนื่องจากการแยกโค้ดนั้นไม่ง่าย ซึ่งจากการชั่งน้ำหนักความเสี่ยงและปริมาณงานที่ต้องทำในการแก้ไข GNOME ให้รองรับ LightDM ทีมงานจึงตัดสินใจเลือกใช้ GDM แทน
ปัจจุบัน ระบบจัดการแสดงผลนี้มีหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการแสดงผลในหน้าล็อกอิน ดังนั้นหากเปลี่ยน LightDM เป็น GDM จริง เราน่าจะเห็นหน้าจอล็อกอินและหน้าจอล็อกของ Ubuntu เปลี่ยนไปด้วย