หนึ่งในบริษัทที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมากในช่วงนี้คือโนเกีย ว่าจะสามารถเอาตัวรอดจากตลาดมือถือได้มากน้อยแค่ไหน
ผลประกอบการไตรมาสล่าสุด (2/2010) ของโนเกีย เป็นดังนี้
จากที่คาดการณ์กันไว้ว่าตัวเลขรายได้ของแอปเปิลจะเพิ่มขึ้นสองเท่า ผลที่ออกมาก็ไม่ทำให้กองเชียร์ผิดหวังเพราะมันดียิ่งกว่าที่คาดการณ์ไว้นั้นอีก! โดยแอปเปิลแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 3 (ตามวิธีการนับไตรมาสของบริษัท) มีรายละเอียดทางการเงินดังนี้
Sony Ericsson แถลงผลประกอบการไตรมาสสองของปี 2010 สรุปว่ายอดขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปีเล็กน้อยที่ 11 ล้านเครื่อง ส่วนเรื่องเงินหักลบกลบหนี้กันแล้วเหลือกำไร 12 ล้านยูโร แม้จะดูไม่เยอะแต่ก็ดีกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนไป 213 ล้านยูโร
Bert Nordberg ประธานของ Sony Ericsson แถลงชัดเจนว่าไตรมาสนี้เอาตัวรอดมาได้เพราะความสำเร็จของ Xperia X10 และ Vivaz ที่เริ่มวางขายในช่วงไตรมาสแรก และมองโลกในแง่ดีว่า X10 mini กับ X10 mini pro จะช่วยให้บริษัทเติบโตในระยะยาว
ประกาศออกมาแล้วสำหรับผลประกอบการไตรมาสสองปีนี้ของกูเกิล (เมษายน - มิถุนายน) กูเกิลมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว (Y/Y) แต่รายได้เทียบกับไตรมาสหนึ่งปีนี้ (Q/Q) เพิ่มขึ้นเพียงแค่ร้อยละ 1 ซึ่งไม่แปลกอะไร เพราะการเพิ่มขึ้นของรายได้เพียงเล็กน้อยจากไตรมาสหนึ่ง เคยเกิดมาแล้วกับกูเกิลในปีที่ผ่านๆ มา
บางส่วนที่ Patrick Pichette CFO กล่าวไว้มีดังนี้
กลับไปอ่านข่าว AMD รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก 2010 ยังกำไรอยู่ ประกอบด้วยนะครับ
AMD บริษัทที่หลายคนแถวนี้เอาใจช่วย ได้แถลงผลประกอบการไตรมาสที่สองของปี 2010 ผลคือขาดทุน 43 ล้านดอลลาร์ แต่ที่น่าสนใจกว่าคือรายรับทั้งหมด (revenue) สูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทคือ 1.65 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งได้ปัจจัยหนุนจากตลาดพีซีที่เริ่มฟื้นตัวในปีนี้ (ปัจจัยเดียวกับ รายได้อินเทล ไตรมาสล่าสุดสูงสุดในประวัติศาสตร์) ถ้าเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วคือเพิ่มขึ้นมาอีก 40%
ช่วงนี้เป็นเทศกาลที่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ต้องแจ้งผลประกอบการประจำไตรมาส สำหรับช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน โดยปกติแล้วอินเทลจะเป็นรายแรกที่แจ้งผลประกอบการในกลุ่มเทคโนโลยี และผลประกอบการไตรมาสนี้ก็ทำได้ดีทีเดียว
อินเทลประกาศว่าบริษัทมีรายได้ในไตรมาสล่าสุด 10.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งซีอีโอ Paul Otellini กล่าวว่าปัจจัยสำคัญมาจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจกลุ่มเมฆ ที่ทำให้ความต้องการชิปสำหรับเซิร์ฟเวอร์เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้รายรับดังกล่าวยังเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท 42 ปี ข่าวดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงสัญญาณบวกในกลุ่มเทคโนโลยีว่าเริ่มฟื้นตัวแล้วหลังจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยช่วงที่ผ่านมา
ข้อมูลทางการเงินเพิ่มเติม
แอปเปิลประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุดเมื่อคืนนี้ ซึ่งยังคงทำได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้ (ซึ่งก็สูงอยู่แล้ว) โดยมีรายละเอียดดังนี้
หลังจากได้เงินก้อนโตมาในไตรมาสที่แล้ว ไตรมาสแรกของปี 2010 ผลประกอบการของ AMD ก็ยังออกมาแบบมีกำไร และมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยตัวเลขกำไรอยู่ที่ 182 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้วที่กำไรถึง 1,288 ล้านก็ดูแย่ แต่เมื่อหักเงินค่าเสียหายจากอินเทลออกแล้ว ก็นับว่าเพิ่มขึ้นถึงเกือบสามเท่าตัว และยิ่งเมื่อเทียบกับต้นปีที่แล้วที่ขาดทุนอยู่ถึง 298 ล้านดอลลาร์ก็นับว่าปีนี้ AMD กลับมาเป็นคู่แข่งในตลาดซีพียูที่แข็งแรงได้อีกครั้งแล้ว
ช่วงหลังๆ มีข่าวดีเกี่ยวกับ AMD ออกมาค่อนข้างมาก เช่นข่าวลือว่า HP และ Dell เตรียมการเปลี่ยนสายการผลิตมายัง Athlon Neo หรือข่าวว่า Fermi นั้นทำประสิทธิภาพได้ไม่ดีเท่าที่หวังกันไว้นัก
เมื่อวานนี้ Oracle ออกรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2010 (ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้วถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้) ในรายงานนี้ Oracle เน้นถึงผลกระทบที่เกิดจากการซื้อ Sun (เพิ่งซื้อได้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 มกราคมปีนี้ หลังจากที่ EU อนุมัติให้ซื้อได้)
Safra Catz ประธานบริษัท Oracle บอกว่า "การควบรวม Sun ให้ผลดีเกินคาด เราเชื่อว่า Sun จะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มยอดขายในไตรมาสที่ 4 รวมทั้งช่วยทำกำไรให้ได้ตามเป้าของปีหน้า"
ภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองผสมกับ PS3 ที่ไปได้ไม่สวยนัก แถม Sony-Ericcson ก็ยังอาการไม่ดีกว่ากันไปเท่าใหร่ไปทำให้ผลกำไรของโซนี่ในปี 2008 นั้นติดลบอยู่ถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นการขาดทุนครั้งแรกในรอบ 14 ปี
ผลกระทบหนักที่สุดเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่สี่ของปีที่โซนี่ขาดทุนไปถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์ ฉุดบัญชีบริษัทเป็นตัวแดงอย่างรวดเร็ว
ทางโซนี่คาดการว่าผลกำไรปี 2009 นี้จะยังคงขาดทุนต่อไปแม้จะน้อยลงมากก็ตาม
อารยธรรมโซนี่กำลังแตกดับ?
ที่มา - MarketWatch
หลังจากที่ไตรมาสที่แล้วก็ขาดทุน (ข่าวเก่า) ไตรมาสนี้ก็ขาดทุนอีกแล้วครับ โดยในวันนี้ Sony Ericsson ประกาศว่าบริษัทนั้นขาดทุนไปกว่า 358 ล้านยูโร โดยส่วนหนึ่งนั้นเนื่องมาจากการขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ลดลงจาก 22.3 ล้านเครื่องในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มาเป็นเพียง 14.5 ล้านเครื่องในปีนี้ และเหลือส่วนแบ่งในตลาดเพียงประมาณ 6%
กูเกิลเปิดเผยรายได้ของบริษัทในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยกำไรโดยรวมทั้งหมดนั้นลดลงจากไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้วจาก 5,701 ล้านดอลลาร์เป็น 5,509 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 3% อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้วนั้นก็ยังมากกว่ากันอยู่ 6% ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ ส่วนหนึ่งนั้นคาดว่าน่าจะเป็นจากการที่กูเกิลประหยัดมากขึ้น และมีการปลดพนักงานบางส่วน (อ่านข่าวเก่าโดยคุณ mk: กูเกิลปลดฝ่ายขายและการตลาด)
ผลประกอบการไตรมาสที่สี่ของปี 2008 จาก AMD ขาดทุนรวม 1.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแย่กว่าที่นักวิเคราะห์ทางการเงินของวอลล์สตรีทคาดเอาไว้
AMD ขาดทุนติดต่อกันมา 9 ไตรมาสแล้ว โดยยอดขาดทุนสูงสุดอยู่ที่ 1.77 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว (Q4 2007) สำหรับไตรมาส Q4 2008 รายรับลด 35% เทียบกับ Q3 2008
ถ้ารวมทั้งปีงบประมาณ AMD มีรายรับทั้งสิ้น 5.8 พันล้านดอลลาร์ ขาดทุนรวม 3 พันล้านดอลลาร์
สถานการณ์ด้านธุรกิจของบริษัทฮาร์ดแวร์ดูจะแย่กว่าซอฟต์แวร์มาก ก่อนหน้านี้อินเทลได้ประกาศผลประกอบการที่ย่ำแย่เช่นกัน (ข่าวเก่า) เพียงแต่อินเทลพื้นฐานเดิมดีอยู่เลยยังไม่ถึงกับขาดทุนเท่านั้น
กูเกิลแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสที่สี่ของปี 2008
เศรษฐกิจชะลอตัวรวมกับการผันผวนของค่าเงิน ส่งผลให้คนใช้จ่ายน้อยลงมาก และโนเกียยักษ์ใหญ่มือถือก็ประสบปัญหาความต้องการมือถือลงเช่นกัน
ส่วนแบ่งการตลาดของโนเกียในไตรมาสที่ 4 ปี 2007 มีอยู่ 40%
ตกมาเหลือ 37% ในไตรมาสที่ 4 ปี 2008
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2008 ผลกำไรจากการดำเนินงานของโนเกีย ลดลง 80% เหลือ 492 ล้านยูโร จาก 2500 ล้านยูโรในไตรมาสเดียวกันของปี 2007
โนเกียจะแก้ไขปัญหา โดยการเน้นไปที่ลดต้นทุนโดยรวมเพื่อรักษาโครงสร้างการเงินให้แข็งแรงอยู่ และเน้นไปยังตลาด internet services เพราะเห็นว่ามีโอกาสเติบโตสูง
ที่มา - Symbian Freak
แอปเปิลแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2009 ซึ่งเป็นไตรมาสที่หลายคนจับตามอง เนื่องจากมีช่วงคริสต์มาสของฝรั่งและเป็นปีที่เศรษฐกิจเริ่มถดถอยพอดี
แบบรวบรัดคือทั้งรายรับและกำไรของแอปเปิลยังเติบโต (สวนกระแสชาวบ้าน) เพียงแต่อัตราการเติบโตก็ไม่ร้อนแรงอย่างเดิม ด้วยปัจจัยด้านสภาพตลาด
ในวันศุกร์ที่ผ่านมา Sony Ericsson ได้ออกมาประกาศว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2008 บริษัทขาดทุนไปกว่า 187 ล้านยูโร (8,700 ล้านบาท) โดยการขาดทุนนี้เกิดขึ้นจากการขายที่ลดลงเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้โดยรวมแล้วในปี 2008 บริษัทขาดทุนไปกว่า 73 ล้านยูโร (3,400 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ได้กำไรกว่า 1.1 พันล้านยูโร (51,000 ล้านบาท)
Hideki Komiyama ประธานบริษัทได้ให้สัมภาษณ์ว่า ปี 2008 นั้นเป็นปีที่โกลาหลมาก และในปี 2009 ตลาดยังน่าจะซบเซาอยู่โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก
เพื่อแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น บริษัทจึงกำลังจะเพิ่มมาตรการจำกัดค่าใช้จ่ายด้านการประกอบการอีกกว่า 180 ล้านยูโร อย่างไรก็ดียังไม่เป็นที่เปิดเผยว่ามาตรการนี้จะประกอบด้วยอะไรบ้าง
ไม่ได้พิมพ์ผิด หรืออ่านผิดหรอกครับ เพราะการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สี่ปี 2008 ของอินเทลแถลงยอดกำไรสุทธิเป็นเงิน 234 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 2.27 พันล้านดอลลาร์ในปี 2007
อย่างไรก็ตาม รายงานผลประกอบการนี้ยังมียาหอมให้นักลงทุนด้วยการคาดการรายได้ไตรมาสแรกว่าน่าจะอยู่ที่ 7 พันล้านดอลลาร์ และตัวเลขกำไรน่าจะกลับมาเป็นปรกติภายในปลายปีนี้
ตลาดหุ้นไม่หวั่นไหวเท่าใหร่นัก โดยราคาหุ้นหลังแถลงการนี้ขึ้นไปอีก 1.6% และมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากนั้นเพียงเล็กน้อย
ที่มา - CNN
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในปีนี้ โซนี่มีรายการขาดทุนที่เกิดจากการดำเนินงาน (Operating Loss) ที่จะประกาศในเดือนมีนาคมที่จะมาถึงมากกว่า 1 แสนล้านเยน (ประมาณ 37,000 ล้านบาท) แทนที่คาดการณ์เดิมไว้ว่าจะกำไร 200 ล้านเยน ซึ่งเป็นครั้งแรกของโซนี่ในรอบ 14 ปี ที่ขาดทุนขนาดนี้
โดยสาเหตุของการขาดทุนในครั้งนี้เชื่อว่ามาจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ทำให้สินค้าขายได้น้อยลง นอกจากนี้ค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ก็มีส่วนทำให้เรื่องแย่ลงด้วย นักวิเคราะห์มองทางออกของโซนี่ว่าอาจจะต้องทำการลดจำนวนพนักงานลง, ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรเสียใหม่ หรือแม้กระทั่งขายบางส่วนของบริษัทออกไป
ปาล์ม ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่เริ่มแสดงอาการไม่ดีด้วยการขาดทุนเล็กน้อยเป็นเงินประมาณ 8 แสนดอลลาร์ อาการขาดทุนนี้เกิดจากการแข่งขันที่มากขึ้นโดยเฉพาะคู่แข่งรายใหญ่อย่างไอโฟนอันโด่งดัง แต่ในขณะเดียวกันในรายงานการเงินยังระบุว่ารายได้รวมของปาล์มนั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ปาล์มเพิ่งประกาศยกเลิกเครื่อง Foleo ของตนไป โดยหันหน้าไปยังเครื่องสมาร์มโฟนอย่าง Centro แทน โดยจะวางตลาดในช่วงสิ้นเดือนนี้
ในฐานะผู้ใช้มายาวนานคนหนึ่งก็เอาใจช่วยให้อยู่แข่งกับเจ้าอื่นๆ ต่อไปได้แล้วกัน....
ที่มา - PhysOrg