หนังสือชีวประวัติ Elon Musk ที่เขียนโดย Walter Isaacson เล่าถึงช่วงที่ Musk เริ่มเข้าทำงานที่ Twitter (ตอนนี้เปลี่ยนเป็น X) เขาได้สั่งให้พนักงานไปค้นหาประวัติการคุยใน Slack ของพนักงานคนอื่น เพื่อดูว่ามีพนักงานคนไหนบ้าง ที่มีแนวโน้มพูดลับหลังไม่ดีต่อ Musk ซึ่ง Keyword ที่ใช้ในการค้นหาคือ “Elon” ต่อมาพนักงานเหล่านั้นก็โดนไล่ออก

Musk เคยประกาศว่าเขาสนับสนุน “Free Speech Absolutist” และการเข้าซื้อ X ก็เพื่อสร้างพื้นที่ให้คนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่หลากหลายได้

Walter Isaacson ผู้เขียนหนังสือชีวประวัติของ Elon Musk ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Atlantic ว่าใช้เวลามากถึง 3 ปี ในการสังเกต Elon Musk พบว่าเป็นคนมีหลายอารมณ์และหลายบุคลิกภาพแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ ตั้งแต่โหมดวิศวกรที่มุ่งมั่นจนหน้าเหลือเชื่อ ไปจนถึงโหมดโหดเหี้ยมและสร้างแรงบันดาลใจได้

เขารู้สึกตื่นเต้นกับการได้สังเกต Elon Musk ในหลากหลายบุคลิก ซึ่งไม่เหมือนกับบุคคลที่มีชื่อที่เขาเคยเขียนชีวประวัติมาก่อน ที่ค่อนข้างไปในทางสดใส ก่อนหน้านี้ Walter Isaacson เคยเขียนหนังสือเล่าถึงชีวประวัติของ Steve Jobs, Albert Einstein และ Leonardo da Vinci

Walter Isaacson ออกหนังสือชีวประวัติของ Elon Musk เล่าถึงเหตุการณ์การขนย้ายเซิร์ฟเวอร์ช่วงเดือนธันวาคม ปี 2022 Elon Musk ต้องการย้ายเซิรฟ์เวอร์ออกจากเมืองซาคราเมนโตไปที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน เพราะไม่อยากเสียค่าใช้จ่าย 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี แต่ได้รับเสียงค้านจากผู้จัดการเนื่องจากการขนย้ายมีปัจจัยเรื่องความหนาแน่นของแร็คและพลังงานที่แตกต่างกัน ดังนั้นห้องที่ใช้จัดเก็บเซิร์ฟเวอร์ต้องมีการปรับปรุงก่อน ไม่สามารถย้ายได้ในระยะเวลา 6-9 เดือน แต่ Elon Musk อยากให้ขนย้ายเสร็จภายใน 30 วันเท่านั้น

Walter Isaacson นักเขียนหนังสือชีวประวัติคนดังที่เคยมีผลงานเล่ม Steve Jobs กำลังเขียนหนังสือชีวประวัติของ Elon Musk โดยได้สิทธิเข้าถึงและสัมภาษณ์ Musk โดยตรง ทำให้เราได้รู้ข้อมูลของเขาเพิ่มอีกหลายอย่างจากหนังสือที่กำลังจะวางขายในสัปดาห์หน้า

ประเด็นข่าวใหญ่คือ Grimes นักร้องสาวอดีตแฟนเก่าของ Elon ที่เลิกกันไปในปี 2021 และมีลูกด้วยกัน 2 คนคือ X กับ Y เอาเข้าจริงแล้วยังมีลูกคนที่สามด้วยกันอีกคือ Techno Mechanicus หรือชื่อเล่น Tau ตั้งชื่อตามตัวอักษรกรีก

ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลระบุชัดว่า Tau เพศอะไร และอายุเท่าไร

มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ของแพลตฟอร์ม X หรือ Twitter จากก่อนหน้านี้ มีผู้พบการเปลี่ยนแปลง โดยระบุว่าจะเก็บข้อมูล Biometric และข้อมูลการสมัครงานผ่าน X Hiring คราวนี้เป็นเรื่องของ AI

โดยเนื้อหาที่แก้ไขในข้อ 2.1 เกี่ยวกับการปรับปรุงเนื้อหาเฉพาะผู้ใช้งานแต่ละคน บอกว่าแพลตฟอร์มอาจรวบรวมข้อมูลที่เป็นสาธารณะ มาใช้เทรนโมเดล Machine Learning หรือ AI ตามวัตถุประสงค์ในขอบเขตที่ระบุในข้อกำหนดนี้

We may use the information we collect and publicly available information to help train our machine learning or artificial intelligence models for the purposes outlined in this policy.

ก่อนหน้านี้ Elon Musk บอกว่าจะทดสอบรถโดยการขับไปหา Mark Zuckerberg และถ้าเจอก็จะเริ่มสู้ทันทีพร้อมถ่ายทอดสดให้ทุกคนดู และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Elon Musk ได้ถ่ายทอดสดผ่าน X ขณะขับรถที่ Palo Alto แคลิฟอร์เนีย โดยการถือโทรศัพท์ขณะขับ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายใน California แต่เจ้าหน้าที่ไม่ออกใบสั่งปรับ เนื่องจากไม่เห็นการกระทำด้วยตนเอง

ปกติแล้วในแคลิฟอร์เนีย หากเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นคนผู้ขับขี่ถือโทรศัพท์อยู่ในมือ เจ้าหน้าที่สามารถออกใบสั่งกับผู้ขับขี่ได้ เพราะป็นการละเมิดกฎหมาย hands - free

Elon Musk เจ้าของ X หรือในชื่อเก่า Twitter ได้ปรากฏตัวในงานแข่งกัน World Championship รอบสุดท้ายของเกม Valorant และทันทีที่ภาพในงานตัดไปเห็น Elon Musk ผู้ชมอยู่ที่ในงานก็ต่างพากันร้องโห่ใส่ Elon Musk พร้อมกู่ร้องว่า “เอา Twitter คืนมา”

แม้ว่า Elon Musk จะปรากฏตัวสั้น ๆ เพียง 4 วินาทีแต่เสียงกู่ร้องกลับโห่ยาวกว่านั้น จนทำให้เหล่าพิธีกรต้องดึงประเด็นให้คนกลับมาสนใจการแข่งขันเกมต่อ ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกปล่อยใน X โดยผู้ใช้นาม Jake Lucky ซึ่งตอนนี้มียอดเข้าชมมาก 7 ล้านวิวแล้ว

เว็บไซต์ Mashable รายงานหลังการวิเคราะห์ข้อมูลรายละเอียดผู้ติดตามของ Elon Musk ที่มีโปรแกรมเมอร์อิสระที่ชื่อ Travis Brown รวบรวมเอาไว้บน Github ซึ่งพบว่า เกือบๆ ครึ่งของจำนวนผู้ติดตาม (followers) บัญชี @elonmusk เป็นบัญชีที่ไม่มีผู้ติดตาม (0 followers)

จากจำนวนผู้ติดตาม Elon Musk กว่า 153,209,283 บัญชี (ณ ช่วงเวลาที่ Brown เก็บข้อมูล) Mashable พบว่ามี 65.3 ล้านบัญชีหรือราว 42% ของจำนวนผู้ติดตาม Musk ไม่มีผู้ติดตามเลย ขณะที่บัญชีที่มีไม่ถึง 10 ผู้ติดตาม ก็มีถึง 112 ล้านบัญชี หรือราว 72%

Elon Musk เจ้าของ X (หรือ Twitter เดิม ซึ่งคงต้องใช้คำขยายความนี้อีกระยะหนึ่ง) ตอบโพสต์ของผู้ใช้งานที่ถามว่า มีเหตุผลอะไรที่เราจะ Block หรือ Mute ใครสักคน ซึ่งคำตอบนั้นน่าสนใจกว่า

เพราะ Musk บอกว่าการ Block นั้นจะถูกนำออกไป ยกเว้นเฉพาะส่วนการบล็อกของ DM

X มีระบบให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการควบคุมการแสดงเนื้อหาอยู่สองวิธีคือ Block กับ Mute โดย Block เป็นการจำกัดไม่ให้บัญชีที่ระบุ สามารถติดต่อ, ดูโพสต์ หรือกดติดตามได้ ซึ่งบัญชีก็จะเห็นว่าถูกบล็อกเมื่อไปดูโปรไฟล์ ส่วน Mute เป็นการสั่งซ่อนโพสต์จากบัญชีที่ระบุ ทำให้ไม่แสดงข้อความอีกในฟีด ซึ่งกรณีหลังบัญชีที่ถูก Mute จะไม่ทราบ

ก่อนหน้านี้มีแชทภาพที่ Musk ทักไปหา Zuckerberg เพื่อขอฝึกมวยที่หลังบ้าน หลังบ้าน Zuckerberg มีกรงมวย 8 เหลี่ยม ทาง Zuckerberg ได้ตอบกลับว่า ควรไปฝึกฝนด้วยตนเอง

ก่อนที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Zuckerberg ได้ประกาศผ่าน Threads ว่าจะยุติศึกมวยกรงเนื่องจากเห็นพ้องกันว่า Elon ไม่จริงจังกับการแข่งขันครั้งนี้เลย ไม่ยืนยันวันแข่งแล้วยังบอกว่าต้องผ่าตัด

แต่ล่าสุด Musk ทวีตบน X ว่า การทดสอบ Tesla FSD ที่ Palo Alto เขาบอกจะขับรถไปที่บ้านของ Zuckerberg พร้อมทดสอบ X livestream video เพื่อให้ทุกคนติดตามได้แบบเรียลไทม์ ถ้าโชคดี Zuckerberg เปิดประตูให้ การต่อสู้จะเริ่มขึ้นทันที!

เรื่องราวของการจัดศึกแข่งขันต่อสู้ชกมวย ระหว่าง Mark Zuckerberg และ Elon Musk ยังคงมีความคืบหน้าเพิ่มเติมอีก โดยเริ่มจาก Walter Isaacson ผู้เขียนหนังสือประวัติ Elon Musk โพสต์รูปภาพใน X ที่ Elon Musk แคปแชทระหว่างเขากับ Mark Zuckerberg มาให้ดู

ในแชทนั้น Musk ทักไปหา Zuckerberg บอกว่าต้องการไปฝึกมวยที่บ้านเขาสัปดาห์หน้า (หลังบ้าน Zuckerberg มีกรงมวย 8 เหลี่ยม) Zuckerberg ตอบกลับว่าหากต้องการสู้แบบ MMA จริง ก็ควรไปฝึกฝนเองก่อน พร้อมเมื่อใดก็แจ้งมา เขาไม่อยากให้มีการสร้างกระแสที่ไม่เกิดขึ้นจริงสักที อยากให้ Musk บอกชัดเจนว่าจะทำอะไร ตอนไหน หรือจะยกเลิกไปเลย

สืบเนื่องจากที่ Elon Musk ประกาศว่าศึกมวยต่อสู้กันระหว่างเขากับ Mark Zuckerberg เตรียมจัดขึ้นที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยได้สถานที่จัดงานแล้วนั้น ล่าสุด Mark Zuckerberg ชี้แจงประเด็นนี้ผ่านโพสต์ Threads บอกว่ายังไม่มีข้อสรุป

Zuckerberg บอกว่าเขาชอบกีฬาประเภทนี้อยู่แล้ว และพร้อมลงศึกตั้งแต่วันที่ Musk ประกาศท้า แต่เรื่องของวันที่แข่งและรายละเอียดอื่นนั้น ถ้าได้ข้อตกลงเขาก็จะประกาศด้วยเช่นกัน ในตอนนี้ให้ถือว่าทุกอย่างที่ Musk ประกาศ ยังไม่ใช่สิ่งที่ตกลงกัน

Elon Musk ประกาศความคืบหน้าศึกมวยกรงระหว่างเขากับ Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ผ่านบัญชี X ว่าจะจัดการแข่งขันแน่นอน แต่ในรูปแบบที่ต่างไปจากเคยบอกก่อนหน้า

Elon บอกว่าการแข่งขันนี้จะจัดโดยหน่วยงานการกุศลของเขาและ Mark เอง ไม่ได้จัดโดยสมาพันธ์ UFC การถ่ายทอดจะเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มของ X และของ Meta ไฮไลท์คือสถานที่แข่งขัน Elon บอกว่าจะเป็นสถานที่เก่าแก่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี

Elon บอกเพียงเขาได้คุยกับรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของอิตาลีแล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับที่จะจัดศึกต่อสู้กันในสถานที่ดังกล่าว

บัญชี X Support อัพเดตรายละเอียดโปรแกรมที่ให้ผู้สมัครใช้งาน X Premium หรือ Twitter Blue เดิม สามารถรับส่วนแบ่งรายได้โฆษณา ซึ่งรองรับในประเทศไทยด้วย โดยเงื่อนไขใหม่นี้ทำให้บัญชีมีโอกาสเข้าถึงโครงการง่ายขึ้น

เงื่อนไขใหม่ระบุว่า จากเดิมบัญชี X Premium ต้องมีค่าอิมเพรสชัน 15 ล้าน ได้ปรับลงมาเป็น 5 ล้าน ภายในระยะเวลา 3 เดือน และการตัดจ่ายเงิน จากเดิมขั้นต่ำที่ 50 ดอลลาร์ ลดมาเป็น 10 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม X Support ยังคงไม่ให้รายละเอียดว่าส่วนแบ่งรายได้โฆษณานั้นคำนวณอย่างไร

CNBC สัมภาษณ์พิเศษ Linda Yaccarino ซีอีโอ X ซึ่งมารับไม้ต่อจาก Elon Musk ในหลายประเด็น ทั้งอำนาจหน้าที่ ซึ่งหลายคนสงสัยว่าใครกำกับดูแลบริษัทกันแน่ ไปจนถึงการตัดสินใจรีแบรนด์ Twitter มาเป็น X

ไอเดียของ X เกิดขึ้นนานแล้ว

Yaccarino บอกว่าไอเดียเรื่อง X ที่ต้องการเป็น Everything App มีมานานแล้ว ในตอนที่บริษัทประกาศว่าตนจะมารับตำแหน่งซีอีโอในเดือนมิถุนายน ภารกิจหนึ่งก็คือการร่วมมือกับ Elon เพื่อเปลี่ยน Twitter มาสู่ X

Neuralink สตาร์ทอัพผู้พัฒนาเทคโนโลยีชิปที่เชื่อมต่อสมองของมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งก่อตั้งโดย Elon Musk ประกาศรับเงินลงทุนซีรี่ส์ D จากกลุ่มนักลงทุนนำโดย Founders Fund กองทุนของ Peter Thiel วงเงินรวม 280 ล้านดอลลาร์

ในประกาศนี้ Neuralink ไม่ได้บอกมูลค่ากิจการบริษัทปัจจุบันหลังการเพิ่มทุน แต่มีข้อมูลในเดือนมิถุนายนจากการซื้อขายหุ้นในตลาดรอง ให้มูลค่าที่ประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้ Neuralink เพิ่งได้รับการอนุมัติจากหน่วยงาน FDA หรือองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ให้สามารถทดลองฝังชิปในมนุษย์ได้

ล่าสุด Elon Musk ออกมาประกาศผ่าน X ว่าการต่อสู้ระหว่างเขาและ Mark Zuckerberg จะถูกสตรีมสดบนแพลตฟอร์ม X และเงินที่ได้จากการดำเนินงานทั้งหมด จะถูกนำบริจาคให้กับทหารผ่านศึก
.
ด้านของ Mark Zuckerberg ก็ได้ออกมาโต้ตอบผ่านการโพสต์บน Threads ในเชิงว่า “ไม่ใช่ว่าเราควรใช้แพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือกว่านี้ เพื่อระดมเงินทุนให้กับการกุศลหรอกหรอ?”

ข่าวอัพเดตเรื่องราวของแพลตฟอร์ม X หรือชื่อเดิม Twitter ประจำวันมีดังนี้ครับ

เรื่องแรกเป็นปัญหาของระบบรับส่วนแบ่งรายได้โฆษณา ซึ่งครีเอเตอร์ทั่วโลกที่เป็นสมาชิก Blue และเข้าเงื่อนไข สามารถสมัครได้ โดยหน้า Help Center ระบุว่า รอบการจ่ายสัปดาห์ 31 กรกฎาคม 2023 ต้องเลื่อนจ่ายไปจากกำหนดเดิม เนื่องจากจำนวนผู้สมัครเข้ามาในโครงการนี้สูงกว่าที่ประเมินไว้มาก โดยจะจ่ายส่วนแบ่งทันทีเมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย

ก่อนหน้านี้ OpenAI ได้ซื้อโดเมน AI.com เพื่อนำไปใช้กับอินเทอร์เฟชเว็บของ ChatGPT แต่ตอนนี้ดูเหมือน Elon Musk จะได้โดเมนชื่อนี้ไปแทน เพราะเมื่อพิมพ์คำว่า AI.com จะ redirect ไปที่หน้า x.ai แทน

โดเมนตัวอักษรภาษาอังกฤษสองตัวถือว่าหาซื้อยากและมีราคาสูงมาก โดยเฉพาะคำที่คุ้นเคย ถึงแม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยมูลค่าการซื้อโดเมน AI.com แต่ Mashable คาดว่า AI.com น่าจะขายได้ในราคาประมาณราคา 3.8 ล้านดอลลาร์ และราคาอาจสูงขึ้นอีกเนื่องจากกระแสของปัญญาประดิษฐ์ที่มาแรง

Elon Musk ซีทีโอและเจ้าของแพลตฟอร์ม X หรือชื่อเดิม Twitter ได้โพสต์ข้อความพูดถึงแนวทางและฟีเจอร์ใหม่ที่จะเพิ่มเติมล่าสุด โดยพูดถึงการหักส่วนแบ่งกับครีเอเตอร์

โดยบริการ Subscription ที่ผู้ติดตามสามารถจ่ายเงินรายเดือนให้ครีเอเตอร์ เพื่อรับคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟ เดิม Musk บอกว่าเพื่อโปรโมตฟีเจอร์นี้ ใน 12 เดือนแรกของการสมัคร แพลตฟอร์มจะไม่หักส่วนแบ่งทำให้ได้เงินเต็มจำนวน แล้วค่อยคิดส่วนแบ่งหลังจากนั้น ตอนนี้เขามองว่าเพื่อให้ครีเอเตอร์ได้ผลประโยชน์สูงสุด X จะหักส่วนแบ่ง 10% หลังผ่านไป 12 เดือน เฉพาะคนที่มีรายรับเกิน 100,000 ดอลลาร์ ส่วนคนที่รายรับน้อยกว่านั้นจะไม่หักส่วนแบ่งต่อไป

Reuters รายงานเนื้อหาจากการประชุมพนักงานทาวน์ฮอลล์ของ Meta หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส ซึ่งบริษัทมีทิศทางรายได้เติบโตดี กำไรเพิ่มขึ้น

ซีอีโอ Mark Zuckerberg พูดถึง Threads แอปโซเชียลตัวหนังสือที่หวังแข่งกับ Twitter/X ของ Elon Musk ว่าแม้ตอนนี้มีคนสมัครใช้งานมากกว่า 100 ล้านบัญชี แต่จะดีกว่านี้ถ้าทั้งหมดหรือสักครึ่งหนึ่ง ยังใช้งานแอปนี้อยู่ตลอด ซึ่งเรายังไปไม่ถึงจุดนั้น แม้เป็นเรื่องไม่เกินคาด แต่เขาก็หวังว่าตัวเลขการใช้งานจะดีขึ้น เมื่อแพลตฟอร์มใส่ฟีเจอร์ใหม่มากขึ้น เช่น การใช้งานผ่านเดสก์ท็อป หรือปรับปรุงระบบเสิร์ช

กระบวนการรีแบรนด์ Twitter ไปสู่ X ของ Elon Musk ยังคงดำเนินต่อไป โดยล่าสุดเขาโพสต์ข้อความถึงแนวทางการใช้งานว่า เร็ว ๆ นี้ แพลตฟอร์มจะมีเฉพาะ Dark Mode ให้ใช้งาน เพราะมันดีกว่า

ปัจจุบัน Twitter ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะใช้โหมดปกติพื้นสีขาว หรือ Dim พื้นหลังสีน้ำเงินเข้ม หรือ Lights Out พื้นหลังสีดำ ซึ่งเหมาะกับการใช้งานต่างกรณีกันไป โพสต์ข้อความดังกล่าวของ Musk มีผู้แสดงความเห็นแย้งหลายคนว่าการมีเฉพาะ Dark Mode จะมีปัญหาการใช้งานมากในที่แจ้ง เป็นต้น

หลังจากที่ Twitter รีแบรนด์จากโลโก้รูปนกฟ้าเป็นตัวอักษร X สีดำ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Elon Musk ได้อัปเดตโลโก้ X อีกครั้งให้ตัวอักษรหนาขึ้นกว่าเดิม แต่แล้ว Musk ก็บอกว่าจะยกเลิกการเปลี่ยนแปลงพร้อมบอกว่า ไม่ชอบแท่งหนาจะกลับไปใช้แบบเดิม ส่วนตัวโลโก้จะเปลี่ยนไปตามเวลา

ที่มาโลโก้นี้เกิดจากการที่ Elon Musk ทวีตข้อความว่าจะรีแบรนด์ Twitter ถ้าใครส่งโลโก้รูป X ที่ดีพอภายในคืนนี้ เราจะเผยแพร่ทั่วโลกทันทีในวันพรุ่งนี้ ต่อมา Musk ก็มีการโพสต์คลิปวิดีโอโลโก้รูป X ที่ออกแบบโดย Sawyer Merritt

Entrepreneur รายงานว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ได้โพสต์ภาพคู่กับ Dave Camarillo ในชุดกีฬาบราซิลเลียนยิวยิตสู (Jiu Jitsu ศิลปะป้องกันตัวจากประเทศญี่ปุ่น) ล่าสุดได้รับเข็มขัดสีน้ำเงินซึ่งเป็นระดับที่รองจากสายสีขาวที่อยู่ระดับสูงสุด ก่อนหน้านี้ Zuckerberg ก็ได้รับเหรียญทองในการแข่งขันด้วย

เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Elon Musk ซีทีโอ Twitter ได้ทวีตท้า Zuckerberg ดวลกันในมวยกรงที่ Vegas Octagon ทางด้าน Musk ก็มีสายดำเช่นกันแต่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า Zuckerberg

Twitter ได้รีแบรนด์จากนกสีฟ้ามาเป็นอักษร X สีดำ แต่ Elon Musk ก็ยังไม่ได้บอกเล่าที่มาที่ไปมากนัก ล่าสุดเขาได้ทวีตตอบ Jon Erlichman พิธีกรของ Bloomberg TV ถึงเหตุผลของการรีแบรนด์นี้

Musk บอกว่าเขาใช้บริษัท X Corp ที่มีเป้าหมายสร้างแอปใช้งานได้กับทุกเรื่องในชีวิตประจำทุกวันหรือ Everything App มาซื้อกิจการ Twitter เพื่อต้องการสร้างพื้นที่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การทำให้สองอย่างนี้ไปด้วยกันได้จึงต้องเปลี่ยนชื่อ