Gmail เริ่มแสดงเครื่องหมายถูกสีฟ้าหลังชื่อผู้ส่งอีเมล เพื่อยืนยันว่าเป็นองค์กรนั้นจริงๆ ไม่ใช่อีเมลหลอกลวง
เมื่อปี 2021 Gmail เริ่มแสดงภาพโปรไฟล์ผู้ส่งอีเมล ตามมาตรฐาน Brand Indicators for Message Identification (BIMI) โดยหน่วยงานผู้ส่งอีเมลต้องยืนยันตัวตนว่าเป็นเจ้าของอีเมลจริงๆ จึงจะใช้โลโก้นั้นได้ (รายละเอียดวิธีการยืนยันตัวตน)
ข่าวนี้คือ Gmail จะเพิ่มเครื่องหมายถูก (checkmark) ท้ายชื่อผู้ส่งที่ยืนยันตัวตนผ่าน BIMI เพิ่มให้ด้วย โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม 8 ดอลลาร์แต่อย่างใด
ที่มา - Google Workspace
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
แซะ! เจ็บๆนะ 8 ดอลล่าร์ยูเอส
เหมือนตบหน้า twitter ฉาดใหญ่เลย
เราจะเชื่อถือ email แทน SMS ที่น่ารำคาญแล้ว ถ้าย้ายระบบมาได้หมดจะปิดการรับท SMS ถาวรเลยยยย
รอ rcs เลยครับ ที่จะมาแทน sms
ไม่ดีครับ rcs มันโปรแกรม แชทชัดๆ ผมไม่อวยด้วยไม่ต่างจาก imesssage เลย ถ้าระบบการกรองไม่เหมือนอีเมลที่มันเอาสแปมออกไปก่อนให้เลยแล้วค่อยเข้าไปดูทีหลังในอีเมลที่มันคาดว่าเป็นสแปมว่าจริงหรือเปล่า ยังไง email ก็ดีกว่า น่ารำคาญน้อยกว่าด้วย ยังไม่เคยเจอสแปมหลุดมาให้ลบทีสักอัน ไม่ก็นานมากแล้วที่เคยลบครั้งสุดท้าย
https://www.blognone.com/node/128818
ถ้า SMS ค่าส่งมันฟรีก็เอาไป chat ได้ครับ
การไม่มีสแปมของอีเมล ไม่ใช่เทคโนโลยีมันดีกว่าอะไรนะครับ มันคือการเอาตัวเองไปผูกกับ Policy ของผู้ให้บริการสมมุติอย่าง Gmail แล้วการเอาไปผูกเนี่ย มันมีข้อกำหนดว่าเค้าสามารถอ่านอีเมลของเราได้ ใช่ครับ ที่อีเมลไม่มี Spam เพราะเค้าอ่านเมลเราทุกอันที่เข้ามาครับ แล้วค่อยจัดสรรว่าอันไหน Spam อันไหนไม่ใช่ ถ้าเรา Host email เองอย่าง MS Exchange สแปมก็เข้ามาบานเหมือนกันครับ ถ้าไม่มีระบบเข้าไปอ่านอีเมลแล้วจัดการเอง
แต่ SMS คือเราเป็นเจ้าของเบอร์ครับเราเพราะฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องเปิดให้ผู้ให้บริการเข้ามาอ่าน SMS เราและแยกแยะว่าอันไหนขยะอันไหนของจริง RCS ก็อยู่บนพื้นฐานเดียวกับ SMS เพราะฉะนั้น ข้อความที่ส่งมาให้เราจะไม่ได้มีการอ่านมาก่อน (ตาม Policy ไม่รวมการแอบอ่านนอกเหนือจาก Policy หรือแอบส่องจากหน่วยงานใด ๆ) เพราะงั้น มันจึงป้องกัน Spam ไม่ได้น่ะครับ ไม่เกี่ยวอะไรกับเทคโนโลยีเลย
น่าจะแยกจากแหล่งที่มาที่ส่งอีเมลมาหรือเปล่าครับ ตัวอย่างก็เหมือน whoscall ตอนนี้นี่ล่ะ ถ้าแบบจ่ายเงินมันบล็อคเลยถ้าแดงๆ เพราเะมีฐานข้อมูลคนแจ้งไว้เยอะ อีเมลก็แบบเดียวกันแค่เช็ค Address ส่วนในตัว whoscall เช็คจากแค่เบอร์โทรเลยไม่ต้องถึงกับเช็คข้อความด้านในนะ อย่าง hotmail ผมก็มีหลุดมาบ้าง แต่พอรีพอสเป็นฟิชชิ่งไปรัวๆก็ไมเห็นเมลแบบนี้มาอีกเลย ส่วน google นี่ไม่เห็นมาตั้งแต่แรกครับ
คำว่าป้องกัน Spam ได้ไม่ได้ มันวัดที่ผู้ใช้งานจะได้เห็นในหน้า inbox หรือเปล่าไม่ใช่หรือครับ ถ้าไม่เห็นแสดงว่าป้องกันได้สิ ไม่งั้นมันข้อความรกยาวเหยียดที่ยังไม่ได้อ่าน การกรอง Spam แบบเมื่อก่อนน่าจะเป็นการใช้เปรียบเทยบคำหรือที่อยู่ผู้ส่งที่โดนรีพอทเยอะๆเลย ส่วนปัจจุบันน่าจะ AI แล้วนะ
เรื่องpolicyก็เข้าใจได้ เเต่สุดท้ายrcsมันก็เป็นเหมือนโปรแกรมแชตตัวนึงไม่มีประโยชน์ในแง่securityเลย
จะปลอมโดเมนแล้วทำให้เหมือนก็ได้ติ๊กแล้วไหม
ไม่น่าง่ายครับ BIMI ต้องยืนยันกับ CA ก่อน ยิ่งกับ Google นี่คือต้องจดเครื่องหมายการค้า ฯลฯ ด้วย
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
Like ลองทำตามขั้นตอนไม่ยากเลยครับ ถ้ามีเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนแล้วและจัดการ Domain DNS ได้
ตรงนี้แพงไปหน่อยครับ มีค่าบริการ Verified Mark Certificates $1000 - $1500 ต่อปี
ตอนนี้มี CA แค่สองเจ้าที่ทำได้ DigiCert, Entrust
คงต้องรอ let's encrypt.