คือว่าเขียนเกมโดยใช้จาวาน่ะค่ะ เราจะดูอย่างไรค่ะว่าเราได้เขียนโดยใช้หลักการแนวคิดเชิงวัตถุแล้ว พอดีมีคนมาดูแล้วบอกว่ายังไม่ได้ใช้เลยอ่ะค่ะ เกมก็ใช้หลักจาวาทั่วไป แบ่งเป็นคลาสต่างๆค่ะ จะตัดสินยังไงว่าใช้OOแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ
ตอบยากเนอะ คือ เรารู้สึกว่า class ที่แตกๆ ออกมามันทำอะไรในสิ่งที่ควรทำรึเปล่า? มีใครแย่งงานใครคนอื่นไปทำจนออกนอกหน้าเกินไปรึเปล่า ฯลฯ
ezybzy.info blog
เหอๆๆๆ แล้วถ้ามันทำในสิ่งที่ควรทำ แล้วแย่งงานนี่คือเป็นOOแล้วใช่มั้ยค่ะ แต่ไงก็ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
ถ้าแย่งงานกันทำมันจะทำให้ code reuse ลดลงรึเปล่า?
ผมชอบคำอธิบายของ thread ข้างล่างนะ เห็นภาพดี
ผมอ่านแล้วก็สะดุดนะ ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าโค้ดที่ผมเคยพัฒนามัน OOP รึเปล่า เอาแต่เสร็จให้ทัน กะอ่านให้มันง่ายไว้ก่อน
ตามตำราทางวิชาการแล้ว แนวคิด OOP มีเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้โค้ด lossy coupling เอาโค้ดกลับมาใช้ใหม่ได้มากไปกว่าที่ Procedural Language ปกติจะให้ได้ โดยจะมีจุดเด่นที่แตกต่างไปคือเรื่อง encapsulation, polymorphism, inheritance, abstraction
สัญญาณที่เห็นได้ว่าจะไม่ใช่ OOP
สัญญาณที่เห็นได้ว่าจะเป็น OOP
แต่ก็นั่นแหล่ะ OOP เป็นแนวคิดในการพัฒนาโค้ด ไม่ใช่เพียงแต่คุณใช้ feature ของภาษาครบแล้วโค้ดจะเป็น OO ขึ้นมาในบัดดล เพียงแต่ว่าฟีเจอร์ภาษามันเอื้อให้คุณคิดอย่าง Object Oriented
ปล. OOP ก็ไม่ใช่ทุกอย่าง ถ้างานมันเขียนให้เข้าใจ อ่านง่ายรู้เรื่องด้วย procedural style ได้ ก็ไม่ต้องขยันไปทำเป็น OOP อันนั้นเวอร์เกินไป
โอ้โห เห็นภาพเลยค่ะ ขอบคุณมากๆๆเลยนะค่ะ สรุปว่าที่ทำมามันก็ไม่ค่อยจะเป็นOO9มที่เค้าว่ากันจิงๆด้วยค่ะ เหอๆๆ
+1 Informative
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
สัญญาณที่เห็นได้ว่าจะไม่ใช่ OOP -- รู้สึกตอนเริ่มเขียน ปีสองปีแรก บวกกับงานเร่งๆ นี่จะอยู่ใน สัญญาณนี่หมดเลย
พอได้ศึกษาพวก Design Patterns 28 กระบวนท่าแล้ว ก็ลองใช้ก็พวก Facade เข้ามาช่วยและอื่นให้ชีวิต OO ดีขึ้น - - แหะๆ
เห็นด้วยกะคุณ tekkasit นะ
notz-dev :: RIA Develop & Design
ที่ผมเขียนถือว่ายกตัวอย่างเท่านั้นนะครับ อย่าได้ถือเป็นไม้บรรทัดเข้าเชียว เพียงแต่เวลา/ประสบการณ์ อ่านโค้ดคนอื่นเยอะๆ ไปแกะโค้ดไลบารีมาอ่าน มันก็จะพอซึมซาบมาได้
แต่ที่ผมเขียนไปนั่นไม่ได้หมายความว่าผมไม่เคยเป็นโค้ดสปาเกตตี้นะ กลับไปเห็นโค้ดตัวเองที่เคยเขียนเมื่อหกปีก่อน มันยังทำงานอยู่ เห็นแล้วก็ยังอดฮาไม่ได้ ไม่รู้ว่าลูกค้าที่เอาโค้ดไปดูแลเองนี่นั่งกลุ้มรึเปล่า ^_^;
อยากให้แนะนำบทความ/ebook สอนคอนเส็ปท์เรื่อง OO ให้หน่อยครับผมเองสนใจมากแต่ก็แก่เกินจะกลับไปลงทะเบียนเรียนแล้ว คงจะต้องหาอ่านเอง ช่วยแนะนำให้หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
อุ๊
งานผมมี class นึง พันกว่าบรรทัด = ="
เอาจริงอ่ะ คือในตัวอย่างผมหมายถึง หนึ่งเมธอดสวยๆน่าจะระดับห้าสิบบรรทัด ร้อยนี่สุดๆแล้ว แต่กรณีคลาสละพันนี่ สงสัยจะเจอ อาการคลาสโตถล่มจักรวาลสยองโลก หรือภาษาวิชาการว่า God Object
ถ้าสนใจเรื่องทำนองนี้ ลองศึกษาเรื่องพฤติกรรมที่ไม่ดีที่เรียกว่า Anti-Pattern คือบางทีคนเราจะสอนเรื่องที่นามธรรม ต้องดูตัวอย่างที่ไม่ดี แล้วมันจะนึกประโยชน์ออกว่าแล้วจะทำไปทำไม แทนที่จะคิดเอาว่าได้เท่ห์ๆ
สำหรับ Software Design Pattern ผมขออนุญาตแนะนำ Head First Design Patterns นั่นก็ดีมากนะครับ คนไทยอย่างเราๆจะมีปัญหาว่าอ่านเท็กซ์อะไรที่นามธรรมมากๆ ไม่เข้าใจ อันนี้เป็นภาพเลยครับ อ่านรู้เรื่องมาก ไม่ต้องจินตนาการมาก
โอ้ว มาเป็นซีรีย์ แนวๆ "for dummies" เลย
ไม่ตายไม่เลิก
Blognone Tech Day คราวหน้าอาจจะต้องขอจองตัวนะครับ :D
คุณ tekkasit งานเข้าแล้ว คริๆ เห็นด้วยครับที่ นำคุณ tekkasit มาสอนความรู้ชาว Blognone ครับ อธิบายได้ดีเลยที่เดี่ยว
</mOkin™>มีความสุขที่พอดี กับชีวิตที่พอเพียง</mOkin™>
อ่านอยู่ครับ ขอบพระคุณมากครับ
ตอบยากเนอะ คือ เรารู้สึกว่า class ที่แตกๆ ออกมามันทำอะไรในสิ่งที่ควรทำรึเปล่า? มีใครแย่งงานใครคนอื่นไปทำจนออกนอกหน้าเกินไปรึเปล่า ฯลฯ
ezybzy.info blog
เหอๆๆๆ แล้วถ้ามันทำในสิ่งที่ควรทำ แล้วแย่งงานนี่คือเป็นOOแล้วใช่มั้ยค่ะ แต่ไงก็ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
ถ้าแย่งงานกันทำมันจะทำให้ code reuse ลดลงรึเปล่า?
ผมชอบคำอธิบายของ thread ข้างล่างนะ เห็นภาพดี
ezybzy.info blog
ผมอ่านแล้วก็สะดุดนะ ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าโค้ดที่ผมเคยพัฒนามัน OOP รึเปล่า เอาแต่เสร็จให้ทัน กะอ่านให้มันง่ายไว้ก่อน
ตามตำราทางวิชาการแล้ว แนวคิด OOP มีเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้โค้ด lossy coupling เอาโค้ดกลับมาใช้ใหม่ได้มากไปกว่าที่ Procedural Language ปกติจะให้ได้ โดยจะมีจุดเด่นที่แตกต่างไปคือเรื่อง encapsulation, polymorphism, inheritance, abstraction
สัญญาณที่เห็นได้ว่าจะไม่ใช่ OOP
สัญญาณที่เห็นได้ว่าจะเป็น OOP
แต่ก็นั่นแหล่ะ OOP เป็นแนวคิดในการพัฒนาโค้ด ไม่ใช่เพียงแต่คุณใช้ feature ของภาษาครบแล้วโค้ดจะเป็น OO ขึ้นมาในบัดดล เพียงแต่ว่าฟีเจอร์ภาษามันเอื้อให้คุณคิดอย่าง Object Oriented
ปล. OOP ก็ไม่ใช่ทุกอย่าง ถ้างานมันเขียนให้เข้าใจ อ่านง่ายรู้เรื่องด้วย procedural style ได้ ก็ไม่ต้องขยันไปทำเป็น OOP อันนั้นเวอร์เกินไป
โอ้โห เห็นภาพเลยค่ะ ขอบคุณมากๆๆเลยนะค่ะ สรุปว่าที่ทำมามันก็ไม่ค่อยจะเป็นOO9มที่เค้าว่ากันจิงๆด้วยค่ะ เหอๆๆ
+1 Informative
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
สัญญาณที่เห็นได้ว่าจะไม่ใช่ OOP
-- รู้สึกตอนเริ่มเขียน ปีสองปีแรก บวกกับงานเร่งๆ นี่จะอยู่ใน สัญญาณนี่หมดเลย
พอได้ศึกษาพวก Design Patterns 28 กระบวนท่าแล้ว ก็ลองใช้ก็พวก Facade เข้ามาช่วยและอื่นให้ชีวิต OO ดีขึ้น
- - แหะๆ
เห็นด้วยกะคุณ tekkasit นะ
notz-dev :: RIA Develop & Design
ที่ผมเขียนถือว่ายกตัวอย่างเท่านั้นนะครับ อย่าได้ถือเป็นไม้บรรทัดเข้าเชียว เพียงแต่เวลา/ประสบการณ์ อ่านโค้ดคนอื่นเยอะๆ ไปแกะโค้ดไลบารีมาอ่าน มันก็จะพอซึมซาบมาได้
แต่ที่ผมเขียนไปนั่นไม่ได้หมายความว่าผมไม่เคยเป็นโค้ดสปาเกตตี้นะ กลับไปเห็นโค้ดตัวเองที่เคยเขียนเมื่อหกปีก่อน มันยังทำงานอยู่ เห็นแล้วก็ยังอดฮาไม่ได้ ไม่รู้ว่าลูกค้าที่เอาโค้ดไปดูแลเองนี่นั่งกลุ้มรึเปล่า ^_^;
อยากให้แนะนำบทความ/ebook สอนคอนเส็ปท์เรื่อง OO ให้หน่อยครับผมเองสนใจมากแต่ก็แก่เกินจะกลับไปลงทะเบียนเรียนแล้ว คงจะต้องหาอ่านเอง ช่วยแนะนำให้หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
อุ๊
งานผมมี class นึง พันกว่าบรรทัด = ="
เอาจริงอ่ะ คือในตัวอย่างผมหมายถึง หนึ่งเมธอดสวยๆน่าจะระดับห้าสิบบรรทัด ร้อยนี่สุดๆแล้ว แต่กรณีคลาสละพันนี่ สงสัยจะเจอ อาการคลาสโตถล่มจักรวาลสยองโลก หรือภาษาวิชาการว่า God Object
ถ้าสนใจเรื่องทำนองนี้ ลองศึกษาเรื่องพฤติกรรมที่ไม่ดีที่เรียกว่า Anti-Pattern คือบางทีคนเราจะสอนเรื่องที่นามธรรม ต้องดูตัวอย่างที่ไม่ดี แล้วมันจะนึกประโยชน์ออกว่าแล้วจะทำไปทำไม แทนที่จะคิดเอาว่าได้เท่ห์ๆ
สำหรับ Software Design Pattern ผมขออนุญาตแนะนำ Head First Design Patterns นั่นก็ดีมากนะครับ คนไทยอย่างเราๆจะมีปัญหาว่าอ่านเท็กซ์อะไรที่นามธรรมมากๆ ไม่เข้าใจ อันนี้เป็นภาพเลยครับ อ่านรู้เรื่องมาก ไม่ต้องจินตนาการมาก
โอ้ว มาเป็นซีรีย์ แนวๆ "for dummies" เลย
ไม่ตายไม่เลิก
Blognone Tech Day คราวหน้าอาจจะต้องขอจองตัวนะครับ :D
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
คุณ tekkasit งานเข้าแล้ว คริๆ
เห็นด้วยครับที่ นำคุณ tekkasit มาสอนความรู้ชาว Blognone ครับ
อธิบายได้ดีเลยที่เดี่ยว
</mOkin™>มีความสุขที่พอดี กับชีวิตที่พอเพียง</mOkin™>
อ่านอยู่ครับ ขอบพระคุณมากครับ