Tags:
Forums: 

ประโยชน์ของระบบเทคโนโลยีจำลองระบบ (Virtualization)
โปรแกรม Oracle Virtual Compute ถือเป็นวิศวกรรมระบบที่สร้างมาเพื่อทุกโปรแกรมสำหรับเทคโนโลยีจำลองระบบ

เทคโนโลยีการจำลองระบบไม่ใช่ระบบที่ชวนเชื่อเกินจริงอย่างแน่นอน เพราะเทคโนโลยีรูปแบบนี้ได้อยู่ในการใช้งานของดาต้า เซ็นเตอร์ สำหรับองค์กรกว่า10 ปี ในความเป็นจริงแล้วการจำลองเซิร์ฟเวอร์เริ่มต้นจากฟิสิคอล เซิร์ฟเวอร์ (physical servers) ตั้งแต่ปี 2009 จากการคาดการ์ณของไอดีซีเผยว่าในปี 2013 มีการใช้เทคโนโลยีการจำลองระบบสำหรับการจัดปริมาณการทำงานถึง 73% และในปี 2016 จะมีอัตราการประยุกต์ใช้เพิ่มขึ้นถึง 78%

เกือบทุกองค์กรที่มุ่งในการทำประโยชน์จากการที่ลุงทุนเพียงสิ่งเดียวแต่ได้ผลตอบแทนมากมาย โครงสร้างการทำงานไอทีก็เช่นกันที่ต้องการที่จะลดความซับซ้อนของโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีให้อยู่ในรูปแบบที่ล้ำสมัยหรือสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ซึ่งเทคโนโลยีการจำลองระบบสามารถรวมเป็นหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที การเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถล้นระยะเวลาในการจัดหาและจัดการต่อโครงสร้างพื้นฐาน
สำหรับองค์กรที่กำลังมองหาระบบบริการที่มากกว่าการรวบการทำงานต่างๆเข้าด้วยกัน และองค์กรที่ตัดสินใจจะใช้ระบบการทำงานรูปแบบคลาว์ด ซึ่งเทคโนโลยีการจำลองระบบเพียงอย่างเดียวอาจให้ประสิทธิไม่เพียงพอสำหรับการทำงานในยุคปัจจุบัน องค์กรไอทีต่างๆจึงจะเป็นต้องก้าวเข้าสู่โครงสร้างบริการรรูปแบบใหม่ อาทิ Infrastructure-as-a-service (IaaS), Platform-as-a-a-service (PaaS), และ Software-as-a-service (SaaS) จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจึงเป็นตัวขับเคลื่อนให้ระบบเทคโนโลยีจำลองระบบค่อยๆพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์กรในปัจจุบันไม่เพียงแค่มองหาบริการเทคโนโลยีสำหรับร่วมเซิร์ฟเวอร์เพียงอย่างเดียว ซึ่งเทคโนโลยีการจำลองระบบเป็นเสมือนพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งหมด และปัจจุบันเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญในการทำงานอื่นๆ รวมไปถึง การเก็บข้อมูล ระบบเครื่อข่าย แพลตฟอร์ม และการจัดการระบบ

เทอโนโลยีการจำลองระบบจะช่วยพัฒนาการทำงานของแพลตฟอร์มให้เกิดประโยชน์สูงสุด และโปรแกรมการจำลองระบบมีความสามารถในการทำงานมากกว่าการจำลองเซิร์ฟเวอร์ หลักการทำงานของเทคโนโลยีการจำลองระบบขั้นแรกคือ มุ่งเน้นใช้ประโยชน์สูงสุดจากเครื่อข่ายเซิร์ฟเวอร์เพื่อลดค่าใช้จ่ายในใช้ทรัพยากรอื่นๆ ลดปริมาณข้อมูลพื้นฐาน ประหยัดการใช้งานเครื่องมือต่างๆ และสร้างมาตราฐานระบบปฏิบัติการเพื่อผลิตระบบใหม่ที่รวดเร็วขึ้น ในขณะที่ระบบเซิร์ฟเวอร์จำลองทำอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบและระบบการทำงานผ่านระบบออโต้ได้รับการติดตั้งเรียบร้อย ระบบยังคงมุ่งเน้นไปที่หน่วยของระบบปฏิบัติการเพื่อสร้างระบบการทำงานของฟิสิคอลเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างมีประสิทธิผลโดยผ่านการใช้เวอร์ชวลแมชีน กลยุทธ์นี้ทำงานได้ดีสำหรับข้อมูลในจำนวนมากทั้งในรูปแบบพิมพ์หรือการรวมกันของเว็ปไซต์เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งให้การทำงานที่คล่องตัวและสามารถเพิ่งขีดความสามารถให้ทำงานได้โดยผ่านข้อจำกัดที่น้อย และยังนำไปสู่ประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานของฟิซิคอลเซิร์ฟเวอร์ตลอดจนการใช้งานเวอร์ชวลแมชีน จากข้อกำหนดของการให้บริการตามความต้องการ เป็นที่ชัดเจนที่เทคการจำลองระบบซิร์ฟเวอร์เสมือนเป็นพียงแค่บางส่วนในการแก้ไขปัญหา

นอกจากความสามารถในการติดตั้งแพลตฟอร์มและแอพพลิเคชั่นอย่างสมบูรณ์แบบแล้วพนักงานไอทีต้องจัดการระบบโซลูชั่นด้วยตัวเองสำหรับการบริการ ดังนั้นโซลูชันแบบจำลองจึงต้องพัฒนานอกเหนือจากเรื่องการรวบรวม และให้บริการแพลตฟอร์ม ยังต้องมีการให้บริการด้านฐานข้อมูลแบบครบวงจร เช่น database-as-a-service, java-as-a-service หรือโปรแกรมประยุกต์ที่ครอบคลุมสภาพแวดล้อมอย่าง crm-as-a-service
นอกจากนี้องค์กรยังสามารถใช้งานผ่านระบบเดสก์ทอปจำลอง โซลูชั่นเหล่านี้อยู่เหนือข้อจำกัดของคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปทั่วไป ซึ่งให้ความมั่นใจเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งานทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ใดๆ ผู้ใช้เดสก์ท็อปที่ให้ข้อมูลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลอย่างครบถ้วนจากอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆของลูกค้า ยังมีความสามารถในการกู้คืนภัยพิบัติข้อมูล และสามารถควบคุมการทำงานจากระยะไกล

ด้วยการเพิ่มขึ้นของปริมาณข้อมูล เทคโนโลยีการจำลองระบบการจัดเก็บสามารถช่วยให้องค์กรขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนและลดข้อจำกัดของแบนด์วิดท์ ลดความต้องการเพิ่มความยืดหยุ่น
การใช้งานโครงสร้างพื้นฐานที่ได้ประสิทธิภาพดีกว่าเดิมและลดพื้นที่การใช้งาน เช่นเดียวกับการลดความซับซ้อนของการจัดการ และลดความเสี่ยงของการสูญเสียข้อมูล
ยกระดับความสามารถด้วยเครือข่ายเวอร์ชวลในปัจจุบันสามารถทำงานได้อย่างเสมือนทั้งโครงสร้างของSAN และ LAN โดยการเชื่อมต่อในซอฟต์แวร์แบบบูรณาการให้วามยืดหยุ่นและความคล่องตัวที่องค์กรต้องการสำหรับการบริการคลาวด์
ดังนั้นเป็นไปได้ที่เทคโนโลยีการจำลองระบบมีแนวโน้มที่จะเป็นเทรน์เทคโนโลยีที่สำคัญ เทคโนโลยีการจำลองระบบเป็นหนึ่งในโครงการของดาต้าเซ็นเตอร์และเป็นพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงของผู้ให้บริการด้านการให้บริการ อันที่จริงเป้าหมายของเทคโนโลยีการจำลองระบบจะไม่สำคัญอีกต่อไป ถ้าหาองค์กรสามารถปฎิรูปธุรกิจสู่การบริกาไอที โดยการปรับใช้แอพพลิเคชั่นสำหรับโซลูชั่นเทคโนโลยจำลองระบบเพิ่มความเร็วในการบริการด้านไอที

ออราเคิลได้มีการศึกษาการประยุกต์และบูรณาการโซลูชั่นสำหรับองค์กรเพื่อทำให้การทำงานของดาต้าเซ็นเตอร์เป็นไปอย่างง่ายดาย และสามารถให้บริการที่ดีกว่าทั้งฐานข้อมูล โปรแกรมธุรกิจสำหรับมิดเดิลแวร์และการบูรณาการฮาร์แวร์โซลูชั่นสำหรับทั้งระบบคอมพิวติ้งแบบเดิมและบริการคลาวด์ ในพื้นที่การทำงานเทคโนโลยีจำลองระบบ ออราเคิลนำเสนอระบบจำลองที่สมบูรณ์แบบที่สุดจากเดสก์ท็อปไปสู่ดาต้าเซ็นเตอร์ ออราเคิลแอพพลิเคชั่นช่วยให้องค์กรสามารถจำลองและจัดการอุปกรณ์เต็มรูปแบบ ยังคงเพิ่มความสามารถในการให้บริการผ่านข้อมูลจำนวนมากจากโปรแกรมไปยังฮาร์ทแวร์ อีกทั้งมีพื้นที่อินเตอร์เฟซที่เปิดเพื่อให้ลูกค้าและคู่ค้าจัดการการทำงานอย่างผ่านโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ
ยกตัวอย่างเช่น Oracle Virtual Compute Appliance (VCA) ซึ่งนำวิธีการก่อนรวมโครงสร้างพื้นฐานกับระบบจำลอง กาออกแบบมาเพื่อสำหรับการใช้งานที่ง่าย ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสำหรับทุกองค์กร

ออราเคิล Virtual Compute Appliance สามารถทำงานในส่วนของดาต้าเซ็นเตอร์โดยใช้การทำงานในรูปแบบ “Wire once” เป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานของซอฟแวร์ที่ได้รับการออกแบบสำหรับการใช้งานอย่างรวดเร็วของโครงสร้างพื้นฐานทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ออราเคิล Virtual Compute Appliance รองรับการทำงานในขอบเขตของ OS เว่อร์ชั่น ทำงานในส่วนของเซิร์ฟเวอร์ เครือข่าย และสภาพแวดล้อมในการจัดเก็บข้อมูลเพื่อช่วยบรรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและการประสิทธิภาพการใช้งานแอปพลิเคชั่นตั้งแต่ปริมาณกลางถึงขนาดใหญ่

ด้วยการทำงานของ ออราเคิล Virtual Compute Appliance องค์กรจะการเพิ่มของโครงสร้างพื้นฐาน การทำงานที่รวดเร็วบนพื้นฐานของซอฟแวร์แบบบูรณาการ ฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยีจำลองระบบ ประโยชน์จากการทำงานด้วยกันดังกล่าวทำให้การทำงานมีความยืดหยุ่นตอบสนองความต้องการเชิงกลยุทธ์และเปลี่ยนด้านไอทีเพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาลูกค้า มากไปกว่านั้นยังเป็นการลงที่สามารถประหยัดเวลาในสร้างโครงสร้างพื้นฐานฮาร์ทแวร์

ออราเคิล Virtual Compute Appliance สามารถทำงานร่วมกับดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีอยู่แล้วได้ เนื่องจากเปนแอพพลิเคชั่นที่รองรับการทำงานในระบบของ OS เช่น Linux, Oracle Solaris และ Microsoft Windows ซึ่งองค์กรสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นได้อย่างง่ายดายจากการเชื่อมต่อจากสตอเรจที่ประกอบด้วย Oracle’s ZFS Storage NFS หรือ iSCSI storage จากรายอื่นๆ ออราเคิล Virtual Compute Appliance สามารถใช้งานได้การบริการคลาวด์จากโครงสร้างพื้นฐานเป็นบริการ ( IaaS ) ไปยังฐานข้อมูลเป็นบริการ ( dbaas ) ที่มีคุณสมบัติเช่นระบบคลาวด์แบบอัตโนมัติ ความยืดหยุ่นและ การควบคุมการเข้าถึงและยังช่วยให้ธุรกิจที่จะใช้เวลามากขึ้นในการเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กร และใช้เวลาน้อยในการจัดการปัญหาทั่วไปที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างใช้งาน

                             ###
Get latest news from Blognone