By: pawoot.com 
on 7 May 2007 - 23:55
Tags:
Forums:
แอบคิดไปข้างหน้าอีก 10 ปีว่า ธุรกิจเว็บไซต์ในเมืองไทยจะเป็นอย่างไร? ในเมื่อการแข่งขันในปัจจุบันของธุรกิจอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ แข่งขันกันสูงมากในตลาดโลก และเริ่มมีการรุกเข้าสู่การแข่งขันในท้องถิ่นของประเทศแต่ละประเทศ โดยอาศัยกระแสอำนาจเงินและ การกุมอำนาจด้านเทคโนโลยี บุกและรุกเข้าสู่ประเทศแต่ละประเทศอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ด้วยการแข่งขันทางธุรกิจเว็บไซต์และอินเทอร์เน็ต แข่งขันกันอย่างรุนแรงมากในปัจจุบัน ถ้าแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ Microsoft หรือ MSN, Yahoo และ Google ซึ่งคุณจะได้ยินข่าวการ เข้าซื้อกิจการของกลุ่มธุรกิจต่างๆ เหล่านี้ ไม่เว้นแต่ละเดือน (เอาง่ายๆ คือซื้อธุรกิจกันเกือบทุกๆ เดือน) โดยตอนนี้กลุ่มเว็บไซต์ใหญ่ๆ เหล่านี้ มีบริการเกือบทุกอย่างอยู่ในมือหมดแล้ว เช่น บริการค้นหาข้อมูล Search Engine, E-Mail, Content ข้อมูล และธุรกิจโฆษณาออนไลน์ เป็นต้น และ บริการต่างๆ เหล่านี้เริ่มจะบุกและรุกเข้ามาสู่หลายๆ ประเทศที่มีจำนวนประชากรอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก ในทุกทวีปทั่วโลก ซึ่งเป็นการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ โดยมีอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางในการเข้าถึงคนทั่วโลก ได้อย่างไม่ยากเลย.. กลับมามองธุรกิจเว็บไซต์ในเมืองไทย ที่ล้มลุกคลุกคลาน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพร้อมๆ กับธุรกิจเว็บไซต์ทั่วโลก แต่ด้วยจำนวนประชากรไทย ที่ยังใช้อินเทอร์เน็ตไม่มากในขนาดนี้ และการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศเป็นหลัก และด้วยข้อจำกัดทางด้านภาษา ทำให้ธุรกิจเว็บไซต์ของเมืองไทย ยังไม่สามารถก้าวขึ้นไปเทียบเคียงกับธุรกิจเว็บไซต์ระดับโลกได้เลย.! โดยที่จะเห็นกันเป็นส่วนใหญ่คือ เว็บไซต์ของเมืองไทย ส่วนใหญ่ก็เป็น รูปแบบธุรกิจที่การนำโมเดลของเว็บไซต์ของต่างประเทศมาต่อยอด หรือปรับเปลี่ยนให้เป็นภาษาไทยเท่านั้น ซึ่งทำให้การให้บริการของเว็บไซต์ต่างๆ จำกัดอยู่เฉพาะในหมู่คนไทยออนไลน์ที่มีอยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้นเอง นี้คือเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจเว็บไซต์ของเมืองไทย ยังไม่สามารถเติบโต และมีอัตราเร่งได้เท่ากับธุรกิจเว็บไซต์ต่างประเทศ และทุกวันนี้ ธุรกิจเว็บไซต์ต่างประเทศต่างก็เริ่มบุกและรุกเข้ามาสู่ ธุรกิจเว็บไซต์ในเมืองไทย ในทุกๆ ด้านแล้ว เพราะด้วยจำนวน ประชากรไทยมีมีอยู่เป็นจำนวนมาก และอัตราการเติบโตของอินเทอร์เน็ตเริ่มมีแนวโน้มเติบโตอย่างมาในขณะนี้ ทำให้การบุกและสร้างอาณานิคมการให้บริการเว็บไซต์จากต่างประเทศ เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการเว็บไซต์ในรุปแบบภาษาไทย เช่น MSN.co.th, Google.co.th, Yahoo.co.th หรือแม้แต่ Ebay.co.th ดังนั้นการแข่งขันของธุรกิจเว็บไซต์ในเมืองไทยตอนนี้ ดูเหมือนจะไม่ได้แข่งขันกับคนไทยกันเองเสียแล้ว การแข่งขันกับเว็บไซต์ต่างประเทศในรูปแบบภาษาไทย ดูเหมือนจะเป็นศึกที่เห็นเหมือนกับช้างชนกับมด ตัวอย่างมีให้เห็นจากในอดีต เมื่อก่อน เว็บไซต์ SiamGuru.com เป็นเว็บไซต์ค้นหา (Search Engine) ภาษาไทย ที่มียอดการใช้งานอันดับต้นๆ ของเมืองไทย แต่เดียวนี้ คนไทยทุกคนกลับนิยมใช้ Google.com มากกว่าซะอีก หรือ แม้แต่ ThaiMail.com ฟรีอีเมล์สายพันธุ์ไทยแท้ ที่เมื่อก่อนมีคนใช้นับแสนคน แต่เดียวนี้ คนไทยส่วนใหญ่เกิน 50% ทุกคนมีอีเมล์ลงท้ายว่า hotmail.com นี้คือตัวอย่างที่เห็นจากอดีตที่ผ่านมาของการบุกและรุกเข้ามาสู่ธ ุรกิจดอทคอมจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทยได้อย่างไม่ยาก เพราะด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีอยู่พร้อมในทุกๆ อย่าง เพียงแค่การปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมภาษาไทยเข้าไปในระบบ และการขยายออฟฟิสมาสู่ในประเทศไทย เพียงแค่นี้ การเข้ารุกสู่ธุรกิจดอทคอมในเมืองไทยก็เป็นเรื่องง่ายแล้ว แต่ใช่ว่าการบุกรุกจากต่างประเทศ ก็จะสำเร็จทุกครั้งเสมอไป ตัวอย่างเช่นในเมืองจีน Google.com ยังไม่สามารถช่วงชิงตำแหน่งเว็บไซต์ค้นหาอันดับหนึ่งได้จาก Baidu.com หรือแม้แต่ ยักษ์ใหญ่จาก Ebay.com ก็ยังไม่สามารถล้มตำแหน่งแชมป์เว็บไซต์ประมูลอันดับหนึ่งในเมืองจีนจาก Taobao.com ได้ เพราะมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ทำให้เว็บไซต์ท้องถิ่นเป็นฝ่ายชนะอยู่ แต่ศึกนี้ก็ไม่อาจจะตัดสินได้ในระยะสั้น เพราะคงต้องมองดูกันยาวๆ ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้ก็เริ่มมีการซื้อกิจการของเว็บไซต์ในท้องถิ่นแต่ละท้องถิ่นกันอย ่างสนุกสนานเพื่อขยายฐานและการให้บริการออกไปยังทุกๆ ประเทศทั่วโลก หันกลับมามองธุรกิจเว็บไซต์ในเมืองไทย ที่ยังเป็นเหมือนเด็กๆ ที่ยังไม่ความพร้อมทั้งความรู้ และด้านการเงิน เราอาจจะได้ยินข่าวการเข้าซื้อกิจการเว็บไซต์ในเมืองไทยจากเว็บไซต์ต่างประเ ทศ ในเร็วๆ นี้ก็เป็นได้ หรือ อาจจะเริ่มลืมหรือเข้าเว็บไซต์บางแห่งของคนไทย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเข้าอยู่เป็นประจำก็เป็นได้ ดังนั้นการปรับตัว หรือการพัฒนาตัวเอง ดูเหมือนจะเป็นหนทางเดียวที่ธุรกิจเว็บไซต์ ในเมืองไทย ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีทางเลือกมากนัก สำหรับการต่อสู้และอยู่รอดต่อไปในอนาคต หากสู้ไม่ไหวก็ขายเว็บไซต์ไปก็ดูเหมือนจะเป็นหนทางลัด และทางออกที่ไม่มีให้เลือกมานัก หรือ ปล่อยให้เว็บไซต์ของตัวเองค่อยๆ เงียบและหายไปจากสังคมไทย เสมือนกัน เปลือกหอยที่ค่อยๆ จบหายไปในผืนทรายอันกว้างใหญ่ของโลกใบนี้... โห ฟังดูแล้วเศร้าจัง.. ดังนั้น สู้ต่อไป ไอ้มดแดง เอ็ย..ยย ไม่ใช่ สู้ต่อไปครับ บรรดาเหล่าคนทำเว็บไซต์ในเมืองไทย ... หากคุณไม่สู้แล้วใครจะสู้ (วะ)......
Pawoot P. 7/5/07
ปล. บทความนี้ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีต่อเว็บไซต์ต่างประเทศที่เข้ามาในเมืองไทย แต่อยากจะให้เว็บไซต์ในเมืองไทยลุกขึ้นยืน และพัฒนาให้ดี ให้เจ๋งครับ....
ที่มา : www.Pawoot.com
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
เคยฟัง เจ้าของ อมตนคร (ชื่ออะไรจำไม่ได้) พูดถึงวงการ ธุรกิจที่ เข้ามาแข่งขันในเมืองไทย มีคนถามว่า ในตอนนี้ต่างชาติเข้ามาสยายปีก ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้ ทำให้ ธุรกิจไทย ที่เจ้าของเป็นคนไทย สู้ไม่ได้
พี่แกตอบว่า
คิดในแง่ดี ในการเข้าลงทุนของต่างชาติ เนี่ย โดยกฏหมายแล้วเขาเข้ามาได้แต่ ตัว และ ตัวธุรกิจ เขาไม่สามารถ ขนเอา แผ่นดิน ใส่กล่องลงเรือไปประเทศเขาได้ คนไทยต้องเปิดใจให้กว้าง เมื่อสู้ไม่ได้ ก็ร่วมมือ เรียนรู้ถึง Know How ของตัวธุรกิจนั้นๆ ต่อยอดของตัวธุรกิจเอง จะเป็นการดีกว่า
ผมว่าในจุดนี้ เว็บไซต์ไทย น่าจะเป็นไปในลักษณะความร่วมมือ หรือต่อยอดความคิด มากว่าทำออกมาแข่ง โดยเริ่มต้นจาก ศูนย์
ผมอยากให้ webmaster exteen เข้ามาแสดงความคิดเห็นในส่วนนี้นะครับ
ท่านวิกรม กรมดิษฐ์ ครับ
10 ปี
ผมว่าคงจะมีเว็บหาแฟน แบบคลิ๊๋กแล้วบอกเลยว่ามีลูกกันออกมา หน้าตาจะเป็นยังไง แล้วอัตราการเข้ากันได้กี่ % จะสำเร็จไหมถ้าจีบกัน
แต่ผมว่าเว็บอย่างงี้ อีก 3-4 ปีก็มีละ - -"
รู้ึสึกว่าเคยเห็นเมื่อสี่ปีก่อนในเว็บไซต์ แต่ออกแนวขำๆนะครับ
อีก 10 ปีข้างหน้า คนไทยจะเริ่มรู้จักการใช้งาน cms มากขึ้น website ที่เป็น xhtml มากขึ้น แล้วก็จะเริ่มแข่งกันด้าน design interface เป็นหลัก.. (รวมถึง effect ต่างๆ จะถูกยัดเยียดลง web มากขึ้น โหลดอ้วกกก แน่เลย ฮือๆ)
web 2.0 จะเริ่มบูมในเมืองไทย
คงจะเหมือนเกาหลีหละม้าง ก็บ้านเค้า เน็ตความเร็วสูงทุกบ้านเลยหนิ เว็บหนักๆทั้งนั้น
ผมว่ามันก็คงไม่ต่างจากตอนนี้เท่าไหร่... ตราบใดที่บางกลุ่มยังพยายามยัดลูกเล่น ยัด Flash ยัดภาพเคลื่อนไหว ทำให้ตัวเองเป็น Portal กันไปหมด เห็นอะไรที่เป็นกระแสในขณะนั้น ก็เพิ่มบริการนั้นเข้าไป พยายามจะเป็น "ทุกอย่าง" ที่ "คนอื่น" ทำแล้วเวิร์ค
เมื่อเข้ายุค 2.0 ก็คงเป็น 2.0 แบบไทยๆ แปะ Beta ไป เปลี่ยนชื่อให้ดูสมัยนิยม แต่เนื้อหาข้างในยังคงเหมือนเดิม (จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังมองว่า "บล็อกเซอร์วิส" ในไทยที่ผุดมาทุกวัน มีเพียงรายเดียวที่เวิร์ค ก็คือ Exteen ถึงผมจะไม่เคยใช้ก็เถอะ)
เวลามองว่าทำเว็บ ผมว่าเราก็ต้องมองออกไปข้างนอกบ้านหละครับ สมมติผมทำ exteen เีนี่ย จะมามองว่า อ๋อ ในฟิลด์ของเรามีผู้เล่นคือ Bloggang, เว็บไดอารี่ของไทยต่างๆ แบบนี้มันไม่ใช่ แต่เราต้องมองออกไปถึง Typepad, Blogger,LiveJournal ด้วย เพราะอินเตอร์เนตมัน no barrier ใช่มั้ย แถมไม่มีระยะทางมาขวางอีก เมื่อก่อนอาจจะมองว่ามี barrier ทางภาษา ที่ว่าเว็บต่างประเทศนี่มันไม่เป็นภาษาไทย คนไทยก็ใช้ยาก แต่ตรงนี้ กำแพงตรงนั้นก็หายไปแล้ว (สำหรับกรณี Blogger ก็คือการสนับสนุนภาษาไทย)
เมื่อมองออกไป แล้วก็วิเคราะห์เหตุผลมาสนับสนุนให้ได้ว่า "ในเมื่อมีเว็บเจ๋งๆ เหล่านั้นแล้ว ทำไมยูสเซอร์ต้องมาใช้เว็บเราหละ" เมื่อหาเหตุผลมาได้แล้ว เราก็ต้องพยายามสร้างอะไรที่มารองรับเหตุผลนั้น หรือถ้าเว็บของเรามีดีในข้อนั้นอยู่แล้ว ก็ต้องทำให้มันแกร่งขึ้น เช่นคนเค้าเข้าเว็บเราเพราะ community ก็เสริมทัพด้าน community เข้าไปซะสิ
ผมเชื่อว่าสิ่งนึงที่ทำให้วงการเว็บไทยมันเห่ย ก็คืออย่างที่คุณ sirn บอกว่า "คนส่วนใหญ่พยายามจะเป็นทุกอย่างที่คนอื่นทำแล้วเวิร์ค" ตรงนี้ผมเจอกับตัวบ่อยมาก ที่มีคนจะมาจ้างทำ Blog Service เหมือนกัน พอถามถึง Requirement ว่าต้องการอะไรเค้าก็บอกว่า "เอาทุกอย่างที่ exteen มี" แบบนี้คงคุยต่อกันได้ยาก
สำหรับความร่วมมือกับเว็บข้างนอก ผมว่าอย่างน้อยๆ เราก็สามารถเริ่มทำกันได้เอง โดยอีกฝ่ายนึงไม่ต้องมาร่วมมือด้วย อย่างเช่นพวกการสนับสนุนมาตรฐานต่างๆ (ทั้งแบบ proprietary และไม่) อย่าง Blog เราก็อาจจะให้ import จาก blogger ได้ หรือสนับสนุนการใช้ api ของเว็บนอก แม้กระทั่ง rss feed นี่ผมก็คิดว่า อะ ถึงแม้ในไทย หรือยูสเซอร์ของเราจะไม่ได้ใช้มาก อิมพลีเมนต์ไปตอนนี้อาจจะเสียเวลาเปล่า แต่ว่าเราต้องคิดไปถึงอนาคตนิดนึง ว่า โอ้ แต่ถ้าเราอิมพลีเมนต์แล้ว ยูสเซอร์ของเราจะสามารถเอาคอนเทนต์ของเค้าไปเชื่อมได้กับอีกหลายเว็บเลย ซึ่งมันคุ้มนะ
อย่างที่พี่เก่งว่าว่า web2.0 จะเริ่มบูม ผมว่าตอนนี้มันก็บูมละ ถ้ามองจากเปลือก โอ้โห เว็บพอร์ทัลไหนๆ ก็เปิด video sharing เปิด Blog แล้วเห็นท่าว่าจะมีเว็บ social network เปิดมาอีกหลายเว็บด้วย แต่ผมยังไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องใช้ video sharing ของ mthai เลย ถ้า youtube ไม่ถูก Block -_-"
ท้ายนี้ (เขียนซะเหมือนจดหมายเลย) ผมว่าการที่เว็บไทยจะเจ๋งได้เนี่ยนะ จุดเริ่มต้นของเว็บนั้นต้องมีเจตนาดีก่อน ไม่ใช่ว่าแค่ "เออ ทำเว็บนึงให้เหมือน flickr" หรือ "เอาแบบ digg น่ะ" โอเค พื้นฐานอาจจะเป็นอย่างนั้นได้ แต่คงต้องมีคำว่า "แต่" เพิ่มเข้าไปท้ายประโยคด้วย เช่น "ทำเว็บให้เหมือน flickr -แต่-เราจะเพิ่มอันนี้ๆๆเข้าไป" หรือถ้าจะให้ดีไปกว่านั้น ก็ไม่ต้องไปมี model ต้นแบบเลย คิดใหม่เองหมด
ทำเว็บเจ๋งๆ ออกมากันเยอะๆ นะครับ
ความเห็นนี้ตอบได้หมดเลยนะเนี่ยะ
ตลาดเวปมันเป็นตลาดแบบ global แล้ว เรื่อง location ไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ เพราะมันเป็น internet เพราะคนใช้ก็ไม่ค่อยจะสนใจหรอกว่าเวปที่จะใช้มัน ของไทย หรือ ของต่างชาติ สนใจที่คุณภาพของบริการมากกว่า
ขอแสดงความเห็นมั่ง :D
...ตามความเห็นผมนะ ผมว่าตอนนี้น่าจะยังเร็วไป ที่จะมองว่าอีก 10 ปีอนาคตเว็บไทยจะเป็นยังไง เพราะถ้าจะลองนับกันดูแล้ว ยุคดอทคอมรุ่งเรืองในไทยนั้นยังเกิดมาไม่ถึงสิบปีเลยอ่ะ
แล้วอีกอย่าง ช่วงนี้ก็ยังถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่อินเทอร์เน็ตประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุค hi-speed รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองซึ่งจะกระทบกับระบบการสื่อสาร เช่น เรื่องการเปิดเสรีฯ ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายต่ำลง แข่งขันมากขึ้น (จริง??) คนใช้มากขึ้น เกิดยุคดอมคอมบูมอีกรอบ ฯลฯ
ดังนั้นผมว่าเรามาดูสถานการณ์ตอนนี้กันดีกว่า
เรื่องการควบรวมไม่ขอพูดถึงมาก :p แง่นึงมันก็ดี ที่เราจะได้เห็นบริการที่แข็งแกร่ง (มีแบ็คใหญ่) แต่อีกแง่ มันก็กลับจะทำให้เรามีตัวเลือกน้อยลง ไม่ค่อยเห็นอะไรนอกกรอบ
สำหรับเว็บในไทย ถึงแม้ว่าจะมีเว็บใหม่ๆ หลายแห่งเกิดขึ้นเรื่อยๆ แต่หลายแห่งก็มักจะเป็บเว็บแบบ.. เค้ามี เรามีมั่ง และก็ สักแต่ว่าจะมี คือไม่ได้มีจุดเด่น หรืออะไรแปลกใหม่ไปกว่าต้นแบบที่ลอกมานัก
รวมทั้งโมเดลทางธุรกิจที่ไม่แข็งพอ เว็บหลายแห่งเป็นเพียงแค่งานอดิเรกของเด็กๆ พอโตแล้วก็เลิกทำก็มี หรือไม่ ก็เลิกเพราะไม่มีทุนทำต่อ
ที่ว่าไม่มีทุนทำต่อ.. ข้อสังเกตของผมก็คือ คนไทยส่วนใหญ่นั้น ชอบของฟรี และยังคิดว่าเว็บ เป็นอะไรที่ใช้ได้ฟรี คือไม่ค่อยอยากจ่ายเงินให้กับค่าบริการต่างๆ (ที่ไม่ใช่เว็บก็ไม่อยากจ่าย)
ตัวอย่าง มีคนไทยซักกี่ที่จ่ายให้ flickr เมื่อเทียบกับคนที่ใช้ทั้งหมด?
เมื่อไม่มีเงินจากผู้ใช้ ทางออกก็คือสปอนเซอร์ โฆษณา แต่.. โฆษณาดีๆ ในเว็บนั้น ไม่ใช่จะหากันง่ายๆ เหมือนระเบิดในกรุงเทพ (ไม่ใช่ล่ะ - -")
โดยเฉพาะถ้าเว็บไม่ได้ใหญ่มากหรือเฉพาะกลุ่มสำหรับสินค้านั้นจริงๆ สุดท้าย มันก็จะไปตกที่โฆษณาบางประเภท ซึ่งผมเรียกว่าโฆษณาขยะ
ตรงนี้ถ้าจะโทษคนทำเว็บก็คงไม่ถูกต้องนักทีเดียว เพราะเค้าก็ต้องหาเงินมาเป็นต้นทุนเหมือนกัน ในเมื่อผู้ใช้ไม่จ่าย มันก็ต้องออกมาแบบนี้ เค้าไม่ได้เสกเงินออกมาได้เองหนิ ;p
แต่แล้ว.. เมื่อเว็บรกรุงรังไปด้วยโฆษณาขยะ คนก็จะเริ่มเบื่อและรำคาญ เมื่อคนเริ่มเบื่อ เว็บก็ไม่ดังซักที โฆษณาดีๆ ก็ไม่กล้ามาลง เพราะเว็บเราดูด้อยค่าไปตามโฆษณาเหล่านั้นไปแล้ว ถ้าเค้าเอามาลงสินค้าเค้าก็จะโลว์ไปด้วย
แล้วไม่นาน ก็จบลงด้วยความไม่คุ้มค่าที่จะทำต่อ และก็ปิดตัวเองไป หรือไม่ ก็อาจจะมี "พี่บิ๊ค" เข้ามาช่วยอุ้ม
ซึ่งพี่บิ๊คนี้ ถ้ามันบิ๊คมากๆ ก็มีโอกาสไปเบียดน้องใหม่ให้ตกกระป๋องตั้งแต่ยังไม่เกิดได้อีกเหมือนกัน!
...ผมมองว่า... เว็บก็คงเหมือนๆ กับวงการอื่นๆ ที่ทิศทางมักจะถูกกำหนดโดย "พี่บิ๊ค" มั๊ง เพราะเค้าบิ๊คซะอย่าง น้องใหม่ทำอะไร เค้าก็ทำเองได้เหมือนกัน ทำไม่ดีก็หักคอน้องเข้าซื้อซะ (เหมือน google video --> youtube ??)
เพราะฉะนั้น ถ้าอยากเห็นอะไรใหม่ๆ ไม่ซ้ำซาก ก็คงต้องสนับสนุนเด็กใหม่ๆ (เอิ้กๆ) แล้วก็คงต้องเริ่มเปลี่ยนความคิดที่ว่า เว็บเป็นบริการฟรี ;p
ไม่งั้นอนาคตของเว็บ จะมีแต่โฆษณา "ทำงานเดือนละแสน" ทั้งหน้าแหงๆ
(ปล. เขียนไรมาเนี่ย จับสาระไม่ค่อยจะได้เล้ย อิอิ)
---------- iPAtS
iPAtS
พูดเรื่องโฆษณาแล้วก็เสริมนิด
ผมคิดว่าระบบ payment บ้านเรายังล้าหลังอยู่มาก ในเมื่อสังคมเราไม่กล้าใช้บัตรเครดิต ก็แทบไม่มีทางเลือกอื่น ดูพวก PaySbuy, TrueMoney ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ทางเดียวที่พอเห็นแสงคือใช้มูลค่าเงินจากบัตรเติมเงินมือถือ ซึ่งก็ยังอยู่ในช่วงเตาะแตะ
พอเรื่องเงินมีปัญหา การเอาเงินเข้ามาในธุรกิจเว็บก็เลยยากมากขึ้น โอกาสที่เว็บจะเลี้ยงตัวเองได้ก็น้อยลง ทำให้แนวโน้มมุ่งไปสู่เว็บอันดับต้นๆ ของ TrueHits เท่านั้นจะอยู่ได้
ผมยังไม่ค่อยแน่ใจ AdSense ที่หลายๆ คนมองว่าเป็นความหวังซักเท่าไร สาเหตุแรกเกิดจากระบบ agency บ้านเรายังล้าหลัง (ยินดีทุ่มเอาหน้าหลังไทยรัฐ มากกว่าจ่ายนิดๆ ลงเว็บ) และ click fraud ของคนไทย ที่ทำระบบออนไลน์อื่นๆ เจ๊งมานักต่อนักแล้ว
- Paysbuy ทำผมไม่ประทับใจ เลยเลิกใช้ไปแล้ว - Adsense ไม่รับ Content ภาษาไทย ใครทำเวบภาษาไทย แล้ว Google ตรวจเจอ มีสิทธิ์โดนแบนได้ง่ายๆ
Adsense ไม่รับ Content ภาษาไทย ใครทำเวบภาษาไทย แล้ว Google ตรวจเจอ มีสิทธิ์โดนแบนได้ง่ายๆ >>> ทำไมเหรอครับ?
ตามอ่านได้ที่นี่นะครับ Google AdSense Program Policies. What languages does AdSense support?
ตัวอย่างง่ายๆคือ เวลาสมัคร AdSense ถ้าเอาเวบภาษาไทยไปสมัครจะไม่ผ่าน ต้องเป็นภาษาที่ AdSense สนับสนุนถึงจะสมัครผ่าน ชัวร์ที่สุดคือภาษาอังกฤษ
คนไทยต้องใช้ AdWords โปรโมทสินค้าภาษาไทยเยอะๆมั้งครับ AdSense ถึงจะสนับสนุนภาษาไทย
ไปตาเรื่องเกี่ยวกับ AdSense ต่อได้ที่ ThaiSEOBoard.com นะครับ แต่ช่วงนี้อาจเข้าได้บ้างไม่ได้บ้างนะครับ
บ้านเราดูจะไม่จริงจังในเรื่อง content เท่าไรนัก ที่เห็นมาจะเป็นพวกใจรัก/งานอดิเรก
แล้วพอจะมีคนลงมือทำอะไรจริงๆ ก็ติดโน่นติดนี่
อีกอย่าง เนตไทยช้า
ในอนาคต ถ้าประเทศเราเลิกผูกติดกับการเมือง
หันมาทำอะไรเพื่อชาติกันจริงๆจังๆ เราคงได้เห็นอะไรดีๆครับ ------------------------------------- i'm just a kid. theBLXG
ถ้าทำ web เพื่อสนองผู้ใช้ภายในประเทศเท่านั้นก็อาจจะพออยู่ได้นะคับ แต่ถ้าอยากเอาจริงๆเอาจังหารายไ้ด้เป็นกอบเป็นกำนี่ อาจจะต้องมองเนื้อหาที่คนจากที่อื่นๆก็สนใจด้วย
Think Global , act Local.
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ผมเชื่อว่าเว็บไทยขายคนไทยได้ แต่ขายคนใน blognone ยาก :)
ขึ้นไทม์แมชชีนมา เกือบจะ 10 ปีล่ะ ครึ่งทางได้แล้ว เว็บไซต์ไทยเป็นอย่างไรบ้างครับ
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
ผ่านมา 10 กว่า internet เร็วขึ้นมาก หลาย ๆ หน่วยงานรัฐ และบริษัทเลือกที่จะทำเพจบน fb มากกว่าทำอัพเดดเว็บไซต์
ผมเพิ่งเริ่มทำเว็บไซต์เอง จะไปแล้วเหรอครับ
นี่เว็บผม https://www.thaibaan-seo.com
จะร่วงจะรอดขอดูสักตั้ง
ผมมองว่าเราควรมีบ้านเป็นของตัวเอง ถ้าเราพึ่งแต่ Facebook เป็นหลักวันนึงเราจะเดือดร้อนเวลาเราโดนแบน หรือ เปลี่ยนกฎ อนาคตมองว่า website จะเติบโตได้อีกมากครับ โควิดจะเป็นตัวเร่งทุกอย่างให้ไวขึ้น