ดูตามภาพเลยนะครับ
อันนี้เครื่องแรกสุดครับ ภาพแรก เครื่องมีรอยถลอก
อันนี้เม็ดฝุ่นในจอ ย้ำนะครับว่าในจอ ลอยอยู่เหนือ e-ink แต่อยู่ใต้ชั้นให้แสง เปิดไฟแล้วเม็ดฝุ่นจะเรืองแสงสว่างกว่าพื้นจอ อยู่ขอบบน เหนือหลอดไฟครับ
ต่อกันด้วยเครื่อง Replacement มีเม็ดฝุ่นลักษณะเดียวกันเลยครับ แต่งวดนี้เล่นกันกลางจอ อยู่ตรงบริเวณปลายใบมีดครับ
อีกนิด ที่ผมไม่เห็นว่าเป็นปัญหา แต่ทางทีมงานบอกว่าอาจเกิดจากเครื่องตกหรือกระแทกขนส่งครับ คือขอบ e-ink บริเวณนอกส่วนแสดงผลเป็นคนละสี เครื่องที่ขอบเทาคือเครื่องที่ได้รับก่อน เครื่องที่ขอบดำคือเครื่อง replacement ครับ
ทั้งหมดผมเร่งแสงสุดเพื่อให้เห็นง่ายเมื่อถ่ายภาพนะครับ คนที่กลัวว่าภาพมันจะเป็นแสงจ้าแบบนี้ไม่ต้องห่วง ของจริง ๆ เนียนมากครับ
ทิ้งมาทางนี้เรยเธอ
ผมต้องส่งคืนเค้าสิครับ ไม่งั้นเค้าคิดค่าเครื่องผมทุกเครื่องเลยนะ
ก็คิดค่าทิ้งให้เค้าสิครับ
Dream high, work hard.
รอลุงป๋าเสกมาจ่ายครับ
ให้สองร้อยบาท เหอ เหอ
ผมว่าเคลมมาก็เป็นอีก ตำหนิเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ มีอยู่ทุก Product
ปล.ทั้งมือถือ ทั้ง notebook ทั้ง PC ทั้ง TV ทุกเครื่องที่ผมซื้อ มีตำหนิทุกเครื่อง (ถ้าสังเกตุแบบจับผิดนะ)
มันเป็นรอยขูดเลยนะครับ ถ้าตำหนิเล็กน้อยแบบปล่อยผ่านได้ผมปล่อยผ่านทุกรอบ รอยบิ่นเล็ก ๆ ตามขอบอะไรพวกนั้นมีกันเกือบทุกชิ้นผมเข้าใจครับ ส่วนบนจอถ้ามันเป็นแค่ Dead Pixel เล็กน้อยผมก็จะปล่อยผ่านเพราะ Kindle Keyboard ผมก็มีทั้งเครื่องแรกทั้งเครื่องที่เคลม แต่นี่มันเป็นเม็ดฝุ่นอยู่ในชั้นจอเลย ถ้าประกอบในห้องปลอดฝุ่นเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหากันแล้วครับ
รอบสองนี่เค้าบอกว่าจะส่งเครื่องใหม่มาให้ ผมบอกเดี๋ยวครับ ผมเบื่อเคลมแล้ว นิดหน่อยแบบนี้ผมรับได้ แค่มาแจ้งเฉย ๆ แต่เค้าไม่ยอม บอกว่าต้องเอาให้ได้เครื่องที่ perfect สำหรับผม (เค้าพิมพ์มาแบบนี้เลยนะครับ แต่ภาษาอังกฤษ)
ถ้ารอบที่สามปัญหาไม่หนักไปกว่าเดิม คงต้องเก็บเงียบไม่รายงานไปด้วย - -"
แล้วถ้าจะบ่นเรื่อง discoloration นี่เค้าจะว่าอะไรมั้ย ;P
จริงๆตอนได้มาตอนแรกก็ไม่รู้สึกนะ
แต่ค้นเจอในเน็ตแล้วมาลองทำ condition แสงก็สังเกตได้จริงๆ (ลงมือถ่ายรูปเพื่อมายืนยันว่าเราไม่ได้คิดไปเองง)
กลายเป็นว่า หลังจากนั้นก็รู้สึกว่ามันเห็นได้จริงๆ แต่ตอนหลังทำใจแล้ว
ผมอาศัยคิดเอาว่า ถ้าอ่านแล้วไม่รู้สึกก็ช่างมันครับ แต่ตอนรับเครื่องขอเครื่องเรียบร้อยนิดนึง ไม่มีรอยขูด ไม่บุบ ฟังก์ชันครบก็เอาแล้ว
Kindle Keyboard ของผมยังสบายดี ตำหนิไม่มี แต่ตัวเองเนี่ยแหละ เผลอเอาไขควงไปทิ่มเครื่องซะเอง ด้านข้างเลยเป็นรอยซะ 555+
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ของผมเคยเคลมรอบนึงก่อนหมดประกันสองเดือน ใบ certificate ของเครื่องหาย ต่อ GPRS/EDGE/3G ไม่ติด Wi-Fi นี่ผมจำไม่ได้ว่าต่อได้หรือเปล่าแต่เหมือนจะไม่ได้เหมือนกันครับ ทั้งสองอย่างถ้ากดเข้าไปดูในตั้งค่าคือมันต่อแล้ว ได้ไอพีแล้ว แต่ข้อมูลวิ่งไม่ได้ทั้งเว็บทั้งร้านค้า Hard reset ไม่หาย force update firmware ก็ไม่หาย ทาง Amazon เองก็จนปัญญาเลยส่งเครื่องใหม่มาให้ ลำบากผมต้องปั่นจักรยานฝ่าเส้นทางน้ำท่วมเป็นระยะไปส่งเครื่องกลับที่ศูนย์ DHL แถวจตุจักร (ปีน้ำท่วมใหญ่นี่ละครับ)
หลังจากนั้นอีกปีกว่าก็สบายดีทุกอย่างจนกระทั่งหายไปนั่นแหละครับ ทั้งเครื่อง 3G ทั้งปกไฟ (T^T)
ยังสบายดีเหมือนกัน keyboard 3g แต่ซองมีไฟเริ่มไปล่ะ โดยเฉพาะสายยางยืด
ของผมได้ Kindel 3G มาในสภาพไร้ตำหนิเหมือนกันครับ แต่พลาดไปเผลอนั่งทับตอนเครื่องจะหมดประกันแค่ 1 สัปดาห์ แต่ทางนั้นเขาก็ยอมเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้อยู่นะ กราบศาสดาเจฟ -/-
Amazon ดูแลลูกค้าดีสุดยอดแล้วครับ ความคิดผมนะ
นั่งทับ สภาพมันดูไม่จืดเลยนะ (ร้าวลั่นแน่นอน) แล้วคุณติดต่อเค้าไปอีกท่าไหนอ่ะ?
ขั้นตอนการขอเครื่องใหม่ก็ประมาณนี้ครับ
ผมคิดว่า เค้าน่าจะหมายถึงติดต่อท่าไหน เคลมเครื่องที่พังด้วยการนั่งทับได้ ล่ะมั้งครับ (>_<) โชคดีที่ Amazon ไม่เคยถามว่าทำอะไรมาถึงพัง
ผมก็ชอบด้วยเหตุนั้นแลครับ มันยาวดีมาก ๆ แถมสายดูดี มีตระกูล (^v^) เคลมไปเคลมมา แม้ไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้มีอยู่ 4 เส้น กำลังรอเส้นที่ 5 ครับ O_o
เสียดาย เส้นแรกโดนล้อที่ขาเก้าอี้ที่ทำงานป่นตรงโคนฝั่ง Micro-USB ไป เลยเคลือบกาวช้างไม่ให้มันลามแล้วส่งต่อให้พี่สาวใช้แทน
ผมยังไม่ได้แกะเลยสาย ใช้สาย hdd ex ของ wd แทน ยาวเหมือนกัน 55
ความลำบากใจของคนมี kindle 3 (Keyboard) คือ มันไม่เป็นอะไรสักที (ควรจะดีใจนะเนี่ย)
Amazon ทำมา "ดีเกินไป" (นี่มันเหตุผลที่ใช้บอกเลิกกันเลยนี่นา)
อิ_อิ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
555 ขอให้รุ่นถัด ๆ ไปนี่ยังคงดีเกินไป จะได้ไม่ต้องบอกเลิกกันนะครับ
ของผมก็ตกแล้วตกอีก ไม่ยักพังสักที 555+
เพื่อนผมก็บ่นเรื่องคินเดิลทัชอยู่เหมือนกัน มีจอไม่แน่น ปุ่มเบี้ยว แต่ไม่ได้เปลี่ยนนะ ของผมไม่ยักกะมี
กำลังคิดอยู่ว่าจะสอยเปเปอไวท์มาอีกเครื่องดีมั้ย ที่ญี่ปุ่นถูกมาก คิดเป็นเงินไทยอยู่สองพันห้าเอง ในไทยขายกันห้าพันกว่า
แต่ Paperwhite เครื่องประกอบแน่นดีมากเลยครับ ที่สำคัญไม่ต้องห่วงเรื่องปุ่มเบี้ยว เพราะมันมีปุ่มเปิด/ปิดอยู่ปุ่มเดียวเลย แถมไม่ได้ใช้อีกต่างหาก (เพราะใช้ปกแม่เหล็ก)
ผมก็ไม่เข้าใจทำไมดินแดนของแพงอย่างญี่ปุ่นถึงได้ขาย Kindle ได้ถูก (ต่อให้บินไป USA ตีค่าเงิน $1 = ๓๐ บาทก็ตกสามพันกว่าบาท) ตอนแรกก็กะไปสอยที่ญี่ปุ่นเหมือนกันครับ แต่ถามกับพนักงานเค้าแล้ว มันใช้ 3G นอกญี่ปุ่นไม่ได้ หนังสือผมจับยัด personal library ไว้เยอะด้วยสิ แถม wikipedia ก็ช่วยให้สะดวกได้เยอะเวลาเสริมจากดิกปกติ
แถมตอนแรกพนักงานไปสับสนข้อมูลอะไรมาอีกไม่รู้ บอกว่าเครื่องญี่ปุ่น ใช้บัญชี Amazon.com ไม่ได้ ต้อง Amazon.co.jp อย่างเดียว มารู้หลัง ๆ ว่าจริง ๆ แล้วใช้บัญชีของที่ไหนก็ได้
เสริมนิดนึง ใครจะติดต่อ Amazon.co.jp แล้วภาษาญี่ปุ่นไม่กระดิก ติดต่อผ่านเมลนะครับ พนักงานระบบ chat เค้าได้ภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียวจริง ๆ คุยอยู่ห้านาทีรู้เรื่องมานิดเดียวด้วย Google translate ถ้าเป็นระบบเมลเค้าจะมีพนักงานที่ติดต่อด้วยภาษาอังกฤษได้แต่จะไม่ตอบทันที อารมณ์ว่าวัน ๆ นึงเข้ามาตอบทีเดียวอะไรประมาณนั้น
ถ้าจะมีอะไรที่ Amazon.co.jp กินขาดก็เพราะมันมี 漫画 ขายนี่ล่ะครับ! ลองหาเรื่อง ニセコイ (fake love มั้ง) ใน Sony reader store (PS Vita) เล่มละ 368円 มีสี่เล่ม แต่ Kindle store (Japan) ราคา 368円 เท่ากัน แต่ออกถึงเล่มห้าแล้ว ซะงั้น (T^T) ต้องเรียกว่ามาทีหลังดังกว่าจริง ๆ
ใครลังเลระหว่าง Sony reader กับ Kindle นี่ผมว่าไม่ต้องคิดมากครับ Sony reader ถ้าซื้อหนังสือแล้ว เปิดได้กับ Sony reader, PS Vita และ smartphone/tablet Sony เท่านั้น ขณะที่ถ้าซื้อหนังสือบน Kindle แล้ว เปิดได้แทบทุกอุปกรณ์จริง ๆ แม้แต่บน Sony reader ที่ลงแอพ Kindle (เพราะมันเป็นแอนดรอย)
รายงานเครื่องที่สามครับ
มาถึง ได้ Software รุ่นเก่ากว่าเครื่องอื่นเลย ปกติมา 5.3.4 เครื่องนี้มา 5.3.1
หน้าจอ ไม่มีฝุ่นและ dead pixel ที่เด่นชัดเหมือนสองเครื่องก่อนหน้า
แต่ที่ไม่เคยเจอมาก่อนคือฝาหลังมีลูบแล้วสะกิดชัด ๆ เลยหนึ่งที่ ไม่ซีเรียสเพราะจับใส่ปก ไม่โดนอยู่แล้ว
ถ้าเปิดแสงจัด ๆ ในที่มืดจะเห็นอาการ discoloration ค่อนข้างชัดกว่าเครื่องอื่น คงเพราะเครื่องแรกมัน discoloration แบบออกโทนแดงด้านบน แต่เครื่องที่สามนี่ discoloration แบบออกสีฟ้ามันเลยดูหม่น ๆ ถ้าเปิดแสงพอเหมาะกับแสงภายนอกจะมองไม่เห็น เหมือนจะไม่น่าซีเรียส แต่ถ้าอ่านในห้องค่อนข้างมืด รถเมล์ รถตู้คงเลี่ยงไม่ได้ ปล่อยผ่านครับ
ที่แปลกใจที่สุดคือ เมื่อวางเทียบกับเครื่องแรก สีขาว ขาวกว่าเครื่องแรก สีดำ ดำกว่าเครื่องแรกอย่างเห็นได้ชัด ไม่แน่ว่าถ้าผมใช้เครื่องที่สามไปอีกสักพักอาจจะได้เห็นว่ามันลดระดับลงมาเท่ากันก็เป็นได้ (แต่หวังว่าคงจะดำกว่าอย่างนี้ไปตลอด)
เครื่องแรกอยู่บนครับ สีดำเครื่องล่างจะเข้มกว่า เครื่องบนจะออกเทา ๆ
เพื่อไม่ได้เกิดความได้เปรียบของตำแหน่ง จับสลับกัน เครื่องแรกอยู่ล่างครับ (เครื่องที่มีแม่กุญแจคือเครื่องแรก)
สรุป คงไม่เคลมแล้วครับ ปัญหาอยู่ในระดับที่รับได้ คือเรื่องเม็ดทรายเม็ดนึงที่ฝาหลังนี่ผมจับใส่เคสอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเรื่อง discoloration ที่ไม่หนักจนแปลก เพราะได้มาเป็นทุกเครื่อง แค่เครื่องไหนโทนสีอะไรแล้วตำแหน่งไหน ซึ่งถ้าปรับแสงให้เหมาะสมและอยู่ในห้องที่มีแสงเหมาะกับการอ่านหนังสือ (มืดกว่านั้นได้พอสมควร) จะไม่พบปัญหานี้