hdr ไม่ได้มี format เดียวนะครับ. ชาวบ้านธรรมดารู้จักอย่างมากก็แค่ hdr raw จาก dslr. ถ้าคุณทำงานวีดีโอคุณจะได้เจอไฟล์หลากรูปแบบ และต้องเอาทุกอย่างมาเปิดใช้งานร่วมกัน. การทำงานบน Pc คือนรกดีๆนี่เอง
ผมเรียนสายภาพยนตร์มา ใช้ PC Windows ตัดงานนี่ไม่สะดวกจริงๆ ครับ ต้องย้ายสัมโนครัวไป Mac จนได้ อีกอย่างตามห้องตัดและสตูดิโอใช้ Mac หมดครับ ยกโปรเจคทั้งดุ้นไปทำต่อที่อื่นง่ายกว่าเยอะและไม่มีปัญหาด้วย
"ตัดต่อมาเยอะ" หมายความว่าต้องทำงานเกี่ยวกับตัดต่อ? เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องดูผลและรับผิดชอบ end product จากการตัดต่อที่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องไม่ได้? เป็น head ของทีมไม่ได้? เป็น head ของฝ่ายไม่ได้? เป็น head ของ project ไม่ได้?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมว่าถ้างบถึง Mac ก็ถอย Mac ครับ แต่ผมคิดว่าถ้าใช้กับงานตัดต่อไปทาง Mac Pro (!= Mac Book Pro) น่าจะเหมาะสมกว่า (แต่ราคาก็แพงขึ้นกว่างบข้างบนเท่าตัว + ต้องซื้อจอ Cinema Display ต่างหาก)
สวนเรื่อง Mac กับ PC ต้องขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้โปรแกรมไหนเป็นหลัก ถ้า Premiere ผมว่า PC ก็โอเคนะครับ ที่ทำงานผมใช้ตัดควบคู่กับ Edius มันมีแฮงค์บ้างถ้ามันเกิดโหลดหนักๆ แต่ก็ไม่เคยเจอร้ายแรง
ถ้าใช้ AE ล่ะก็ air ตัดทิ้งไปได้เลยครับ
ปล. บอกว่าจะเอา Notebook ไหงมีคอมประกอบใน choice ด้วย? รึว่าจะประกอบ NB เอง
บอกว่าโน๊ตบุค แต่คิดว่าเจ้าตัวน่าจะถามกว้างๆ ครับ ถ้าอยากเอาลื่นกับงบที่ให้มามันก็ไม่ควรเป็นโน๊ตบุคนะผมว่า ถ้าเผื่ออัพเกรดก็ควรไปหาท่านตั๋งโต๊ะ (ตั้งโต๊ะ) มากกว่าครับ
ที่บอกโน๊ตบุคตคือผมอยากได้โน๊ตบุคมากกว่า แต่ว่าคอมประกอบมันก็ยังอยู่ในหัวอาจจะคุ้มกว่า
ตัดต่อมันงานหนัก ถ้ามีตัวเลือกคอมประกอบผมก็เชียร์คอมประกอบอยู่แล้วครับ ด้วยราคาเท่ากัน เสปกพุ่งขึ้นไปไกลกว่ากันเยอะ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ขอถามอีกนิดนะครับ ถ้าผมจะเอาคอมตั้งโต๊ะ ระหว่าประกอบ กับ Imac อะไรจะคุ้มกว่ากันครับ ดูจากสเปคแล้วคอมประกอบไปได้ไกลมาก แต่ Imac สเปคธรรมดาแต่ขายแพง แล้วคนก็เลือกใช้กันเยอะ
ถ้าคิดไม่ออกว่าทำไมถึงต้องใช้แมค ก็ใช้ pc ดีแล้วครับคุ้มกว่าเยอะ
กำลังจะถามคล้ายๆ กันครับ
เห็นมีแอปเปิลแพลมมาตลอด
ควรถามตัวเองว่าจะเอาไงแน่ ระหว่างทำงานตัดต่อ. Vs เกม เพราะถ้าตัดต่อวีดีโอจริงๆ. Quicktime format กับ FInal cut X ทำให้จบงานเร็วกว่าใช้พวก Adobe (ที่คุณจะพบกับความปวดตับที่ซ่อนเร้นหลายประการ เช่นการที่ premiere pc ไม่สามารถ export .mov ที่คุณภาพดีออกมา (ภาพแตกกระจาย) ) หรือรวมถึงการพรีวิวไฟล์ hdr , tiff ในตัว finder ได้เลยไม่ต้องไปลงโปรแกรมเพิ่ม กับความสามารถในการ 24hrs unshutdown ที่ทำให้คุณไม่ต้องเปิดคอมใหม่ในวันพรุ่งนี้ แค่ปลุกจาก sleep mode หน้างานหน้าโปรแกรมที่เปิดก็เหมือนเมื่อวาน. อะไรอยู่ตรงใหนเหมือนที่คถณจำได้เมื่อวาน ไม่ต้องไปนั่งไล่เปิด source ใหม่ทั้งหมด
โดยส่วนตัวคิดว่าปัจจุบัน ซื้อ imac ไม่คุ้มเท่ากับ retina macbook เพราะ
-Imac คุณต้องซื้อ ups อีก 4500-6000 บาท (APC)
-ส่วนตัวผมไม่ปลื้มกับ imac slim ตัวใหม่ เพราะลองไปจับจริงแล้ว มันเด้ง (อลูมิเนียม bend) ตรงนี้ผมว่ามันขาดความรู้สึก durable
ถ้าคิดจะเล่นเกมพกพา และใช้ pc ดู Dell M4500 ผมไม่เคยแม้แต่จะมอง alienware (โปเกทั้งวัสดุ และการประกอบ เสปค ความหนา)
คอมประกอบ ถ้าเวลาหนึ่งอาทิตย์ คุณเล่นเกม หกวัน ตัดต่อวันเดียว ก็เลือกคอมประกอบ.
แต่ถ้าคุณทำตัดต่อ งานมันจะแข่งกับเวลา และ pc ดูดเวลาคุณมากกว่า osx หลายเท่า.
เอาจริงๆแนะนำว่าเลิกเล่นเกมไปเลยดีกว่า
แนะนำว่าเลิกเล่นเกมดีที่สุด เพราะเกมชอบแฝงวายร้ายทำลายคอมประจำครับ
avi ไม่เคยมี quality ดีกว่า mov
ต่างกันเพราะ osx ผมเปิดไว้ 3 ปี โดยไม่ shutdown มาแล้ว ในขณะที่ pc แค่อาทิตย์กว่าเครื่องกลับรีสตาร์ทตัวเอง (ใช้จริงต่างกับทฤษฎี)
hdr ไม่ได้มี format เดียวนะครับ. ชาวบ้านธรรมดารู้จักอย่างมากก็แค่ hdr raw จาก dslr. ถ้าคุณทำงานวีดีโอคุณจะได้เจอไฟล์หลากรูปแบบ และต้องเอาทุกอย่างมาเปิดใช้งานร่วมกัน. การทำงานบน Pc คือนรกดีๆนี่เอง
คิดถึงการเปิดพรีวิวภาพขนาด 1920x เป็น Sequence images จำนวน สามพันภาพ (หนึ่งนาที 40วินาที)
สอบถามเพิ่มเติมครับ
ถ้าเราตัดแล้วทำออกมาเป็น mov สุดท้าย เราก็ต้อง convert เพื่อเป็นไฟล์นามสกุลอื่นอีกทีรึเปล่าครับ?
เพราะเราต้องส่งไฟล์นี้ไปทำเป็น DVD, Blueray น่ะครับ
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
24 hrs unshutdown นี่เป็นไงผมไม่รู้นะ ผมไม่มีแม็ค แต่เห้นด้วยกับ Hibernate ที่บางทีทำไปนาน ๆ เข้ามันจะเริ่มเอ๋อ ๆ สุดท้ายต้อง shutdown ซัก 1-2 เดือนครั้งอยู่ดี
ส่วนข้ออื่น ๆ ไม่ขอออกความเห็น เพราะไม่เชี่ยวชาญด้านนี้
ส่วนคำถามจขกท. ผมว่าท่านอื่นตอบได้เหมือนกับที่ผมคิดแล้ว คือถ้าตัวเองยังไม่รู้ว่าทำไมต้องแม็ค ก็ไป PC เถอะครับ ยังไงก็ได้เสป็คดีกว่า
และสุดท้ายขอฝากไว้ว่า ถ้าจะทำเป้นอาชีพจริงจังก็อย่าลืมซื้อลิขสิทธิ์ด้วยนะครับ (อย่างน้อยก็ซื้อหลังจากทำอาชีพไปจนมีเงินแล้วก็ยังดี)
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
โอเคครับ ทีละข้อนะครับ
1) ถ้าเป็นไปได้ อยากให้คุณ nat3738 ช่วยแชร์ avi codec setting ที่ทำให้มีคุณภาพเท่ากับ .mov ด้วยครับ น่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคน
2) ผมพูดชัดเจนถึง การนำ Sequence Images 16bit ซึ่งก็คือ HDR image นำมาเรียงต่อกันและเรนเดอร์ออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว
ผมยังไม่เข้าใจว่าอะไรนำพาคุณไปจับโยงกับ HD (high definition) หรือว่าคุณไม่ทราบว่าอะไรคือสาระสำคัญและบทบาท ของ HDR ในงานภาพเคลื่อนไหว แต่ทราบเพียงบทบาทของ HDR ในภาพถ่าย และนำความเข้าใจที่จำกัดของคุณมาจำกัดความหมายที่ผมกล่าวเสียเอง
3) สาระสำคัญทีี่คุณไม่ทราบคือปรกติการเก็บรักษาภาพ ให้มีคุณภาพที่สุด ก็คือการเก็บในรูปของ Sequence Images และผมเห็นคุณกล่าวแต่เรื่องการ convert ไฟล์วีดีโอ ไปเป็นไฟล์ วีดีโอ อื่น ทั้งที่ไม่มีใครกล่าวถึงเรื่องนั้นแม้แต่น้อย
4) ดูเหมือนพิมพ์ตก ขอบคุณที่แก้ให้ครับ
5) พรีิวิว sequence image .exr 16bit float ได้ใช่มั้ยครับ
ลง x264vfw แล้วใช้ตัวนี้ครับ
ผมไม่เห็นกล้อง DSLR ถ่ายวิดีโอ HDR ได้ ทำให้ผมเข้าใจว่าพิมพ์เกิน
Codec lossless ก็มีเต็มไปหมดครับ ในรูปแบบอื่น รวมถึง AVI และผมไม่เห็นความสำคัญของการเก็บเป็น Image Sequence นอกจากเพื่อการทำงานแบบ out-of-order เมื่อไฟล์แบบ Lossless (UTVideo/Huffyuv) หรือพวก DNxHD, ProRes สามารถเก็บคุณภาพได้เทียบเท่าโดยใช้พื้นที่น้อยกว่า
ถ้าไฟล์ขนาดนั้นใช้ Adobe Bridge พรีวิวดีกว่า (ส่วนตัวผมใช้ Bridge เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ยกตัวอย่าง Explorer เพราะคุณยกมาก่อน)
2) ผมเห็นแต่ตัวคุณ nat3738 ที่ระบุว่าตัวคุณ ตัดต่อวีดีโอจาก DSRL ในขณะที่ผมไม่ได้กล่าวแม้แต่คำเดียว อะไรทำให้คุณตีความว่าผมพิมพ์คำว่า HD ผิดเป็น HDR หรือเป็นเพียงการนำกรอบของคุณมาจำลองเป็นตัวผมกันแน่
3) คุณไม่เห็นความสำคัญของ image sequence เพราะเหตุใดนั้น คุณได้ตอบในรีพลายล่างสุดของคุณด้วยตัวเอง ไปแล้ว ลองไปอ่านที่คุณเขียนและพิจารณาดูนะครับ
4) ตกลง quicktime ทำให้ explorer เปิดดูได้ทุกอย่างตามที่รีพลายลำดับแรกของคุณกล่าวมาหรือไม่ครับ ?
การแชร์ข้อมูลของคุณเป็นสิ่งที่ดีและน่าชื่นชม แต่ผมขอกล่าวเพิ่มเสียเล็กน้อย
1) การกล่าวถึงไฟล์ที่คุณไม่เคยใช้งานอย่างแท้จริง ไม่ได้ช่วยให้คุณมีประสพการณ์ใดๆ เกี่ยวกับสิ่งนั้น
2) เมื่อคุณนำประสพการณ์ของคุณมา ใช้เป็นข้อโต้แย้งประสพการณ์ของคนอื่น คุณควรยอมรับผลสะท้อนที่เกิดขึ้นจากการถูกโต้แย้งกลับ
และ
ผมคิดว่าเด็กนักเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็คงไม่ได้เป็นมือสมัครเล่นไปมากน้อยกว่า จขกท
ผมขอแนะนำให้คุณเลิกคาดหวัง ว่าผู้อื่นจะหลงคิดเลยเถิดว่าคุณเป็น มืออาชีพ ด้วยข้อมูลที่คุณไปค้นมาตอบจาก wikipedia เพราะบุคคลที่มีประสพการณ์ย่อมดูออก ถึงข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันและไม่มีความสัมพันธ์กัน และประเมินตัวคุณได้อย่างที่คุณคาดไม่ถึง และคุณสื่อสารคนละเรื่องเดียวกันกับผมมานับแต่แรกสนทนา ในทุกๆประเด็น แม้แต่การขอ avi export setting คุณกลับไปนำชื่อ codec มาโพสลวกๆ โดยไม่มีความหมายและสาระสำคัญใดๆ
การบอกเล่าประสพการณ์ของคุณในรีพลายล่างนั่นเป็นสิ่งที่ดี
แต่การพยายามแย้งต่อประสพการณ์ของคนอื่น โดยใช้ตัวคุณอุปมาเป็นบุคคนอื่น ไม่ใช่สิ่งที่สมเหตุสมผล
ควรทราบว่า ที่ผ่านมา ผมพยายามตอบเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเยาวชนน้อยที่สุดแล้วนะครับ
อันนี้ถามหน่อยครับ ไม่อายเหรอที่ยกหางตัวเอง?
จากประสบการณ์ของผม ประสบการณ์ ใช้ "บ" ไม่ใช่ "พ" ครับ :p
อีกประสบการณ์ของผม บุคคล ใช้ "ล" ไม่ใช่ "น" ด้วยครับ (>。<)
เอิ่ม... เด็กสาธิตจุฬาฯนี่มาไงครับ? ผมไม่ใช่เด็กสาธิตจุฬาฯนะ แต่ผมไม่คิดว่าการเอาชื่อสถาบันใด ๆ เข้ามาเกี่ยวมันจะทำให้อะไร ๆ ดีขึ้น
ผมไม่เข้าใจว่ากรณีนี้ไม่สามารถใช้ "เด็กมัธยม" หรือ "เด็กมัธยมปลาย" ได้หรือ?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมไม่ได้เข้าวิกิพีเดียหรือกูเกิ้ลเลย ตั้งแต่เข้ากระทู้มานี่ ทั้งหมดที่ผมตอบเป็นประสบการณ์ของผมล้วนๆ แต่ยอมรับว่า ผมไม่ใช้มืออาชีพ แต่เมื่อมือสมัครเล่น จะแนะนำ มือสมัครเล่น มันก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่หรือครับ? ถ้าเป็นมิอสมัครเล่น จะมาสนใจ Image Sequence exr หรืออื่นๆ ทำไม? และผมได้ประกาศไปแล้วว่า ผมเคยตัดต่อจริงจังแค่วิดีโอจาก DSLR ผมไม่เห็นว่าจะมีใครคิดว่าผมเป็นมืออาชีพได้
x264vfw เป็น Codec สำหรับระบบ Video for Windows (หรือชื่อใหม่คือ DirectShow) ที่รองรับ AVI ด้วย แต่ก็ยอมรับว่าอันนี้ผมก็ตอบๆ ไปเท่านั้น เพราะปกติผมเอ็กปอร์ตเป็น Lossless+WAV เพื่อใช้ x264 และ qaac เพื่อเอ็นโค้ดเป็น .mp4 หรือ Xvid+lame เพื่อเอ็นโค้ดเป็น .avi
ผมยอมรับว่าผมไม่ค่อยได้แตะไฟล์ที่มืออาชีพใช้จริงๆ เท่าไร แต่เมื่อหัวข้อนี้พูดถึงมือสมัครเล่น ผมก็แนะนำจากมุมมองของมือสมัครเล่น ซึ่งผมก็ใช้ไฟล์ mkv, mp4, mov, flv พวกนี้เป็นประจำ และไม่มีปัญหาใดๆ
ผมไม่คิดว่าผมได้แสดงความเห็นใดๆ ที่แสดงการไม่ยอมรับการโต้แย้งของคุณเลยนะครับ แน่นอนว่าผมก็ได้ความรู้ใหม่หลายๆ อย่างจากโพสของคุณ แต่หลายๆ อย่างที่คุณบอกว่าเป็นปัญหา ผมก็ไม่เคยเจอ และเชื่อว่าหลายๆ คนก็ไม่เคยเจอเช่นกัน
ผมไม่เคยพูดเลยว่า ควรใช้ Windows ทำงาน ส่วนตัวผมสนับสนุนให้ใช้ Mac ด้วย แต่ด้วยงบประมาณที่จขกท.กำหนดมา ผมคิดว่าใช้วินโดวส์น่าจะดีกว่า (ผมเคยใช้ iMovie ในแมคบุ็คราคา 42,000 และมันไม่เสถียรมากๆ ถ้าพูดถึงโปรแกรมอื่นๆ คงแย่กว่านั้น)
ผมเข้าใจว่าคุณได้มาหาประวัติของผมแล้ว ผมไม่เคยนับถือใครที่วัยวุฒิ และในทางเดียวกัน ผมไม่เคยคาดหวังให้ใครปฏิบัติตัวกับผมในแบบอื่นๆ เพียงเพราะผมเป็นเยาวชน
จากประสบการณ์การตัดต่อวิดีโอของผมทั้งหมด ผมรู้สึกว่างมืออาชีพกับมือสมัครเล่นนั้น แตกต่างกันค่อนข้างมาก และคำแนะนำสำหรับมือสมัครเล่น และสำหรับมืออาชีพ (หรือกลุ่มที่ต้องการเป็นมืออาชีพ) นั้น ก็ต้องแตกต่างกันช่นเดียวกัน
ผมอาจจะผิดก็ได้ที่คิดว่าจขกท. เป็นมือสมัครเล่น แต่ผมไม่คิดว่ามืออาชีพจะมาขอความช่วยเหลืออย่างนี้
ขอบคุณที่แสดงข้อมูลที่เป็น specification ของคุณ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของกระทู้
ในการพิจารณาข้อเท็จจริงจากรีพลายที่คุณได้กล่าวแย้งกันเองถึงสี่รีพลาย
เฮ้อ ... ขอเม้นสุดท้ายละ
กระทู้ขอคำแนะนำ กลายเป็นกระทู้ที่มีคนที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้มีประสบการณ์ มาคอยจำแนกว่า คห.นี้มีประโยชน์ คห.นี้ไม่มีประโยชน์ แล้วก็ลามปามโมโหไปนั่งค้นห้าข้อมูลส่วนตัวของคนอื่น
กระทู้มันแย่เพราะคุณนี่แหละครับตัวเริ่ม
เจ้าของกระทู้มาขอแชร์ประสบการณ์ครับ เค้าไม่ได้มาหาคนคัดแยกกระทู้ ความเห็นของคุณมันก็มีประโยชน์นี่ครับ แล้วข้อมูลก็ดีด้วย แต่ทำไมมีคนแย้งแล้วถึงสติแตก กลายเป็นโจมตีตัวบุคคลล่ะครับ?
หลังๆ นี่เริ่มออกแนวเกรียน ถ้าอยากชนะในการโต้เถียงก็เพิ่มน้ำหนักเหตุผลนะครับ ไม่ต้องเพิ่มความรุนแรงของคำที่ใช้
คนอ่านจะตัดสินเองครับ
ปล. ขอเถอะครับ คุยกันดีๆ ด้วยเหตุผล อย่าเกรียนครับ
โอเค อุตส่าห์พยายามเป็นกลางมาตลอด แต่เมนต์นี้ไม่ไหวละ นี่ถึงขนาดไปสืบประวัติกันเลย? แล้วทำทุกอย่างเพื่อจะมาตอบประโยคเดิม?
เอาตรรกะที่ตัวเองว่าคนอื่นมาใช้กับตัวเองบ้างนะครับ คุณเองก็ตัดสินคนอื่นเหมือนกัน ทำเป็นพูดว่าอย่าเอาเรื่องส่วนตัว ประสบการณ์หรือความเป็นมืออาชีพโม้ให้คนอื่นฟัง ไม่มีใครอยากรุ้ เขาอยากรู็แต่ specification สุดท้ายตัวเองทำเองซะงั้น ข่มเขาด้วยอายุกับสถาบัน เฮ้อ...
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ที่จริงผมสงสัยคำว่า ข้อมูลที่ไม่เป็น specification ... มันแปลว่าอะไรเหรอครับ แบบว่างง ...
เขาหมายถึงบอกข้อมูลรายละเอียดมาเลยว่าคอนฟิคยังไง ตั้งค่ายังไง ใช้โปรแกรมอะไรขั้นตอนแบบไหน ไม่ต้องมาโม้เหม็นว่ามีประสบการณ์แค่ไหนน่ะครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมเรียนสายภาพยนตร์มา ใช้ PC Windows ตัดงานนี่ไม่สะดวกจริงๆ ครับ ต้องย้ายสัมโนครัวไป Mac จนได้ อีกอย่างตามห้องตัดและสตูดิโอใช้ Mac หมดครับ ยกโปรเจคทั้งดุ้นไปทำต่อที่อื่นง่ายกว่าเยอะและไม่มีปัญหาด้วย
นรก pc ที่ผมเคยเจอมามีทั้ง การ autoshudown (ไฟล์ที่ควรจะเสร็จทันเส้นตาย ไปพบว่าคอมมันรีสตาร์ทเอาตอนวันรุ่งขึ้น)
นรก pc อีกประการที่เจ็บแสบสุดๆ. ผมใช้ adobe premiere ในการ combine sequence แต่พอเรนเดอร์งานออกมา h.264 .mov ภาพที่ได้เละเหมือนคลิบ x 240 ลองแก้ setting กี่ครัังก็เหมือนเดิม แม้แต่ .avi ภาพก็เละเป็นโจ้ก. จนต้องตั้งกระทู้ถามฝรั่ง ปรากฎว่าคนเจอปัญหาเดียวกันเพียบ. ข้อสรุปแก้ปัญหาของทุกคนคือ "นำ sq image ไปเรียงกันด้วย Quicktime (for pc) ". และ " นำวีดีโอที่ได้ ไป combine audio ด้วย Quicktime for pc" อีกทอดนึง.
ยอดเยี่ยมมาก เรามีซอฟแวร์ตัดต่อของ Adobe (ที่ทำให้ภาพ hdr กลายเป็นคลิบมือถือ 2 mega pixel) และเราต้องแก้ปัญหา "ดิบๆ"ด้วยซอฟแวร์ ราคา $30 ที่ไม่มีไทม์ไลน ไม่มี tools ไม่มี transition ( ทำได้แค่เรียงไฟล์ 001 - 0xx แลัวทำให้มันเป็น .mov)
ผลของภาพที่ได้จาก Quicktime คือคุณภาพภาพ เหมือนต้นฉบับที่เป็น sq แทบทุกประการ หลังจากนั้นผมขอลาขาดจาก pc
ตัดต่อมาเยอะไม่เคยเจอปัญหานี้แฮะ เจอแต่ปัญหา source เสียงแบบ mp3 เคย spike
CS6
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
อย่าพูดว่าตัดต่อมาเยอะดีกว่าครับ ระบุ specification ด้วยจะดีกว่าว่าคุณทำงานกับไฟล์อะไร เอาคลิบยูทูป เอาดีวีดีมาตัดเล่นมันคนละเรื่องกับการมาทำ Sequence เองนะครับ
ถ้าหากคุณไม่เคยพบปัญหา คือสิ่งที่บอกว่าคุณไม่เคยทำอะไรเลย.
อ่านคำว่า sequence ถ้าเป็นคนทำเรื่องนี้จริงๆก็คงจอทราบไปตั้งนานแล้วว่ามันเป็น "อะไร"
แหม อย่าคิดเองเออเองดีกว่าครับว่าผมทำอะไรมา ผมไม่บอกให้คุณปวดหัวเล่นดีกว่า
แล้วถ้าคุณโปรด้านนี้จริงก็น่าจะรู้นะครับ ว่างานแบบ High Profile ไม่มีใครมานั่ง Export จาก Premiere แน่นอน นอกจากจะเป็นงานรับจ๊อบลวกๆ งาน High Profile พวกนี้ Export มาเป็น Uncompressed แล้วค่อยใช้ Tools Encode อีกที
ห่างไปนานนิสัยก็ยังเหมือนเดิมนะครับ ดูถูกคนอื่น คิดเองเออเองเหมือนเดิม
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
นึกว่าผมเห็นคนเดียวซะอีก อิอิ
ตกลงรีพลายลำดับสองของคุณ กำลังสนทนากับรีพลายลำดับที่หนึ่งของคุณเอง ใช่หรือไม่
จนถึงตอนนี้ผมก็ยังเห็นคุณเลี่ยงการแสดง specification เหมือนเดิม สิ่งที่คุณเขียนไม่มีสาระใดๆเลย ชีทวิชา ตัดต่อเบื้องต้น ม ใหนก็ มีเขียน
คุณกำลังถ่วงเวลา เพราะคุณต้องใช้เวลาค้นหา รอคีย์เวิร์ดจากคู่สนทนา. เมื่อคีย์เวิร์ดครบคุณก็แค่นำไปค้นวิกิเพเดีย นำมาย้อนคู่สนทนา
ประสพการณ์ควรอธิบายได้มากกว่านี้ ถ้าหากคุณมีประสพการณ์คุณสามารถเขียน. Tutorial และแสดง specification ที่คุณกระทำได้ ในทันที
และผมขอให้เข้าใจว่า ณ ที่นี้ ไม่มีใครสนใจว่าคุณทำอะไรมา ไม่มีใครสนใจสถานะใดๆของคุณ นั่นคือเรื่องส่วนตัวของคุณ (เว้นแต่คุณปรารถนาจะให้ผู้อื่นในอินเตอร์เนตรุ้จักคุณใจจะขาด). เราแค่สนใจข้อมูลที่คุณแสดงเพื่อประโยชน์ของ จขกท ข้อมูลที่เป็น specification และสามารถนำไปพิจารณาปัญหาที่เป็นหัวข้อกระทู้ได้เท่านั้น
งานของผมไม่ใช่งานตัดต่อโดยตรง แต่งานของผม'เคย'ต้องคาบเกี่ยวกับส่วนที่มีการตัดต่อ ซึ่งมีทีมเฉพาะ ซึ่งใช้ CS6 บน PC และไม่ได้จบที่ Premiere หรือ Encode แล้วงานจบเป็นวันๆ แน่นอนงานทำที่ Mac ไม่ได้เพราะงานทุกส่วน Integrated กันหมด
ผมไม่จำเป็นต้องไปหาข้อมูลเพียงเพื่อมาตอบคำถามกับคนแบบคุณซึ่งไม่ต้องการข้อมูล ไม่ต้องการความรู้ ต้องการแค่ชนะ เสียเวลาครับ
คนทุกคนไม่ใช่ freelance ครับ ลองคิดนอกกรอบบ้างนะครับ คนทำงานมีหน้าที่ ความรับผิดชอบ ยศ ตำแหน่งต่างกันครับ ซึ่งผมขอบอกคุณอีกทีครับ อย่าดูถูกคนอื่น หรือคิดเองเออเอง
ข้อมูลที่เป็น specification แล้วข้อมูลของคุณเป็น specification ที่เป็นปัจจุบันไหมครับ? ผมตอบข้อมูลที่เป็น specification ท้วงคุณนิดหน่อยนี่รับไม่ได้ มาเต็ม? ต้องดูถูกคนอื่น? ความคิดของคุณ หรือประสบการณ์ของคุณคนเดียวที่ถูก คนอื่นไม่ใช่ ผิดหมด?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
นับจากรีพลายแรก จนถึงตอนนี้คุณก็ยังคงพูดแต่เรื่องส่วนตัวของคุณ. ที่ไม่มีใครอยากรับทราบ ไม่เป็นประโยชน์ต่อหัวข้อกระทู้ ไม่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าของกระทู้เช่นเดิม
รีพลายแรก คุณกล่าวว่าทำงานตัดต่อมาเยอะ. แต่รีพลายที่สาม คุณกลับคำพูดว่าคุณไม่ได้ทำงานตัดต่อโดยตรง
. ตกลงคุณตอบกระทู้นี้เพราะต้องการนำประโยชน์สู่เจ้าของกระทู้หรือไม่
ตัดต่อมาเยอะไม่เคยเจอปัญหานี้แฮะ เจอแต่ปัญหา source เสียงแบบ mp3 เคย spike
จบไหมครับ? นี่คือคำตอบที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าของ topic ครับ
"ตัดต่อมาเยอะ" หมายความว่าต้องทำงานเกี่ยวกับตัดต่อ? เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องดูผลและรับผิดชอบ end product จากการตัดต่อที่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องไม่ได้? เป็น head ของทีมไม่ได้? เป็น head ของฝ่ายไม่ได้? เป็น head ของ project ไม่ได้?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ขอขอบคุณที่แสดงข้อมูลที่เป็น specification เกี่ยวกับตัวคุณ
ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของกระทู้ ในการพิจารณาข้อเท็จจริงของข้อมูล ซึ่งคุณได้กล่าวแย้งกันเองมาถึงสี่รีพลาย.
ผมขอถามหน่อยครับ เห็นว่าคุณ Razor พูดไว้แบบนี้
แล้วก็มีทุก reply ที่ถามว่าเค้าเคยทำอะไรมา เห็นบ่นด้วยว่าทำไมคุณ McKay ไม่ยอมเล่าพื้นหลังให้ฟัง
แต่ทำไมพอเค้าตอบแล้วถึงไปว่าเค้าว่า "เค้าเอาแต่เล่าเรื่องส่วนตัว" ล่ะครับ? ก็คุณเป็นคนเปิดคำถามไม่ใช่เหรอ?
ผมแค่อยากเห็นการคุณกันด้วยเหตุผลครับ และเหตุผลก็ควร apply ใช้ทั้ง 2 ฝั่งสนทนาด้วย
ผมขอมั่ง เดี๋ยวตกขบวนดราม่า :p
ไปขอข้อมูลส่วนตัวเค้า เค้าไม่ให้ตรง ๆ บอกแค่ข้อมูลเล็กน้อยอ้อม ๆ เลี่ยง ๆ ก็ไปว่าเค้าไม่บอกเรื่องส่วนตัว แต่ไปว่าเค้าเอาแต่เล่าเรื่องส่วนตัว นี่ก็เห็น ๆ เลยครับว่าประโยคนี้ได้ผลมาก
แล้วพอผมเจอประโยคนี้
ผมไม่ได้เกลียดคุณนะ แต่ผมเกลียดความคิดประเภทคิดเองเออเองแบบนี้มาก ๆ - -" เรื่องมันจริงหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ผมเคยทะเลาะกับเพื่อนจนไม่คุยกันไปนานเพราะการคิดเองเออเองแบบนี้ เรื่องพวกนี้มันอาจจะใช่ครับ เหตุ -> ผลมันถูก และผลที่ว่ามันก็คือผลที่เกิดขึ้นจริง แต่การไปคิดเอาดื้อ ๆ ว่าเหตุมันต้องแบบนั้นแน่ ๆ ทั้งที่เหตุมันมีได้หลายอย่างที่จะได้ผลแบบนั้น
ถ้าคุณบอกแค่ "คุณกำลังถ่วงเวลา ไปหาข้อมูลมาย้อนคู่สนทนา" ผมจะไม่อะไรมากเลยครับ แต่มาเป็นสเตปแบบนี้ผมอคติทันทีเลยนะ ซ้ำไอ้ที่ว่ามานั่นจัดอยู่ในประเภท "ไร้เหตุผลสิ้นดี" ได้เลยนะครับ
ถ้าจะแย้งผม ตอบผมแค่สองข้อให้มันมีเหตุเข้ากับผลชัด ๆ จนคนส่วนมากตรงนี้ไม่เรียกว่าแถแล้วกันครับ
ผมคิดว่าเป็นการพยายามแก้เกมด้วยการ Mislead ที่ใช้ได้เลยทีเดียว
การอ่าน blog จะเกิดจากลำดับบนไล่ลงมาล่าง บุคคลที่อ่านข้อความจะแปลความหมายจาก 1 ผู้เขียน และ 2 ผู้ที่ตอบสนอง
ดังนั้นหากคุณแกล้งทำเป็นตอบสนองกับผู้เขียนอย่างบิดเบือน บุคคลที่อ่านข้อความในลำดับหลัง ก็จะเข้าใจ "ตาม" ที่ผู้ตอบสนอง เจตนาทำให้เกิดขึ้น
กลวิธีนี้พบได้ทั่วไป และไม่ใช่ของแปลกใหม่
ณ ตอนนี้ ผมได้เห็นข้อความที่พยายามบิดเบือน "การขอ Specification เกี่ยวกับ image processing "
ไปเป็น "การขอข้อมูลส่วนบุคคล"
มีเพียงตัวบุคคลที่พยายาม present สถานะ อาชีพ ตำแหน่ง ด้วยตนเอง โดยไม่มีสาระสำคัญ ไม่มีข้อมูล specification ใดๆที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าของกระทู้
โดยไม่มีผู้ใดขอ
คุณ hisoft ก็เป็นผู้ได้รับผลจากกลวิธีนี้โดยตรง
และผมไม่สนใจจะเล่นเกมพระราชาสวมมงกุฎ ผมคงเลือกที่จะสนทนาในสิ่งที่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้เท่านั้น ขอเรียนให้ทราบ ณ ที่นี้
เอ้อ เรื่องขอข้อมูลส่วนตัวนั่นผมเมาจริง ต้องขอโทษด้วยครับ จริง ๆ มันมีผลจากการตัดบรรทัดที่ทำให้อ่านแล้วเจอว่าขอ specification กับทำงานกับไฟล์อะไรกลายเป็นข้อความคนละส่วนกันด้วย
ส่วนเรื่องด้านล่างจากคอมเมนท์ผม อันนั้นผมคิดจริงนะครับ หรือถ้าผมอ่านอะไรข้ามไปอีกหรือเข้าใจตรงไหนผิดผมก็พร้อมจะขอโทษ
ส่วนเรื่องจะไม่สนใจผมแล้วกลับไปสนทนาแต่เรื่องตามหัวกระทู้ผมไม่มีปัญหาครับ บางคนชอบเคลียร์เรื่องให้จบโดยทำให้กระทู้ออกทะเล บางคนชอบให้กระทู้สะอาดแต่ค้างคา
ผมว่าคุณควรใช้ตรรกะที่คุณพูดกับตัวเองด้วยนะครับ
คุณบอกว่าคนนั้นคนนี้ไม่มีประสบการณ์ พอเค้าเล่าประสบการณ์ คุณก็บอกว่าเค้าเล่าแต่เรื่องส่วนตัว พอเต้าหยุดเล่าคุณว่าเค้ารอคีย์เวิร์ด
ผมว่าคุณไม่มีเหตุผลแล้วครับ ตัวเองก็เล่าประสบการณ์ส่วนตัว แล้วทำไม?
ผมงงครับ ทำไมตรรกะที่คุณใช้ว่าคนอื่นทำไมมันจึงใช้ไม่ได้กับคุณเอง หรือเป็นเพราะคุณค้นหาข้อมูลจากกูเกิลครับ จึงไม่ถูกเรียกว่า พูดเรื่องส่วนตัวที่ไม่มีประโยชน์
ผมว่าคุณไม่จำเป็นต้องดูถูกสติปัญญาของคนอื่นเพื่อให้ความเห็นของคุณมีน้ำหนักหรอกครับ
ผมอ่านดูความเห็นคุณ พบว่าสิ่งที่คุณพูดมามันมีข้อมูลชัดเจนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องโมโหหรือโกรธเมื่อมีคนเห็นแย้ง แล้วก็เริ่ม "วีน" ครับ
เรื่อง auto shutdown ตอนอัพเดตนี่ บน Windows 8 รู้สึกเหมือนว่าจะมีแก้โดยการแจ้งให้เราทราบล่วงหน้าว่าจะรีสตาร์ท 2 วัน (ไม่แน่ใจว่าเฉพาะบน Laptop หรือเปล่า) มันเป็นฟีเจอร์หวังดีเกินไปจริง ๆ นั่นแหละ ... แต่เหมือนว่าเราจะสั่งปิด auto update ได้นะ
ส่วน Premiere ผมไม่รู้ ผมไม่ได้ใช้ (ฮา) ผมไม่ได้ทำเป็นอาชีพก็เลยตอบไม่ได้ ทุกวันนี้ใช้ซอฟท์แวร์ของแถมของ Sony (เป็นรุ่นย่อส่วนของ Vegas ครับ) ตัดต่อทำคลิปขึ้น Youtube เอาฮา ๆ เท่านั้น (มันก็ทำอะไรได้เยอะนะ แต่ว่าใช้ยากชะมัด)
มันปิดใน Registry ได้นะ ผมก็ปิดมานานแล้ว
พออ่านจนจบ รู้สึกเกลียดคำว่า specification ขึ้นมาเลย
เอาสเปก imac มาประกอบเอง แล้วลง mac ครับ
Macbook Pro with Retina Display
i7 2.3GHz
Ram 16GB
อุ๊ฟ เกินงบ :P
งบ 45000 แนะนำ PC ครับ เพราะงานที่ทำมันกินเครื่องมากๆ Mac ในราคาเท่ากันจะทำงานได้ไม่เท่าแน่นอน (ถ้าโน้ตบุคนะ)
ผมก็ใช้โน้นบุคตัดต่ออยู่ ส่วนมากตัดต่อจากวิดีโอจาก DSLR
ส่วนตัวปัญหาที่ผมเจอคือมันดีโค้ดไฟล์ MOV ที่บิทเรทสูงๆ ไม่ค่อยทัน (~48Mbps จาก DSLR) (เป็นปัญหาของ Quicktime for Windows มานานแล้ว) ผมใช้ ffmpeg cli แปลงเป็น mp4+wav แล้วค่อยอิมพอร์ดเข้ามาใน premiere
แต่ปกติผมตัดต่อวิดีโอไม่ได้ในโปรเจตใหญ่ ส่วนมากผมจะเอ็กปอร์ตออกมาเป็น Lossless (ใช้ UTVideo Codec) มาเอ็นโค้ดกับ x264 เอง เพราะไม่ชอบ MainConcept ของ Premiere
ผมไม่เคยทำงานในโปรเจกใหญ่เหมือนกัน แต่คิดว่าน่าจะใช้ PreRes ไม่ก็ DNxHD มั้ง
ปล. แต่ถ้ามีงบถึง Mac ก็แนะนำ Mac นะครับ มันเสถียรกว่าจริงๆ แต่ก็ไม่แนะนำ FCP อยู่ดี
ผมว่าถ้างบถึง Mac ก็ถอย Mac ครับ แต่ผมคิดว่าถ้าใช้กับงานตัดต่อไปทาง Mac Pro (!= Mac Book Pro) น่าจะเหมาะสมกว่า (แต่ราคาก็แพงขึ้นกว่างบข้างบนเท่าตัว + ต้องซื้อจอ Cinema Display ต่างหาก)
อยากแนะนำเหมือนกัน แต่หลุดงบไปมากๆ
เข้ามามึน... อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไรเลย
ถ้าเน้นตัดต่อวิดีโอ ... (ไม่รู้นะผมไม่ใช่โปร 55) ถามก่อนว่าทำไมถึงเลือกจะทำเป็นโน๊ตบุ๊ค คือผมว่างานตัดต่อมันเป็นงานที่ทำประจำที่น่ะครับ ไม่ค่อยได้ย้ายที่ไปทำนอกสถานที่ แล้วก็โน๊ตบุ๊คเองมันก็ไม่ได้สร้างมาให้ทนขนาดว่าเปิดวันละ 24 ชม.ติด ๆ กันประจำ ๆ ได้ (เจอสั่ง Encode วิดีโอ ได้รอเป็นวัน ๆ 55)
ต่อไปก็ ตัดต่อวิดีโอเหรอ ... ผมว่าคุณภาพของจออาจจะไม่สำคัญเท่างานพวกตกแต่งภาพถ่าย (พวกนั้นนี่ผมว่าต้องใช้จอระดับเทพ) ผมว่าจอของ Sony Vaio S (ที่ผมใช้อยู่) ก็แสดงผลได้สวยดีนะ Panel เป็น 1080p IPS ของ LG แต่ที่สเปคเท่ากันก็แพงกว่ายี่ห้ออื่นอยู่หลายตังค์ (ต้องทำใจ เขาใช้จอแพง วัสดุก็ดีกว่า (Al + Mg Alloy) แล้วก็ดันบังคับขายพร้อมซอฟท์แวร์หลายตัวที่เราไม่ใช้ 55) แถมซอฟท์แวร์ตัดต่อโง่ ๆ มาด้วย แต่ผมว่าคุณก็คงลง Premiere หรือ Vegas เองอยู่ดี
แต่ที่สำคัญคือผมว่าควรมี HDD ลูกใหญ่หนึ่งลูก กับ SSD อีกหนึ่งลูกในระบบเดียวกัน คือ SSD ใช้ตอนที่ทำงาน ทำเสร็จแล้วก็ถ่ายลงมาเก็บใน HDD เหตุผลคือ HDD ใหญ่แต่ช้า ส่วน SSD เร็วแต่เล็ก (และแพง) สำหรับ Laptop สามารถหาซื้อ caddy สำหรับใส่ hdd ลูกที่สองแทน DVD ได้ ถ้าเครื่องนั้นมันมี DVD นะ
(ผมเห็นเพื่อนผมบ่นใน FB ไอ้หมอนี่ทำงานเพลง ใส่ SSD ไปสองตัว พังทั้งคู่ 555 อยากหัวเราะเป็นภาษาสเปน)
แต่ก่อนจะถึงตรงนั้นก็คงต้องเน้น CPU รุ่นสูง ๆ (Core i7 ไปเลย) กับ RAM เยอะ ๆ (ใส่ 16GB ได้จะเยี่ยมมาก) ผมคิดว่าซอฟท์แวร์ตัดต่อหลายตัวมีการใช้ GPU ร่วมแล้ว แต่ว่าหลัก ๆ คงทำงานบน CPU มากกว่า ดังนั้น GPU ก็ตัดไป เอาแค่ Intel HD4000 ก็พอละ
ว่าจะแนะนำ Vaio S จอ 15" แต่มันดันไม่เอารุ่นสูง ๆ เข้ามา 555
Premiere กิน GPU เอาเรื่องอยู่นะ
ลองดูตัวที่มีการ์ดจอแยกหรือยังครับ มันเร็วกว่า onboard เยอะเลย
ถ้าหมายถึง VAIO ล่ะก็ ลองละครับ
แต่ถ้าหมายถึง Premiere นี่ ยังไม่ได้ลองครับ ช่วงนี้ไม่ได้ใช้เลย ผมว่ามันใช้ยากน่ะครับ
ผมไม่ได้ตามมานานแล้ว 555 บอกตามตรง ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ความคิดผมนะครับ ถ้าทำงานจริงจังก็ไป Desktop เถอะครับ ที่ยกมาโน๊ตบุค ผมว่ามันไม่ใช่สำหรับทำงานจริงๆจังๆ
ผมทำงานด้าน Motion Graphic โดยตรง ใช้คอมประกอบ แรม 16g AE ยังแทบเอาไม่อยู่เลย ถ้าเลเยอร์มหาศาล บวกงาน particle หรือ 3D เยอะๆและเวอร์ๆ กว่าจะขยับแต่ละทีก็หลับรอเป็นชั่วโมง
แถมใช้ 2 จอต่อกันยังหงุดหงิดเลย
ถ้าตัดต่อด้วยจอเล็กขนาดนั้น ดูจอพรีวิวไม่หงุดหงิดตายหรือ ถ้าจะต่อจอนอกเพิ่มก็อาจจะไม่มีปัญหา
โน๊ตบุคผมมองว่าเอามาไว้แก้งาน เสนองานลูกค้า และทำงานที่ไม่หนักเท่าไหร่ ถ้าคิดจะทำงานจริงจังผมว่าไป Desktop ดีกว่าไหมครับ
สวนเรื่อง Mac กับ PC ต้องขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้โปรแกรมไหนเป็นหลัก ถ้า Premiere ผมว่า PC ก็โอเคนะครับ ที่ทำงานผมใช้ตัดควบคู่กับ Edius มันมีแฮงค์บ้างถ้ามันเกิดโหลดหนักๆ แต่ก็ไม่เคยเจอร้ายแรง