เป็นข้อเสนอเล็กๆน้อยๆสำหรับโครงการแท็บเล็ทครับ จะขอโพสท์ที่นี่ก่อนเพราะอยากฟังความเห็นครับ
คือผมไม่เห็นด้วยกับการเริ่มแจกที่ ป.1 ครับ
ไม่ใช่ปัญหาว่าเด็กป.1 เด็กเกินไปหรืออะไร แต่ผมมองว่า การเริ่มแจกจาก ป.1 จะเกิดความแตกต่างทางระดับความสามารถของเด็ก ป.1 กับเด็ก ป.2 ในรุ่นนั้นขึ้นมาทันที และเด็ก ป.2 ในยุคนั้นก็จะพลาดโอกาสในการเรียนรู้จากแท็บเล็ทต่อไปถึง 11 ปี ทั้งที่รุ่นน้องตัวเองรุ่นเดียวได้รับโอกาสนั้นอยู่
ผมจึงอยากเสนอให้ทำกลับกันครับ คือปีแรก เริ่มแจกจาก ม.6 และ ม.5 ก่อน ปีที่สองก็เลื่อนแจกไป ม.5 - ม.4 ปีที่สามก็เลื่อนลงไปเป็น ม.4 - ม.3 / ม.3 - ม.2 / ม.2 - ม.1 ไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงรุ่นที่แจกเด็ก ป.1 จากนั้นค่อยแจกเด็ก ป.1
แบบนี้จะดีกว่า หรือเปล่าครับ?
แจก ป1 แค่ชั้นเดียวในรูปแบบโครงการทดลอง ยังโดนหาว่าแพงอย่างนั้น learning curve อย่างนี้ เลยให้โครงการนี้ไช้เงินเยอะไม่ใด้ (ไอ้คนที่บ่นส่วนใหญ่ก็ลอกคำพูดมาจากฝ่ายค้านที่ในอดีตไม่เคยทำอะไร ตอนนี้ก็ตั้งหน้าตั้งตา ติ เพื่อ ติ ไปวันๆ)
จะให้แจกทั้วประเทศ สองชั้นปี คงจะทำไม่ใด้
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
อันนี้ผมมองประโยชน์สองทางครับ
อันดับแรกคือ ผมเดาเอาว่า ในปัจจุบัน จำนวนเด็ก ม.5 และ ม.6 รวมกันก็อาจจะน้อยกว่าเด็ก ป.1 ดังนั้นจำนวนชั้นปีที่เพิ่ม อาจไม่เพิ่มจำนวนเครื่องก็เป็นได้
อันดับรองคือหลายๆคนที่มาค้าน บางกลุ่มก็เสนอให้แจกเฉพาะเด็กม.ปลาย เพราะอ้างว่าเด็ก ป.1 ประถม ไม่มีความรับผิดชอบอะไรต่างๆนาๆ หรือบางทีก็บอกว่า เด็กม.ปลายจำเป็นที่จะใช้เทคโนโลยีมากกว่า อันนี้ก็เป็นการพบกันครึ่งทาง และการค่อยๆไล่ลงไปทีละชั้นปีๆ ก็ทำให้ดูผลสัมฤทธิ์ได้ด้วยว่านโยบายนี้ดีแค่ไหน ก่อนที่จะไล่ลงไปถึง ป.1 เด็ก ป.6 ที่ได้ไปก่อนก็จะทำให้รู้ว่าจะมีปัญหาอย่างที่กลัวกันจริงรึเปล่า และอาจจะเปลี่ยนนโยบายเป็นแจกเด็ก ม.1 แทน อะไรแบบนั้น
ขณะเดียวกันโปรเจ๊กนี้คือการแจก tablet แทนการแจกหนังสือ เพราะถูกกว่า
ชึ่งราคาสุดท้ายที่ผมรู้มา ภาคการศึกษาละประมาณ 600 บาท หรือปีละ 1200 บาทต่อคน แต่ก็แพงขึ้นเรื่ยๆ เพราะไม้แพงขึ้น
ส่วนเรื่องใครจะเก่งกว่า คงยังใกล้เคียงกัน เพราะเป็นการเอาหนังสือมาทำเป็น pdf แล้ว pre load ไปกับเครื่อง ลูกเล่นต่างๆ ค่อย update เพิ่มทีหลัง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ถ้าเป็นแบบนี้เกรงว่าเด็กที่เลือกไปเรียนสายอาชีพก็อดสิครับ
น่าสนใจครับ
คิดว่านโยบายนี้ควรแจกเด็กสายอาชีพรึเปล่า? พาณิชย์ บัญชี ช่างกล กลุ่มนั้น
ควรครับ เขาก็เป็นนักเรียนเหมือนกัน เราไม่ควรแบ่งว่าใครควรได้หรือไม่ได้ในเมื่อเขายังอยู่ในการศึกษาขั้นพื้นฐานเหมือนกัน
แล้วต่อไปจะมีข่าว....เด็กช่างกลยกพวกตีกันโดยใช้ Tablet เป็นอาวุธ
ผมห่วงแค่ว่าสื่อหรือแอปที่มีให้จะมีคุณภาพและเหมาะกับเด็กชั้นนั้นๆ แค่ไหน..
แจก ม.ปลาย มันดูไม่คุ้มมั้งครับเพราะเรียนแค่ 1-2 ปีก็จบแล้ว ถ้าแจก ป.1 น่าจะใช้เรียนอยู่ในระบบได้ถึง 6-12ปี
แล้วอย่าลืมว่าระบบการศึกษาของเรามันยังไม่ได้มีการออกแบบ และพัฒนาให้รองรับระบบเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ โรงเรียนดังๆ ในกทมฯ ยังทำกันได้ไม่ทั่วถึงเลย กว่าจะลงตัวจริงๆ น่าจะต้องอาศัยเวลาอีกนาน ดีไม่ดีเด็ก ป.1 เรียนจบ ป.6 แล้วยังไม่เป็นมาตรฐานเลย
ถ้าห่วงเด็ก ป.2 น่าจะเผื่อแผ่ไปถึงเด็กในต่างจังหวัด หรือเด็กที่ไม่ได้อยู่ในโครงการนำร่องด้วยนะครับ ยังมีอีกจำนวนมากมายที่อยากได้รองเท้า กระเป๋านักเรียน อีกเยอะ
โครงการนำร่องก็เป็นโครงการนำร่องครับ ยังไงก็ต้องมี
แต่ตามโครงการแล้ว หมดนำร่อง ก็จะกระจายไปทั้งประเทศเลย โดยไม่เกี่ยวว่าอยู่ที่ไหน ผมเลยไม่ห่วง ขอแค่โครงการมันเดินหน้าจริงก็จบแล้วปัญหาที่คุณ(และหลายคน) พยายามตินักติหนาเนี่ย
ประเด็นสำคัญคือทันทีที่พ้นโครงการนำร่อง ลุยโครงการจริง ก็จะเกิด Digital Gap ระหว่างเด็ก ป.1 กับ ป.2 ในรุ่นนั้น ไปถึง 10 ปี ตรงนี้คือปัญหาที่ผมห่วงมาก
ส่วนถ้าเห็นว่าเด็ก ม.6 แจกแล้วใช้ปีเดียวจบ ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ ยังมีโอกาสได้ใช้ปีนึง แล้วก็เก็บคืนมารีแจกเด็กรุ่นหน้า แต่ประเด็นสำคัญคือเด็ก ม.6 ปีนั้น ก็ยังมีโอกาสได้สัมผัสเทคโนโลยีก่อนที่จะจบไปเข้ามหาลัย ไม่น้อยหน้าเด็กรุ่นน้อง
รอยต่อยังไงก็ต้องมีละครับ อาจต้องทำใจ เพราะทำเพื่ออนาคต รุ่นก่อนๆ ยังไงก็ไม่ได้ใช้
ผมเสนอเพื่อพยายามลดรอยต่อระหว่างเด็กให้มันไม่กว้างเกินไปน่ะครับ ที่โตแล้ว เข้ามหาลัย ทำงานแล้ว ก็ต้องปล่อยไปเหมือนกัน
เป็นความคิดที่ดีครับ
แต่ผมว่าอีกไม่เกิน 5 ปีก็คงไม่ต้องแจกแล้วละครับ
ต้นทุน tablet 1 เครื่องตอนนั้นอาจจะถูกกว่าเครื่องแบบนักเรียนก็ได้นะ :D
โอ้ว.. ทำไมถึงห่วงเด็ก ป.2 ล่ะครับ ผมล่ะห่วงเด็ก ป.1 มากกว่า
เป็นข้อเสนอที่ดีมากครับที่ควรแจกรุ่นพี่ก่อน
(แสดงว่าที่เค้าแจก ป.1 ก่อน ก็แสดงว่าคนคิดโครงการยังไม่มั่นใจว่าจะดีจริงหรือป่าว จึงขอหลอกเด็กไปก่อน หลอกเด็กเล็กง่ายกว่า ... อันนี้ผมล้อเล่นนะครับ)
สังคมไทยผู้ใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือแคร์จิตใจหรอกครับ ส่วนมากคนที่ได้มาดูแลประเทศเป็นเทพลอยมาง่ายๆ ทั้งนั้นครับ .. ก็เลยไม่ค่อยจะรู้หัวอกคนอื่นเค้าเท่าไร ^^
การออกแบบแล้วมีช่องโหว่เป็นเรื่องธรรมดาครับ ผู้บริหารก็ไม่ใช่พระเจ้า ต่อให้เป็นเทพก็ไม่ใช่พระเจ้า ที่จะสร้างอะไรให้สมบูรณ์แบบได้ทุกอย่าง
หรือต่อให้พระเจ้ายังไม่มีวันสร้างสิ่งที่สมบูรณ์แบบจริงๆได้เลยมั้ง
ขนาดไอโฟนยังมีปัญหาเสาสัญญาณ แค่เพราะไม่รู้ว่ามีคนมากมายที่ไม่ได้จับมือถือด้วยท่าปกติ
บางทีคนหนึ่งคนก็รู้อะไรที่อีกคนไม่รู้ เราจึงต้องเสนอให้แก้กันไป ไม่ใช่หวังว่าทุกอย่างจะสมบูรณ์ออกมาจากคนๆเดียวหรือคนกลุ่มเดียว
โครงการมันแหม่งๆ มาตั้งแต่แรกแล้วครับ (รูที่เป็นปัญหามีเยอะที่ตามมาให้แก้ ไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะครับ) .. เดี๋ยวก็รู้ครับว่าจะไปได้แค่ไหน ^^
หากมองในแง่มุมคนผลิต Content .. โดยเริ่มจาก ป.1 ง่ายๆ ขึ้นไปเป็น ป.2,3,4 .. ก็ง่ายสำหรับคนทำ Content นะครับ
(.. คงไม่ใช่แค่เอา tablet นี้มาใช้เปิดอ่าน ebooks ที่ scan มาจากหนังสืออีกทีหรอกนะครับ)
ลองคิดย้อนกลับไปดูสิครับว่าตอน ป.1 คุณเรียนอะไรกัน .. ผมจำได้ว่า เรียนอ่านออกเสียง และ เรียนบวกลบเลข
ลองนึกภาพดูสิครับว่า tablet content อาจจะมีการช่วยสอนการออกเสียงให้ เช่น กอ-อา= กาาา (ออกเสียงให้ฟังได้เลยดีมั๊ยครับ)
ซึ่งเรื่องการฟังและออกเสียงนี้ ถ้าใช้เรียนภาษาอังกฤษนี้จะดีมากเพราะการฟังการออกเสียงที่ถูกต้องเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการฝึกภาษาอังกฤษครับ
tablet จะให้เสียงที่ดีมากๆเลย (ถ้าเป็นการไช้ mp3 นะ)
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
อืมผมเห็นตรงข้ามนะ ผมคิดว่าการทำคอนเทนต์ให้เด็กเล็กสนใจยากกว่าทำให้เด็กโตอยากใช้ คือถ้าเป็นเด็กโตจะมีความเข้าใจว่าเรากำลังเรียน คอนเท้นต์ไม่ต้องดึงดูดมากแค่มีอินเตอร์แอคนิดหน่อยก็ทำให้เรียนได้สนุกขึ้นแล้ว (แต่ถ้าคนมันไม่คิดจะเรียนอยู่แล้วคอนเท้นต์ดีแค่ไหนก็ไม่ช่วย) แต่เด็กเล็กต้องมาคิดกันหนักเลย คือแทบจะต้องเปลี่ยนแนวคิดของคนสร้างคอนเทนต์(คนสอน)กันเลย
ส่วนตัวผมเห็นด้วยนะที่จะให้เริ่มต้นที่เด็กโต แต่อยากให้เริ่มที่ป.6ลงมาก็พอ โตกว่านั้นผมคิดว่าความตื่นเต้นที่ได้จับแทบเบลทจะไม่ค่อยช่วยอะไรได้มากเท่าไร
ผมก็โตกว่าเด็ก ป.6 ไม่รู้กี่รอบปี .. แต่ยังชอบ tablet เหมือนกันน้า (แม้จะยังไม่ซื้อมาใช้เอง) ^^
ผมคิดว่าเขา "ทดลอง" ในระดับ ป.1 ก่อน ถ้าโครงการไปได้สวย (ซึ่งน่าจะสวยแหละ) ในปีต่อ ๆ ไปเขาก็จะเริ่มแจกให้ระดับชั้นอื่นให้ครบกันทุกคนด้วย คงไม่ใช่ แจกเฉพาะป.1 จนกระทั่งไอ้เด็กคนนั้นจบม.6 เพราะสุดท้ายแล้วแทบเบล็ตที่แจกคงอยู่ได้ไม่ึถึง 6 ปี (แบทเตอรี่ที่ใช้มีอายุการใช้งานอย่างมากประมาณ 5 ปีครับ แต่ปรกติ 2 ปีก็เริ่มเสื่อมแล้ว) ดังนั้นก็ต้องมีการแจกเพิ่มอีกอยู่ดี (อีกอย่าง ตั้ง 12 ปี ถึงตอนนั้นเทคโนโลยีแทบเบล็ตก็ตกยุค เราอาจจะใช้ PC บนนาฬิกาข้อมือฉายภาพ Hologram แทนก็ได้ (อย่างที่ Eric Schmidt พูดเมื่อวาน 555))
"ถึงตอนนั้นเทคโนโลยีแทบเบล็ตก็ตกยุค เราอาจจะใช้ PC บนนาฬิกาข้อมือฉายภาพ Hologram แทนก็ได้"
เข้ามาฮาาาาา ครับ ^^ (แกว่งมือแล้ว มันจะหมุนได้แบบ 3 มิติเลยใช่มั๊ยครับ ^^)